แรงลม

ณรังษี

เสียงหวีดหวิวลิ่วแรงลมโครมครืนคลั่ง 
เข้าโถมถั่งทุ่มทำลายไม่ไว้หน้า 
เร่งพลังโหมอารมณ์ข่มดินฟ้า 
กลืนทุกสิ่งอย่างบ้าคลั่งสุดแรง 
พฤกษาโอนโค่นสักหักลำต้น 
เอนกายบนแดนดินถิ่นแห้งแล้ง 
กิ่งน้อยใหญ่แหลกลาญไม่ทานแรง 
ใบสดแห้งกระจายพื้นเพราะฝืนลม 
มีเพียงไม้อ่อนลู่ยังอยู่รอด 
ล้อลมเป็นทอดทอดดูงามสม 
ลมหันทิศทางใด ....ไปกับลม 
ไม่ช้ำตรมถูกทำลายให้วายวาง 
คงเชิดหน้าชูตนบนพื้นหล้า 
แม้มีค่าเพียงเศษไม้ในพงสาง 
ไม่เคยยืนลำต้นให้ตรงทาง 
ชอบโอนอ่อนเข้าข้างผู้ครองชัย 
มิได้มีคุณความดีเป็นหลักมั่น 
เพื่ออยู่รอดเท่านั้นหรือไฉน 
ลมเอนลู่ก็รู้ลมอยู่ร่ำไป 
สัตว์น้อยใหญ่มิอาจทักพักชีวิน 
ฉันอาจสิ้นชีวาคราลมร้าย 
ก็อย่าหมายให้งอตามความทรามสิ้น 
ฉันอาจลาญแหลกร่างลงกลางดิน 
ก็อย่าหมายให้ลิ้นตระบัดคำ 
จะเข่นฆ่าพร่าขวัญฉันเช่นไหน 
ตามแต่ใจที่กลิ้งกลอกจะตอกย้ำ 
จะทำลายด้วยฤทธาแห่งอธรรม 
ก็จะกล้ำกลืนไว้ไม่ปรารมย์ 
ยังทะนงคงมั่นไม่หวั่นไหว 
หากล้มไปยังมีพ้องที่ครองสม 
อุดมการณ์แกร่งกล้าท้าแรงลม 
 ผู้หนึ่งล้มผู้หนึ่งแทนเพื่อแดนงาม				
comments powered by Disqus
  • สีน้ำฟ้า

    10 พฤษภาคม 2546 15:30 น. - comment id 137116

    กว่าจะเป็นประเทศชาติ.. บรรพบุรุษลำบากเหลือหลาย..
    
    เคยฟังเพลงนี้ไหมคะ.. ประกอบละคร เมืองดาหลา.. 
    
    อ่านบทนี้แล้วคิดถึงละครเรื่องนี้จัง
  • พุด

    11 พฤษภาคม 2546 01:14 น. - comment id 137274

    แก้วกลางใจ!    
    พุดพัดชา  
    
    มีเมฆฝนเทาทึมครึ้มพยับ
    ฉายทาบทับกับน้ำตาฟ้าซึมเศร้า
    น้ำตาขวัญพรูพร่างแข่งกับดาว
    ร่วงจากหาวเรณูสิ้นกลิ่นแก้วกับกาลเวลา..
    
    ใจหม่นหมองครองหม่นรอผันผ่าน
    เมฆครึ้มฝนบันดาลใจเกิดฝ้า
    ห้องหัวใจบรรเลงเพลงเหว่ว้า
    จูบพสุธา..กระซิบว่าโหยหาใคร..
    
    มองแมกไม้มีเงาตะคุ่มซ่อน
    ราวรักซ้อนซ่อนรักให้อ่อนไหว
    เส้นโค้งฟ้าทำไมหนอช่างแสนไกล
    นานเพียงใดเส้นหัวใจเราสองจะต่อกัน...
    
    ชุ่มน้ำค้างพร่างพราวสะอาดหนาว
    ใจดวงร้าวหนาวใจจนถึงสั่น
    โอ้ละหนอเพลงรักไยเงียบงัน
    อ้างว้างคว้างขวัญสุดรันทด..
    
    รักซ่อนซึ้งซุกใจในดวงจิต
    ฟ้าลิขิตชะตาชี้กำหนด
    ให้เส้นทางรักสองเราแค่ผ่านพบ
    ใจวูบเศร้าสลดหมดสิ้นแล้วแก้วกลางใจ!  
    
  • ณรังษี

    11 พฤษภาคม 2546 19:35 น. - comment id 137404

    จะทนรอมรสุมที่คลุ้มคลั่ง 
    หมดฝนหลั่งเมฆดำเคลื่อนเลือนจางหาย 
    จะรอจนแสงฟ้าทอดประกาย 
    เป็นสีรุ้งพาดสาดทิฆัมพร 
    
    ขอบคุณมากๆเลยคร๊าบทุกคนครับผม
    
    
  • น้ำ

    11 พฤษภาคม 2546 20:11 น. - comment id 137410

    ผู้หนึ่งล้มน้อมหมู่ตามขานบรรลือ
    การพาลวิบัติหรือถือตรึกตรอง
    จะสู้ต้องสามัคคีรวมแรงพร้อม
    ผู้ทรงคุณร่วมปรองดองให้พาลวิบัติบรรลัย
    
    ให้กำลังใจพี่นิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน