๏ กิ่งไผ่ใคร่วิญญาณ

อัลมิตรา


๏ เพลงกระบี่อันรุ่มร้อน.......รุนแรง 
แสนอุกอาจผาดแผลง.........เผ็ดร้อน 
รุกรับฉับไวแสดง................กลยุทธ-  ศาสตร์เฮย 
กายพุ่งมุ่งทะยานย้อน..........ดิ่งจ้องโจมตี ๚ 
๏ มือขยับกายเขยิบย้าย.......แยบยล 
ตาเพ่งเล็งอริจน.................สั่นสะท้าน 
กายสงบแต่ใจตน...............ตระหนักอยู่ 
ฤๅนี่คืออีกด้าน...................แห่งเจ้ายุทธภูมิ ๚ 
๏ ยามรุกบุกเร่งเร้า..............โรมรัน 
ยามรับคราวคับขัน................เคลื่อนคล้อย 
ยามรบต่างครบครัน...............อาวุธ 
ยามรักมักกร่ายถ้อย..............กล่อมฟ้าศศิธร ๚ 
๏ วรยุทธสุดลึกล้ำ..................เหลือประมาณ 
เพลงกระบี่ช่างเหิมหาญ.........ยิ่งแล้ 
ยืนชมยิ่งละลนละลาน..............อีกระรื่น 
จึงเอ่ยคำชมแม้......................แปลกถ้อยอย่าถือ ๚ะ๛
				
comments powered by Disqus
  • ทักทาย

    13 เมษายน 2550 19:48 น. - comment id 682830

    สวัสดีวันสงกรานต์จ้ะ.......ส่งการ์ดไปให้ได้รับหรือเปล่าหนอ...?
  • ทักทาย

    13 เมษายน 2550 19:50 น. - comment id 682832

    36.gif36.gif36.gif16.gif16.gif36.gif36.gif36.gif
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    13 เมษายน 2550 19:51 น. - comment id 682833

    9.gif
  • อัลมิตรา

    14 เมษายน 2550 00:13 น. - comment id 682862

    ไอ้ที่ว่าแปลก คือ ..
    ความคิดของคนที่อยู่รอบ ๆ กับพฤติกรรมที่มีต่อความเป็นในอีกสภาวะหนึ่ง
    เขาถึงว่า .. มนุษย์ศาสตร์ คือ ..ศาสตร์ที่ไม่มีใครวิเคราะห์ได้อย่างกระจ่างแจ้งสักที
    
    ขอยกตัวอย่าง 
    นิทานจากเซนสักเรื่อง โดยอ้างถึงหนังสือ รวมเรียงความของศศิวิมล. หน้าที่ ๒๑๑
    
    โตซุยเป็นพระเซน บวชอยู่เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานมีชื่อเสียง 
    ลูกศิษย์ลูกหามากมาย  ลาภสักการะเยอะ 
    แต่โตซุยมุ่งจะสอนตนเองมากกว่าจะสอนผู้อื่น
    
    จึงสึกจากพระออกมาเป็นขอทาน 
    ด้วยอยากจะรู้ว่าตนเคยถูกกราบไหว้ยกย่อง อุดมด้วยลาภยศสรรเสริญสุข 
    และทำให้ให้วางเฉยไม่ยินดียินร้ายต่อโลกธรรมสี่ข้อแรกนั้น 
    ตนก็ได้ทำแล้ว
    
    ไหนลองมามีชีวิตที่ต้องถูกดูแคลน ไม่มีคนกราบไหว้ 
    กินของเดน ๆ ได้รับทานที่ทำด้วยความไม่เคารพ
    เป็นอยู่ยากไร้เหมือนหมูหมากาไก่ 
    โตซุยอยากพิสูจน์ดูว่าอารมณ์จะเป็นอย่างไร ในโลกธรรมอีกสี่ข้อหลัง
    
    เพื่อนพระตลอดจนลูกศิษย์ลูกหาที่คุ้นเคยกันมาก็มาเยี่ยมเยียน 
    เห็นสภาพความเป็นอยู่ พากันอุทานว่า
    "--อาจารย์มีความทุกข์ขนาดนี้เจียวหรือ--"
    ท่านก็ตอบว่า
    "--นี่คือความจน มิใช่ความทุกข์--"
    
    ขอทานโตซุย อยู่เป็นขอทานเช่นนั้น จนดับขันธ์
    
    ต้องยกเครดิตให้กับผู้เล่าเรื่องในเรียงความ ซึ่งก็คือ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต
    และต้องขอบคุณ คุณทักทาย ที่ส่งมอบหนังสือที่มีแง่คิดดี ๆ มาให้อ่าน
    
    ซึ่งเมื่ออัลมิตราได้อ่านแล้ว ก็ฉุกคิดได้ขึ้นมาทันที 
    ครั้งหนึ่ง อัลมิตราผู้ซึ่งยังคงตัวตนของอัลมิตรา (แท้จริงแล้ว ไร้ตัวตน)
    ถ้อยที่กระทบโสต .. จากผู้ที่ถือว่ามีวัยวุฒิ คุณวุฒิสูงกว่า 
    จะเป็นในลักษณะกระแทกกระทั้นเสมอ ประหนึ่งว่า ทุกอย่างที่เป็นไปคือดัดจริต
    
    แต่ครั้นเมื่ออัลมิตรา แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นกิ่งไผ่ใคร่วิญญาณ
    ซึ่งเมื่อเปรียบไปแล้ว ก็เหมือน (กิ่งไผ่ ฯ) ผู้ที่เพิ่งออกท่องในยุทธจักรวรรณกรรม
    บ้าบอไปตามเรื่อง เฮฮาไปตามประสา มีบุคลลิกภาพแตกต่างไปจากเดิม 
    น่าแปลกที่ ..ผู้ที่ถือว่ามีวัยวุฒิ คุณวุฒิสูงกว่า คนเดียวกับข้างต้น
    กลับให้การต้อนรับขับสู้เป็นการดี แทบจะเรียกได้ว่า ใจจดใจจ่อ มารอท่า
    หนำซ้ำยังเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่นานสองนาน โดยปราศจากทิฐิมานะแต่อย่างใด
    นี่ !! ถ้ากระทู้นี้ ผ่านตาท่านนั้นเมื่อไหร่ .. ก็ไม่รู้ว่า จะเกิดฮอริเคนหรือไม่ 
    
    อา !... อัลมิตราเข้าใจท่านโตซุยแล้ว 
    
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
  • อัลมิตรา

    14 เมษายน 2550 00:15 น. - comment id 682869

    คุณทักทาย .. สวัสดีค่ะ อัลมิตราได้รับการ์ดแล้วค่ะ
    ความจริงเห็นตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้ว 
    แต่ตอนนั้นกำลังหน้าดำคร่ำเคร่งกับการซ่อมปริ้นเตอร์
    ตอนนี้เปิดการ์ดแล้ว สวยค่ะ ขอบคุณมาก
    
    คุณก่อพงษ์ .. ว้า !! น่าจะถามนะ ว่า ทำไมกิ่งไผ่ต้องใคร่วิญญาณด้วย
    ไม่มีใครถาม .. ปูเหลียว งอน นะ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    14 เมษายน 2550 08:06 น. - comment id 682885

    ขอบคุณเรื่อง ท่านโตซุย ที่คุณอัลมิตรานำมาเล่าต่อให้ฟัง
    
    ผมชอบถ้อยที่ว่า ความจน ไม่ใช่ความทุกข์
    
    ผมพยายามทำความเข้าใจ
    ว่าความจนไม่ใช่ความทุกข์
    กับทั้งได้เขียนถึง
    และสังเกตชีวิตผู้คนด้วย
    
    ทว่าความเข้าใจยังไม่ก่อผลึก
    
    
    เมื่อฟังเรื่องท่านโตซุย
    
    ก่อพงษ์  จึงเห็นแจ้งแล้วหนอหนอ
    
    
    
    ขอคารวะท่านผู้เล่า  ยิ่งๆ
    
    
    คุณก่อพงษ์ .. ว้า !! น่าจะถามนะ ว่า ทำไมกิ่งไผ่ต้องใคร่วิญญาณด้วย
    ไม่มีใครถาม .. ปูเหลียว งอน นะ
    
    
    ผมเชื่อว่านัยของกิ่งไผ่ใคร่วิญญาณ
    ต้องคลี่คลายให้รู้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
    
    
    จึงไม่รีบร้อนที่จะถาม
    
    การฝึกอดทนรอคอยคือวัตรอันหนึ่ง
    ของคนจนเช่นข้าผู้น้อย
    
    
    ขอบคุณคุณอัลมิตราอีกครั้งหนึ่งนะครับ
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    14 เมษายน 2550 12:12 น. - comment id 682894

    ๏ ยกจอกจัณฑ์แด่เจ้า.................ศศิธร
    จากนกพเนจร............................คู่ร้าง
    ยามพลบหลบลงคอน..................โดดเดี่ยว
    แม้นเปลี่ยวกายใจคว้าง.............บ่ได้ทุกข์ถมฯ
    
    ๏ ทุกวารถวิลน้อง........................นงราม
    เช้าค่ำร่ำโมงยาม.......................ผ่านพ้น
    โบยบินทั่วเขตคาม....................พลัดถิ่น
    ใจพี่คำนึงล้น............................หนึ่งเจ้าเคยเคียงฯ
    
    ๏ นางใดแม้นชื่อนั้น...................อัลมิตรา
    เราจักมั่นสิเหน่หา......................ห่อนร้าง
    ทวยเทพทั่วโลกา.......................ฟังสัตย์ เราเทอญ
    อุบัติจักปรารถน์อ้าง..................ชื่นด้วยเยาวมาลย์๚
    
    ...จบด้วยท่า...ลังกาหน้าใส่เกลียวสองรอบครึ่ง..555...ค่อยๆทำงานไปนะ..กำลังใจส่งให้เสมอ..กำลังทรัพย์เด๋วดูก่อน....
    31.gif36.gif38.gif
  • อัลมิตรา

    14 เมษายน 2550 13:13 น. - comment id 682897

    ทิวาสวัสดิ์ค่ะ คุณก่อพงษ์ ..
    
    "กิ่งไผ่ใคร่วิญญาณ" .. เป็นอีกหนึ่งภาพลักษณ์ที่เลียนบุคคลิกภาพของผู้เยี่ยมยุทธ
    แต่ไม่ได้หมายความว่า อัลมิตราจะโอ่ว่า อัลมิตราเยี่ยมยุทธนะ .. ไม่ใช่เช่นนั้นค่ะ
    เพียงแต่ศรัทธาและเห็นถึงความสมควรในการประพฤติตนของผู้เยี่ยมยุทธท่านนั้น
    ท่านไหน ? .. เอาล่ะ สิ  อยากรู้ใช่ไหมคะ .. จะบอกล่ะน๊า
    
    ไม่รู้ว่า คุณก่อพงษ์เคยอ่านนิยายจีน หรือ ดูหนังจีนเรื่อง มังกรคู่สู้สิบทิศ .. หรือเปล่า
    ในนิยายจีนเรื่องนี้ตัวเอกของเรื่องจะเป็นชายสองคน ที่แรกเริ่มเดิมทีมีชีวิตเยี่ยงขอทาน
    กว่าจะได้ข้าว ได้หมั่วโถว ยาไส้ ในแต่ละมื้อ ก็ต้องเสี่ยงต่อการถูกทุบตี ถูกไล่ดุจหมูหมา
    บังเอิญ สองหน่อนี้จับพลัดจับพลูฝึกเคล็ดลับวิชาโดยที่พวกเขาไม่ได้รู้ล่วงหน้าเลยว่า
    ชะตาชีวิตของพวกเขานับแต่นั้นจะพลิกผันจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
    
    "โค่วจง" .. 
    ผู้ที่มีความทะเยอทะยาน ประกาศตัวว่าเป็นผู้กล้า เป็นขุนพลน้อย  และตั้งความหวังไว้สูง
    
    "ฉีจื่อหลิง" .. 
    ผู้นอบน้อมถ่อมตน ถึงแม้ว่าตนเองจะเป็นผู้เยี่ยมยุทธที่สุด แต่กลับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
    
    สองคนสองบุคคลิกแต่ก็เป็นเพื่อนรักกัน .. เป็นคนดีทั้งคู่
    ไม่รู้เหมือนกันว่า หวงอี้ (ผู้ประพันธ์) ต้องการให้ผู้อ่านซึบซาบอะไร 
    จึงมอบบทบาทนั้นให้โค่วจงและฉีจื่อหลิง .. แตกต่าง แต่ไม่แตกแยก เช่นนั้น
    
    พอจะนึกถึงสภาพของหลวงจีนไหมคะ  .. สงบ เรียบง่าย นิ่ง.. ดูไม่ออกถึงวรยุทธข้างใน
    ฉีจื่อหลิงเป็นเช่นนั้นค่ะ  เขาไม่ได้พกดาบ ไม่เคยแสดงความโอหัง ไม่เคยยกตนข่มผู้ใด
    เขาไม่ได้ใช้กิ่งไผ่ เป็นอาวุธนะ .. ตรงนี้ อัลมิตราเสริมแต่งจากความรู้สึกที่ว่า
    เขาไม่จำเป็นจะต้องใช้ดาบเพื่อเป็นอาวุธ เพียงแค่ใช้กิ่งไผ่ก็สามารถรู้แพ้รู้ชนะได้แล้ว
    ทั้งนี้เพราะเขาไม่ได้คิดที่จะประหัตประหารใครให้ด่าวดิ้น เพื่อที่ว่า ตนเองจะได้ดูดี
    
    อธิบายมาเสียยืดยาว คำตอบมีแค่สองบรรทัดนี่เอง
    
    ซึ่งก็น่าคิด น่าพิศวงกับความเป็นจริงในสภาพปัจจุบัน ที่เราเห็น ๆ กันอยู่
    สำหรับในแวดวงของวรรณกรรม .. การเขียนร้อยกรอง
    บางคนก็เหมือนฉีจื่อหลิง บางคนเหมือนโค่วจง และที่แตกต่างอย่างสุดขั้วเลยก็มี
    
    บางคนถือตัวว่า ตนเองฝีมือฉมังเหนือใคร ๆ  จึงมีความอหังการในสันดาน
    อหังการ ในที่นี้ หมายถึงความจองหอง การทำความยึดถือว่ามีตัวฉัน
    เป็นของสิ่งเดียวกันกับอัสมิมานะหรือปมเขื่องนั่นเอง 
    
    หากบุคคลเหล่านี้มีสัญชาตญาณ  (Animal Instinct) ถึง..
    "ความมีตัวตน"และ"ความเด่นของความมีตัวตน"
    โดยไม่คำนึงถึงการรักษาของผู้อื่นบ้าง 
    การกระทำอันนั้นก็กระทบผู้อื่นเสมอ ๆ  ซึ่งส่งผลในด้านลบ
    
    แต่ถ้าเขามีความรู้ฉลาดอยู่ส่วนหนึ่ง ในการรักษาความมีตัวของเขา 
    พอที่จะไม่ให้กระทบผู้อื่นแล้ว ..
    "การรักษาความีตัว"หรือ"ความเด่นของเขา" มันก็จะส่งผลในด้านบวก
    
    ซึ่งไม่ว่าผลทางด้านลบหรือผลทางด้านบวก 
    มันเกิดจากสัญชาตญาณในการยึดถือปมเขื่อง  (อัสมิมานะ)
    อย่างที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า อสฺมิมานสฺส วินโย เอตํ เว ปรมํ สุขํ 
    ซึ่งแปลว่า.. "การนำออกเสียได้ซึ่งอัสมิมานะนั่นเป็นความสุขอย่างยิ่งเว้ย" ..
    
    เขียนแล้วยาวนะ .. ฮา
    เรื่องของอหังการ นี่ อัลมิตรานึกถึง แมงป่อง อึ่งอาง และ กิ้งก่า ..
    เคยเขียนเป็นโคลงทั้งสามอย่างเหมือนกัน วันนี้นึกไงไม่รู้ มาร่ายซะยาว
    เอาน่า .. คุณก่อพงษ์ อัลมิตราเพิ่งรามือพักจากงาน  ไหน ๆ ก็ไหนไหน
    เรื่องอะไรจะนั่งน้ำลายบูดคนเดียวอย่าง เปล่า ๆ ปลี้ ๆ ล่ะ  .. ฮา ..
    
    ก่อนจบคอมเมนท์นี้ อัลมิตราขออนุญาตฝากโคลงไว้ให้เป็นแง่คิด ..
    
    ยามคืนแสนสงัดให้..........พิจารณา
    ธรรมซึ่งองค์พระศาสดา....บ่งชี้
     ปฏิจสมุปบาท  พา.........จิตสงบ
    จึงใคร่ครวญสิ่งนี้..............นั่นโน้นฉะนี้ไฉน ฯ
    
    สรรพสิ่งมีอุบัติขึ้น.............แผกกัน
    หากแต่คงสามัญ-.............ญลักษณ์แล้
    ความไม่เที่ยงทุกข์อัน.......ปรากฏ
    อีกอนัตตาจริงแท้.............ต่างต้องจำนน ฯ
  • อัลมิตรา

    14 เมษายน 2550 13:24 น. - comment id 682898

    คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ ..
    
    จิบเมรัยแต่เช้า...........เชียวหนอ
    แผลเก่าสะเก็ดพอ.......แกะได้
    หากเกิดใหม่ตรงคอ.....เหวอะหวะ
    จนเน่าเกินรักษ์ไข้.......ปลิดทั้งดีไหม ?
    
    อักษรแสนมั่วแท้..........ผสมโรง
    วิหคริเขียนโคลง...........ยั่วเย้า
    เรา"กิ่งไผ่ฯ"บ่โกง.........ใดดอก
    เพียงตวัดปราศรุกเร้า...ก็ชี้ชนะผล
  • กุหลาบขาว

    14 เมษายน 2550 17:16 น. - comment id 682918

    สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ...
    
    ขอให้สมหวังในทุกๆด้านค่ะ..11.gif36.gif
  • อัลมิตรา

    14 เมษายน 2550 21:47 น. - comment id 682932

    สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะ คุณกุหลาบขาว
    ขอให้สมหวังในทุกปรารถนาค่ะ
  • ก่องกิก

    15 เมษายน 2550 10:09 น. - comment id 683011

    สุขสันต์วันสงกรานต์นะครับ
    16.gif
  • วิภาวดี/บิ๊ก

    15 เมษายน 2550 16:12 น. - comment id 683068

    41.gif41.gif41.gif41.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    สวัสดียามเย็น.....36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • ทักทาย

    15 เมษายน 2550 19:33 น. - comment id 683138

    16.gif16.gif16.gif36.gif36.gif36.gif16.gif16.gif16.gif36.gif36.gif%36
    
    เล่นน้ำสงกรานต์กับเขาบ้างหรือเปล่า  ส่วนทักวันนี้เจอปะแป้งเพรียบเลย ณ.ที่บ้านและหน้าบ้าน ผมเป็นคุณยายเลย ส่วนรดน้ำดำหัวครอบครัวทัก รดเมื่อวานนี้ค่าก็ได้พรจากผู้ใหญ่ภายในบ้านมีความสุขจังค่ะ...
    
    คุณอัลฯสิ่งไหน เรื่องไหน(ค่าย นักเรียน) มีอะไรอย่างไงช่วยแจ้งทักมาอีกทีนะคะ...
  • อัลมิตรา

    15 เมษายน 2550 20:35 น. - comment id 683147

    คุณก่องกิก .. สวัสดีวันปีใหม่ไทยเช่นกันค่ะ
    
    คุณวิภาวดี .. :) สวัสดีปีใหม่ค่ะ
    
    คุณทักทาย ..  อัลมิตรามีวันหยุดในช่วงเทศกาลนี้ 3 วัน
    และ 3 วัน อัลมิตราก็จัดสรรเวลาทุกอย่างลงตัว
    ไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์ แต่ก็สรงน้ำพระที่บ้านค่ะ
    และก็ทำหนังสือจนลุล่วงตามความตั้งใจ
    ขอบคุณ คุณทักทายมาก ที่เป็นห่วงใยและเอาใจช่วยมาโดยตลอด
    ส่วนความคืบหน้าของโครงการ ก็ไม่ติดขัดอะไร
    เหลือแต่วันเหมาะ ๆ ที่จะดำเนินการเท่านั้นค่ะ
    ซึ่งวันที่กำหนดไว้ ยังคงเป็นวันเดิม ในช่วงดอกกระเจียวบาน
    
    ตอนนี้เริ่มนับวันถอยหลังได้เลยค่ะ :)
  • เฌอมาลย์

    15 เมษายน 2550 22:02 น. - comment id 683178

    สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ36.gif10ro2.gif
  • อัลมิตรา

    15 เมษายน 2550 22:29 น. - comment id 683199

    สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ คุณเฌอมาลย์ ..
    
    สงกรานต์ปีนี้ไม่เปียกเลย เพราะอยู่แต่ในบ้าน ทำงาน
    จะมีบ้างที่ออกนอกบ้านในวันที่ 13 เพื่อไปซื้อของและเสบียงตุนค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน