@_,.*เก็บสิ่งดีมาใช้ด้วยปัญญา``@

tiki

  @_,.-:*`*เก็บสิ่งดีมาใช้ด้วยปัญญา``_,.-:*`@ 
ผ่านเห็นมา....นานา....สาระพันธุ์
ทุกสังคม.....ทุกชนชั้น......ระดับถิ่น
ผ่านร้อยแปด.....พันเก้า.....ให้ยลยิน
ล้วนดี-ชั่ว.....เคล้าชีวิน.....เป็นสัจจธรรม 
สิ่งใดได้.....คล้ายเหมาะสม.....ควรบ่มเพาะ
จงพิเคราะห์.....ให้เจาะใจ.......ให้ชุ่มฉ่ำ
เย็นข้างนอก.....เย็นข้างใน.....ไม่ระกำ
ไม่ระส่ำ.....สั่นไหว.....ทั้งใจกาย..... 
 อันดี-ชั่ว.....จะรู้คล้าย.....เมื่อภายหลัง
ตัวตายยัง.....คนอยู่.....สิใจหาย
คนหมดทุกข์.....ตายไป.....ก็หมดร้าย
แต่คนอยู่........แทบวอดวาย.....ด้วยผลกรรม 
เมื่อรู้ชิด.....สนิทสนม.....พอสมพักตร์
เก็บใจรัก.....ไว้สักนิด.....อย่าชิดถลำ
ค่อยเรียนรู้.....มองทุกด้าน.....ผ่านรสธรรม
ดีมานำ.....ชั่วทิ้งไป.....ไม่ใยดี 
 **ดีเก็บใช้**.....**ชั่วเก็บ-ละ**.....พระฯ ท่านสอน
ใจเมตตา.....อย่าคิดค่อน.....ไม่ควรที่
เขาไม่ดี.....ก็วางไว้.....รู้ไม่ดี
อธิษฐาน.....ชาติไหนนี้.....ไม่ดี-ไกล 
รู้เขาดี.....คิดสรรเสริญ.....เจริญคุณ
ธรรมดีนี้.....ควรอุดหนุน.....นำมาใส่
สร้างในตัว.....ตนเรา.....ให้เข้าใจ
ฉลาดใช้.....แยกคัด.....สัจจะควร 
จึงนิยม.....สมมาเกิด.....ประเสริฐคน
มีปัญญา.....พากมล.....ไม่เหหวน
รู้ยึดมั่น.....สรรค์แสดง.....แจ้งทบทวน
รู้ระบอบ.....ชอบกระบวน.....ล้วนคั้นคม 
ใครจะดี.....ดีนั้น.....สรรค์มาเก็บ
ใครจะชั่ว.....ไม่ต้องเหน็บ.....ไม่ต้องผสม
เรียนโลกชั่ว.....ยกพันพัว.....มาปรารมภ์
ว่าไม่นิยม.....ขอไม่เป็น.....เช่นชั่วนั้น..... 
จึงสะอาด.....ในดวงจิต.....คิดก็ผ่อง
จะหันมอง.....จ้องทางไหน.....ให้สุขสันต์
มีปัญญา.....รู้--แล้ว-วาง.....ทุกข้างพลัน
ปัญญานั้น.....คืออาวุธ.....ผุดในใจ 
ถือสันโดษ.....ในความดี.....ที่ตนมี
ทุกวิถี.....เอาชั่ว-ละ.......เอาดีมา-ใส่
ไม่สะทก.....ไม่สะเทือน.....เลื่อนกับใคร
**เอาดีมาใช้.....เอาชั่วไปละ.**......พระฯ ให้จำ 
แม้นมิรู้.....แยกมิได้.....คล้ายโกรธ-บ้า
มองที่หน้า.....ร้อนอย่างนี้.....ที่ถลำ
มองที่ใจ.....ใสอย่างนี้.....เย็นประจำ
นั่นแหละธรรม.....อยู่ในใจ.....คบได้ดี 
   **ดีมาใช้.....ชั่วมาละ**.....นั้นประเสริฐ
สมเป็นคน.....ปัญญาเลิศ.....ใช้ทุกที่
สมเกิดมา.....เป็นมนุษย์.....สุดทางดี
สวรรค์จะก้ม.....ทำพลี.....เพื่อบูชา 
เกิดเป็นคน.....ใช้ใจตน.....บนสายกลาง
อยู่ระหว่าง.....นรก-สวรรค์.....สรรค์เห็นค่า
ภพที่เลิศ.....สุดแล้ว.....แว่วพรรณนา
คือโลกา.....ที่เรามา.....ใช้ยึดครอง.. 
 ได้มาเกิดด้วยอย่างน้อยร้อยศีลห้า
จึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์สุดผุดผ่อง
อยู่ที่ธรรมนำมาเกิดกันก่ายกอง
สุดจะปองหนทางจะสร้างไป
เกิดเป็นคนอยู่บนทางสายกลาง
มีสิทธิ์เดินไปข้างไหนก็ได้
มีสิทธิ์เข้าไปที่ไหนเห็นทุกสิ่งได้ตามใจ
มีสิทธิ์เรียนเทียบสิ่งที่เห็นได้ด้วยปัญญา   
ทิกิ_tikit
,...@...-:*``*:-.,_,.-:*``@...*:-.,_,.-:*`` เก็บสิ่งดีสักวันจะได้ไหม? ``@...*:-.,_,.-:* `@...*:-.,_,.-:*.@...-:*``*:-.,_ 
 
..@... ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_ฝันดีนั้น ),.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,ผิดกฎหมาย.-:*``*:-.,_,...@ .-:*``*:หรือไม่ -.,_,.-:*``ฝันนั้น*:-.,_,.-:*``เป็นสิทธิ์ *:-.,_,.-:*``*:-ของฉันไหม ? ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,...@...-:*``*:-.,_,.-:*``@...*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-  
....@..._,.-:*``*:-.,_. ใน,.-:*``*:-.,,.-:*``*:-นาม .,_,.-:ของ*``*:-.,_,.-:*``*:-.,ความ_,.-:*``*:-_,.-:*``*:-.,รัก .,_,.-:*``.`*:..-:*``*:-และ.,_,.-:*``@...*:-.,_,.-:*``*:-.,_เมตตา,.-:*``*:-.,_,.ต่อ-:*``*:-.,มวลมนุษย์_,.-:*``*-...@- 
ทิกิ_tiki 
,_@,.-:*``*: ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*ไร้สีสัน :-.,_,.-:*``*:-วรรณะ.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_เพศวัย.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*ไร้ตัว,``*:- ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,ตน_,.-:*``*:-.,_,.-:**:-				
comments powered by Disqus
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 17:11 น. - comment id 233459

    เกิดเป็นคนอยู่บนสายกลาง
    มีสิทธิ์เดินไปข้างไหนก็ได้
    มีสิทธิ์เข้าไปที่ไหนเห็นทุกสิ่งได้ตามใจ
    มีสิทธิ์เรียนเทียบสิ่งที่เห็นได้ด้วยปัญญา
    
    ทิกิ_tikit
    (เพิ่มเติม)
    time checked 16:14
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 17:30 น. - comment id 233464

      @_,.-:*`*เก็บสิ่งดีมาใช้ด้วยปัญญา``_,.-:*`@ 
    
    
    
    
     ได้มาเกิดด้วยอย่างน้อยร้อยศีลห้า
    
    จึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์สุดผุดผ่อง
    
    อยู่ที่ธรรมนำมาเกิดกันก่ายกอง
    
    สุดจะปองหนทางจะสร้างไป
    
    
    
    เกิดเป็นคนอยู่บนทางสายกลาง
    
    มีสิทธิ์เดินไปข้างไหนก็ได้
    
    มีสิทธิ์เข้าไปที่ไหนเห็นทุกสิ่งได้ตามใจ
    
    มีสิทธิ์เรียนเทียบสิ่งที่เห็นได้ด้วยปัญญา   
    
    ทิกิ_tikit
    
    
    
    ,...@...-:*``*:-.,_,.-:*``@...*:-.,_,.-:*`` เก็บสิ่งดีสักวันจะได้ไหม? ``@...*:-.,_,.-:* `@...*:-.,_,.-:*.@...-:*``*:-.,_ 
     
    
    
    
    
    ทิกิ_tiki 
    ,_@,.-:*``*: ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*ไร้สีสัน :-.,_,.-:*``*:-วรรณะ.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_เพศวัย.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*ไร้ตัว,``*:- ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,ตน_,.-:*``*:-.,_,.-:**:- 
      
    
  • namsai

    19 มีนาคม 2547 18:46 น. - comment id 233485

    มีศีลห้านำทางไปไม่สะดุด
    
    เปรียบประดุจมีสิ่งฉุดหยุดตรงท่า
    
    จะไปซ้ายไปขวาไม่นำพา
    
    มัชฌิมาเดินไปไม่หย่อนตรึง...
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 19:02 น. - comment id 233491

    อ่านที่มาที่ไปแห่งบทกลอนนี้ได้ที่
     ...... 
    http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=1996
  • รักคุณคับ

    19 มีนาคม 2547 19:12 น. - comment id 233494

    อ๊ากกกกก..พี่ทิกิเอาอีกแล้ว
      กลอนเพราะโคดเลยคับ..แถมมีสายสวรรค์ด้วย..อิอิ
      รูปเท่ห์มากเลยคับ..^_^
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 19:18 น. - comment id 233498

    อ๊ากกกกก..พี่ทิกิเอาอีกแล้ว
      กลอนเพราะโคดเลยคับ..แถมมีสายสวรรค์ด้วย..อิอิ
      รูปเท่ห์มากเลยคับ..^_^  
     จาก : รหัสสมาชิก : 3527 - รักคุณคับ  
     รหัส - วัน เวลา : 237482 - 19 มี.ค. 47 - 19:12  
     
     
    อิอิ 
    ขอบคุณนะคะ
    ติดตามอ่านทุกคำ จำทุกภาพด้วยนะคะ
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 19:20 น. - comment id 233499

    มีศีลห้านำทางไปไม่สะดุด
    
    เปรียบประดุจมีสิ่งฉุดหยุดตรงท่า
    
    จะไปซ้ายไปขวาไม่นำพา
    
    มัชฌิมาเดินไปไม่หย่อนตรึง...  
     จาก : รหัสสมาชิก : 7052 - namsai  
     รหัส - วัน เวลา : 237473 - 19 มี.ค. 47 - 18:46  
    
    
    รู้ว่าศีลนำเก็บไว้ในใจตน
    ไม่หมองหม่นไม่ร้อนรนคอยนึกถึง
    เก็บศีลไว้เย็นในใจให้ติดตรึง
    ศีลคอยดึงรั้งไว้ให้ได้ดี
    
    
    ทิกิ 
    ขอบคุณมาอ่านมาเขียนเสมอ
     ขยันจังค่ะ
  • namsai

    19 มีนาคม 2547 19:56 น. - comment id 233515

    มาตรฐานคนดี มีไว้ว่า
    ศีลทั้งห้า มีให้ครบ จบราศรี
    อาจจะตก บกพร่องบ้าง ก็ยังดี
    ทุกคนมี บารมี ไม่เท่ากัน 
    
  • ฟ้าสีคราม & กล้าตะวัน

    19 มีนาคม 2547 20:10 น. - comment id 233526

    กลอนน่ารัก ดีค่ะ 
    แวะมาชม ค่ะ 
    
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 20:43 น. - comment id 233540

    มาตรฐานคนดี มีไว้ว่า
    ศีลทั้งห้า มีให้ครบ จบราศรี
    อาจจะตก บกพร่องบ้าง ก็ยังดี
    ทุกคนมี บารมี ไม่เท่ากัน 
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 7052 - namsai  
     รหัส - วัน เวลา : 237503 - 19 มี.ค. 47 - 19:56  
    
    ได้มาเกิดด้วยอย่างน้อยร้อยศีลห้า
    
    จึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์สุดผุดผ่อง
    
    อยู่ที่ธรรมนำมาเกิดกันก่ายกอง
    
    สุดจะปองหนทางจะสร้างไป
    
    
    ทิกิ
  • หมึกมรกต

    19 มีนาคม 2547 20:44 น. - comment id 233541

    รู้สึกลายตากับสายโยงใยน่ะครับ แต่ก็มีสีสันไปอีกแบบ บทกวีแฝงด้วยแง่คิดที่ดีทีเดียว ควรที่จะเผยแพร่ให้คนได้อ่านเยอะๆ
    :)
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 21:22 น. - comment id 233551

    กลอนน่ารัก ดีค่ะ 
    แวะมาชม ค่ะ 
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 6723 - ฟ้าสีคราม & กล้าตะวัน  
     รหัส - วัน เวลา : 237515 - 19 มี.ค. 47 - 20:10  
     
     
    ขอบคุณมากค่ะ คุณฟ้าสีคราม & กล้าตะวัน  คะ ขอบคุณมากค่ะ
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 21:24 น. - comment id 233552

    รู้สึกลายตากับสายโยงใยน่ะครับ แต่ก็มีสีสันไปอีกแบบ บทกวีแฝงด้วยแง่คิดที่ดีทีเดียว ควรที่จะเผยแพร่ให้คนได้อ่านเยอะๆ
    :)  
     จาก : รหัสสมาชิก : 5338 - หมึกมรกต  
     รหัส - วัน เวลา : 237530 - 19 มี.ค. 47 - 20:44  
     
     
    อ้อ ค่ะ เก็บไว้เป็น รูปแบบงานเขียน
    ขอบคุณที่อ่าน
    คำวิจารณ์เป็นกำลังใจ
    ขอขอบคุณค่ะ 
    ทิกิ
  • namsai

    19 มีนาคม 2547 21:59 น. - comment id 233570

    ศีลทั้งห้าว่าไว้มีดังนี้
    
    
    ข้อที่หนึ่งพึงเว้นจากการฆ่า
    
    ข้อสองหนาเว้นลักทรัพย์จักหลีกหนี
    
    ข้อที่สามเว้นประพฤติผิดกามโลกีย์
    
    ข้อสี่มีเว้นมุสาวาจาทราม
                    จะอย่างไรก้อดี...ศีลข้อนี้
    
    ข้อที่ห้าสุราเมรัยอย่าให้มี
    
               ****---****
    
                  บอกศีลห้าไว้เผื่อบางคนไม่รู้อ่ะค่ะ...อย่าว่าน้ำใสมาจุ้นจ้านนะคะคุณทิกิขา
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 22:10 น. - comment id 233576

       
    ศีลทั้งห้าว่าไว้มีดังนี้
    
    
    ข้อที่หนึ่งพึงเว้นจากการฆ่า
    
    ข้อสองหนาเว้นลักทรัพย์จักหลีกหนี
    
    ข้อที่สามเว้นประพฤติผิดกามโลกีย์
    
    ข้อสี่มีเว้นมุสาวาจาทราม
                    จะอย่างไรก้อดี...ศีลข้อนี้
    
    ข้อที่ห้าสุราเมรัยอย่าให้มี
    
               ****---****
    
                  บอกศีลห้าไว้เผื่อบางคนไม่รู้อ่ะค่ะ...อย่าว่าน้ำใสมาจุ้นจ้านนะคะคุณทิกิขา  
     จาก : รหัสสมาชิก : 7052 - namsai  
     รหัส - วัน เวลา : 237560 - 19 มี.ค. 47 - 21:59    
    
     
     
    
    
    
          
      เอาดีเก็บมาใช้ เอาชั่วเก็บมาละ
    
    เป็นสรณะในการมองผองผู้อื่น
    
    ศีลตัวเองเด่นชัดคือจุดยืน
    
    แต่อย่ายื่นมาตรวัดจัดศีลใคร
    
    
             เพราะเรื่องศีลเป็นเรื่องละเมียดละเอียดอ่อน
    
    ไม่มีทางครบแม้นจะคอนอย่างไรไหว
    
    วันวันนั้นศีลคงหกตกหล่นไป 
    
    
     ต่อเมื่อได้ภาวนาอยู่หน้าพระ
    
    
              จึงจะได้ครบศีลยินอย่างชัด
    
    ปฏิบัติสวดมนต์ภาวนาคือสาระ
    
    วจีดี กายดี  มีธรรมะ
    
    อีกใจละ เพราะล่องตามความสวดมนต์..... 
    
    
    วัดศีลปรอทขึ้นเยอะหน่อยตอน
    ไหว้พระสวดมนต์เท่านั่นแหละน้อง
    ตอนอื่นก็ทำใจให้สบาย
    
    
    
    
    บทนี้กล่าวให้วางใจในสังคม
    
    เมื่ออยู่กับชนหมู่มาก
    
    อย่าไปคัดศีลกับใครเขามาก
    
    ศีลถือที่ตัวเรา แต่อย่าเอาไปนั่งวัดใคร
    
    เพราะถ้าเขาวัดเรามาบ้างเราก็สอบตกทุกเมื่อ
    
    แหละค่ะน้อง    
    
    
     จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki  
     รหัส - วัน เวลา : 237539 - 19 มี.ค. 47 - 21:20  
    
  • ชัยชนะ

    19 มีนาคม 2547 22:34 น. - comment id 233588

    แวะมาฟัง เรื่องสบาย หายปวดหัว
    ดีหรือชั่ว นำตัวไป ปฏิบัติ
    ทางทีถูก นำทาง อย่างเคร่งครัด
    ทางวิบัติ ย่อมหลีกลี้ หนีห่างไป
    
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 23:02 น. - comment id 233596

    คำแปลและความหมายของบทกลอนชุดนี้
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_49106.php
    
    @_,.-:*เก็บสิ่งดีมาใช้ด้วยปัญญา.:*``@ 
     
    
    
    
    ผ่านเห็นมา....นานา....สาระพันธุ์ 
    
    ทุกสังคม.....ทุกชนชั้น......ระดับถิ่น 
    
    ผ่านร้อยแปด.....พันเก้า.....ให้ยลยิน 
    
    ล้วนดี-ชั่ว.....เคล้าชีวิน.....เป็นสัจจธรรม .........(.๑ )
    
    .........(ในชีวิตของผู้เขียนได้เห็นผู้คนทุกระดับชั้นมามากมาย ทุกสังคม และ ทุกถิ่นที่ได้เยือนมา ก็ล้วนทำดีบ้าง ชั่วบ้าง สนลับกันไป.........(.๑ ))
    
    สิ่งใดได้.....คล้ายเหมาะสม.....ควรบ่มเพาะ 
    
    จงพิเคราะห์.....ให้เจาะใจ.......ให้ชุ่มฉ่ำ 
    
    เย็นข้างนอก.....เย็นข้างใน.....ไม่ระกำ 
    
    ไม่ระส่ำ.....สั่นไหว.....ทั้งใจกาย. .... .........(. ๒)
    
    
    ........(ผู้เขียนก็เห็นว่า   สิ่งใดที่เห็นว่าดีงามเหมาะสมกับตนเองก็ควรบ่มเพาะ
    โดยวิเคราะห์แก่ใจตนเองว่า ทำสิ่งใด แล้ว สงบสุข เย็นกายเย็นใจ ไม่ทำให้ทุกข์กายทุกข์ใจทำให้ร้อนอกร้อนใจระส่ำระสายไปหมด.....). .........(. ๒)
    
    
    
     อันดี-ชั่ว.....จะรู้คล้าย.....เมื่อภายหลัง 
    
    ตัวตายยัง.....คนอยู่.....สิใจหาย 
    
    คนหมดทุกข์.....ตายไป.....ก็หมดร้าย 
    
    แต่คนอยู่........แทบวอดวาย.....ด้วยผลกรรม .... .........(.๓  )
    
    
    .......(ผู้เขียนก็ให้ความเห็นว่า สิ่งที่เราทำไปตอนมีชีวิตอยู่ก็ไม่รู้ดีชั่ว
    ทำกันไป แต่ผลทุกข์จะไปเกิดแก่ทายาทเป็นผู้รับผลของกรรมที่
    บุพการี หรือ ภรรยา สามี หรือ พี่น้องที่ยังอยู่อาจทุกข์ทรมาณใน
    เรื่องที่ผู้ตายได้ทำไว้คร้งมีชีวิตอยู่ก็ได้) .........(.๓  )
    
    
    
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 23:04 น. - comment id 233598

    คำแปลและความหมายของบทกลอนชุดนี้
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_49106.php
    
    
    
    เมื่อรู้ชิด.....สนิทสนม.....พอสมพักตร์ 
    
    เก็บใจรัก.....ไว้สักนิด.....อย่าชิดถลำ 
    
    ค่อยเรียนรู้.....มองทุกด้าน.....ผ่านรสธรรม 
    
    ดีมานำ.....ชั่วทิ้งไป.....ไม่ใยดี .... .........(. ๔ )
    
    
    ......(เมื่อคบใครก็ตาม แม้นว่ารักสุดหัวใจ ก็ให้เรียนรู้ความประพฤติปฏิบัติ
    ของผู้นั้นเสียก่อนโดยใช้ข้อธรรมเป็นเครื่องปรับดูเขาว่าสมควรที่เราจะ
    รักหรือ ว่าสิ่งดีในตัวเขาอย่างไรที่เราน่าจะนำมาเป็นแบบอย่างปรับหัดให้
    ตัวเราได้ทำเช่นเขาบ้าง ).........(. ๔ )
    
    
     **ดีเก็บใช้**.....**ชั่วเก็บ-ละ**.....พระฯ ท่านสอน 
    
    ใจเมตตา.....อย่าคิดค่อน.....ไม่ควรที่ 
    
    เขาไม่ดี.....ก็วางไว้.....รู้ไม่ดี 
    
    อธิษฐาน.....ชาติไหนนี้.....ไม่ดี-ไกล .... .........(. ๕ )
    
    
    ......(อนึ่งเมื่อได้พิจารณาโดยถ่องแท้แล้ว รู้ว่าเช่นนี้เป็นสิ่งดี ก็เก็บมา แต่เมื่อ
    รู้ว่าสิ่งนี้เขาทำไม่ดี ..**เพื่อการอยู่ร่วมโดยสันติ ก็ อย่าไปเอ่ยปากว่าเขาเพราะ
    ผู้ได้รับการว่ากล่าวย่อมโกรธเคืองในใจ**  เราก็อธิษฐานเสียในใจว่าสิ่งที่เขา
    กระทำอยู่นี้เป็นสิ่งไม่ดี พาเขาไปในทุกข์แน่นอน เราขอไม่ให้ตัวเราไปประพฤติ
    ปฏิบัติเช่นนี้เป็นอันขาด)  .........(. ๕ )
    
    
    
    รู้เขาดี.....คิดสรรเสริญ.....เจริญคุณ 
    
    ธรรมดีนี้.....ควรอุดหนุน.....นำมาใส่ 
    
    สร้างในตัว.....ตนเรา.....ให้เข้าใจ 
    
    ฉลาดใช้.....แยกคัด.....สัจจะควร .... .........(.๖  )
    
    
    .........(คนผู้ใดทำดีให้เราเห็น พึงสรรเสริญและคิดฉลาดสร้างสรรค์
    ให้ตัวเราฝึกเป็นเช่นส่วนดีของเขาบ้าง )........(.๖  )
    
    
    จึงนิยม.....สมมาเกิด.....ประเสริฐคน 
    
    มีปัญญา.....พากมล.....ไม่เหหวน 
    
    รู้ยึดมั่น.....สรรค์แสดง.....แจ้งทบทวน 
    
    รู้ระบอบ.....ชอบกระบวน.....ล้วนคั้นคม .... .........(.๗ )
    
    
    .... (จึงจะสมมาเกิดเป็นมนุษย์  คือคนที่มีสติปัญญา รู้จักใช้ปัญญา
    ทบทวน ใคร่ครวญสิ่งที่เห็นทำตามที่ควรจะเป็น ).........(.๗ )
    
    
    
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 23:05 น. - comment id 233599

    คำแปลและความหมายของบทกลอนชุดนี้
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_49106.php
    
    
    
    
    ใครจะดี.....ดีนั้น.....สรรค์มาเก็บ 
    
    ใครจะชั่ว.....ไม่ต้องเหน็บ.....ไม่ต้องผสม 
    
    เรียนโลกชั่ว.....ยกพันพัว.....มาปรารมภ์ 
    
    ว่าไม่นิยม.....ขอไม่เป็น.....เช่นชั่วนั้น........ .........(.๘  )
    . 
    
    ................. (เห็นใครดีเก็บมาไว้ฝึกสร้างใจเรา
    เห็นเขาทำไม่ดีทำชั่วก็ยกมาพิจารณาความชั่วและ
    อธิษฐานไม่ทำดั่งนั้น).........(.๘  )
    
    จึงสะอาด.....ในดวงจิต.....คิดก็ผ่อง 
    
    จะหันมอง.....จ้องทางไหน.....ให้สุขสันต์ 
    
    มีปัญญา.....รู้--แล้ว-วาง.....ทุกข้างพลัน 
    
    ปัญญานั้น.....คืออาวุธ.....ผุดในใจ .... .........(.๙ )
    
    
             ......(การใช้ปัญญาแยกแยะมองสิ่งต่างๆดังนี้
    ย่อมทำให้ใจมีความผุดผ่องสุขสบาย ไม่ตกไปในความวิตก
    หรือส่อเสียด หรือยกตนข่มท่าน หรือทำอกุศลกรรมในการ
    ว่ากล่าวหมิ่นแคลนใคร    กลับใช้ปัญญาเป็นอาวธหั่นได้
    ทั้งอกุศลเบื้องหน้า และอกุศลปัจจุบันขณะ)........(.๙ )
    
    
    ถือสันโดษ.....ในความดี.....ที่ตนมี 
    
    ทุกวิถี.....เอาชั่ว-ละ.......เอาดีมา-ใส่ 
    
    ไม่สะทก.....ไม่สะเทือน.....เลื่อนกับใคร 
    
    **เอาดีมาใช้.....เอาชั่วมาละ.**......พระฯ ให้จำ .... .........(.๑๐  )
    
    
    .... (ยกย้อธรรม สันโดษ หรือ สนฺตุษฐี   คือการพอใจในธรรมคุณความดี
    ซึ่งตนมี  และให้ละทิ้งความชั่วที่รุงรังพันพัวตัวเราออกไปเสีย
    ก็ไม่ไปสะทกสะเทือน เลื่อนเปื้อนไปกับใคร ถือ**เอาดีมาใช้.....เอาชั่วไปละ.**....เป็นหลักของตน.. ).........(.๑๐  )
    
    
    
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 23:07 น. - comment id 233603

    คำแปลและความหมายของบทกลอนชุดนี้
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_49106.php
    
    
    
    แม้นมิรู้.....แยกมิได้.....คล้ายโกรธ-บ้า 
    
    มองที่หน้า.....ร้อนอย่างนี้.....ที่ถลำ 
    
    มองที่ใจ.....ใสอย่างนี้.....เย็นประจำ 
    
    นั่นแหละธรรม.....อยู่ในใจ.....คบได้ดี .... .........(.๑๑ )
    
    
    .....(ถ้าเห็นแล้วไม่พอใจในการกระทำของผู้อื่นให้หันกลับมาระลึก
    ข้อธรรมนี่ เพื่อดับความโกรธพิโรธบ้าในการมองผู้อื่นเสีย
    ให้หันกลับมามองตนเอง จะดีกว่า มองธรรมข้อนี้ในใจตน
    ก็กลับจะได้ความสงบร่มเย็นใจ)...........(.๑๑  )
    
    
    **ดีมาใช้.....ชั่วมาละ**.....นั้นประเสริฐ 
    
    สมเป็นคน.....ปัญญาเลิศ.....ใช้ทุกที่ 
    
    สมเกิดมา.....เป็นมนุษย์.....สุดทางดี 
    
    สวรรค์จะก้ม.....ทำพลี.....เพื่อบูชา .... .........(๑๒  )
    
    
    ........(นี้คือทางสันติสุขสมค่าการเกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ
    ด้วยการอยู่กับปัญญาธรรมในปัจจุบันธรรมอย่างมีความสุขสบายใจ
    ไม่รุ่มร้อนในการมองใคร ไม่กระทบกระทั่งกันมีสันติสงบ
    จนแม้สวรรค์ ยังจะต้องก้มลงมาเพื่อทำการพลีบูชาให้แก่ใจพระ..)......(๑๒  )
    
    
    
    เกิดเป็นคน.....ใช้ใจตน.....บนสายกลาง 
    
    อยู่ระหว่าง.....นรก-สวรรค์.....สรรค์เห็นค่า 
    
    ภพที่เลิศ.....สุดแล้ว.....แว่วพรรณนา 
    
    คือโลกา.....ที่เรามา.....ใช้ยึดครอง... .... .........(๑๓ )
    
    
    ....(นี่แหละโลกมนุษย์ประเสริฐสุดกว่าสวรรค์และไม่ร้ายดั่งนรก
    ด้วยเป็นกึ่งกลางให้เราเรียนธรรมะของฝูงชนได้ดีกว่าที่ใด
    เมื่อเราใช้ ข้อธรรม ดั่งที่ว่า**ดีเก็บมาใช้***ชั่วเก็บไปละ**นี้ ย่อม
    ได้มีปัญญาพาตนแหวกความทุกข์ในโลกไปได้ไกล) .........(๑๓ )
    
    
    ,...@...-:*``*:-.,_,.-:*``@...*:-.,_,.-:*`` เก็บสิ่งดีสักวันจะได้ไหม? ``@...*:-.,_,.-:* `@...*:-.,_,.-:*.@...-:*``*:-.,_ 
     
    
    
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 23:29 น. - comment id 233617

    คำแปลและความหมายของบทกลอนชุดนี้
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_49106.php
    
    
    ,...@...-:*``*:-.,_,.-:*``@...*:-.,_,.-:*`` เก็บสิ่งดีสักวันจะได้ไหม? ``@...*:-.,_,.-:* `@...*:-.,_,.-:*.@...-:*``*:-.,_ 
     
    
    .........ในชีวิตของผู้เขียนได้เห็นผู้คนทุกระดับชั้นมามากมาย ทุกสังคม และ ทุกถิ่นที่ได้เยือนมา ก็ล้วนทำดีบ้าง ชั่วบ้าง สนลับกันไป.........(.๑ )
    
    ........  สิ่งใดที่เห็นว่าดีงามเหมาะสมกับตนเองก็ควรบ่มเพาะ
    โดยวิเคราะห์แก่ใจตนเองว่า ทำสิ่งใด แล้ว สงบสุข เย็นกายเย็นใจ ไม่ทำให้ทุกข์กายทุกข์ใจทำให้ร้อนอกร้อนใจระส่ำระสายไปหมด...ก็พึงทำสิ่งที่ทำให้สงบสุขเย็นกายเย็นใจนั้น.. .........(. ๒)
    
    ....... สิ่งที่เราทำไปตอนมีชีวิตอยู่ก็ไม่รู้ดีชั่ว
    ทำกันไป แต่ผลทุกข์จะไปเกิดแก่ทายาทเป็นผู้รับผลของกรรมที่
    บุพการี หรือ ภรรยา สามี หรือ พี่น้องที่ยังอยู่อาจทุกข์ทรมาณใน
    เรื่องที่ผู้ตายได้ทำไว้คร้งมีชีวิตอยู่ก็ได้.........(.๓  )
    
    
    ......เมื่อคบใครก็ตาม แม้นว่ารักสุดหัวใจ ก็ให้เรียนรู้ความประพฤติปฏิบัติ
    ของผู้นั้นเสียก่อนโดยใช้ข้อธรรมเป็นเครื่องปรับดูเขาว่าสมควรที่เราจะ
    รักหรือ ว่าสิ่งดีในตัวเขาอย่างไรที่เราน่าจะนำมาเป็นแบบอย่างปรับหัดให้
    ตัวเราได้ทำเช่นเขาบ้าง ........(. ๔ )
    
    
    ......อนึ่งเมื่อได้พิจารณาโดยถ่องแท้แล้ว รู้ว่าเช่นนี้เป็นสิ่งดี ก็เก็บมา แต่เมื่อ
    รู้ว่าสิ่งนี้เขาทำไม่ดี ..**เพื่อการอยู่ร่วมโดยสันติ ก็ อย่าไปเอ่ยปากว่าเขาเพราะ
    ผู้ได้รับการว่ากล่าวย่อมโกรธเคืองในใจ**  เราก็อธิษฐานเสียในใจว่าสิ่งที่เขา
    กระทำอยู่นี้เป็นสิ่งไม่ดี พาเขาไปในทุกข์แน่นอน เราขอไม่ให้ตัวเราไปประพฤติ
    ปฏิบัติเช่นนี้เป็นอันขาด .........(. ๕ )
    
    
    .........คนผู้ใดทำดีให้เราเห็น พึงสรรเสริญและคิดฉลาดสร้างสรรค์
    ให้ตัวเราฝึกเป็นเช่นส่วนดีของเขาบ้าง .......(.๖  )
    
    
    .... จึงจะสมมาเกิดเป็นมนุษย์  คือคนที่มีสติปัญญา รู้จักใช้ปัญญา
    ทบทวน ใคร่ครวญสิ่งที่เห็นทำตามที่ควรจะเป็น ........(.๗ )
    
    
    ................. เห็นใครดีเก็บมาไว้ฝึกสร้างใจเรา
    เห็นเขาทำไม่ดีทำชั่วก็ยกมาพิจารณาความชั่วและ
    อธิษฐานไม่ทำดั่งนั้น.........(.๘  )
    
    
             ......การใช้ปัญญาแยกแยะมองสิ่งต่างๆดังนี้
    ย่อมทำให้ใจมีความผุดผ่องสุขสบาย ไม่ตกไปในความวิตก
    หรือส่อเสียด หรือยกตนข่มท่าน หรือทำอกุศลกรรมในการ
    ว่ากล่าวหมิ่นแคลนใคร    กลับใช้ปัญญาเป็นอาวุธหั่นได้
    ทั้งอกุศลเบื้องหน้า และอกุศลปัจจุบันขณะ.......(.๙ )
    
    
    .... ยกข้อธรรม สันโดษ หรือ สนฺตุษฐี   คือการพอใจในธรรมคุณความดี
    ซึ่งตนมี  และให้ละทิ้งความชั่วที่รุงรังพันพัวตัวเราออกไปเสีย
    ก็ไม่ไปสะทกสะเทือน เลื่อนเปื้อนไปกับใคร ถือ**เอาดีมาใช้.....เอาชั่วไปละ.**....เป็นหลักของตน.. .........(.๑๐  )
    
    
    .....ถ้าเห็นแล้วไม่พอใจในการกระทำของผู้อื่นให้หันกลับมาระลึก
    ข้อธรรมนี่ เพื่อดับความโกรธพิโรธบ้าในการมองผู้อื่นเสีย
    ให้หันกลับมามองตนเอง จะดีกว่า มองธรรมข้อนี้ในใจตน
    ก็กลับจะได้ความสงบร่มเย็นใจ...........(.๑๑  )
    
    
    ........นี้คือทางสันติสุขสมค่าการเกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ
    ด้วยการอยู่กับปัญญาธรรมในปัจจุบันธรรมอย่างมีความสุขสบายใจ
    ไม่รุ่มร้อนในการมองใคร ไม่กระทบกระทั่งกันมีสันติสงบ
    จนแม้สวรรค์ ยังจะต้องก้มลงมาเพื่อทำการพลีบูชาให้แก่ใจพระ........(๑๒  )
    
    
    
    ....นี่แหละโลกมนุษย์ประเสริฐสุดกว่าสวรรค์และไม่ร้ายดั่งนรก
    ด้วยเป็นกึ่งกลางให้เราเรียนธรรมะของฝูงชนได้ดีกว่าที่ใด
    เมื่อเราใช้ ข้อธรรม ดั่งที่ว่า**ดีเก็บมาใช้***ชั่วเก็บไปละ**นี้ ย่อม
    ได้มีปัญญาพาตนแหวกความทุกข์ในโลกไปได้ไกล.........(๑๓ )
    
    
    
    ....@..._,.-:*``*:-.,_. ใน,.-:*``*:-.,,.-:*``*:-นาม .,_,.-:ของ*``*:-.,_,.-:*``*:-.,ความ_,.-:*``*:-_,.-:*``*:-.,รัก .,_,.-:*``.`*:..-:*``*:-และ.,_,.-:*``@...*:-.,_,.-:*``*:-.,_เมตตา,.-:*``*:-.,_,.ต่อ-:*``*:-.,มวลมนุษย์_,.-:*``*-...@- 
    
    ทิกิ_tiki 
    ,_@,.-:*``*: ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*ไร้สีสัน :-.,_,.-:*``*:-วรรณะ.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_เพศวัย.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*ไร้ตัว,``*:- ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,ตน_,.-:*``*:-.,_,.-:**:-
  • tiki

    19 มีนาคม 2547 23:56 น. - comment id 233636

    แวะมาฟัง เรื่องสบาย หายปวดหัว
    ดีหรือชั่ว นำตัวไป ปฏิบัติ
    ทางทีถูก นำทาง อย่างเคร่งครัด
    ทางวิบัติ ย่อมหลีกลี้ หนีห่างไป
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 5053 - ชัยชนะ  
     รหัส - วัน เวลา : 237579 - 19 มี.ค. 47 - 22:34  
     
     
    เมื่อจุดยืนเรามีวจีกาย
    
    อีกเราได้ใจในธรรมอันสดใส
    
    ใจสงบเย็นดีไม่มีภัย
    
    สงบใจในธรรมสัมมาชน
    
    ทิกิ_tiki
    
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    20 มีนาคม 2547 01:33 น. - comment id 233694

    ชอบเก็บดีเอามา  เอาน้ำดีผสมขี้เพี๊ย (ขี้ในใส้อ่อนของวัว)ปรุงรสเปรี้ยวเค็มเผ็ด เอาไว้จิ้มเครื่องในวัวต้ม อิอิ ดีนี่มีประโยชน์ เวลาทำลาบดิบเขาต้องผสมน้ำดี ทำให้ออกรสขมนิด ๆ อร่อยมาก อิอิ  แต่คนที่ไม่รับประทานเนื้อ ก็คงไม่รู้รสของดี  พูดแล้วน้ำลายไหล อิอิ
  • tiki

    20 มีนาคม 2547 02:06 น. - comment id 233704

    ชอบเก็บดีเอามา  เอาน้ำดีผสมขี้เพี๊ย (ขี้ในใส้อ่อน
    ของวัว)ปรุงรสเปรี้ยวเค็มเผ็ด เอาไว้จิ้ม
    เครื่องในวัวต้ม อิอิ ดีนี่มีประโยชน์ เวลาทำลาบดิบ
    เขาต้องผสมน้ำดี ทำให้ออกรสขมนิด ๆ อร่อยมาก อิอิ 
     แต่คนที่ไม่รับประทานเนื้อ ก็คงไม่รู้รสของดี  
    
    พูดแล้วน้ำลายไหล อิอิ  
     จาก : รหัสสมาชิก : 4068 - ฤกษ์ ชัยพฤกษ์  
     รหัส - วัน เวลา : 237687 - 20 มี.ค. 47 - 01:33  
    
    
    คุณฤกษ์ เจ้าขา
    ไม่รับประทานเนื้อมาเป็นสิบๆปีแล้วมังคะ
    แต่ว่าแต่ก่อนชอบทานเนื้อเค็ม ค่ะ โฮ้ย พูดแล้ว
    ยังติดอร่อยอยู่เลยเนอะ
    
    ดีวัว ไม่ขมเหรอคะ
    
    ทิกิ
  • ใยแมงมุม

    20 มีนาคม 2547 13:11 น. - comment id 233819

    มาทักทายค่ะ...
    จาเปงกำลังใจให้นะคะ - - - 
    
    
  • ใยแมงมุม

    20 มีนาคม 2547 13:11 น. - comment id 233820

    มาทักทายค่ะ...
    จาเปงกำลังใจให้นะคะ - - - 
    
    
  • หนึ่งนะ

    20 มีนาคม 2547 14:27 น. - comment id 233857

    **************************************************
    
    ,_@,.-:*``*: ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*ไร้สีสัน :-.,_,.-:*``*:-วรรณะ.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_เพศวัย.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*ไร้ตัว,``*:- ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,ตน_,.-:*``*:-.,_,.-:**:- 
    
    
    ******************************************
    
    ชอบอันนี้มากเลบครับ
    
    ....
    
    แวะมาทักมายนะครับ
    
    ^_____^
    
    
    **************************************************
    
    
  • tiki

    20 มีนาคม 2547 19:34 น. - comment id 233963

    มาทักทายค่ะ...
    จาเปงกำลังใจให้นะคะ - - - 
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 5554 - ใยแมงมุม  
     รหัส - วัน เวลา : 237812 - 20 มี.ค. 47 - 13:11  
    
    -ขอบคุณมากค่ะ
     5554 - ใยแมงมุม  
    ขอบคุณในน้ำใจ จริง จริง
    
    ทิกิ
    
  • tiki

    20 มีนาคม 2547 19:35 น. - comment id 233964

    **************************************************
    
    ,_@,.-:*``*: ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*ไร้สีสัน :-.,_,.-:*``*:-วรรณะ.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_เพศวัย.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,_,.-:*ไร้ตัว,``*:- ,.-:*``*:-.,_,.-:*``*:-.,ตน_,.-:*``*:-.,_,.-:**:- 
    
    
    ******************************************
    
    ชอบอันนี้มากเลบครับ
    
    ....
    
    แวะมาทักมายนะครับ
    
    ^_____^
    
    
    **************************************************
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 7297 - หนึ่งนะ  
     รหัส - วัน เวลา : 237850 - 20 มี.ค. 47 - 14:27  
    
    
    ขอบคุณค่ะ
    ยามบรรเลงนานาสาระกลอน
    มิอาจย้อนดึงตัวตนมาปนเป
    
    ทิกิ
  • When_i_Fall_in_love

    21 มีนาคม 2547 00:30 น. - comment id 234088

    สุดๆๆ ไปเลยครับ อิอิ =^_^=
  • tiki

    21 มีนาคม 2547 00:47 น. - comment id 234096

    สุดๆๆ ไปเลยครับ อิอิ =^_^=  
     จาก : รหัสสมาชิก : 7068 - When_i_Fall_in_love  
     รหัส - วัน เวลา : 238084 - 21 มี.ค. 47 - 00:30  
    
    อะนะ ขอบคุณค่ะ
  • น้ำ

    21 มีนาคม 2547 02:36 น. - comment id 234133

    กลอนธรรมงามมากๆครับ
    
    อ่านธรรมเย็นใจในอารมย์
    ละปลักตมบานสู่แสงตะวัน
    บัวขาววาวตาเช่นไรนั่น
    สาธุมั่นกุศลจิตบุญบารมี
    
    ขอแจมพี่ทิกิด้วยครับ
    
    
  • tiki

    21 มีนาคม 2547 02:48 น. - comment id 234135

    กลอนธรรมงามมากๆครับ
    
    อ่านธรรมเย็นใจในอารมย์
    ละปลักตมบานสู่แสงตะวัน
    บัวขาววาวตาเช่นไรนั่น
    สาธุมั่นกุศลจิตบุญบารมี
    
    ขอแจมพี่ทิกิด้วยครับ
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 3898 - น้ำ  
     รหัส - วัน เวลา : 238131 - 21 มี.ค. 47 - 02:36  
    
    
    ไม่คาดคิดว่าจะพบคุณน้ำ มาแจมเป็นอันดับที่
    ครบ 32 ประการพอดีค่ะ
    
    เหมือนมาช่วยทำใบรับรองรองความประพฤติ
    ทางด้านบทกลอนให้  ขอบพระคุณคุณน้ำมากค่ะ
    บทนี้ ถ้าไม่ทำคำแปล  คนก็จะอ่านตีผิดประเด็น
    ไปเรื่องศีลอย่างเดียวเลยนะคะ
    
    จำต้องแปลให้เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับการถือ
    ธรรมข้อตัดปัจจุบันให้ดูเฉพาะที่ตัวเราไม่เอา
    คนอื่นมาเป็นอารมณ์ค่ะ ..อีกอย่าง ศีลเราถือที่
    ตัวเรา ไม่ไปยุ่มย่ามก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคล
    ของผู้อื่น..และ ในฐานะผู้ปฏิบัติอย่างคุณน้ำนั้น
    
    เขื่อได้ว่า สัจจะข้อ ศีลเต็มเมื่อนั่งสวดมนต์ภาวนา
    หน้าพระ หรือ ระหว่างปฏิบัติอยู่คือ สัจจะอีกเช่น
    กันนะคะ
    
    ไม่ค่อยพบคุณน้ำเลยไม่มีใครทันกันในการคุย
    ธรรม เลยนะ
    
    ทิกิ
  • tiki

    21 มีนาคม 2547 03:53 น. - comment id 234141

    ย้อนไปตอบกระทู้...@_,.*เก็บสิ่งดีมาใช้ด้วยปัญญา``@    
    tiki  
      @_,.-:*`*เก็บสิ่งดีมาใช้ด้วยปัญญา``_,.-:*`@  
    
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_49106.php
    
    
    ยิ่งอ่านยิ่งเย็นเมื่อหันกลับมาที่กระทู้ล่าสุดนี้จึง
    มาบันทึกไว้ถึงผลแห่งใจ...ในทางสายกลาง
    คือการตัดอารมณ์เข้าสู่ปัจจุบันธรรมนี้เป็นหัวใจ
    หรือ  แก่นของการ ปฏิบัติ ที่แท้ของชาวพุทธ
    
    ......หากเราเรียนทฤษฎีโดยตลอดแต่ไม่น้อมนำใจของเราลงฝ่าสงครามใจแล้ว เราจะไม่ทราบ
    ถึงการ**ประคองใจ**ให้ผ่องผุดเป็นบัวพ้นน้ำได้
    
    ........หลักที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเสมอคือปัจจุบันธรรมนี้ให้ประคองใจตนไปทางแห่ง
    ปัจจุบัน
    
    .....และการตัดอารมณ์ได้ไวเท่าใด
    ก็เป็นการฝึกตัดอบายในภาพหน้าได้ไวเท่านั้น
    
    
    ที่หน้าเว็บนี้...เป็นที่รวมของ เหล่าชนผู้มีอัตตาทิษฐิ สูงด้วยกันทุกคน..จึงเป็นการดีที่จะให้เรา
    ได้ฝึกปฏิบัติ อยู่กับ **ครู**
    
             ถ้ามัวแต่ เลือกรูปนามกันตรงนี้ อาจดูไม่ทัน
    แต่ถ้า ยึดตนเท่านั้นคัดสิ่งดี  ที่ชั่วทิ้ง..ใจก็ใส
    ได้เช่นกัน...
    
    หนทางไปสู่การตัดใจตัดปัจจุบันอารมณ์มีหลาย
    ร้อยกระแสวิธี
    
    ...ขึ้นอยู่กับเวลานั่นเราทำใจกับปัจจุบันนี้ได้
    ตรงเวลาหรือไม่ ?  
     จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki  
     รหัส - วัน เวลา : 238138 - 21 มี.ค. 47 - 03:25  
    
  • tiki

    21 มีนาคม 2547 17:37 น. - comment id 234380

    http://www.praphansarn.com/write2/QAview.asp?id=3625
  • ผู้หญิงไร้เงา

    22 มีนาคม 2547 00:18 น. - comment id 234668

    ทำสิ่งดีมีให้ใจสดใส
    ทำความชั่วคงหม่นไหม้ใจเศร้าหมอง
    ฉะนั้นหากคิดได้ให้ตรึกตรอง
    เราควรทำเป็นครรลองตรองแต่ดี
    
    *-*กลอนไพเราะดีค่ะ แต่งได้ดีค่ะ*-*
  • tiki

    22 มีนาคม 2547 02:35 น. - comment id 234739

    ทำสิ่งดีมีให้ใจสดใส
    ทำความชั่วคงหม่นไหม้ใจเศร้าหมอง
    ฉะนั้นหากคิดได้ให้ตรึกตรอง
    เราควรทำเป็นครรลองตรองแต่ดี
    
    *-*กลอนไพเราะดีค่ะ แต่งได้ดีค่ะ*-*  
     จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา  
     รหัส - วัน เวลา : 238671 - 22 มี.ค. 47 - 00:18  
    
    
    -ขอบคุณมากค่ะ น้องตูนขา
  tiki

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน