คุณมีอาการอย่างนี้หรือเปล่า ?

กวี ซีม่า

ขณะคุณ ดูข่าว เร้าระทึก
เมื่อเห็นตึก อาคาร เพลิงผลาญไหม้
เกิดอาการ อิ่มเอม เปรมหัวใจ
ปรบมือให้ ดังดัง ตอนนั่งดู
ขณะคุณ ชมข่าว เจ้าหน้าที่
ถูกขยี้ โดนล่า ฆ่าข่มขู่
คุณเกิดความ นิยม ชมชื่นชู
เหมือนคนอยู่ ภาคใต้ ติดชายแดน
ขณะคุณ ชมทีวี มีแก่นสาร
เกิดรายการ เฉพาะกิจ ติดจอแน่น
คุณปิดข่าว แล้วมานั่ง ฟังเพลงแทน
บ่นว่าเซ็ง สุดแสน จะแค่นชม
ถ้าอาการ แบบนี้ คุณมีเยอะ
พบแพทย์เถอะ ก่อนชีวิต จะติดหล่ม
รักษาจิต ปลูกความดี ค่านิยม
สรรค์สังคม สู่ปลายทาง ที่ยั่งยืน				
comments powered by Disqus
  • ครูกระดาษทราย

    23 พฤษภาคม 2553 08:32 น. - comment id 1129071

    2236850kb93hhuly1.gif
    com
    
    เชื่อว่าคนไทยแทบทุกคนไม่มีอาการแบบนี้อ่ะค่ะ
  • ป๋อง สหายปุถุชน

    23 พฤษภาคม 2553 08:46 น. - comment id 1129073

    36.gifมาทักทายตอนสายๆครับท่าน
    กวี ซีม่าครับคงไม่มีใครอยากเห็นบ้านเมืองลุกเป็นไฟ ถ้าจะมีก็พวกโจรครับ
    
    36.gif29.gif31.gif41.gif57.gif36.gif
  • อนงค์นาง

    23 พฤษภาคม 2553 09:05 น. - comment id 1129082

    เคยทำงานกับจิตแพทย์และทีมงานในการรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลมาช่วงหนึ่งค่ะ คนที่สามารถเผาบ้านเรือนอาคารได้นั้น ต้องได้รับการเยียวยาทางจิต คนที่ชอบย้ำคิดย้ำทำในบางเรื่องที่ไม่ดีก็ป่วยค่ะ การประสบเหตุการณ์ที่เศร้าหมอง โกรธแค้น มากๆทำให้คนเครียดเป็นบ้าได้ วิธีที่ดีที่สุด ต้องทำใจให้สงบ มีสติแก้ปัญหา ไม่ใช้ความรุนแรง ภาษาอังกฤษเรียกว่า calm down    
    
    อย่าปล่อยจิตใจให้อยู่ในอาการแบบนี้นานไปไม่ดีค่ะท่าน ถ้าใจเราไม่เข้มแข็ง ไม่สงบสุขแล้ว ไม่มีทางแก้ปัญหาใดๆได้ ความรัก ความเข้าใจ เท่านั้นที่จะช่วยได้ มิใช่การซ้ำเติม ด่าว่า ความสุขหรือทุกข์ อยู่ที่จิตใจของตนว่าควบคุมได้ในระดับใด บ้านเมืองในสภาพแบบนี้ ไม่ควรที่จะซ้ำเติมใคร ถูกผิดอย่างไร เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบดูแลรักษากฏหมาย แต่สภาพจิตใจผู้คน ต้องช่วยกันรักาาฟื้นฟูให้ปกติเร็วที่สุด ในบ้านหลังหนึ่งถ้าผู้ใหญ่หัวหน้าครอบครัวไม่มีความสุขสงบแล้ว ลูกหลาน เด็กเล็กในบ้านจะอยู่ได้อย่างไรคะ จะพึ่งใคร คนที่สุขภาพจิตดี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร ต้องควบคุม จิตใจตนเองได้เสมอ ยิ้มได้เมื่อภัยมา หลักธรรมทางศาสนาสอนได้ดีที่สุดค่ะท่าน ไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหาร้ายแรง แต่เมื่อเกิดแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เริ่มที่จิตใจตัวเองก่อน อย่าไปว่าใครเลยค่ะ
  • Cicada

    23 พฤษภาคม 2553 10:37 น. - comment id 1129091

    แหม! ท่านพี่ ตอนดูข่าว  เร้าระทึก
    ใจเต้นตึก หวั่นไหว ยั้งไม่อยู่
    ยิ่งอยู่บ้าน  หลังคาแดง  เขาแบ่งดู
    ใจมันสู้  พิลึก  นึกแปลกใจ
       หมอเขาบอก  ว่าฉัน  มันพิเศษ
       เกิดอาเภท  ทำให้ฉัน  เป็นกันใหญ่
       คนพิเศษ  เด่นหนักหนา  เกินหน้าใคร
       Sadism  ไง  ตำแหน่งฉัน ท่านบอกมา
        
    14.gif14.gif14.gif
    ท่านพี่ซี ตำแหน่งเนี้ยะมันดีหรือเปล่าล่ะคะ แซมเห็นมีกันหลายคนนะคะ..อิ..อิ
    มาสวัสดีคุณพี่ซีค่ะ  ส่งใจ ส่งใจ...แซมเองจ้า
  • อนงค์นาง

    23 พฤษภาคม 2553 10:48 น. - comment id 1129095

    โห  คนที่ชอบพูดจาส่อเสียด นั้น จิตใจไม่ค่อยปกตินะคะ ต้องรีบรักษาค่ะ แบบว่ามองอะไรก็ร้ายไปหมด คุมสติไม่อยู่ 
    
    36.gif36.gif36.gif
  • ปู่กิ่งฯ

    23 พฤษภาคม 2553 10:57 น. - comment id 1129098

    คนแบบนี้เคยแนะนำให้ไปสงบสติอารมณ์ โดยการนั่งสมาธิมาหลายครั้ง..เฮ้อแต่มันดื้ออะ..46.gif
  • Gemini58

    23 พฤษภาคม 2553 11:38 น. - comment id 1129106

    สวัสดีคะ คุณกวี ซีม่า
    คน...หลายคน เป็นอย่างที่คุณกล่าวไว้จริงๆด้วย
    "อันความดี เพียรกระทำ ย้ำในจิต
    พลาดเพียงนิด ผิดระยำ นำลงเหว
    จมดิ่งสู่ ห้วงนรก ตกไฟเปลว
    พลั้ง...หนึ่งเลว ดี...ไม่ช่วย อำนวยคืน
    เป็นกำลังใจให้...นะคะ
    1.gif1.gif1.gif
  • ปลายตะวัน

    23 พฤษภาคม 2553 22:19 น. - comment id 1129179

    เห็นด้วยครับ
    
    59.gif56.gif
  • อนงค์นาง

    24 พฤษภาคม 2553 03:31 น. - comment id 1129202

    กรมสุขภาพจิตห่วง! คนไทยเสี่ยงโรคเครียดทางการเมือง
    
    "กลุ่มคนที่ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองผ่านสื่อ ต่างๆ มาโดยตลอด และกลุ่มผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมอย่างต่อเนื่องนั้น บางคนอาจมีความวิตกกังวล มีความเครียด และนำไปสู่ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งกับคนในครอบครัว บางรายไม่ยอมหลับยอมนอนคอยติดตามข่าวความเคลื่อนไหวจากสื่อต่างๆ ทั้งจากดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ อ่านหนังสือพิมพ์ อยู่ตลอดเวลา" นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต บอกถึงอาการความเครียดจากสถานการณ์ทางการเมือง (Political Stress Syndrome หรือ PSS) ซึ่งกำลังเกิดขึ้นกับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะคนในกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ด้านการเมืองที่เขม็งเกลียวขึ้นทุกขณะ             ไม่เพียงแต่ผู้ร่วมชุมนุมที่มารวมตัวกันเพื่อขับไล่รัฐบาลหรือเชียร์รัฐบาล เท่านั้นที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงจากโรคเครียดทางการเมือง เหล่าบรรดานักการเมือง แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย ผู้ติดตามข่าวสาร และกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพจิต ก็เสี่ยงเกิดโรคเครียดทางการเมือง อาจนำไปสู่การแก้ปัญหาชีวิต ครอบครัว และสังคม ด้วยการใช้กำลังและความรุนแรง             กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จะแสดงออกถึงอาการความเครียดทั้งทางร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์กับผู้อื่น อาการที่สังเกตได้ทางกายคือ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตึงบริเวณขมับ ต้นคอ หรือตามแขนขา นอนไม่หลับ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หายใจไม่ทั่วท้อง แน่นช่องท้อง และปวดท้อง เป็นต้น             ส่วนอาการทางใจจะมีความวิตกกังวล ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา หงุดหงิดง่าย โมโหฉุนเฉียว ก้าวร้าว ท้อแท้หมดหวัง ไม่มีสมาธิ และฟุ้งซ่าน เป็นต้น เมื่ออาการทั้งทางกายและทางใจปรากฏ ส่งผลต่อพฤติกรรมและความสัมพันธ์กับผู้อื่น เริ่มมีปัญหาใช้อารมณ์ในการพูดคุย และรวมถึงมีความคิดที่จะตอบโต้โดยใช้กำลังเพื่อเอาชนะทางความคิดกับคนที่เคย มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันมาก่อน             นพ.ม.ล.สมชาย แนะว่า โรคเครียดทางการเมืองสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำกิจกรรมอื่นๆ หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องการเมือง ปิดรับข่าวสารทางการเมืองทุกชนิด และพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผู้อยู่ในสภาวะเครียดทางการเมืองนั้นถือว่ายังไม่เพิ่มขึ้น ส่วนคนที่มีความเครียดทางการเมืองจนต้องเข้ารับการรักษาก็มีเพียงกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ซึ่งมีอาการทางจิต หมกมุ่น พูดคุยแต่เรื่องการเมืองสุดโต่ง แต่ข้อมูลทางการเมืองที่พูดออกมานั้นไม่เป็นความจริง             ด้าน ดร.วัลลภ ปิยมโนธรรม นักจิตวิทยาและที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บอกว่า สถานการณ์ทางการเมืองทำให้คนเครียดกันมาก มีคนโทรศัพท์มาปรึกษากันทุกวัน แต่ละคนมักบ่นว่ามีอาการปวดหัว วิตกกังวล แต่ก็ไม่สามารถพูดปลอบใจหรือแนะนำอะไรได้ เพราะความเครียดเป็นเรื่องของระบบประสาท ต้องบำบัดด้วยการนวดบำบัด การหัวเราะบำบัด เป็นต้น             "ส่วนคนที่มาร่วมชุมนุมจะไม่เครียดมากนัก เพราะพวกเขามีเคล็ดลับที่ทำไม่ให้เครียด เพราะพวกเขาจะอยู่กับปัจจุบัน คิดเพียงว่าวันนี้ต้องชนะ หรือไม่พรุ่งนี้ต้องชนะ จึงมีความเครียดน้อยกว่าคนที่ติดตามข่าวสารทางการเมือง เพราะคนกลุ่มนี้จะมีความเครียดและความกังวลมากกว่า พวกเขากลัวจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ คิดกังวลถึงแต่ความไม่แน่นอนของอนาคต จึงเกิดความเครียดขึ้นมา ที่ผ่านมามีคนโทรศัพท์มาปรึกษาผมจำนวนมาก เนื่องจากมีความเครียดจากปัญหาทางการเมืองเช่นทุกวันนี้ ผมอยากให้ทุกคนอยู่กับปัจจุบัน อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด" ดร.วัลลภ ให้คำแนะนำ             สำหรับใครที่กำลังมีความเครียดจากวิกฤติทางการเมือง เศรษฐกิจ และปัญหาครอบครัว จะหันหน้าไปพึ่งสายด่วนให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยาของกรมสุขภาพจิต อาจจะเครียดหนักกว่าเดิม เพราะสายไม่ว่างเลย  ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
  • อนงค์นาง

    24 พฤษภาคม 2553 03:48 น. - comment id 1129203

    จากสถานการณ์ทางการ เมืองในปัจจุบัน กับการคาดการณ์ต่างๆนานา ถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหลายคนเชื่อว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชน นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า ประชาชนคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือหยุดรับข่าวสารการเมืองที่เกิดขึ้นได้ แต่จำเป็นต้องรู้เท่าทันสื่อและรู้เท่าทันตนเอง ซึ่งควรพิจารณาว่า ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับเป็นความจริงหรือข่าวลือ โดยรับข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน ข้อมูลข่าวสารใด ถ้าทำให้เกิดความโกรธแค้นรุนแรงจนตนเองเกิดอคติ แสดงว่า ข้อมูลข่าวสารนั้นอาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรดูแลอารมณ์ของเราให้ดี ที่สำคัญ คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมา ทั้งกับตัวเอง ครอบครัว หรือคนที่เรารัก ว่าจะเป็นเช่นไรถ้าเราวู่วามหรือร่วมทำกิจกรรมใดๆด้วยความโกรธแค้น ขอให้เตือนตัวเองเสมอว่า ปรากฏการณ์ทางการเมืองมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครคิดเหมือนกันทั้งหมด ผู้ที่มีความเห็นต่างไม่ใช่ศัตรูที่ต้องเอาชนะ
    นพ. ม.ล.สมชาย กล่าวต่อว่า สื่อ เป็นเหมือนดาบ 2 คม อาจช่วยกระตุ้นให้คนรักชาติได้ แต่ขณะเดียวกันก็อาจทำให้คนในชาติเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันได้เช่นกัน สื่อ จึงจำเป็นต้องนำเสนอข่าวสารข้อมูลที่เป็นจริงรอบด้าน อย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรมและไม่ชี้นำ เพราะสื่อมีพลังในการชักจูงมวลชนได้มาก ทั้งนี้ ครอบครัวจำเป็นต้องช่วยเตือนกัน ในการรับข้อมูลข่าวสารหรือจัดการความไม่ลงรอยในครอบครัวเนื่องจากความเห็น ต่าง ไม่ใช่ทะเลาะหรือเอาชนะกัน ที่สำคัญ ต้องสอนและอธิบายสภาพบ้านเมืองให้เด็กเข้าใจ ยิ่งเป็นเด็กเล็ก ยังไม่โตพอที่จะเรียนรู้เรื่องนี้ ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร พ่อแม่จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณและไม่ควรปลูกฝังความเกลียดให้กับเด็ก แต่ควรอธิบายเหตุผลเพื่อสร้างความฉลาดทางอารมณ์ นอกจากนี้ ยิ่งผู้ใหญ่กังวล ผลกระทบก็จะยิ่งส่งผ่านถึงตัวเด็กเพิ่มขึ้น เนื่องจากเด็กมีสัมผัสการรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์มากกว่า ผู้ใหญ่ ซึ่งจะยิ่งทำให้เด็กเครียดและกังวลมากขึ้นได้เมื่อถามถึงหลักจิตวิทยาการรวม ตัวกันของกลุ่มคนที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้อย่างไรนั้น ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต บอกว่า เมื่อเกิดการรวมกลุ่มกัน ย่อมเกิดหลักจิตวิทยาที่เรียกว่า จิตวิทยาหมู่ (Mob Psychology) ซึ่งจะทำให้ขาดการเป็นตัวของตัวเอง ผู้เข้าร่วมจะถูกชักจูงโดยผู้นำกลุ่มได้ง่าย ซึ่งทุกคนจะคิดเหมือนกันหมด ทำเหมือนกันหมด ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ ซึ่งการที่คนขาดลักษณะหรือบุคลิกภาพของตัวเองไปเมื่อเกิดการรวมกลุ่ม เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น นอกจากนี้ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต ยังบอกอีกว่า เราคงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ทั้งนี้ การคาดการณ์ถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นจะยิ่งทำให้เราวิตกกังวลและเครียด อาจส่งผลให้เกิดโรคเครียดทางการเมืองได้ (Political Stress Syndrome หรือ PSS) อาการที่สังเกตได้ทางกาย คือ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตึงบริเวณขมับ ต้นคอ หรือตามแขนขา นอนไม่หลับ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หายใจไม่ทั่วท้อง แน่นช่องท้อง และปวดท้อง ส่วนอาการทางใจจะมีความวิตกกังวล ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา หงุดหงิดง่าย โมโหฉุนเฉียว ก้าวร้าว ท้อแท้หมดหวัง ไม่มีสมาธิ และฟุ้งซ่านเมื่ออาการทั้งทางกายและทางใจปรากฏ ย่อมส่งผลต่อพฤติกรรมและความสัมพันธ์กับผู้อื่น เริ่มใช้อารมณ์ในการพูดคุย มีความคิดที่จะตอบโต้ นำไปสู่การแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังและความรุนแรงในที่สุด “ขอเพียงมีสติ รู้เท่าทันสื่อ รู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง ทำหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบอย่างเต็มที่ด้วยดี ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ย่อมเป็นเกราะป้องกันตัวเราไม่ให้ถูกชักจูงหรือถูกกระตุ้นให้ทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความรุนแรงได้” นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวทิ้งท้าย
    เขียนโดย เจ้าชายแห่งการเวลา ที่ 18:29 0 ความคิดเห็น
    ป้ายกำกับ: การเมือง, จิตวิทยาหมู่, รุนแรง, สมชาย, สุขภาพจิต, เครียดการเมือง
  • อนงค์นาง

    24 พฤษภาคม 2553 15:50 น. - comment id 1129234

    คุณวิชัยค่ะ ถ้าคุณคิดว่ากลอนของดิฉันต่อต้านรัฐบาล คงเป็นการกล่าวหาที่ไม่ยุติธรรม ดิฉันไม่เข้าข้างใคร เคยออกมาต่อต้านอีกฝ่ายหนึ่งด้วยซ้ำไป เวลาโดนด่า ไม่เห็นคุณออกมาช่วยอะไร เรื่องโรคจิตกับอาการเครียดนั้น คนละโรค กรุณาอ่านบทความใหม่ ซึ่งดิฉันไม่ได้เขียนเอง คนไทยส่วนมาก ไม่เข้าใจวิชาชีพของจิตแพทย์ เพราะกลัวโดนหาว่าบ้า แต่จริงๆแล้ว เป็นคนละอย่างกัน ความเครียดทางการเมือง ถ้ามีมากไป รับข่าวสารมากไป มีผลกระทบทางจิตใจ ถ้าคุณไม่เข้าใจ คงไม่มีประโยชน์ที่จะพูด ส่วนใครที่จะโดนจับจะอยู่เมืองนอกหรือเมืองไหนนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบ ดิฉันไม่มีหน้าที่ และไม่เคยทำผิดกฏหมาย
  • วิชัย

    24 พฤษภาคม 2553 14:20 น. - comment id 1129258

    การเมืองกับโรคจิตคนละเรื่องเดียวกัน
    ความเป็นความตายของประเทศจะไปเกี่ยว
    อะไรกับโรคเห็นเขียนกลอนการเมือง
    หลายเรื่องต่อต้านรัฐบาล มันเป็นโรคจิต
    หรือเปล่า อย่าไปตีอาการคนทั่วไปอย่างนี้
    ต้องดูตัวเองก่อน ต้องไปถามคนที่อยู่
    นอกประเทศคิดอย่างไรก่อน 
    ปล่อยให้ประชาชนอยู่กันอย่างสงบเคารพ
    กฎหมายดีกว่า ตอนนี้ติดคุกอย่างเดียว
  • วิชัย

    24 พฤษภาคม 2553 17:07 น. - comment id 1129263

    เอาอย่างนี้ละกันตัดสั้น ๆ 
    
    แจ้งว่านักการเมืองควรอยู่ในกติกา
    ให้ประชาชนอยู่อย่างสงบบ้าง
    ถ้ามีการกระทำความผิดควรรับโทษ
    ถ้ารัฐบาลดำเนินมาตรการไม่ให้มี
    การชุมนุมสร้างความเสียหายได้อีก
    ประชาชนจะมีความมั่นใจในตัว
    รัฐบาลมากขึ้น
    ตอนนี้เหตุการณ์สงบใช้ชีวิตได้ตาม
    ปกติแล้ว ดีกว่าจะปล่อยให้เสียหาย
    สถานศึกษาปิดตายเป็นแถว
    โรคจิตไม่สำคัญเท่ากับถูกเขาประนาม
    ความเลวที่ทำไว้
    สงสัยทำไมคนป่วนเวปนี้หายไปไหน
    ม๊อบสลายเลยหายไปเลย เวรกรรมมีจริง
  • วิชัย

    24 พฤษภาคม 2553 17:17 น. - comment id 1129268

    การกระทำการใด ๆ เปิดโอกาสให้
    ฝ่ายที่ประสงค์ร้าย สร้างสถานการณ์ทำลาย
    ความสงบสุขสังคมหรือบุคคล เป็นการกระทำ
    ที่น่าตำหนิอย่างมาก ดูตัวอย่างในบ้านกลอน
    นี่เห็นชัดเลย ป่วนเป็นเดือนๆ ไม่ยอมจบ
    เป็นการอาศัยสถานการณ์สร้างความเดือดร้อน
    ให้คนอื่น
  • อนงค์นาง

    24 พฤษภาคม 2553 18:24 น. - comment id 1129278

    คุณวิชัยคะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เมตตาธรรมค้ำจุนโลกนะคะ 
    ใครผิดใครถูก เป็นหน้าที่ของผู้ดูแลรับผิดชอบทางกฏหมาย
  • ผู้หญิงมือสอง

    24 พฤษภาคม 2553 19:14 น. - comment id 1129283

    30.gif ม่ายมีนะคะอาการแบบนี้ ส่วนมากจะตรงข้ามเลยจ้า..24.gif ใครที่มีอาการแบบนี้..ไม่ต้องไปพบแพทย์หร่อกค่ะ
    
    ส่งไปวัด สวด เผาเลยดีกว่า..อุ๊บ70.gif แรงไปมั้ย คิคิ...
    ..
  • เฌอมาลย์

    24 พฤษภาคม 2553 20:29 น. - comment id 1129295

    ไม่มีอาการแบบที่ว่ามานะคะ อิอิ40.gif
  • ผู้หญิงมือสอง

    25 พฤษภาคม 2553 09:39 น. - comment id 1129435

    11.gifเพิ่งจะได้อ่านคอมเม้นของ
    
    พี่วิชัย กับ คุณอนงค์นาง 11.gif
    
    จริงๆ แล้ว ก็มีเจตนาเดียวกัน..จุดมุ่งหมายเดียวกันนะคะ
    
    ก็คือหวังดีกับชาติเรา..อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลยนะคะ7.gif  มาร่วมมือกันดีกว่า
    
    เพื่อชาติไทยของเราเดินหน้าอย่าง ภาคภูมิใจ8.gif
  • ผู้หญิงมือสอง

    25 พฤษภาคม 2553 19:02 น. - comment id 1129533

    ต้องกราบขอโทษคุณวิชัยด้วยนะคะ
    
    ที่ฉันเข้ามาคอมเม้น  เพราะไม่ได้มีจุดประสงค์ใดใด ที่ร้ายต่อใคร
    
    แค่แสดงความคิดเห็นกรุณา เคารพสิทธิ ส่วนบุคคลด้วยคะ
    
    แล้วนี้ก็ไม่ใช่เวทีการเมือง ที่นี้บ้านกลอน
    
    คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามใคร ไม่ให้ทำอะไร
    
    ... ดิฉันไม่ได้อยากมาอ่านคอมเม้น ดิฉันเข้ามาอ่านกลอน..
    
    อย่าคิดว่าคุณรู้ คุณ เข้าใจอยู่คนเดียว..คนอื่นเขาก็มีสมองเช่นกันคะ
    
    ขออภัยหากทำให้คุณไม่พอใจ..และต้องขออภัยเจ้าของบ้านนี้ด้วยนะคะ หากคำกล่าวใดไม่สมควร
    
    ..เซ็ง คนมาดีแท้ๆ..74.gif
  • วิชัย

    25 พฤษภาคม 2553 17:28 น. - comment id 1129577

    ไม่มีใครขัดแย้งกันหรอก
    ปัญหาตอนนี้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองอย่างเดียว
    บ้านเมืองกำลังถูกเผาก็ต้องช่วยกันป้องกันไว้
    ชุมนุมยืดเยื้อมาหลายเดือนผลสุดท้ายก็เผา
    เมืองกันจริงแต่ยังไม่ลุกลามไปมาก
    เวรระงับด้วยการไม่จองเวรคงไม่ใช่
    อยู่ที่ใครทำกรรมใดไว้ต้องรับกรรมต่างหาก
    รัฐบาลดำเนินการตามกฎหมายก็ถูกต้องแล้ว
    ถ้าขืนปล่อยให้ประชาชนเห็นว่าทำความผิด
    กฎหมายเอาโทษไม่ได้ สถานการณ์จะรุนแรง
    กว่านี้ นี่ก็ควบคุมได้ และ เห็นว่าประชาชน
    ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
    
    การอ่านคอมเม้นท์และจะวิจารณ์อะไร
    โปรดใช้วิจารณญาณว่าหมายถึงอะไร
    ในกรณีที่ไม่ได้ระบุอ้างอิงใครไม่ควรเข้า
    มาตอบ
  • วิชัย

    25 พฤษภาคม 2553 21:54 น. - comment id 1129638

    สถานการณ์การเมืองเป็นที่เรื่องที่
    ประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจ
    เวปไหนก็มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
    การเมืองมากมาย ทางดีและร้าย ที่โดน
    ปิดเป็นจำนวนมาก
    
    ทำไมคนไทยจึงต้องมีส่วนร่วมความรู้สึก
    ในสถานการณ์การเมืองที่พึ่งผ่านพ้นไป
    1. ความยืดเยื้อยาวนานใช้ยุทธวิธีเชิง
    การรบ
    2. มีการจัดตั้งม๊อบหลายกลุ่มและแกน
    นำจำนวนมาก
    3. มีการถ่ายทอดสัญญาเสียงจากจุดที่ชุมนุม
    ไปยังเขื่อข่ายมากมายในลักษณะต่อต้าน
    รัฐอย่างรุนแรง
    4. มีแนวโน้มจะเกิดเป็นสงครามกลางเมือง
    เช่นเดียวกับการเมืองในกรุงเมดริด สเปน
    ปี 1936 ที่แบ่งเป็นฝ่ายซ้ายนิยมสาธารณรัฐ
    ฝ่ายขาวชาตินิยม และการต่อต้านชนชั้นเป็น
    ประเด็นสำคัญ ความแตกต่างระหว่างกลุ่ม
    คนร่ำรวยและคนยากจนในประเทศไทย
    ซึ่งเป็นตัวสร้างความขัดแย้งที่รุนแรงใน
    ขณะนี้ 
    
    
    ทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นในเรื่อง
    การเมืองที่เป็นอยู่ขณะนี้ไม่มีใครขัดขวาง
    ถ้าจะมีส่วนช่วยให้ประเทศสงบสุขโดยเร็ว
    สภาวะสงครามไม่มีใครอยากให้เกิดมีขึ้น
    เดือดร้อนกันทุกฝ่าย 
    อย่าไปคิดว่าใครฉลาดกว่าใครให้คิดแต่เพียงว่า จะดำรงอย่างไรเพื่อไม่ให้ประเทศนี้เกิด
    สงครามกลางเมืองจะดีกว่า
    การดำเนินการสลายกองกำลังติดอาวุธของฝ่าย
    รัฐเป็นการกระทำที่ถูกต้องและป้องปรามไม่
    ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้ยุทธวิธีเชิงการรบได้อีก
    ซึ่งเป็นการเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
    ขอให้รัฐดำเนินมาตรการทางกฎหมาย
    คืนความสงบสู่สังคมและลดความขัดแย้ง
    เรื่องสถานะภาพทางสังคมจะทำให้ประเทศ
    กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
    
    การแสดงความคิดเห็นไม่สามารถก้าวล่วง
    อำนาจรัฐได้มากกว่านี้ จบ
  • ผู้หญิงมือสอง

    27 พฤษภาคม 2553 18:29 น. - comment id 1130051

    ไม่ชอบ..จบ เช่นกัน
    
    แหวะ55.gif51.gif61.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน