รักหลากสี

ลอยไปในสายลม

รักลอยลมห่มไออุ่นกรุ่นไอรัก
ต่างสมัครรักแท้แน่นอนเสมอ
รักลอยไปใกล้ชิดสนิทเธอ
รักล้นเอ่อเหม่อมองต้องจิตใจ
แต่ยามรู้ว่ารักร้าวเราเศร้าหมอง
มัวเหม่อมองท้องฟ้าน้ำตาไหล
คิดคำนึงถึงรักเราที่ผ่านไป
ในหัวใจช่างเยือกเย็นทุกวันคืน
ถึงแม้รักจักเจ็บปวดรวดร้าวจิต
แต่ชีวิตคิดมากไปใจขมขื่น
เมื่ออยากรักจักมั่นใจไม่กล้ำกลืน
อย่าไปฝืนขืนใจให้ร้าวราน
หากไม่เคยมีรักคงไม่รู้
ไม่ลองดูฤาจะรู้ถึงความหวาน
อันรักร้าวปล่อยให้ร้าวในวันวาน
รอพบพานรักใหม่อาจได้เจอ
ถ้าคิดรักก็จักต้องลองเชื่อมั่น
อย่าได้หวั่นปันใจไปเสมอ
หากรักแล้วแน่วแน่แม้ได้เจอ
ต้องรักเธอรักเธอเพียงคำเดียว...				
comments powered by Disqus
  • เมกกะ

    1 กรกฎาคม 2547 16:35 น. - comment id 291959

    กลิ่นหอมของดอกไม้ . . 
    อาจคล้ายกับกลิ่นไอของความรัก 
    ไม่อยากจากหากได้รู้จัก 
    เรื่องราวของความรัก คือความสุขใจ 
    
    แต่ความสุขมักอยู่ไม่นาน 
    เหมือนดอกไม้ที่หอมผ่านสายลมไหว 
    เมื่อความรักพัดผ่าน เมื่อความหวานจางไป 
    กลิ่นหอมของหัวใจ . . เก็บไว้ได้ แค่ ความทรงจำ
  • ลอยไปในสายลม

    2 กรกฎาคม 2547 11:24 น. - comment id 292162

    ตอบ คุณเมกกะ
    
    กลิ่นหอมของดอกไม้ . . 
    อาจคล้ายกับกลิ่นไอของความรัก 
    ไม่อยากจากหากได้รู้จัก 
    เรื่องราวของความรัก คือความสุขใจ 
    
    แต่ความสุขมักอยู่ไม่นาน 
    เหมือนดอกไม้ที่หอมผ่านสายลมไหว 
    เมื่อความรักพัดผ่าน เมื่อความหวานจางไป 
    กลิ่นหอมของหัวใจ . . เก็บไว้ได้ แค่ ความทรงจำ 
    ........................
    
    แม้ว่าเป็นเพียงความทรงจำ
    แต่คือความทรงจำที่มีค่า
    จะเฝ้าดูแลรักษา
    ให้มีค่าตลอดไป
    
    ขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยมชม
  • เมกกะ (พี่เมก)

    6 กรกฎาคม 2547 20:37 น. - comment id 294180

    ณ ราตรีมีโสมงามจรัสแสง 
    ดาวแต่งแต้มประทินฟ้าเวหาหาว 
    พระพายชื่นลูบไล้แสงแห่งดาว 
    สุขสกาวสว่างเพ็ญเย็นชื่นใจ 
    
    กระแสสินธิ์ยังไหนเอื้อยอย่างเชื่องช้า 
    หมู่มัจฉาต่างแหวกว่ายใต้ธารใส 
    วิหกเผอละเมอร้องกับเรไร 
    คงเสียใจอาลัยรักที่ร้างลา 
    
    ดอกปทุมอวบอูมอิ่มน้ำค้าง 
    เด่นอยู่กลางวารีสีเขียวขาว 
    พระจันทร์หยอกสายชลเพื่อมเป็นเหลื่อมพราว 
    แวววับวาวดังมณีบุรีพรหม 
    
    ขุนคีรีโค้งงามทอดตามหล้า 
    ดังอ่อนร่างชมความงามเวหาหน 
    หรือเจ้าถูกลมเล้าลามเลียลน 
    จึงผ่อนปรนโอนอ่อนร่างตามลมเลียฯ 
    
    สุมามาสแจ่มฟ้า จรูญหาว 
    พราวพร่างจรัสดาว แต่งแต้ม 
    พระพายรื่นเชยดาววาว ยวนหยั่ว 
    ยามค่ำบุหลันแจ้ง แจ่มจ้าฟ้างามฯ 
    
    ธาราสงบนิ่งคล้าย หยุดไหล 
    มัจฉาว่ายเวียนไป ทั่วคุ้ง 
    ลมเชยผ่านปทุมไหว โดดเด่นงามเลิศ 
    โสมส่องชลเหลื่อมรุ้ง ดั่งแก้วเมืองเทวัญฯ 
    
    ปักษาผวากู่ก้อง พงพนา 
    ดุจดังเสียงโหยหา ร่ำไห้ 
    อาดูรคู่เคียงคลาด จรถิ่นจรไกล 
    ทุกค่ำคืนร่ำไห้ คั่งคั้นทรวงกมลฯ 
    
    พนมนอบร่างโน้ม ตามภพ 
    กายอ่อนทอดจด แผ่นหล้า 
    ขุนเขาแกร่งยังสยบ นบแด่เบื้องนภา 
    งามสิ่งใดกล่าวอ้าง บ่สู้งามโพยมฯ 
    .แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า.
    
    แวะมารอคอยการกลับมาเขียนอีกครั้งนะครับ
  • ลอยไปในสายลม

    6 กรกฎาคม 2547 21:06 น. - comment id 294197

    แต่งกลอนได้เพราะพริ้ง     เสนาะหู
    เราต่างชอบมาดู                 สิ่งนี้
    กลอนอันงดงามอยู่             ไม่ห่าง
    อยากขอบคุณพี่นี้               จากน้อง  ด้วยใจ
    
    ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่ค่อยมาต้องขอโทษด้วย ไม่ค่อยว่างค่ะ เรียนเยอะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน