เลี้ยงลูกแบบไหน? ถ้าเลี้ยงลูกแล้วพร่ำคำตำหนิ มองดูสิผลเลิศประเสริฐไหม ตรงกันข้ามกับบั่นทอนกำลังใจ เด็กจะเลวเหลวไหลดั่งวาจา ถ้าเลี้ยงลูกปลูกนิสัยให้ก้าวร้าว จะเป็นคนแข็งกร้าวมีปัญหา ไร้เหตุผลดื้อรั้นขาดจรรยา เด็กไม่มีสัมมาอ่อนน้อมคน ถ้าเลี้ยงลูกแล้วดูถูกคอยเย้ยหยัน เด็กจะขาดความเชื่อมั่นและสับสน ทั้งยังขลาดไม่กล้ามาผจญ อิทธิพลความเย้ยหยันหน้าพรั่นพรึง ถ้าเลี้ยงลูกเกิดทุกข์ด้วยความอาย เด็กจะกลายเป็นคนกังวลถึง หวาดระแวงหมดสุขทุกข์ตราตรึง เฝ้าคะนึงอยากอยู่เพียงผู้เดียว ถ้าเลี้ยงลูกทุกเวลาด้วยมานะ จะอดทนเสียสละฉลาดเฉลียว งานลำบากทำได้ทั่วตัวเป็นเกลียว ด้วยชำนาญชาญเชี่ยวทุกขั้นตอน ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้กำลังใจ เด็กจะสุขสดใสสโมสร เมื่อเติบใหญ่สุดประเสริฐเลิศบวร เกริกกำจรเป็นนักปราชญ์ชาติระบิล ถ้าเลี้ยงลูกตัวน้อยคอยชื่นชม เด็กจะเริ่มสั่งสมคิดถวิล ภาคภูมิใจในคุณค่าเป็นอาจิณ ความสำเร็จในชีวินของตนเอง ถ้าเลี้ยงลูกด้วยรักที่อบอุ่น เด็กจะนุ่มนวลละมุนไม่ข่มเหง ศรัทธามีดุจดนตรีที่บรรเลง เหมือนเสียงเพลงกล่อมโลกไม่โศกตรม ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้การยอมรับ เด็กจะงามพร้อมสรรพดูเหมาะสม เป็นคนดีมีคุณค่าน่าชื่นชม น่านิยมเชื่อถือระบือไกล ถ้าเลี้ยงลูกแบบให้ความเป็นมิตร เด็กจะมีดวงจิตผุดผ่องใส คอยกอบเกื้อเอื้ออารีมีน้ำใจ ทั้งรู้จักให้อภัยมีเมตตา จะเลี้ยงลูกแบบไหนให้ตระหนัก จะเลี้ยงแบบให้ความรักเสน่หา หรือเลี้ยงแบบพร่ำบ่นจนระอา ให้ก้าวร้าวหมดจรรยาหวาดระแวง จะเลี้ยงลูกแบบใดได้อย่างนั้น อยู่ที่พ่อแม่ปั้นดังแถลง ยังไม่สายหากคิดจะเปลี่ยนแปลง ลูกจะแกร่งอดทนเลิศ...ประเสริฐคุณ... ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ หมายเหตุ. กลอนเรื่อง”เลี้ยงลุกแบบไหน?”คัดมาจากเอกสาร แผ่นพับที่จะใช้ในกิจกรรมประชุมผู้ปกครองนักเรียน ในวันเสาร์ที่ ๑๗ พศจิกายน ๒๕๕๐ ที่จะถึงนี้ พยายามสอบถามว่ากวีท่านใดหรือผู้รู้ท่านใด เป็นผู้เขียนก็ไม่มีครูท่านใดทราบ แต่เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์จึงขออนุญาตนำมาลง ถ้าแม้นท่านใดรู้ว่าเป็นผลงานของใคร กรุณาบอกด้วยนะคะ.. ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ.. และขอกราบขอบพระคุณเจ้าของผลงานค่ะ..
ครูพิม 14 พ.ย. 2550 17:58 น. - ID 109602 
8343
23
0
14 พฤศจิกายน 2550 18:11 น. - comment id 788495
พี่รินอ่ะนะ เลี้ยงลูกแบบตามใจอ่ะ ...ตามใจทุกอย่างเลย...แบบตามใจพี่รินค่า
14 พฤศจิกายน 2550 18:41 น. - comment id 788509
ผมว่าจะเลี้ยงแบบไหนไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่าพ่อแม่ต้องรักลูกให้ถูกทาง คำโบราณที่ว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี ผมว่ายังใช้ได้อยู่นะครับ หรือ ครูพิมว่าไง??
14 พฤศจิกายน 2550 22:00 น. - comment id 788573
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ....แต่ว่าดีมากเลยค่ะ ขอบคุณกลอนดีๆเช่นนี้นะคะคิดถึงค่ะ
14 พฤศจิกายน 2550 22:01 น. - comment id 788574
.....พ่อแม่เป็นครูคนแรกลูกเป็นศิษย์ อีกเป็นพรมบ่มจิตคิดสร้างสรร เป็นแบบอย่างให้ลูกผูกสัมพันธ์ เส้นทางนั้นพ่อแม่ปูสู่ทางเดิน .....ต้องเลี้ยงลูกผูกศรัทธาละกิเลส ให้ซ้องเสพศีลธรรมนำสั่งสอน ให้รู้ถูกรู้ผิดจิตสังวร ให้อ่อนน้อมถ่อมตนคนเยินยอ .....ให้รู้จักเสียสละละมานะ มีสัจจะละโลภโกรธและหลง ให้รู้จักรักศักดิ์ศรีที่เป็นคน รู้อดทนอดกลั่นดั่งเตมีย์ ......สอนให้ลูกกตัญญูรู้คุณท่าน กตเวทิตานั้นตอบสนอง ชาติตระกูลสูงส่งบ่แน่นอน ขอทานสอนลูกได้ดีมีมามาย ......ต้องสอนลูกอย่างพรมสมศักดิ์ศรี พ่อแม่มีหน้าที่เป็นครูสอน ลูกจะดีหรือเลวต้องสังวร แม่พ่อต้องเป็นแบบไม่แปลกปลอม ......สอนให้ลูกรู้จักรักพอเพียง เป็นแบบเยี่ยงเลี้ยงลูกอย่าสร้างสรร ให้รู้จักมัธยัตการใช้จ่าย ความสบายปลายมือถือสังวร
14 พฤศจิกายน 2550 23:44 น. - comment id 788612
เลี้ยงลูกบอลคะตอนนี้ยังไม่คลอด
15 พฤศจิกายน 2550 08:09 น. - comment id 788692
เลี้ยงยากจังนะคะ เลี้ยงลูก จินตนาการไม่ออกค่ะว่าจะเลี้ยงลูกตัวเองแบบไหน แต่ก่อนอื่นขอเวลาไปหาพ่อของลูกให้ได้ก่อนนะคะ อิอิ
15 พฤศจิกายน 2550 10:20 น. - comment id 788773
เด็กจะดีเพราะผู้ใหญ่ให้ความรักคอยฟูมฟักเลี้ยงดูไม่ให้เขลา
ถ้าเด็กดื้อ..ก็เพราะเด็กเรียนรู้เอา
พฤติกรรมงี่เง่าที่เขาเจอ
15 พฤศจิกายน 2550 10:22 น. - comment id 788775
สวัสดีจ๊ะน้อง ขอชมท่านเจ้าของบทกลอนนะครับ เป็นกลอนที่ดีมากเลยครับ
15 พฤศจิกายน 2550 11:47 น. - comment id 788804
เลี้ยงลูกด้วยนมครับ ถ้าเลี้ยงลูก ด้วยนม จะดีแท้ ลูกรักแม่ แม่ก็รัก อบอุ่นใจ ด้วยสายเลือด ที่กลั่นกรอง คล้องสายใย ไม่เหลวไหล สายเลือดแม่ ดีแน่นอน
15 พฤศจิกายน 2550 11:51 น. - comment id 788807
เด็กจะดีที่เพราะผู้ใหญ่ให้ความรัก เอ็นดูนักเลี้ยงดูทะนุทะนอม ให้ในสิ่งถูกต้องไม่จอมปลอม เด็กก็พร้อมรับทำอย่างจริงใจ
15 พฤศจิกายน 2550 12:05 น. - comment id 788822
ดีจ้า ปริศนา.. คิดถึงเหมือนกันค่ะ...แฮปปี้ฝากความคิดถึงด้วย แต่แม่จะไปดูน้องๆแข่งกีฬาก่อนนะคะ... นิดหนึ่ง...อยากให้พวกเรามาเห็นแฮปพุดถึงเพื่อนๆ และการทำโครงการอาทิตย์ละบาท.. น้ำตาคลอ...เขาบอกน้องๆๆว่า.. ทำไมจึงเรียกแม่....ทำเอาเขินไปเลย.. ของที่สั่ง....ถ้าได้แล้วก้เอามาส่งนะคะ.. ถ้าเจอเก๋ ฝ้ายบอกด้วย...คิดถึง รักนะจ๊ะ... แม่ครูอ้อ..
15 พฤศจิกายน 2550 12:12 น. - comment id 788827
แม่เคยบอกว่า ตำหนิเพื่อก่อ ยอเพื่อทำลาย สงสัยจะจริง
สบายดีนะคะคุณครู
15 พฤศจิกายน 2550 13:41 น. - comment id 788879
เลี้ยงลูกด้วยประสบการณ์ที่สร้างสม เฝ้าอบรมบ่มเขารักศักศรี ให้คิดเองเสกสร้างสิ่งที่ดี วินัยมีชี้กำหนดสังคมไทย
15 พฤศจิกายน 2550 14:04 น. - comment id 788883
แม่ของหนู เลี้ยงลูก ด้วยหลักสัตย์ แม่ไม่พัด ไม่ปลอบ เเต่ให้เห็น ธรรมชาติ ที่กำเนิด สิ่งที่เป็น อย่างใจเย็น แม่ชื้ทาง ที่ถูกควร เเม่ไม่เคย เเม้เอื้อน เอ่ยคำหวาน บอกรำคาญ ด้วยซ้ำ ยามลูกหวญ แม่ด่าว่า ยามลูกโกรธ ยามลูกกวน ด้วยสำนวน ไม่สุภาพ แต่ถึงใจ เมื่อลูก ผิด แม่ก็ว่า ลูกนั้นผิด ให้ลูกคิดถึงเหตุผล เพื่อแก้ไข แม้ไม่เอ่ยด้วยคำ แต่ ด้วยใจ แม่ยกตัวแม่ไว้ เป็นตัวอย่าง ให้ลูกเดิน แม่ของข้าน้อย ไม่ใช่คนที่พูดคำหวานได้เก่งค่ะ ท่านเป็นคนพูดตรงและแรง ท่านเป็นคนใจแข็ง ไม่ชอบเด็กเท่าไหร่ แม่ไม่ชอบให้กอดหรือหอม หรือบอกรัก แม้คำพูดบางคำของแม่จะเเรงจนน้ำตาตก แต่บางคำเหล่านั้นก็จำได้ฝังใจทุกครั้งที่ข้าน้อยจะทำความผิด บางทีการโดนตีสำหรับข้าน้อยแล้ว อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เจ็บปวดนักค่ะ
15 พฤศจิกายน 2550 14:10 น. - comment id 788886
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ....... ความรู้เจ้ายังด้อยอย่าคอยท่า ครูให้อ่าน ครูให้เขียน เพียรวิชา ไม่หนักหนาเกินกำลังที่จะทำ เด็กเอ๋ยเด็กน้อย............ หัดโดดเรียนกันบ่อยไม่น่าขำ พอเกรดออกคุณจะรู้ว่า...อ๋อ..กรรม..! ก็คุณทำ คุณจะโกรธ จะโทษใคร เด็กเอ๋ยเด็กน้อย.......... อนาคตก็ยังคอยอยู่ข้างหน้า พอตอนเรียนคุณก็เล่นกันเฮฮา เรื่องตำราเอาไว้ก่อนค่อยพูดกัน เด็กเอ๋ยเด็กน้อย............ ครูก็คอยให้ความรู้อยู่ข้างหลัง หวังให้ศิษย์ได้เรียนรู้อย่างระวัง เพียรสั่งเพียรสอนแต่ความดี เด็กเอ๋ยเด็กน้อย............. วันเวลาไม่คอยใครอยู่กับที่ ตั้งใจเรียนหมั่นเพียรทำความดี อีกสิบปีไม่เสียดายที่ได้ทำอยู่ที่เราแล้วเล่าเจ้าเด็กน้อย เจ้าจะคอยเก็บเกี่ยวเอาสิ่งใหน ทำดีมากผลที่เกิดก็สุขใจ ครูผู้ให้....เด็กผู้รับ.......ก็คิดเอาเองคะ ...แต่งไม่เก่งคิดได้แค่นี้ รู้แค่ว่าเชื่อครูแล้วดี.........
15 พฤศจิกายน 2550 15:21 น. - comment id 788906
แวะมาให้กำลังใจพี่ครูพิมค่ะ
15 พฤศจิกายน 2550 16:04 น. - comment id 788921
15 พฤศจิกายน 2550 16:06 น. - comment id 788922
15 พฤศจิกายน 2550 16:07 น. - comment id 788924
15 พฤศจิกายน 2550 16:13 น. - comment id 788926
15 พฤศจิกายน 2550 16:15 น. - comment id 788929
15 พฤศจิกายน 2550 16:17 น. - comment id 788932
15 พฤศจิกายน 2550 16:18 น. - comment id 788934
15 พฤศจิกายน 2550 16:21 น. - comment id 788938
15 พฤศจิกายน 2550 16:23 น. - comment id 788940
15 พฤศจิกายน 2550 16:24 น. - comment id 788941
15 พฤศจิกายน 2550 16:25 น. - comment id 788943
เลี้ยงลูกนี่ยากนะคะ....แต่ทำประตุยากกว่า...เจ๊ยยยยย.........คนละลูก...อิอิ.......การจะเป็นพ่อแม่ในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องที่ยากมากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาอีกนะคะ....เห็นสังคมเสื่อมลงแล้วใจก็แป้วเป็นหนักหนา....(วกเข้ามาสาระจนได้...
)
15 พฤศจิกายน 2550 16:27 น. - comment id 788944
15 พฤศจิกายน 2550 16:35 น. - comment id 788950
15 พฤศจิกายน 2550 16:36 น. - comment id 788953
15 พฤศจิกายน 2550 16:43 น. - comment id 788958
15 พฤศจิกายน 2550 17:25 น. - comment id 789018
พ่อเอมเลี้ยงแบบมีเหตุผล และหัวสมัยใหม่ แม่เอมเลี้ยงแบบคนหัวโบราณ เอมเลยกลายเป็นลูกผสมระหว่างความสมัยใหม่และความหัวโบราณอ่ะค่ะ
15 พฤศจิกายน 2550 18:03 น. - comment id 789050
15 พฤศจิกายน 2550 18:04 น. - comment id 789051
สวัสดีค่ะ..ครูพิม.. ขอบคุณที่นำกลอนดี ๆ มาลงค่ะ.. เป็นประโยชน์ได้มากทีเดียว.. จะจดจำไว้ค่ะ.. เผื่อวันข้างหน้า.. จะมีลูกกะเขามั่ง... (หาคู่ให้ได้ก่อนเถ๊อะ.... ซะงั้น) คริคริ....
15 พฤศจิกายน 2550 18:23 น. - comment id 789063
หน้าส่วนตัว
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
