หวิวหวิวลมพัดไหวให้ใจหวั่น เห็นกังหันผันน้ำมาเข้านาสวน
เมล็ดพันธุ์พืชไร่ได้หว่านพรวน เพราะดินร่วน ดินดำ อีกน้ำดี
ถนนหนึ่งซึ่งทอดยาวให้ก้าวย่าง เป็นเส้นทางสู่นาไร่ในวิถี
เพื่อพออยู่เพื่อพอเพียงเพียงพอดี ทางสายนี้คือวิถีที่ยั่งยืน
หวิวหวิวลมพัดไหวให้ใจเปลี่ยน วัฏเวียนวนไปไม่อาจฝืน
เปรียบสายน้ำที่ไหลไปไม่ผันคืน ความยั่งยืนไม่ยืนยั่งดังนิยาม
จากไร่นาก้เปลี่ยนมาเป็นค้าขาย ต่างชาติหมายได้สินค้าตราสยาม
อาชีพใหม่สร้างรายได้กำไรงาม แปรผันตามความต้องการของสายลม
ถนนนี้มีชื่อว่าอะไรเล่า เขาตั้งเอาความตามหมายได้เหมาะสม
ถนนนี้มีชื่อว่า ถนนสายลม ก่อนจะกร่อนเป็น สีลม ในปัจจุบัน
3 เมษายน 2546 10:30 น. - comment id 121745
ขอนับถือกับกลอนคุณภาพครับ... จบได้อย่างยอดครับ

3 เมษายน 2546 10:34 น. - comment id 121746
แต่งไงแบบนี้ชอบนิ

3 เมษายน 2546 11:07 น. - comment id 121763
เนิ่นนานกับกาลเวลา ที่อยากบอกว่าประทับใจมากกับตำนานและเรื่องราวความไหวหวานแห่งธรรมชาติ บทกวีหวานที่หลั่งรินมาให้ซาบซึ้งคำว่า เปลี่ยนแปลง เขียนบทกวีแบบนี้ให้อ่านบ่อยๆ นะครับคุณเจือจันทร์ ด้วยรักและหลงไหลนะครับ

3 เมษายน 2546 13:09 น. - comment id 121790
ขออนุญาตเก็บไว้ครับ

3 เมษายน 2546 15:21 น. - comment id 121829
........ดีนะที่กร่อนเป็นสีลม.........ถ้ากร่อนเป็น.....ผายลม.....คงไม่มีไครกล้าเดิน

3 เมษายน 2546 16:55 น. - comment id 121844
....ทั้งเหม็นทั้งเบื่อ.....แออัดพลุกพล่าน..เน๊อะ

4 เมษายน 2546 00:41 น. - comment id 121995
อยู่สีลมมาเกือบสองปี..พึ่งทราบ ขอบคุณนะคะ ที่เล่าให้ฟัง

5 เมษายน 2546 17:19 น. - comment id 122544
ขอบคุณสำหรับดอกไม้มิตรภาพที่หยิบยื่นให้ครับ

5 เมษายน 2546 18:05 น. - comment id 122556
นายนี่ไม่เบานะ เราแแวะมาชื่นชมผลงาน ปลื้มนะ จะเป็นกำลังใจให้เพื่อนตลอดไป
