๏..เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต

อัลมิตรา


(๑)
จากเมล็ด..ที่จมตมธุลี
อาบรังสีรังสิมันตุ์ผันแปรได้
ธาตุอาหารซึบซับกับรากไช
หยดน้ำให้เผื่อแผ่แลเกื้อกูล
จากเมล็ด..ด้อยค่าราคาถูก
มาเพาะปลูกบ้างหายตายสาบสูญ
อาจแคระแกรนหรือเพิ่มค่าทวีคูณ
ยิ่งจำรูญหรือยับอัปราชัย
จากเมล็ด..พืชพันธุ์เฉกมนุษย์
จะพิสุทธิ์งดงามหวามไสว
เจริญยิ่งทั้งชันษาคราผ่านไป
ปัญญาไซร้พูนเพิ่มเสริมทวี
จากเมล็ด..เริ่มก่อหน่อจากเปลือก
หลากพันธุ์เทือกแทงยอดสอดใบศรี
ดั่งพี่เลี้ยงเคียงคู่ดูเข้าที
หล่อชีวีให้เติบใหญ่กายงอกงาม
จากเมล็ด..ไร้รากพลัดพรากถิ่น
หว่านลงดินขจรไกลในเขตขาม
ก่อกำเนิดเพริศลักษณะตาม
เป็นไม้งามสูงตระหง่านวงศ์วานตน
(๒)
ต้นไม้ใหญ่โค้งกายหมายบอกเล่า
ผ่านเรื่องราวความเป็นมาน่าฉงน
จากเมล็ดพันธุ์ครั้นว่าพิการพิกล
กลมเกลี้ยงมนดุจกรวดทรายไร้ราคา
จนกระทั่งขวบปีที่ผ่านคล้อย
ลำต้นน้อยเติบใหญ่กายแกร่งกล้า
ผลิดอกใบออกผลยลงามตา
ยืนหยัดท้าพายุโหมโถมพลัง
กิ่งใบโบกโยกแกว่งแสดงกล่าว
บทความท้าวแต่ก่อนย้อนหนหลัง
เหล่าลูกไม้รายรอบพินอบฟัง
นี่กระมังความเป็นไปต้นไม้เรา
ต่างเบียดเสียดชะเง้อชะแง้แลต้นใหญ่
ทำอย่างไรจึงสวยเด่นเช่นกับเขา
ต่างครุ่นคิดกระซิบกระซาบหากแต่เบา
สิ่งที่เล่าเท็จหรือจริงสิ่งทั้งปวง
..อันตัวเรากลมเกลี้ยงเยี่ยงลูกไม้
จะเกรียงไกรงามสง่าทุกท่าท่วง
ครั้นพายุพัดกายคล้ายหมุนควง
เกือบจะร่วงเน่าคาดินสิ้นราคา..
..จะเป็นไปได้หรือคือชีวิต
ที่ลิขิตจากสวรรค์ชั้นฟากฟ้า
เราอาจวอดสูญสลายในมรรคา
สิ้นชีวาตามกำหนดกฏเกณฑ์บน..
..จะเป็นไปได้หรือคือชีวิต
ที่ลิขิตจากสวรรค์ชั้นเวหน
เราอาจรอดจากหมู่มารผลาญผจญ
งามสนนเติบใหญ่ใต้ฟ้าคราม..
(๓)
สิ่งสงสัยในจิตครุ่นคิดถึง
ใช่ดื้อดึงออกปากอยากจะถาม
..เหตุใดท่าน..เก่งกาจมาตรนิยาม
ทุกเขตขามสยบราบทราบพระคุณ..
ต้นไม้ใหญ่เอนกายหมายเล่าสู่
..เจ้าอยากรู้สิ่งใดใครเกื้อหนุน
จากเมล็ดไร้ค่ามาเป็นทุน
จนเพิ่มพูนแตกแขนงแทงกิ่งใบ..
..ต้องอดทนคนพาลรุกรานเหยียบ
ทุกข์เกินเทียบบอกเกริ่นเดินความใส่
อีกแมลงหลายหลากกระชากใบ
กัดกินไปอนาถหนอพ้อความเดิม.. 
..อีกพายุแรงโหมถาโถมทึ้ง
ฉุดรากดึงต้นไหวไม่ส่งเสริม
อุทกภัยหลากล้นด้นความเติม
ดินแห้งเพิ่มทุกข์เทวษเภทภัยมี..
..กว่าจะหยัดยืนอย่างดั่งที่เห็น
มากประเด็นพบพาประดาปรี่
กว่าสงบสงัดหายกรายไพรี
ต้นกล้านี้เติบใหญ่กายแข็งแรง..
(๔)
ครั้นพอฟังต้นไม้ได้บอกกล่าว
ลูกไม้เจ้า..สัจจะธรมมย้ำจิตแจ้ง
กว่าจะผ่านกาลกลหนแสดง
ทุกข์สุขแย้งสลับเวียนเปลี่ยนมาเยือน
ดูเอาเถอะตัวเราก็เท่านี่
ยามลมปรี่พัดกายกลายแตกเกลื่อน
อาจกระเด็นรอนแรมนับแรมเดือน
กว่าจะเคลื่อนเมล็ดบ่มจมผืนดิน
เมล็ดหยั่งรากฝังยังอาศัย
สรรพสิ่งให้อาหารประสานสิ้น
ทั้งอาทิตย์สาดส่องผ่องชีวิน
ยังถวิลบุญคุณเคยจุนเจือ
อีกแร่ธาตุมาตรว่าจะปรากฏ
คุณค่าจรด..ฟ้า-ดิน..สิ้นคำเผื่อ
หากปรารภแสดงไว้ให้เหลือเฟือ
ประโยชน์เกื้อกูลมากหากเปรียบเปรย
อีกบุญคุณสายน้ำลำนำกล่าว
หล่อเลี้ยงเจ้าเมล็ดพันธุ์ครั้นเฉลย
จนเติบใหญ่ต้นแกร่งแรงเสบย
เกินเอื้อนเอ่ยกรุณาเมตตามี
อีกพระพายเห่กล่อมโอบห้อมอุ่น
ไอละมุนแผ่ไปในทุกที่
ใบไม้เสียดประสานขานดนตรี
กิ่งก้านสีโยกตามยามสุขใจ
(๕)
เมล็ดพันธุ์แห่งชีพจากพรรณพฤกษ์
มาผนึกกับมนุษย์พิสุทธิ์ใส
มีความเหมือนความคล้ายคละเคล้าไป
เปรียบเทียบได้ตามจินต์ถวิลตรอง
จะยืนหยัดอย่างต้นกล้าจนเติบใหญ่
ที่เกรียงไกรเก่งกล้ากว่าทั้งผอง
ตามกลอนเปล่าเล่าขานหว่านทำนอง
อาจจะพ้องฉุกคิดจิตใจเอง
หรือจะดับยับสิ้นชีวินม้วย
มิสดสวยไร้เกียรติ์เบียดข่มเหง
จิตใจทรามตามชั่วมั่วบรรเลง
ตามบทเพลงเมล็ดจมตมใต้ดิน ..
จะเป็นพันธุ์เมล็ดใดให้เลือกเถิด
งามพริ้งเพริศหรือหมอง..ตรองถวิล
ขอจบกลอนตอนสุดท้ายหมายยลยิน
เพื่อนผองสิ้นเลือกเมล็ดงาม..ตามความดี				
comments powered by Disqus
  • tiki

    16 มกราคม 2547 23:01 น. - comment id 203752

    ขอปรบมือให้งานงามสง่า
  • ผีขี้เมา

    16 มกราคม 2547 23:05 น. - comment id 203759

    ไม่เมาแล้วไม่เห็นมา......อิอิ
    
    ไม่ได้กวนนะหลานรัก...อิอิ
    
    
  • ดินสอ

    16 มกราคม 2547 23:21 น. - comment id 203771

    บ่มเพาะเพื่องอกงามนั้นนานแสน
    เก้าเดือนวางแผนเพาะชีวิต
    เฝ้าฟูมฟักถักทอแสนใกล้ชิด
    เพื่อเพาะจิตเพาะใจเป็นฅนดี
    
    
  • somebody

    16 มกราคม 2547 23:37 น. - comment id 203782

    โลกใบนี้ดุจกงเกวียนวงเวียนชีวิต
    หมุนลิขิตชีวีพันธุ์พืชไปทั่วถิ่นฐาน
    แหล่งกำเหนิดเกิดขึ้นได้ในสันดาน
    ที่หว่านพันธุ์พืชลงไว้ในแผ่นดิน
    
         ถึงเล็กใหญ่ใช่จะว่าเหมือนกันหมด
    ถูกกำหนดด้วยปัญหาหลากหลายสิ้น
    ดีและชั่วคละคลุกเคล้าเป็นอาจินต์
    แต่ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนไปไม่แน่นอน
    
          อนิจจังโลกเรานี้ผ่านกาลข้างหน้า
    คอยเวลาเปลี่ยนไปให้ใจสะท้อน
    มัวหลงระเริงลาภยศไม่แน่นอน
    ยังหลอกหลอนหลงลืมตัวมั่วโลกีย์
    
            เหมือนพืชพันธุ์ในโลกนี้มีสองอย่าง
    หนึ่งนั่นสร้างความสุขใจไม่หมองศรี
    ได้ประโยชน์ส่งกลิ่นหอมทุกทิวาราตรี
    สองนั้นมีกลิ่นเหม็นเน่าดุจผายลม.
    
                    แก้วประเสริฐ.
    
           
    
           
    
          
    
          
    
    
  • แม่จิตร

    17 มกราคม 2547 00:25 น. - comment id 203812

    อักขระสวยเด่น
    ขอชมนะ
    
    คุณ
    แก้วประเสริฐ. ก็ไม่เบานะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    17 มกราคม 2547 01:40 น. - comment id 203852

    กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ  แถมความหมายยังดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆอีกตั้งหาก  ชอบมากเลยค่ะ  แต่งเก่งมากเลยค่ะ  ชื่นชมเสมอค่ะ
  • ที่รักของฉัน

    17 มกราคม 2547 02:00 น. - comment id 203872

    ....เพราะพันธุ์ไม้ใต้ฟ้าสง่าสวย
    ล้วนมากด้วยคุณค่าน่าถนอม
    หลากสีสรรนั้นเป็นเช่นพะยอม
    จะเหม็นหอมคงไว้ค่าในตัว...
    
    ..................สวัสดีครับ................
  • ชัยชนะ

    17 มกราคม 2547 16:28 น. - comment id 204143

    เมล็ดพันธ์สถานที่นี้เกี่ยวข้อง
    ถ้าเอาของที่ดีมีคุณค่า
    ไปปลูกไว้หัวไร่ปลายทุ่งนา
    ไม่งามตาขาดคนคอยดูแล
    
    (นาที่ดี ต้องใช้ข้าวปลูกพันธ์ดี.. เพลงนะครับ)
  • วาพราว

    17 มกราคม 2547 19:24 น. - comment id 204223

    เมล็ดพันธุ์เมล็ดนี้งดงามและมีคุณค่าค่ะ
    
      
    
    
    
    
  • ^^LittlE_PenguiN^^

    17 มกราคม 2547 20:37 น. - comment id 204261

    ._. สุดยอดค่ะ
  • อัลมิตรา

    19 มกราคม 2547 22:40 น. - comment id 205076

    ขอบคุณค่ะ ทุกๆท่าน ..
    
    :)
  • พี่ดอกแก้ว

    23 มกราคม 2547 00:03 น. - comment id 206303

    ชอบจังเลยค่ะ
  • อัลมิตรา

    26 มกราคม 2547 22:57 น. - comment id 208106

    ขอบคุณค่ะ พี่ดอกแก้ว
  • ฉลาม

    11 กุมภาพันธ์ 2547 00:04 น. - comment id 214804

    สุดยอด
  • ปืนใหญ่

    22 กุมภาพันธ์ 2547 02:46 น. - comment id 219428

    ความคิด และภาษาดีมาก

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน