อวสาน...แผลเก่า

อัลมิตรา

...อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ ......เจ็บใจดั่งหนามยอกแปลบ..
..แสบแทนจะทน ............
..........กลัดหนองคลองขุ่นข้น...............โคลนตม 
เหือดหายใจระบม................................ห่มไข้ 
ปลาบแปลบแสบระทม..........................ถมทับ ทวีคูณ 
หมองหม่นจนโหยไห้............................ไป่สิ้นถวิลวาย ฯ 
...........คูคลองหมองหม่นไร้.................ปูปลา 
แหวกว่ายในคลองนา...........................บ่าน้ำ 
ปานอกตระหนกครา.............................มาพราก จากไกล 
หนามยอกตอกชอกช้ำ..........................ร่ำร้องคลองครวญ ฯ 
.........เอนโอนโคนไทรซ้อง...................หมองกลัว 
ไหวหวิวปลิวระรัว..................................ทั่วต้น 
โยกคลอนอ่อนพันพัว............................ไกวแกว่ง คืนแสลง 
ซมสั่นผันผวนพ้น..................................กล่นกล้ำกลืนเกรง ฯ 
...........ศาลไทรใยนิ่งแท้.......................แลวัง- เวงเหวย 
สงัดขนัดดัง............................................ฝั่งร้าง 
นกกาหากรายรัง...................................ยังเร่ รอนแรม 
ประหนึ่งคนึงค้าง....................................ห่างเจ้าเยาวมาลย์ ฯ 
..............กวัดไกวใบกิ่งก้าน.................พลันไหว 
ลมพัดระบัดใบ............................... .....ไขว่คว้าง 
แอดเอียดเบียดเสียดไทร......................ใยส่ำ ถลำฤา 
หลุดร่วงหทัยค้าง...................................หยั่งพื้นปฐพี ฯ 
.............แสบทรวงดวงใจจ้อง.................มองศาล 
องค์พ่อหนอหักหาญ..............................บั่นข้า ฯ 
ฝากฝังดั่งลูกหลาน................................วันก่อน 
คืนค่ำระกำบ้า.......................................กว่าสิ้นลมปราณ ฯ 
...........กราบกรานวันทาน้อม..................ยอมตน 
คุกเข้าคราวระคน..................................บ่นบ้า 
ธูปเทียนเวียนวนบน-..............................บานท่าน เจ้าพ่อ 
จมปลักใยรักข้า ฯ..................................คบแค้นแสบแสน ฯ 
...............หันเหฤาเร่ร้าง........................หลังเหลียว 
หักจิตคิดแสบเสียว................................เกี่ยวคล้อง 
พลัดพรากมักเฉลียว...............................ปวดเปลี่ยว เดียวดาย 
โคลงครวญกระบวนฟ้อง..........................ขลุ่ยก้องคลองนา ฯ 
.............กรีดกรายหมายร่ายนิ้ว................หวิววอน 
พญาโศกวิโยคคลอน................................ท่อนช้ำ 
ราตรีกี่คืนนอน.........................................กัดกร่อน ใจสลาย 
ลมล่องคลองคูน้ำ......................................พร่ำเพี้ยงเสียงหลง ฯ 
..............จบจากมักท่วมน้ำ-.......................ตานอง 
รันทดสลดมอง..........................................ถ่องถ้วน 
รักโลภละโมภปอง......................................ผองเล่ห์ รวนเร 
อวสานสรรค์รจน์ล้วน................................ป่วนไข้ในลคร ฯ				
comments powered by Disqus
  • แนทตี้..

    28 กรกฎาคม 2545 16:59 น. - comment id 63386

    @_เก่งจางเลยยยยย^^^
  • โคลอน

    28 กรกฎาคม 2545 19:29 น. - comment id 63445

    จิงด้วยค่ะ เก่งจริงๆ
  • อัลมิตรา

    28 กรกฎาคม 2545 19:46 น. - comment id 63454

    ขอบคุณค่ะ คุณแนทตี้ คุณโคลอน
  • หว่ออ้ายหนี่

    28 กรกฎาคม 2545 21:10 น. - comment id 63488

    โอ้โหแต่งยาวได้ขนาดนี้เชียวเรอะ 
    นับถือนับถือ
  • หว่ออ้ายหนี่

    28 กรกฎาคม 2545 21:11 น. - comment id 63490

    แต่ต้องเปิดดิกแปลก่อนนะ  ควับๆๆ  เปิดดิก
  • หว่ออ้ายหนี่

    28 กรกฎาคม 2545 21:13 น. - comment id 63491

    ป่วนไข้ในลคร ฯ แปลว่า ไม่มีไข้ในละครป่าวอ่ะ 
    
  • อัลมิตรา

    28 กรกฎาคม 2545 23:18 น. - comment id 63540

    ป่าว หมายความว่า ...
    ในบทละครตามท้องเรื่องน่ะ มี รักโลภโกรธหลง
    จนคนเขียนโคลงต้องเอาตัวเองไปอิงในละครด้วยงัยคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน