สองนักล้วงกระเป๋า...กับเรื่องราวของลูกชาย

ตะแหง่ว

ชายคนหนึ่งซึ่งได้ชื่อมือเบามาก
มีอาชีพเป็นนักล้วงกระเป๋า
ล้วงทีไรได้หลายพันมันสิเรา
ตังค์ที่ได้ไปซื้อเหล้าเมาทุกวัน
วันหนึ่งซื้อของที่ร้านงัดตังค์จ่าย
โอ๊ะ! มันหายไหนล่ะกระเป๋าฉัน
ใครกันนะบังอาจมาล้วงคอกัน
จะซัดมัน หนอย..รู้จักฉันน้อยไป
แล้วรีบตามถามจากสาวนางหนึ่ง
จึงรู้ถึงพิรุธผุดไหวๆ
(อ้อ..) เธอนี่เองเอากระเป๋าของเราไป
แต่เธอสวยถูกใจซัดไม่ลง
พอสาวเจ้าพบหน้าสบตาหนุ่ม
ศรรักพลันกรุ้มรุมทำลุ่มหลง
สองมือวางอย่างหนุ่มสาวเฝ้าพะวง
จึงตกลงปลงใจจัดวันวิวาห์
แต่งงานไปไม่นานเนาสาวก็ท้อง
แล้วทั้งสองก็คิดว่าจะรักษา
แชมป์มือวางของนักล้วงให้ลูกยา
ถ่ายทอดเคล็ดวิชามิจฉาแทน
ครบเก้าเดือนหนูน้อยค่อยกำเนิด
เกิดเป็นชายแต่เสียดายใยผิดแผน
ก็หนูน้อยกำมือไว้ไม่ยอมแบน
กำมือแน่นผิดแผนนักล้วงเลย
พ่อแม่ใหม่ร้อนใจพาไปหาหมอ
คุณหมอก็บอกให้ทำใจเฉยๆ
คงต้องปล่อยอย่างนี้เลยตามเลย
คิดว่าเคยเป็นเวรกรรมตามทัน
กลับถึงบ้านสองพ่อแม่ยอมแพ้ไม่
จับลูกชายคนละข้างง้างมือนั่น
ในที่สุดก็ง้างได้มือซ้ายพลัน
ในมือนั้นเป็นแหวนทองของหมอตำแย
มือข้างขวาของลูกชายให้ง้างออก
โอ้....เกือบช๊อกเจอแหวนเพชรเม็ดใหญ่แท้
คงเป็นของคุณหมอคนนั้นแล
เออ...เอ็งแน่สมป็นลูกพ่อแม่จริงๆ...
				
comments powered by Disqus
  • kanoongkaning

    16 ธันวาคม 2546 12:18 น. - comment id 191721

    555  คิดได้ไงคะ อึม.....นับถือนับถือ จริงๆ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    16 ธันวาคม 2546 12:29 น. - comment id 191730

    อิอิ ก็คงชุลมุนกันตรงหน้านั้นน่ะแหละ อิอิ
  • ตะแหง่ว

    16 ธันวาคม 2546 12:57 น. - comment id 191734

    คุณกะหนุงกะหนิง....เผอิญเมื่อวานเรียนวิชาหนึ่งตอนเช้า
    แล้วอาจารย์เค้าก็เล่าอ่ะค่ะ ก็เลยเอามาแต่งดู...ขอบคุณค่ะ
    
    คุณฤกษ์....ไม่รู้เหมือนกันค่ะ....อิ อิ
    
  • น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม

    16 ธันวาคม 2546 14:29 น. - comment id 191745

    อิอิ.....น่ารักดีอ่ะ.....แต่งเก่งจริงๆค่ะ....ชื่นชมค่ะ
  • ตา-กลม

    16 ธันวาคม 2546 15:48 น. - comment id 191753

    อ้อ ! เรื่องนี้ที่ อ.ไพโรจน์เล่าให้ฟังใช่มั้ยจ๊ะผึ้ง
    แต่งกลอนได้เก่งมาก เมื่อไรเราจะแต่งได้เก่งอย่างเทอร์น้อ....อิ อิ อิ.
  • กานท์

    16 ธันวาคม 2546 17:08 น. - comment id 191766

    แต่งได้อย่างนี้สงสัยเคยมีประสบการมาแล้วสินะแต่ว่าไปแล้วมีลูกอย่างในกลอนคุณก็คงดีนะ จะได้รวยไวๆซึ่งไม่ใช่มาม่า!ฮิๆ
  • ชัยชนะ

    16 ธันวาคม 2546 18:04 น. - comment id 191767

    แย่แล้วสิ อาเจอคู่แข่งเข้าแล้วไง(ล้อเล่นน่า)
    
    ชอบมากอ่านไปยิ้มไปด้วย
    เนื้อหากระชับฉัยไว
    และตอนท้ายไคลแม็กซ์ของเรื่อง
    ออกมาได้สนุกสนานมากจ้า
    
    หวังว่าสามพ่อแม่ลูกคงหากินอยู่ที่น่านก็แล้วกันนะจ๊ะ
    
  • พิกุลทอง

    16 ธันวาคม 2546 20:39 น. - comment id 191854

    คิดได้ไงครับเนี่ย
    นึกว่าจะจบลงเช่นไร
    สุดท้าย นักล้วงทั้งตระกูล
    
    เยี่ยมครับเยี่ยม
  • ผู้หญิงไร้เงา

    16 ธันวาคม 2546 22:42 น. - comment id 191918

    สอนแบบนี้เห็นทีไม่ขอสอน
    ด้วยกลัวลูกติดคุกก่อนพ่อแม่นั้น
    เพราะแค่เกิดมาได้ไม่กี่วัน
    ลูกก็มีนิสัยเหมือนกันกับบิดามารดา
    
    *-*เข้าใจแต่งนะค่ะ  ชอบค่ะ  คลายเครียดค่ะ*-*
  • ตะแหง่ว

    17 ธันวาคม 2546 13:17 น. - comment id 192095

    นัองฟ่าง....ขอบคุณจ้ะน้องฟ่าง อิ อิ
    
    ทิพย์....ใช่จ้ะ ตอนฟังอ. เล่าตลกดีเนอะ แต่งบ่อยๆสิจ๊ะ เดี๋ยวก็เก่งเอง เรายังแต่งไม่เก่งหรอก...
    
    คุณกานท์....ไม่เคยหรอกค่ะ..แหม... ตะแหง่วเป็นเด็กดีนะ อิ อิ
    
    คุณอาชัย....ตอนตะแหง่วแต่งจบก็คิดเหมือนกันว่า
    กลอนอย่างนี้คงจะเหมาะเป็นของอาชัยมากกว่า... ไม่ได้ล้อเล่นนะคะ อิ อิ
    ขอบคุณค่ะ ...ที่น่านก็ไม่แน่ค่ะ ว่าจะมีรึปล่าว..อิ อิ
    
    คุณพิกุลทอง....ขอบคุณค่ะ ^_____^
    
    พี่ตูน....คลายเครียดอ่ะค่ะพี่ตูน...อ่านแล้วยิ้มด้วยป่ะคะ...
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน