ช่างมืดมนหม่นหมองมองไม่เห็น
แสนลำเค็ญคลำทางอย่างหมองเศร้า
เดินเดียวดายหาจุดปลายปลายทางเรา
อ้างว้างว่างเปล่าเหงาสุดเศร้าใจ
สุดกลืนกล้ำจำเดินเผชิญสู้
แบกความช้ำจำอดสู้ผู้หมองไหม้
ระกำอยู่คู่น้ำตาก้นหน้าไป
ทนเจ็บไปในหนทางอย่างทุกข์ทน
แสงสว่างทางไหนเล่าเราจะรู้
ยินเพียงหูรู้สัมผัสมันขัดผล
เมื่อสิ้นแสงแต่งสว่างทางมืดมน
เดินดั้นด้นไร้จุดหมายที่ปลายทาง
ท้ายที่สุดจุดหมายเพียงปลายฝัน
ยากจะดั้นผันให้ถึงแสงสว่าง
เพราะทางเดินเผชิญนั้นมันเลือนลาง
สิ้นแรงย่างก้าวไปดังใจปอง
เพราะว่าแผลแต่ก่อนเก่าเข้ารุมเร้า
ทั้งใจเหงาเหว่ว้าพาใจหมอง
ท้อและถอยด้อยกำลังจะประคอง
จึงจำต้องยอมแพ้แต่โดยดี
30 พฤศจิกายน 2546 21:52 น. - comment id 186598
ทางที่มืดมนอาจไม่มืดมิด หากเรายังมีจิตไม่คิดท้อ ทางที่ไม่เห็นอาจมีให้พอ หากเราไม่ย่อท้อและไม่ง้อใคร ฉะนั้นขอเธอคนดีของฉัน โปรดจงก้าวใหม่เพื่อสานฝันอย่าหวั่นไหว หนทางข้างหน้าใช่ว่าเธอจะไม่มีใคร เพราะเธอยังมีฉันเรื่อยไปในทุกวัน *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ชอบค่ะชอบ*-*

30 พฤศจิกายน 2546 22:23 น. - comment id 186617
ทุกวิถีที่ท่องไปในโลกกว้าง มีฉากขวางเป็นอุปสรรคไปทุกที่ เก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์ของชีวี ร้อยวจีออกเป็นกลอนมาสอนใจ ถึงก้าวแรกจะพลาดใป แต่ก้าวใหม่ต้องมั่นคง

1 ธันวาคม 2546 12:43 น. - comment id 186716
คุณเพชรพรรณรายคะ.....ดาหลาชอบกลอนของคุณมากคะ....คุณรังสรรค์ได้ไพเราะมากคะ....ดาหลาขออนุญาตนำไปมอบให้ใครคนหนึ่งนะคะ.....ขอบพระคุณมากๆเลยคะ......

1 ธันวาคม 2546 16:13 น. - comment id 186795
อาจเป็นแผลริมแข็งหรือริมอ่อน แต่เก่าก่อนรุมเร้าใจเศร้าหมอง ไม่รักษาทิ้งไว้เหมือนหมักดอง เกิดเป็นหนองไหลเยิ้มเริมก็ตาม... ก็จะตามมาอีกหลายโรค อิอิ ต้องรีบไปตรวจเลือดรักษาโดยเร็ว อิอิ

9 ธันวาคม 2546 09:26 น. - comment id 189013
แต่ชีวิตใช่ว่าอยู่อย่างเดี่ยวโดด โลกทั้งโลกใช่จะหมดความสดศรี เพียงในความปรารถนาบรรดามี คิดแต่สิ่งดีดี...ที่ควรทำ ****คุณเขียนได้น่าชื่นชมมากครับ*** คารวะด้วยหัวใจ

22 ธันวาคม 2546 19:46 น. - comment id 193613
แม้นหนทางข้างหน้าพามืดมิด ขอดวงจิตแจ่มสว่างกลางเวหน กำลังใจให้เธอในบัดดล จงอดทนมุ่งมั่นฟันฝ่าไป....ฯ บทกลอนให้แนวคิดที่ดีมากค่ะ..มาชื่นชมนะคะ. .
