ไตเติ้ล "เจิ้งหมิงจี๋ วีรบุรุษคนสุดท้าย"

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

กลอนนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ใดๆ เป็นเพียงการยกชื่อสมมติ เท่านั้น
จริงๆ กลอนนี้ ผมเขียนนานแล้ว แต่เวลา และเน็ต ไม่ค่อยอำนวยเท่าไร
อีกอย่าง  ตอนนี้ ยังไม่เสร็จ.......
จึงขอนำไตเติ้ลๆๆๆ  มาเล็กๆๆน้อยๆๆ  
“เจิ้งหมิงจี๋    วีรบุรุษ  คนสุดท้าย”
   ณ ปลายราชวงศ์หมิง    ครอบครัวหนึ่งซึ่งหนีการฆ่าล้างตระกูล  ได้อาศัย  ณ  หมู่บ้านชาวประมง    สองผัวเมีย    ได้กำเนิด  ลูกชาย  2  คน  และ ลูกหญิง   ๑  คน  แต่ลูกๆ  ทั้งสามคน  ถูกฆ่าตาย  ขณะหนีกลางทาง   ที่เหลือรอดก็เพียงแต่  เจิ้งหมิงจี้  บุตรชายคนเล็กเท่านั้น  ฝ่ายพ่อแม่  ของเจิ้งหมิงจี๋  ได้รับบาดเจ็บ  และพักรักษาตัว  ณ  แห่งนั้น  
   ผ่านเวลาล่วงเลยไป   .เกือบ  15  ปี   หลังจากที่กษัตริย์พระองค์ใหม่  แห่งราชวงศ์หมิง   นามว่า   ชิงซังซ้ง  ผู้เคยเป็นเสนาธิการใหญ่   ได้อาศัยกำลังปฏิวัติ    ฆ่ากษัตริย์พระองค์ก่อนไปจนหมดสิ้น   รวมถึง ลูกหลาน  เหล่า ตระกูลหมิง  แทบจะทุกคน........
   สาเหตุที่ไม่อาจตั้งราชวงศ์ชิง   เนื่องจากว่า   หากตั้งราชวงศ์ใหม่   อาจทำให้ประชาชน  และเหล่าจอมยุทธทั่วหล้า  ปฏิวัติ  จึงจำใจ  ใช้ชื่อราชวงศ์หมิง    จนกว่าจะผูกใจประชาชนได้
	เจิ้งหมิงจี๋   ได้เปลี่ยนนามใหม่ ว่า  เจิ้ง-จี๋   เพื่อไม่ให้ใครติดตาม  และสืบสวนได้ว่า   เป็นลูกหลานตระกูลหมิง    และเขาเองก็แทบจะไม่รู้จักตัวเองเลยว่า    ครั้งหนึ่ง  พ่อแม่  เคยเป็นข้าราชการคนสำคัญของแผ่นดิน   แต่หลบลี้หนีการปฏิวัติมาได้
	เจิ้ง-จี๋   ได้ฝึกวิชา  ของตระกูลหมิง  คือ วิชาเจ็ดดาว  ทุกๆ  วัน   ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ  จนบัดนี้  เติบโตเป็นหนุ่มเต็มตัว   วัย   22   ปี    พ่อแม่ของเขานั้น   เมื่อเห็นว่า  ลูกชายของตนเป็นผู้ใหญ่แล้ว   จึง....ออกบวชทั้งคู่    
	เจิ้ง-จี๋  เด็กหนุ่ม  หน้าตาดี  มีคุณธรรมในจิตใจ  ชอบการศึกษา   และ  ฝึกฝนเพลงกระบี่   มีอาชีพที่สำคัญคือ   การขายปลา    แต่ไม่เคยใช้กำลังกับผู้ใด   จึงมักถูกกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง  และหลายๆ  ครั้ง  เขาก็จำต้องระงับอารมณ์เอาไว้   เมื่อพ่อแม่บอกว่า   “เจ้ามีวิชาติดตัว  จงอย่าแสดงให้ใครเห็นว่าเราเก่งเพียงใด   จงใช้เมื่อถึงคราวจำเป็น  คือ  ปกป้องคนที่เจ้ารัก...เท่านั้น
	ขณะที่  สถานการณ์บ้านเมือง  เริ่มวุ่นวาย  ประชาชนถูกขูดรีดข่มเหง   เหล่าชาวยุทธ  หลายสำนักได้ก่อตัว   เพื่อจะล้มล้างราชวงศ์ให้จงได้   เจิ้ง-จี๋   กลับรู้จักกลับ  เจ้าชาย  หมิงคุน-ไซ  และเจ้าหญิงหมิงเกี๊ยว-ซัง    ผู้เป็น  สุดดวงใจ   ของราชาพระองค์นั้นด้วยความบังเอิญ
	ด้วยเหตุ....แห่งความบังเอิญ   หรือวาสนาที่มีต่อกัน   เจ้าเชายหมิงคุน  และเจ้าหญิงหมิงกี๊ยว   ได้มาท่องเที่ยวในตลาด   และพักสำราญใจ   ณ  หมู่บ้านชาวประมง   โดยแต่งตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา       เจิ้ง-จี๋  ออกเร่หาบปลาขาย   ตามปรกติ    แต่แล้วก็ได้ยินเสียงการต่อสู้กันไม่ไกลนัก  เมื่อมองไปเห็นจึงพบว่า   มีชาย-หญิง  คู่หนึ่ง  ถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าจอมยุทธ  และนักฆ่า  ราวๆ  15  คน
	เมื่อ  เจิ้ง-จี๋   เห็นดังนั้น   จึงแกล้งเอาปลาไปขาย   แล้วร้องดังๆ  ว่า   “ที่นี่  มีปลาขายจ้า   มีปลาหลายชนิด  ราคาถูกๆๆ   ที่เดิม  ที่เดิม  จ้า 
  เหล่าจอมยุทธ   ท่านหนึ่ง   แห่งสำนัก  ง้อไบ๊   จึงเอ่ยว่า     “ไอ้หนุ่ม  เอ็งไม่เห็นรึว่า   พวกข้ากำลังทำอะไรอยู่   รึว่า.....อยากจะตายอีกคน   
   เจิ้ง-จี๋    จึงพูดทีเล่นทีจริงว่า   “ที่นี่มีปลา  ทั้งตายและไม่ตาย    พี่ท่าน  จะเอากี่ศพจ้า
 
    จอมยุทธ  ง้อไบ๊    ได้ยินดังนั้น   จึงบังเกิดความโมโหขึ้นทันที   แล้วกล่าวว่า   ไอ้หนุ่ม  เอ็งคงไม่รู้รสชาติ   ความตายมาก่อน   วันนี้เจ้าจงไปเยี่ยมยมบาลเถอะ 
 
    เจ้าชายและเจ้าหญิง   ทั้งสองคน   จึงพูดว่า   “พี่ท่าน  อย่าได้มายุ่งเลย   ที่นี่  ไม่ปลอดภัยนัก
    เจิ้ง-จี๋   ได้ยินดังนั้น   จึงได้ที   แล้วพูดว่า    “  โอ๊ยยยย   ไม่ด้ายยยยยหร๊อกกกก   ตรงนี้  คือที่เดิม  ที่ๆ ข้า  จะต้องขายปลา   ว่าแล้ว  ก็ตั้งร้านซะเลย
    เหล่าจอมยุทธ   และนักฆ่าทั้งหมด    ไม่รีรอให้  เจิ้ง-จี้   ได้ทันวางเป้หาบปลาก็กระโจนเข้าใส่   เจิ้ง-จี๋   ใช้ไม้  เป้หาบปลา  ด้วยกระบวนท่าเจ็ดดาว  ที่สาบสูญ  ไปจากยุทธภพ   ออกลวดลาย     ลีลา  สั่งสอน  เหล่าจอมยุทธ  และนักฆ่า  เหล่านั้น   เพียงไม่กี่นาที
     จอมยุทธ  ง้อไบ๊   ท่านนั้น  จึงเอ่ยว่า    “เจ้าเป็นใคร  ไยจึงรู้จัก  วิชาเจ็ดดาวแห่งตระกูลหมิง
 
     เจิ้ง-จี๋  ได้ฟัง  ถึงกับตกใจ   และเจ้าชายและเจ้าหญิง   ทั้งสองก็มองหน้ากัน  และดูท่าที  ของเจิ้ง-จี๊
เหตุการณ์  จะเป็นอย่างไร   ติดตามใน  ตอนต่อไป  วันนี้  ยุติแต่เพียงนี้
๑  เรื่องราวที่ฟังมาน่าตระหนก
คิดไม่ตกเหตุการณ์อันผ่านผัน
เพลงกระบี่รุกฆาตแล้วฟาดฟัน
คือกุญแจสำคัญ....คืนสัญจร
๒	นึกถึงคำบิดามารดาได้
เจ้าอย่าคิดอวดใคร...ท่องไว้ก่อน
พบคนพาลมารกล้าอย่านิ่งนอน
จำคำสอนท่านมาบูชาเทอญ
๓	เจิ้ง-จี้นั้นฉุกคิดกล่าวบิดพลิ้ว
ว่าฉันหิวข้าวมากไม่อยากเกริ่น
ขอตัวไปเที่ยวท่องแกล้งมองเมิน
แล้วก็เดินจากไปไม่หันมา
๔	องค์หญิงเกี๊ยวถามแซ่....แด่จอมยุทธ
จึงสะดุดหยุดมองจ้องใบหน้า
เพียงวูบเดียวเสี้ยวพบตาสบตา
ทำอุราหวั่นหวิวละลิ่วลอย
๕	เหมือนบุพเพ-วาสนามาแต่หลัง
ความรักหยั่งรากชื่นกว่ากลืนอ้อย
เหมือนตะวันจันทราตั้งท่าคอย
แสงหิ่งห้อยคู่เทียนเวียนมาเจอ
๖  (เจิ้ง-จี๋)   อันตัวข้าอย่าเพรียก  เรียกจอมยุทธ
เหมาะที่สุดพ่อค้าปลาเสนอ
ชื่อเจิ้ง-จี๋อยู่เดียวเปลี่ยวละเมอ
อาจดูเซ่อดูซ่าอย่าถือเลย
๗	 องค์ชายกล่าวขึ้นมาในครานี้
เพราะท่านพี่ช่วยไว้มิได้เฉย
เป็นพระคุณยิ่งเหลือเหนือจักเปรย
สิ่งที่เคยทำมาช่างการุณ
๘	องค์หญิงเกี๊ยวแอบยิ้มปลื้มปริ่มนัก
หวังทายทักพูดปรับสนับสนุน
เพียงกล่าวชมท่านพี่ผู้มีคุณ
ช่างเป็นบุญพารอดจนปลอดภัย
๙	หลังจากเอ่ยคำลาในครานั้น
เขาจึงหวั่นในจิตคิดสงสัย
ตระกูลหมิงยิ่งยงกว่าพงศ์ใด
ข้าเกี่ยวข้องอย่างไร....ในที่มา  ?
๑๐	สายลมโชยพัดผ่านสะท้านอก
เหงื่อกลับตกหลั่งไหลคล้ายผวา
ยิ่งคิดยิ่งขุ่นข้องหมองอุรา
หวังเสาะหาสืบค้นกระวนกระวาย
๑๑	จึงออกเดินทางสู่วัดหลู่เอี๋ยน  (ชื่อสมมุติ)
จิตวนเวียนวุ่นวนค้นจุดหมาย
กราบแม่ชี...ผู้มีสุขไร้ทุกข์กราย
ดูคลับคล้าย....แม่กวนอิมผู้อิ่มบุญ
๑๒	แม่ชีบอกแค้นใดในโลกนี้
เปรียบธุลีโรยลุ่ยเศษปุยนุ่น
ยิ่งเคลือบแฝงพยาบาทยิ่งขาดทุน
ไร้ซึ่งคุณหนุนนำกระทำทราม
๑๓	เจิ้ง-จี๋ฟังดังแก้วอันแวบวับ
สุดแสนจับจิตใจให้เกรงขาม
นึกประหม่าพาหวั่นจนครั่นคร้าม
หวังจะถามกลับเงียบเชียบอยู่นาน
๑๔	แม่ชีเล่าความหลังในครั้งก่อน
และวกย้อนปูมแยกคราวแตกซ่าน  (แตกสานซ่านเซ็น)
เพราะโลภหลงคงปั่นถึงสันดาน
จึงประหารญาติมิตรสนิทกัน
๑๕	พ่อเจ้าเป็นแม่ทัพรองก้องชื่อ
ยศศักดิ์ถือนานไปย่อมไหวหวั่น
เสนาฯใช้อำนาจเข้าฟาดฟัน
รุกโรมรันกำจัดกษัตริ์ยา  (ใช้เฉพาะเรื่องนี้   กษัตริย์)
๑๖	พ่อแม่หลบลี้เอาชีวิตรอด
พี่เจ้ามอดมรณังสิ้นสังขาร์
ท่ามการรบรุกรับอับปัญญา
เจ้ารอดมาเพราะโชคโฉลกชัย				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    22 มีนาคม 2553 17:13 น. - comment id 1113316

    ขนาดไตเติ้ล อะนะ
    
    ชื่อ เจิ้งจี๊ ..กับเซี่ยงจี่ มันใกล้กัน ออิอิ
    
    เก่งจ้า กวีน้อย..ฯ
  • ป๋อง สหายปุถุชน

    22 มีนาคม 2553 18:15 น. - comment id 1113322

    36.gifเยื่อม36.gif29.gif31.gif57.gif
  • หลี่เหม่ยจิน(ไม่ได้ lock in)

    22 มีนาคม 2553 19:53 น. - comment id 1113346

    อยากอ่านตอนต่อไปจังเลย
    วิชากระบี่  7 ดาวที่หายสาบสูญ
    กลับคืนสู่ยุทธภพแล้ว...
  • กระซู่บิน

    22 มีนาคม 2553 19:56 น. - comment id 1113347

    สวัสดีครับพี่กวีน้อย
    
    มาอ่านกลอนม่วนๆครับ
    
    ไม่ได้มาบ้านกลอนนานแล้วพี่กวีน้อยสบายดีไหมครับ
    
    เป็นกำลังใจให้ครับ
    
    41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif
  • ยาแก้ปวด

    22 มีนาคม 2553 20:08 น. - comment id 1113348

    
    ล่องยุทธภพเนิ่นนานชักคร้านจัด
    เพลงมวยหมัดขัดเก่าเถ้าสนิม
    นอนตีพุงจิบสุราตรากวนอิม
    ฟังเพลงขิมจนหลับกับสุรา
    
    เราจอมยุทธยามารสะท้านภพ
    เมาสลบน้ำจันทร์อันโหยหา
    ได้ยินเสียงเจิ้งจี้รี่เร่งมา
    เห็นขายปลาร่าเริงบันเทิงจริง
    
    เลยต้องเหาะผาดโผนโหนจากฟ้า
    ทะยานมาจากเขาที่เราสิง
    แว่ววิชาเจ็ดดาวหนาวระวิง
    ใครเจ้าหญิงเจ้าชายขอหมายชม
    
    เป็นแค่คนขายปลาช่างน่าขัน
    ดอกฟ้านั้นอย่าคิดสนิทสนม
    องค์หญิงเกี๊ยวเราขอมาดอมดม
    ให้สาสมหัวใจก่อนให้คืน
    
    เจ้าก็แค่เจิ้งจี๋ที่กระจอก
    ไปเก็บจอกหอยปลาอย่าฝ่าฝืน
    เจ้าหญิงนั้นเราพรอดกอดทั้งคืน
    ให้เจ้ายืนตาแป๋วแห้วอีกงาน
    
    ไปหาบเป้ถือสุ่มจุ่มตามคลอง
    ปลาตามหนองน้ำนั้นจะสมาน
    หัวใจเจ้าไม่ท้อทรมาน
    เลิกฟุ้งซ่านสานแตกแทรกกระเซ็น
    
    ไปหละนะแวะโฉบโอบเจ้าหญิง
    กลับรังสิงที่เก่าเราซ่อนเร้น
    บุปผาจันทร์แสนสงบและร่มเย็น
    เมื่อเจ้าเป็นจอมยุทธจะรุดมา
    
    ขอไปกกองค์หญิงพักพิงก่อน
    ให้ละอ่อนพากเพียรเฆี่ยนมาหา
    ไปฝึกก่อนให้เก่งเพลงวิชา
    แล้วนัดฆ่ากันใหม่ให้เอาคืน
    
    
    100289450
  • ฤทธิ์ ศรีดวง

    22 มีนาคม 2553 22:17 น. - comment id 1113380

    กวีน้อยฯ
    การเขียนกลอนนิทาน หรือกลอนที่ต้องเล่าเรื่องยาวๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ผู้อ่านติดตามอ่านจนจบ เดี๋ยวนี้นักกลอนมักเล่นประเด็นเดียวในการเขียนทำให้กลอนออกมาสั้นๆตรงกับจุดประสงค์ที่ต้องการสื่อ
    
    ถ้าจะเขียนกลอนยาวๆประเภทที่กล่าวมามีเรื่องควรระวังหลายเรื่อง (เล่าจากประสบการณ์)
    ๑.อย่าเล่าเรื่องเป็นร้อยแก้วให้ผู้อ่านรู้เรื่องก่อน ต้องใช้ร้อยกรองเล่าเรื่องเท่านั้นซึ่งเป็นการท้าทายความสามารถ
    ๒.เรื่องที่จะเล่า เราจะต้องมีเป็นภาพในหัวให้ชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนอาจต้องเขียนเป็นฉากออกมา ภาพที่ว่าคงคล้ายๆกับหนังสักเรื่อง 
    ๓.สร้างฉากและบรรยากาศขึ้นมาก่อน ซึ่งฉากควรบรรยายสภาพแวดล้อมเพื่อให้พาผู้อ่านเข้าไปอยู่ในฉาก ถ้าผู้อ่านเข้าไปอยู่ในฉากแล้ว ที่เหลือจะง่ายไปหมด   สำหรับเรื่องบรรยากาศจะเป็นตัวสร้างอารมณ์ ถ้าเราดูหนัง จะเห็นว่าผู้กำกับเลือกแสงหม่นสำหรับตัวละครที่ไม่น่าไว้ใจ หรือถ้าเราเห็นแสงสดใสในตอนจบเราจะรู้ว่า happy ending อะไรทำนองนี้ ซึ่งเราแสดงภาพและแสงดังกล่าวได้เช่น แสงแดดเช้า ลมพัด มืด ฝนตก แสงไฟ หนาว ร้อน ไฟสลัว นกร้อง ดอกไม้บาน ฯลฯ เหล่านี้คือเครื่องมือ
    ๔.แนะนำตัวละคร โดยการให้ผู้อ่านรู้จากเหตุการณ์ในขณะนั้น หรือใช้บทสนทนาเป็นตัวบอก
    ๕.ค่อยๆไล่ เปิดไปทีละฉาก บรรยายเหตุการณ์ตรงนั้น และไปช้าๆ แต่ไม่ใช่ยืดเยื้อ ต้องกระชับ เช่น หนึ่งวรรคคือหนึ่งฉาก ลองสังเกตดูว่าถ้าหนึ่งบทแล้วยังไม่ไปไหน ยังอยู่ที่เดิม นั่นคือเยิ่นเย้อแล้ว 
    ๖.ต้องสร้างให้ตัวละครมีชีวิต อย่าให้แบน ต้องมีสามมิติ มีอารมณ์ (สำคัญมาก) เพื่อทำให้ผู้อ่านรู้สึกผูกพันกับตัวละคร จะรัก สงสาร หรือเกลียด ก็ได้ สังเกตง่ายๆถ้าเกิดเหตุสะเทือนใจกับตัวละครแล้ว ผู้อ่านน้ำตาซึมอย่างไม่รู้สึกตัว นั่นแสดงว่าเขาผูกพันกับตัวละครแล้ว 
    ๗.หาจุดไคล์แมกซ์ให้เจอ แล้วมุ่งไปสู่จุดนั้น อย่าให้เรื่องเดินในจังหวะเดียวซึ่งจะน่าเบื่อ ต้องรู้จังหวะเร่ง จังหวะผ่อน ถ้าเร่งอย่างเดียวก็น่าเบื่อ และพยายามอย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ เพราะจะน่าเบื่ออีกเช่นกัน
    ๘.ตัดจุดที่ควรตัด และ ขยายจุดที่ควรขยาย จะช่วยให้การพุ่งไปหาจุดไคล์แมกซ์นั้นชัดเจนและยิ่งใหญ่
    
    เอาไว้อ่านเล่นๆ อันนี้เป็นความคิดของพี่ ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่าไปสาระกับมันมาก 
    
    ขอให้มีความสุขในการสร้างสรรค์งานต่อไป
  • พี่แจ็คกี้

    22 มีนาคม 2553 23:08 น. - comment id 1113401

    กวีน้อยฯ
    
    จริงอย่างท่านฤทธิ์ฯ ว่านั่นแหละ ว่าแต่จะเหมือน
    สตาร์วอรส์มั้ย ดูตอนหนุ่มมาจบเอาตอนลูกโตอะนะ
    
    36.gif36.gif36.gif
  • ปรางทิพย์

    23 มีนาคม 2553 02:34 น. - comment id 1113439

    เข้ามาศึกษาค่ะ
    นอกจากวีรบุรุษของน้องกวีน้อยแล้ว
    ยังได้อ่านคำแนะนำจากคุณฤทธิ์ฯ ด้วย
    คุ้มจริง ๆ ค่ะ  พี่ปรางรออ่านตอนต่อไปนะคะ
    36.gif36.gif36.gif
  • ลมแปรแขมร์เลอ

    23 มีนาคม 2553 04:21 น. - comment id 1113448

    น้องกวีน้อย ฯ
    
    ..โห...มาแนวยุทธจักรเชียวเรอะ..ว่าแต่..วีรบุรุษคนสุดท้ายจะได้เป็นจักรพรรดิหรือเปล่าน้อ..
    
    ...เพราะว่าสุดท้ายจักพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงผูกคอตายนะ....บรึ๋ยยย
  • หมิงม่าน....

    23 มีนาคม 2553 07:34 น. - comment id 1113465

    36.gif36.gif11.gif
    คิดตึ๋งเน้อ 65.gif
  • ประทาน

    23 มีนาคม 2553 09:07 น. - comment id 1113499

    ตอนต่อนไปจะนำเสนอเมื่อไหร่ครับ..
  • เพียงพลิ้ว

    23 มีนาคม 2553 10:11 น. - comment id 1113558

    โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ
    
    สบายดีนะคะ
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • เฌอมาลย์

    23 มีนาคม 2553 13:24 น. - comment id 1113650

    ขำปู่กิ่งอ่ะ 19.gif19.gif19.gif
    
    เซี่ยงจี้ไม่มีขอเปงกึ๋นอ่ะ มีป่าว20.gif
    
    ยุทธภพที่ไหนมีหาปลาเนี่ย จ๊อด19.gif
  • แกงฯ

    23 มีนาคม 2553 14:05 น. - comment id 1113680

    1.gif รออ่านตอนที่เหลือ
  • ดอกบัว

    23 มีนาคม 2553 14:13 น. - comment id 1113688

    จอมยุทธ เจอแม่ชี แผ่รัศมี บารมี อิ อิ 
    สบายดีนะค่ะ ท่านจอมยุทธ เอ๊ย.....คุณกวีน้อย อิ อิ อิ 
    จะค่อยๆอ่าน เมื่อมีเวลา 
    ขอให้มีแต่ความสุขค่ะ คุณกวีน้อย
    36.gif46.gif
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    23 มีนาคม 2553 16:18 น. - comment id 1113780

    ขอตอบรวมๆ เลยนะครับ
    
    มะรู้ว่าเน็ตจะตัดก่อนไหม บ่าย 4 แย้ว
    
    1  ท่านพี่ กิ่งโศก  เซียงจี่ อะไรนี่ อะไรครับ หนังเรื่องไหนหนอ กระผม มะรู้เด้ออ
    
    2  ขอบคุณครับ คุณลุงป๋อง  ที่มาทักทายกัน
    
    3  ดีครับ พี่หลี่เหม่ยจิน  คงบอกไม่ได้ครับ ว่าจะลงกลอนวันไหน กะว่า เรียกน้ำย่อยนะครับ อิอิ  คือตอนแรกกะว่า จะเอาให้เสร็จก่อนค่อยลง คงมากกว่า  32 บท ถ้าไหลรื่น ก็คงราวๆ 50 อาจเป็นไปได้  ประมาณว่า แต่งไปเรื่อยๆ ได้แนวคิดก็มาแต่งน่ะครับ ไม่ได้ คาดการณ์อะไรล่วงหน้าเลย
    
    4  ดีครับ น้องกระซู่บิน  ไม่เห็นแต่งกลอนเลย สอบเป็นไงบ้างน้อออ
    
    5  คุงพี่ยาครับ ถ้าเน็ตผมไม่ตัด หลัง 2 ทุ่ม จะมาตอบกลอนให้ครับ อิอิ 
    
    6  ขอบคุณ พี่ฤทธิ์ ศรีดวง มากครับ ที่กรุณาแนะนำมา ผมบอกตรงๆ เลยว่า อ่านคอมเม้นทืแล้ว อายๆยังไงก็ไม่รู้  เพราะผมแต่งไปตามประสา  เยิ่นย้อ  ซะส่วนมาก คนคงมะค่อยอินเท่าไร อิอิ  เอาไว้พัฒนาทีหลังๆ นะครับ แค่นี้ ก็หูลาย ตามัว ไปหมด
    
    7  ดีครับ พี่แจ๊ก  มาแนวผสมโรง น่ะเนี่ย  แหะๆๆๆ  ตอนท้าย คิดไว้ พระเอก กะนางเอก อยู่ด้วยกัน  แต่อยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร  แต่ผมบอกไม่ได้ครับ แล้วแต่กลอนจะพาไป  5556+
    
    8  ดีครับ พี่ปรางฯ  ผมว่า พี่ฤทธิ์  ทำให้คนมาเม้นท์และมาอ่าน ได้ความรู้ และกระบวนการแต่งกลอนได้อย่างมาก ถ้าสามารถนำไปใช้ได้ น่ะครับ
    
    9  โหฯฯฯฯฯฯฯฯท่านพี่  จะไม่เด็ดดดดดดดดด  วีรบุรุษ ประเภทกู้ชาติครับ ไม่คิดเอาบัลลังก์  เพราะตามเดิมก็ไม่ได้เป็น ลูกพระราชา เพียงแต่ประมาณว่า เป็นหลานพระราชา พระองค์เก่า น่ะครับ
    
    10   โอ้ววววววว  แม่นาง หมิงม่าน ดอกหรือเนี่ย  จะรับไว้ ครับ จารับไว้
    
    11  ดีครับ ท่านพี่ประทาน  แหะๆๆ บอกไม่ได้เลยครับ ว่าจะนำมาลงเมื่อไร ก็คงเสร็จน่ะครับ อาจเป็นเดือนหน้าโน้นนน เป็นได้ เวลาไม่มีเน็ต  มานขาดกะลางจายครับ แหะๆๆ
    
    12  ดีครับ พี่เพียงจะพลิ้ว  ตอนต่อไป ค่อยยังชั่ว ถ้า ตอน...ต่อมา ระวัง  จะโดน ต่อ ต่อย เอา อิอิ
    
    13  คุงพลอยกะเฌอ  อะไรเนี่ยยยยยยย  ข้าน้อย ผิดอันใด มิทราบ  เซียงจง เซียงจี๋ อิหยัง บัดทีเนี๊ยะ  งง พะยะครับบ   ก็อยู่บ้านชาวประมง ทำอาชีพขายปลาอ่ะ อีกหน่อย ก็เก่งที่สุดในหล้าแล้ว  อิอิ
    
    14   ขอบคุณครับ คุณแกงเขียวหวาน  (ทำอาหารอย่างอื่นเป็นบ้างไหมเนี่ย คริๆๆ)  ไม่มากหรอกครับ ถ้าไม่เบื่อ  20.gif20.gif
    
    15  ดีครับ คุณปทุมทิพย์ กระพริบ ณ แดนสรวง  ครับ แม่ชี จริงๆ ก็คือแม่ของ เจิ้ง-จี๋ ล่ะครับ แต่ว่า ประมาณ บรรลุฌาน ระดับหนึ่ง คือรู้ใจ ของลูกชายว่า คิดอะไรอยู่ น่ะครับ  เลยทำให้เจ้าตัว ประหม่า ที่ว่า แม่รู้ความลับในจิตใจ ได้ยังไง  
    
    ขอขอบคุณทุกๆๆ ท่านครับ ที่มาเม้นท์ ให้กำลังใจ  
    
    ถ้ามีจินตนาการ แหล่มๆ เยอะๆๆ คงจาได้ลงไวๆๆ เพราะผมมะรีบร้อนครับ ประมาณ ดินหมูหางพอก  ( สลับกันเอง อิอิ)  
    
    36.gif16.gif29.gif
  • White roses

    23 มีนาคม 2553 18:09 น. - comment id 1113816

    แวะมาอ่านนิทานจ้า.....11.gif36.gif
  • หมิงม่าน....

    24 มีนาคม 2553 13:39 น. - comment id 1114113

    46.gif   ง่า..นี่ไตเติ้ลๆๆๆ นะเนี่ย
    ถ้าทั้งตอนทั่นจอมยุทธเจิ้ง ฯ ต้อง
    โก่งค่าตัวแหง อิอิ .....36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน