คืนวันพระจันทร์พ่าย

อัลมิตรา

ญ..เพ้อ 
  
พึงสดับ ณ ค่ำหนึ่ง .............ให้คำนึงถึงวันวาร 
ข้างขึ้นจันทร์ตระการ............สานแสงส่องข้าเดียวดาย 
รำพึง โอ้ ! อกหนอ................รันทดท้อมิเว้นวาย 
มีข้าลำพังกาย .....................กับแสงเดือนเป็นเพื่อนยล...
ช..ครวญ
 
อย่าหมองมองจันทร์ฉาย........เหงาเดียวดายให้สับสน 
แสงเดือนเตือนกมล..............อย่าหมองหม่นนะคนดี 
จันทร์แรมแกมขึ้นบ้าง..........ไม่เคยร้างห่างราศี 
ท้องฟ้ายามราตรี..................ฟ้ายังมีที่ชื่นชม 
เช่นเธอที่เหม่อหา.................ให้รู้ว่าข้าขื่นขม 
เดียวดายกายใจตรม.............มิสุขสมภิรมย์ใจ 
วันวารที่ผ่านมา...................คิดเถิดหนาคราสดใส 
โศกศัลย์ลืมมันไป................เก็บเอาไว้ในสิ่งงาม.... 
 				
comments powered by Disqus
  • พี่พุด

    11 กันยายน 2546 08:12 น. - comment id 166891

    ซึ้งใจจนอยากร้องไห้ค่ะ
  • tiki

    11 กันยายน 2546 08:18 น. - comment id 166892

    เป็นคำปลอบโยนใจคนได้ดีมากค่ะ
  • รักคุณคับ

    11 กันยายน 2546 08:44 น. - comment id 166898

    เพราะมากคับ..
      ซึ้งเลย...
      ^_^
  • ผีขี้เมา

    11 กันยายน 2546 09:57 น. - comment id 166909

    อยู่ห่างกันมากมาย
    ใช่ลับหายใจเลือนหนี
    วันเดือนเลื่อนนานปี
    ต้องได้มีการพบกัน
    
    ยามไกลแหงนมองฟ้า
    มองดาราอย่าเหหัน
    ที่เราจะพบพลัน
    ร่วมสร้างฝันให้นานไป
    
    
  • บุรุษแห่งสายธาร ภาคพ่ายจันทร์อัลมิตรา

    11 กันยายน 2546 10:36 น. - comment id 166915

    จากร่ายพระจันทร์ ถึงคืนวันพระจันทร์พ่าย ความงดงามปรากฎชัด หากเวลานี้นั่งแหงนมองจันทร์คงจะต้องเห็นงามยิ่งกว่า อ่านแก้มอรุณรุ่งอย่างนี้เป็นแน่ครับ
    
    
  • โกโรโกโส

    11 กันยายน 2546 11:02 น. - comment id 166921

    กระเทย..ระพึง
    
    โอ้จันทร์กระชั้นฟ้า      เหลื่อมเมฆามนตราหลง
    ทอแสงฉาบฉายลง      กว่าเอวองค์อ่อนร่อนไหว
    อย่าผันกายหายเลือน  โผล่ผินเรือนร้างลาไส
    จงอยู่คู่ไกลใกล้          ขยับไปอย่าดั้นเลย.
  • โกโรโกโส

    11 กันยายน 2546 11:04 น. - comment id 166922

    อิอิอิ...มาแจมน่ะแกมกระเซ้าน่ะครับ
  • คนผ่านมา

    11 กันยายน 2546 11:07 น. - comment id 166924

    วันเหงาๆกับคืนที่พระจันทร์เต็มดวง  อารมณ์ของคนรักการเขียน คงยากที่จะเลี่ยงในการไม่ถ่ายทอดความรู้สึก ขุดแรกเป็นคำเพ้อที่ชวนเศร้า ชุดสองใครกันหนอที่ปลอบประโลม เขียนโดยปรับเปลี่ยนเป็นเหมือนสองคน เหมือนจะซ่อนความนัยในคำรำพึงนั้น  อัลมิตราครับ ไม่ใช่แต่หญิงเพ้อ ชายครวญ ไม่ว่าใครก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้เมื่อได้อ่าน ผมคนหนึ่งที่เป็นเช่นั้น ขอบคุณครับที่ปลอบใจ
  • vaproud

    11 กันยายน 2546 11:11 น. - comment id 166926

    มาอ่านทีไร...ไพเราะ งดงาม จับใจมากเลยค่ะ
    คุณอัลมิตรา  
    
    วาพราวไม่ได้ลงทะเบียน
    
  • ใยไหม (ยัยขี้แย ของนางสาวอัลมิตรา)

    11 กันยายน 2546 11:47 น. - comment id 166932

    คืนวันจัทร์แรมร้าง
    ไม่อยากขวางทางสดใส
    ครวญคร่ำและร่ำไห้
    ไม่ยื้อใจให้ใกล้กัน
    
    ทุกคนมีทางเลือก
    ใช่แค่เกลือกเลือกความฝัน
    มุ่งหมายให้ชีวัน
    พบเจอฝันอันสิ่งดี
    
    หญิงหนึ่งจึงต้องครวญ
    เมื่อใจล้วนชวนหมองศรี
    เขาไปไม่ใยดี....
    เจ็บฤดีเทื่อจากลา
    
    ชายหนึ่งที่พึงรัก
    แน่นตระหนักมากนักหนา
    ปลอบใจในทุกครา
    แม้เวลาที่ว่าตรม
    
    ควรลองมองเสียใหม่
    ว่ามีใครใจสับสน
    เมื่อเจ้าต้องจำทน
    ใครนะคนที่สนใจ
    
    ............
  • ชัยชนะ

    11 กันยายน 2546 12:30 น. - comment id 166956

    แวะมาเป็นกำลังใจให้ครับ พิเศษแก่ฝ่ายชาย(ในเรื่อง) อย่าได้ท้อถอย ท้อแท้นะครับ
     เพราะดูแล้วฝ่ายหญิงเธอไม่ได้เศร้าเสียใจอย่างมากมายหรอกครับ
    
    
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    11 กันยายน 2546 12:31 น. - comment id 166957

    จันทราเมื่อลาจาก      เหมือนดังพรากดวงชีวา
    เดือนแรมอ่อนระอา    รอแสงจ้าคืนวันเพ็ญ
    ดวงจันทร์แสงสดใส   แต่หัวใจกลับทุกข์เข็ญ
    ห่วงเจ้าทั้งเช้าเย็น     เธอหลบเร้นอยู่แห่งใด
    
    กลับมาเถิดดาวสีหม่น
  • อัลมิตรา

    11 กันยายน 2546 15:37 น. - comment id 167003

    คุณพุดพัดชา คุณทิกิ คุณรักคุณคับ... ขอบคุณมากค่ะ
    
    น้าสิบ..
    
    บุหลัน ณ เดือนกันย์
    ช่างเสกสรรกระจ่างใจ
    วันเดือนเลื่อนคลาไคล
    ประดุจใกล้มิไกลควร
    
    เพ่งมองบนฟากฟ้า
    ในอุราคิดใคร่หวล
    จากกันสิคร่ำครวญ
    รติป่วนแทบมลาย
    
    บุรุษแห่งสายธาร..  
    
    .....ราตรี...สิพร่ำพ้อง..............ตรองความ 
    สิผกผัน...กาลยาม-.................ย่ำคล้อย 
    สุริย์มั่น...วรรณงาม................งดยั่ง-  ยงแฮ 
    มิพรั่นฉาย...พรายชม้อย...........มิ่งฟ้านภาพราว ฯ 
    
    .....คาดหวัง...ดั่งพี่น้อง...........ครองความ 
    สะพรั่งใจ...ไหวหวาม...............หว่างใกล้ 
    ศศิใคร่...หมายถาม-.................พยางค์เอ่ย   
    สิร่ายชม...สมได้.....................ดุจใกล้ใจอิง ฯ 
    
    .....หากจิต...พิศหว่างฟ้า..........เหมือนฝัน 
    พินิจหา...พระจันทร์.................หวั่นร้าง 
    อุระว่า...คราผัน......................กาลผ่าน 
    สง่าสม...ชมอ้าง.....................อาจให้ใจเริง ฯ 
    
    .....ดาวเดือน...มิเคลื่อนย้าย......ไกลเรา  พ่อเอย 
    สิเกลื่อนกลม...โสมเนาว์-...........เนื่องแพร้ว 
    สิริข่ม...ตรมเฉา......................จิตหม่น-  หายนา 
    สิห่มปรีด์...มิแคล้ว..................แน่วใกล้ใจประสาน ฯ 
    
    คุณโกโรโกโส..
    
    .....สัม...ผัสอาจรู้ยิ่ง.................จริงใจ  พ่อเอย
    สัม...ปยุตดุจจันทร์ไกล..............ลิ่วฟ้า
    สัม...ปรายภพใด......................จักเกี่ยว-  ดองพ่อ
    สัม...พัทธ์อาจเทียมหล้า..............มั่นฟ้าศศิธร ฯ
    
    คุณคนผ่านมา..
    
    ค่ะ .. ความที่เขียนนี้ เป็นการเขียนโดยแบ่งสำนวนออกเป็นสองชุด
    ชุดแรกคือหญิงที่เพ้อ.. และ ชุดที่สองชายที่อยู่ไกล แต่ส่งใจมาปลอบ
    
    คุณวาพราว..ขอบคุณมากค่ะ
    
    ยัยไหม .. ไม่ขี้แย ก็จะน่ารักมากว่านี้นะ อดทนหน่อย..
    
    คุณชัยชนะ .. แฮ่ม ..แล้วจะให้อัลมิตราฝากบอกความถึงใครคะ ว่าคุณเป็นกำลังใจให้
    
    คุณฤกษ์..
    
      
    ...เคียงคลอพินอเน้า......................อุระเฝ้ามิเซาซม 
    อิงกายหทัยสม..............................สละตรมระบมใจ 
    ...เรื่องราวมิเข้าการ........................ทรมานผสานใด 
    จักร้างมลางไกล............................ขณะใกล้วิไลนวล 
    ...อกเอยสิเปรยอ้าง........................กวิอย่างระหว่างสรวล 
    เป็นฉันท์ประพันธ์ถ้วน.....................มนะชวนกระบวนคำ 
    ...ร่ายเรียงเผดียงแล้ว....................ดรุณ์แก้วมิแคล้วคำ- 
    นึงคิดจริตนำ.................................อุระย้ำสิพร่ำวอน 
    ...บทใดสยายพจน์.........................เสนาะโสตจะโปรดกลอน 
    ฤาฉันท์ฉะนั้นก่อน............................พธุค้อนรึอ้อนอาย 
    ...เคียงพี่มิลี้พราก..........................ผิว์ละจากสิหักใจ 
    หากสิ้นถวิลไป.................................ชิวะหมายสิตายตาม ฯ ...
    
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    11 กันยายน 2546 22:17 น. - comment id 167084

    แต่งได้ไพเราะมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ
  • อัลมิตรา

    12 กันยายน 2546 08:19 น. - comment id 167217

    ขอบคุณค่ะ คุณผู้หญิงไร้เงา ...
    
    :)
  • คนผ่านมา

    15 กันยายน 2546 14:38 น. - comment id 168011

    รูปภาพดูแล้วอ้างว้างเหลือเกินครับ ส่วนกลอน(เรียกกลอนหรือเปล่า) ก็เขียนได้เศร้าครับ
    
    รำพึง โอ้ ! อกหนอ................รันทดท้อมิเว้นวาย 
    
    
  • อัลมิตรา

    16 กันยายน 2546 13:19 น. - comment id 168291

    สวัสดีค่ะ คุณคนผ่านมา ..
    
    เทียบเคียงจากแนวรุไบยาต ค่ะ .. สัมผัสพ้องเสียงกันบ้าน ส่วนรูปภาพ เป็นรูปพระจันทร์เดือนกันยายน .. ดูแล้วเหงาๆ ชอบกล ทำให้เกิดจินตนาการอย่างที่เขียน ค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน