เสียงรำพึง...จากผู้เฒ่า.

กุ้งหนามแดง

*โคลงสี่สุภาพ*
ประสบการณ์ก่อนสร้าง........บุคคล
คงเชี่ยวชาญการกล.............ไม่น้อย
นอบน้อมย่อมนำผล.............เลิศก่อ
เผยแผ่ความรู้ร้อย...............เรื่องล้ำยลยิน
ถือตัวว่าข้าแน่......................เกินใคร
วุฒิว่อนวิทยาใด...................เด่นพร้อม
หูตาไม่กว้างไกล...................มัวกร่าง
รอบร่างหรือแวดล้อม............แผ่นปิ้งตำรา


*กาพย์ฉบัง ๑๖*
ผู้เฒ่าอาบน้ำมาก่อน..............รู้ลึกหนาวร้อน
น้อมกรประทับรับฟัง
สังขารล่วงโรยพลัง..............ควรหรือโอหัง
ไม่แก่บ้างให้แล้วไป
คุณวุฒิมีเพื่ออะไร.................คงจะไม่ใช่
เอาไว้แสดงแบ่งตน
ปัญญารับใช้มวลชน..............อย่าสัปดน
สร้างผลนอกเหนือตำรา
color=#3C0060>
ได้มีโอกาสคุยกับผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ในใจความนั้นท่านพูดถึงบัณฑิตที่จบมาใหม่ๆ
ยังขาดประสบการณ์ ควรร่วมมือกันปรึกษากับผู้มีความรู้เดิม แม้จะไม่มีคุณวุฒิ
เทียบเท่ากัน ก็ตาม...เพื่อประโยชน์ในงานส่วนรวมนั้นจึงนำเล่าสู่กันฟัง..
				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    11 กันยายน 2547 11:13 น. - comment id 328944

    เป็นความคิดที่ดีค่ะ การผสมผสานระหว่างใหม่กับเก่า จะทำให้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้น ส่วนการเคารพผู้อาวุโสก็เป็นธรรมเนียมที่ดีของคนไทยอยู่แล้ว เขียนดีค่ะ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    11 กันยายน 2547 12:30 น. - comment id 328972

    เสียงผู้เฒ่ากระซิบบอกข้อความ
    กลั้นไอจามนอนแบบเสียงแหบโหย
    สังขารล่องเนื้อหนังช่างล่วงโรย
    ร้องโอดโอยก่อนครางคำสั่งลา
    
    คนเฒ่า ก็ยังอยากจะอยู่ดูลูกหลาน  ..ไม่อยากตาย
  • namsai

    11 กันยายน 2547 13:18 น. - comment id 329013

     
    เสียงรำพึงของผู้เฒ่า
    
    คิดถึงลูกน้อยที่ห่างหาย
    
    อยากเห็นหน้าของเจ้าก่อนจะตาย
    
    ส่งให้เรียนในเมืองใหญ่ไม่กลับคอน...
    
    +++++++++++++++++++++++++++++++++
    ผู้เฒ่า...
    
    ..........ทุกชีวิต...
    
    .................ก้อเดินทางไป...
    
    ............................สู่ความชรา......
    
    ..................................ทุกๆๆนาทีที่หายใจ..
    
    .......เข้าและออก.....นะ..
    
    +++++++++++++++++++++++++++++++
    
    ^____^
    
    
     
  • Robert TingNongNoi

    11 กันยายน 2547 15:06 น. - comment id 329107

     
    ประสบการณ์ที่ได้มา ถ้าขาดซึ่งปรัชญา
    ชี้ทาง มันก็เป็นเรื่องยากที่จะให้คนเชื่อ
    ถือนะครับ ในขณะเดียวกัน ความรู้ท่วม
    หัว แต่ก็เอาตัวไม่รอด   มันจึงเป็นเรื่อง
    ที่ยากในการตัดสินความพอเหมาะพอดี
    แต่อย่างไรเสีย เดินตามรอยผู้ใหญ่หมา
    ไม่กัดครับ ควรเป็นหลักของคนรุ่นใหม่  ๚ะ๛
    
    size> 
  • ชัยชนะ

    11 กันยายน 2547 15:42 น. - comment id 329138

    เป็นคนแก่แก่กล้า      วิชา
    ประสบการณ์ทำมา       มากล้น
    อย่าเห็นว่าชรา            ถีบส่ง
    ได้ประโยชน์คว้าค้น    ไม่ด้อยมากมาย
    
    
  • อัลมิตรา

    11 กันยายน 2547 16:00 น. - comment id 329157

    เดือนที่แล้ว มีโอกาสสนทนากับลุงอ่ำ คุยเรื่องเอนทรานซ์ อัลมิตราถามว่า เพียงเอนทรานซ์ไม่ติด จะถึงว่าล้มเหลวในการศึกษาหรือเปล่า ลุงอ่ำตอบว่า ไม่ใช่แต่ใช่ .. เล่นเอางง อยู่นาน จากนั้น ลุงอ่ำก็ค่อยๆ อธิบายมาในส่วนของไม่ใช่ก่อน ที่จะวกมาเป็นใช่ในภายหลัง และพอจะสรุปให้ในความหมายพอเข้าใจในระดับหนึ่ง ( ตอนนี้ เริ่มมางงอีกหน ย้อนคิดไป ก็วกวน )
    
    ผู้เฒ่าหลายคน ( เฒ่าจริง + เฒ่าปลอม ) ต่างก็พยายามชี้แนะ หนทางที่ถูกต้องให้กับคนรุ่นหลัง แต่ทว่าอารยะธรรมและขนบต่างๆ ผันไปเร็วจนตามไม่ค่อยจะทัน บางที ผู้เฒ่า และ ผู้ไม่เฒ่า อาจจะต้องจับเข่าคุยกัน และ แชร์ความคิดเห็น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ทั้งนั้น ก็คงอยู่ภายใต้กรอบแห่งความเคารพในสิทธิ์นั้นๆเช่นกัน ..
    
    ติเพื่อก่อ ล้อเพื่อสร้าง ทางจะรุ่ง
    มิใช่มุ่ง ถือตนถูก ผูกความเห็น
    อาบน้ำร้อน มาก่อนนั้น ผันประเด็น
    มาวกเข่น ใครมิตาม ก็หยามหยัน
    
    หากเช่นนั้น คงเหลือรอย ชะรอยแยก
    มีแต่แตก มีแต่หัก ผลักพลิกผัน
    แทนที่จะ ร่วมรุ่งเรือง ประเทืองกัน
    ก็มาบั่น ให้ถอยถด หมดศรัทธา
    
    เสียงรำพึง จากผู้เฒ่า ก็เข้าจิต
    เสียงของมิตร ผู้อ่อนวัย ใช่ไร้ค่า
    เสียงเพื่อสรรค์ วรรณกรรม เพื่อนำพา
    อย่าแบ่งชั้น  เบ่งทีท่า ว่าก่อนกาล
    
    :) 
    
    
    
  • ม.ปณิธาน

    11 กันยายน 2547 16:13 น. - comment id 329167

    ความเห็นคุณ อัลมิตรา
    
    ถ้าจะคิดง่ายๆอย่างคนที่ไม่ใช่ผู้เฒ่าอย่างผมคือว่า ไม่ใช่ เพราะเรายังมีทางที่จะศึกษาเรื่องใดๆได้ในอนาคตเพราะมหาวิทยาลัยมิใช่หนทางเดียวหรือสถานที่เดียวที่จะให้ความรู้ แต่ที่ว่าใช่ เพราะว่าเราล้มเหลวในอดีตคือเราศึกษามาไม่ดีพอหรืออาจจะเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆจึงทำให้ผ่านจุดนี้ไม่ได้ครับ
    
    ฉะนั้น ถ้ามองระยะสั้นถือว่าล้มเหลวแต่ถ้ามองระยะยาวถือว่ายังไม่ล้มเหลวถ้ามีความตั้งมั่นและตั้งใจ ;)
  • ม.ปณิธาน

    11 กันยายน 2547 16:15 น. - comment id 329169

    เห็นด้วยอย่างยิ่งกับที่คุณ กุ้งหนามแดง เขียนอย่างมากที่สุดเลยครับ
  • แก้วประเสริฐ

    11 กันยายน 2547 16:16 น. - comment id 329170

    ได้มีโอกาสคุยกับผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ในใจความนั้นท่านพูดถึงบัณฑิตที่จบมาใหม่ๆ
    ยังขาดประสบการณ์ ควรร่วมมือกันปรึกษากับผู้มีความรู้เดิม แม้จะไม่มีคุณวุฒิ
    เทียบเท่ากัน ก็ตาม...เพื่อประโยชน์ในงานส่วนรวมนั้นจึงนำเล่าสู่กันฟัง..
    .......................................................................
                 เป็นหลักแสวงหาอย่างแท้จริงครับ ความรู้ที่คนศรัทธาไม่จำเป็นต้องได้รับปริญญา ตาสีตาสาบางท่านก็มีภูมิปัญญามากกว่าคนที่ได้รับปริญญาก็ยังมีอีกมาก   หากได้ช่วยกันจรรโลงความรู้ความสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวม สังคม บุคคล ชาติก็จะเจริญรุ่งเรือง อนุชนรุ่นหลังก็ยังสามารถเรียนรู้ได้ครับ   เป็นแนวความคิดทีดีเยี่ยมมาก ที่ เพื่อนเราเอามาแผยแพร่ไว้ ขอบใจมากจ้า
    
                             แก้วประเสริฐ.
  • ม.ปณิธาน

    11 กันยายน 2547 16:31 น. - comment id 329188

    ชอบกับสิ่งที่คุณ กุ้ง สื่อออกมานี้จัง เข้ามาอ่านอีกครั้ง ;)
  • plaing_piu

    11 กันยายน 2547 17:23 น. - comment id 329215

    ...คนที่ประสงค์เพียงแต่จะหากินเลี้ยงชีพให้เป็นสุขสำราญไปวันๆหนึ่งนั้น ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะมาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย  เพราะคนเกือบทั้งประเทศก็ไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย  แต่เขาก้เลี้ยงตัวและครอบครัวมีความสุขความสบายไปตามเรื่องไปตามทางของเขา  และที่ตั้งตัวร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมาก็มีไม่น้อย   เพราะฉะนั้นผมจึงเห็นว่า  การที่เรามาเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อจะศึกษาให้ได้วิชาความรู้นั้น จะต้องมีความมุ่งหมายที่อยู่เหนือไปกว่าเพียงมาขนเอาวิชาไปทำมาหากินเลี้ยงชีพเพื่อตัวเราเท่านั้น เราควรจะมีความมุ่งหมายเพื่อจะได้ช่วยผู้อื่นที่ช่วยตนเองไม่ได้ เพื่อจะได้รับใช้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นนอกไปจากครอบครัวของเรา......
    
    
    ........คำขานรับ    
                              ศรีบูรพา   
                                      18/มิ.ย./2493
                                           ( เดลิเมล์วันจันทร์)
    
    
  • เมกกะ

    11 กันยายน 2547 20:48 น. - comment id 329275

    ต้นไม้เมื่อยังเล็กเป็นต้นกล้าอยู่   จำเป็นต้องมีหลักค้ำประคองไว้
    ป้องกันไม่ให้ล้มรากขาดตายเสียก่อนฉันใด  ผู้ที่หวังความเจริญก้าวหน้า
    ก็จำเป็นต้องบูชาบุคคลที่ควรบูชา ไว้เป็นตัวอย่างการดำเนินชีวิตที่ถูก
    เป็นหลักใจ ป้องกันความเห็นผิดและอกุศลกรรมต่างๆ   มิให้ย้อนกลับกำเริบขึ้นมาอีกฉันนั้น
    
    
    ผู้ใด พึงบูชาท่านผู้อบรมตนแล้วผู้หนึ่ง แม้เพียงครู่เดียว 
    การบูชาของผู้นั้น ประเสริฐกว่าการบูชาของบุคคลผู้บูชา 
    (โลกิยมหาชน) ด้วยทรัพย์เดือนละพัน ตลอดร้อยปี 
    ขุ. ธ. ๒๕/๑๘/๒๙
    
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+เพื่อคุณพ่อผู้ล่วงลับ+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • คนจำแลง

    11 กันยายน 2547 22:58 น. - comment id 329320

    มีความสามารถแล้ว พอที่จะสืบสานได้บ้าง ก็จงหมั่นกระทำเถิด..เยาวชนเบื้องหลังมากมาย..
    
    แม้จะเป็นเพียงเชือกเส้นเล็กๆ ก็ควรทำให้มีค่า..ดีกว่าปล่อยให้เยาวชนไปพบเจอสิ่งไม่ดี อย่างน้อยการเขียน ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย..
    
    เวลามีคนใหม่เข้ามา โดยเฉพาะเยาวชน อย่าปล่อยให้เค้าคิดว่า ณ.ตรงนี้มีความอ้างว้าง..
    
    คนละไม้ละมือ ย่อมเกิดประโยชน์ได้บ้าง..
  • กุ้งหนามแดง

    12 กันยายน 2547 10:17 น. - comment id 329491

    ตอบกลับน่ะค่ะ ข้ามวันข้ามคืน เป็นแบบฉบับของตัวเองชะมัดเลย...
    
    ความคิดเห็น : เป็นความคิดที่ดีค่ะ การผสมผสานระหว่างใหม่กับเก่า จะทำให้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้น ส่วนการเคารพผู้อาวุโสก็เป็นธรรมเนียมที่ดีของคนไทยอยู่แล้ว เขียนดีค่ะ  
    จาก : รหัสสมาชิก : 1972 - เพียงพลิ้ว  
    รหัส - วัน เวลา : 335304 - 11 ก.ย. 47 - 11:13  
    
    >>>>> ค่ะ ได้คุยกับผู้อาวุโสท่านนั้นแล้ว ท่านเองก็ว่าไม่ใช่ว่าจะว่าเด็กรุ่นใหม่ เพราะบางอย่างที่ใหม่ๆ ท่านก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพียงแต่ให้เปิดใจยอมรับ
    กันบ้าง เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์..เพื่อผลงานจะออกมาดีขึ้นค่ะ..ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ...
     
     
     
    ความคิดเห็น : เสียงผู้เฒ่ากระซิบบอกข้อความ
    กลั้นไอจามนอนแบบเสียงแหบโหย
    สังขารล่องเนื้อหนังช่างล่วงโรย
    ร้องโอดโอยก่อนครางคำสั่งลา
    
    คนเฒ่า ก็ยังอยากจะอยู่ดูลูกหลาน  ..ไม่อยากตาย  
     จาก : รหัสสมาชิก : 4068 - ฤกษ์ ชัยพฤกษ์  
     รหัส - วัน เวลา : 335332 - 11 ก.ย. 47 - 12:30   
    
    >>>>  เสียงกระซิบจากเฒ่าเรายินถ้อย
              ใจดวงน้อยรับรู้ดังครูสอน
              ประโยชน์ตนประโยชน์ท่านไม่ขาดตอน
              จึงอ้อนวอนเห็นใจในชรา
    
    อื้อ! ทำประโยชน์จนลมหายใจสุดท้าย..
     
     ความคิดเห็น : 
    เสียงรำพึงของผู้เฒ่า
    
    คิดถึงลูกน้อยที่ห่างหาย
    
    อยากเห็นหน้าของเจ้าก่อนจะตาย
    
    ส่งให้เรียนในเมืองใหญ่ไม่กลับคอน...
    
    +++++++++++++++++++++++++++++++++
    ผู้เฒ่า...
    
    ..........ทุกชีวิต...
    
    .................ก้อเดินทางไป...
    
    ............................สู่ความชรา......
    
    ..................................ทุกๆๆนาทีที่หายใจ..
    
    .......เข้าและออก.....นะ..
    
    +++++++++++++++++++++++++++++++
    
    ^____^
    
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 7052 - namsai  
     รหัส - วัน เวลา : 335373 - 11 ก.ย. 47 - 13:18   
     
    >>>>>> อย่าเพียงแต่อ้างเวลา
                 ไปมาหาสู่กันบ้าง
                 อย่าปล่อยให้แม่คอยร้าง
                 ทิ้งขว้างไม่เคยเหลียวแล
              
                 ทุกลมหายใจอย่างประมาทค่ะ...แก่ไปทุกขณะจิต จริงๆ .. 
    
                 ขอบคุณที่แวะทักทายค่ะ
     
     ความคิดเห็น : 
    ประสบการณ์ที่ได้มา ถ้าขาดซึ่งปรัชญา
    ชี้ทาง มันก็เป็นเรื่องยากที่จะให้คนเชื่อ
    ถือนะครับ ในขณะเดียวกัน ความรู้ท่วม
    หัว แต่ก็เอาตัวไม่รอด   มันจึงเป็นเรื่อง
    ที่ยากในการตัดสินความพอเหมาะพอดี
    แต่อย่างไรเสีย เดินตามรอยผู้ใหญ่หมา
    ไม่กัดครับ ควรเป็นหลักของคนรุ่นใหม่  ๚ะ๛
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 8650 - Robert TingNongNoi  
     รหัส - วัน เวลา : 335467 - 11 ก.ย. 47 - 15:06   
     
    >>>>> นั่นสิค่ะ ทุกอย่างก็ต้องอยู่ที่ความพอดีค่ะ ทางสายกลาง (แวะเข้าหาธรรมะอีกแล้ว ก็มันเข้าใจง่ายดีนี่ะค่ะ ไม่ต้องเปรียบเทียบมาก) 
     
     ความคิดเห็น : เป็นคนแก่แก่กล้า      วิชา
    ประสบการณ์ทำมา       มากล้น
    อย่าเห็นว่าชรา            ถีบส่ง
    ได้ประโยชน์คว้าค้น    ไม่ด้อยมากมาย
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 5053 - ชัยชนะ  
     รหัส - วัน เวลา : 335500 - 11 ก.ย. 47 - 15:42   
     
    >>>>> ประสบการณ์ท่านทั้ง......ขีวิต
               ก็ย่อมรู้ถูกผิด..............ไม่น้อย
               อับจนทางความคิด........หาไม่
               ควรรือจะถีบถ้อย..........ปล่อยขว้างเสียดาย
     
     
     ความคิดเห็น : 
    เดือนที่แล้ว มีโอกาสสนทนากับลุงอ่ำ คุยเรื่องเอนทรานซ์ อัลมิตราถามว่า เพียงเอนทรานซ์ไม่ติด จะถึงว่าล้มเหลวในการศึกษาหรือเปล่า ลุงอ่ำตอบว่า ไม่ใช่แต่ใช่ .. เล่นเอางง อยู่นาน จากนั้น ลุงอ่ำก็ค่อยๆ อธิบายมาในส่วนของไม่ใช่ก่อน ที่จะวกมาเป็นใช่ในภายหลัง และพอจะสรุปให้ในความหมายพอเข้าใจในระดับหนึ่ง ( ตอนนี้ เริ่มมางงอีกหน ย้อนคิดไป ก็วกวน )
    
    ผู้เฒ่าหลายคน ( เฒ่าจริง + เฒ่าปลอม ) ต่างก็พยายามชี้แนะ หนทางที่ถูกต้องให้กับคนรุ่นหลัง แต่ทว่าอารยะธรรมและขนบต่างๆ ผันไปเร็วจนตามไม่ค่อยจะทัน บางที ผู้เฒ่า และ ผู้ไม่เฒ่า อาจจะต้องจับเข่าคุยกัน และ แชร์ความคิดเห็น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ทั้งนั้น ก็คงอยู่ภายใต้กรอบแห่งความเคารพในสิทธิ์นั้นๆเช่นกัน ..
    
    ติเพื่อก่อ ล้อเพื่อสร้าง ทางจะรุ่ง
    มิใช่มุ่ง ถือตนถูก ผูกความเห็น
    อาบน้ำร้อน มาก่อนนั้น ผันประเด็น
    มาวกเข่น ใครมิตาม ก็หยามหยัน
    
    หากเช่นนั้น คงเหลือรอย ชะรอยแยก
    มีแต่แตก มีแต่หัก ผลักพลิกผัน
    แทนที่จะ ร่วมรุ่งเรือง ประเทืองกัน
    ก็มาบั่น ให้ถอยถด หมดศรัทธา
    
    เสียงรำพึง จากผู้เฒ่า ก็เข้าจิต
    เสียงของมิตร ผู้อ่อนวัย ใช่ไร้ค่า
    เสียงเพื่อสรรค์ วรรณกรรม เพื่อนำพา
    อย่าแบ่งชั้น  เบ่งทีท่า ว่าก่อนกาล
    
    :) 
    
    
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา  
     รหัส - วัน เวลา : 335519 - 11 ก.ย. 47 - 16:00   
     
    >>>>> ถูกต้องค่ะ อันนี้อยู่ที่การวางตัวของสองฝ่ายด้วย ผู้ใหญ่ต้องมีเมตตากับเด็กให้มากๆ และเด็กก็ต้องรับฟังและนำมาปรับใช้ เพื่อประโยชน์
    ทั้งสองฝ่ายค่ะ... ส่วนเรื่องเอนทรานซ์ ขอเว้นไว้พูดวันหลังน่ะค่ะ...แหะแหะ..
     
     ความคิดเห็น : ความเห็นคุณ อัลมิตรา
    
    ถ้าจะคิดง่ายๆอย่างคนที่ไม่ใช่ผู้เฒ่าอย่างผมคือว่า ไม่ใช่ เพราะเรายังมีทางที่จะศึกษาเรื่องใดๆได้ในอนาคตเพราะมหาวิทยาลัยมิใช่หนทางเดียวหรือสถานที่เดียวที่จะให้ความรู้ แต่ที่ว่าใช่ เพราะว่าเราล้มเหลวในอดีตคือเราศึกษามาไม่ดีพอหรืออาจจะเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆจึงทำให้ผ่านจุดนี้ไม่ได้ครับ
    
    ฉะนั้น ถ้ามองระยะสั้นถือว่าล้มเหลวแต่ถ้ามองระยะยาวถือว่ายังไม่ล้มเหลวถ้ามีความตั้งมั่นและตั้งใจ ;)  
     จาก : ม.ปณิธาน  
     รหัส - วัน เวลา : 335529 - 11 ก.ย. 47 - 16:13   
     
    >>>>> การศึกษามิได้จำกัดอยู่ที่สถาบันน่ะค่ะ ผู้ที่มิได้ศึกษาในสถาบัน ก็มีเยอะค่ะ ขอเพียงเป็นคนดีของสังคมก็น่าจะเพียงพอ..
     
     ความคิดเห็น : เห็นด้วยอย่างยิ่งกับที่คุณ กุ้งหนามแดง เขียนอย่างมากที่สุดเลยครับ  
     จาก : ม.ปณิธาน  
     รหัส - วัน เวลา : 335531 - 11 ก.ย. 47 - 16:15   
    
    >>>>> ขอบคุณค่ะ
     
     
     ความคิดเห็น :          ได้มีโอกาสคุยกับผู้เฒ่าท่านหนึ่ง ในใจความนั้นท่านพูดถึงบัณฑิตที่จบมาใหม่ๆ
    ยังขาดประสบการณ์ ควรร่วมมือกันปรึกษากับผู้มีความรู้เดิม แม้จะไม่มีคุณวุฒิ
    เทียบเท่ากัน ก็ตาม...เพื่อประโยชน์ในงานส่วนรวมนั้นจึงนำเล่าสู่กันฟัง..
    .......................................................................
                 เป็นหลักแสวงหาอย่างแท้จริงครับ ความรู้ที่คนศรัทธาไม่จำเป็นต้องได้รับปริญญา ตาสีตาสาบางท่านก็มีภูมิปัญญามากกว่าคนที่ได้รับปริญญาก็ยังมีอีกมาก   หากได้ช่วยกันจรรโลงความรู้ความสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวม สังคม บุคคล ชาติก็จะเจริญรุ่งเรือง อนุชนรุ่นหลังก็ยังสามารถเรียนรู้ได้ครับ   เป็นแนวความคิดทีดีเยี่ยมมาก ที่ เพื่อนเราเอามาแผยแพร่ไว้ ขอบใจมากจ้า
    
                             แก้วประเสริฐ.  
     จาก : รหัสสมาชิก : 6104 - แก้วประเสริฐ  
     รหัส - วัน เวลา : 335532 - 11 ก.ย. 47 - 16:16   
     
    >>>>> ค่ะ เพื่อนรัก เป็นเช่นนั้นจริงๆ ... 
     
     ความคิดเห็น : ชอบกับสิ่งที่คุณ กุ้ง สื่อออกมานี้จัง เข้ามาอ่านอีกครั้ง ;)  
     จาก : รหัสสมาชิก : 8530 - ม.ปณิธาน  
     รหัส - วัน เวลา : 335550 - 11 ก.ย. 47 - 16:31   
     
    >>>>> ขอบคุณอีกสักครั้งค่ะ.. 
     
     ความคิดเห็น : ...คนที่ประสงค์เพียงแต่จะหากินเลี้ยงชีพให้เป็นสุขสำราญไปวันๆหนึ่งนั้น ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะมาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย  เพราะคนเกือบทั้งประเทศก็ไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย  แต่เขาก้เลี้ยงตัวและครอบครัวมีความสุขความสบายไปตามเรื่องไปตามทางของเขา  และที่ตั้งตัวร่ำรวยมั่งคั่งขึ้นมาก็มีไม่น้อย   เพราะฉะนั้นผมจึงเห็นว่า  การที่เรามาเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อจะศึกษาให้ได้วิชาความรู้นั้น จะต้องมีความมุ่งหมายที่อยู่เหนือไปกว่าเพียงมาขนเอาวิชาไปทำมาหากินเลี้ยงชีพเพื่อตัวเราเท่านั้น เราควรจะมีความมุ่งหมายเพื่อจะได้ช่วยผู้อื่นที่ช่วยตนเองไม่ได้ เพื่อจะได้รับใช้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นนอกไปจากครอบครัวของเรา......
    
    
    ........คำขานรับ    
                              ศรีบูรพา   
                                      18/มิ.ย./2493
                                           ( เดลิเมล์วันจันทร์)
    
      จาก : plaing_piu  
     รหัส - วัน เวลา : 335577 - 11 ก.ย. 47 - 17:23   
     
    >>>>> ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ที่ยกมาค่ะ ยังมีเรื่องที่กุ้งยังไม่ทราบอีกมาก ยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยน่ะค่ะ  
     
     ความคิดเห็น : ต้นไม้เมื่อยังเล็กเป็นต้นกล้าอยู่   จำเป็นต้องมีหลักค้ำประคองไว้
    ป้องกันไม่ให้ล้มรากขาดตายเสียก่อนฉันใด  ผู้ที่หวังความเจริญก้าวหน้า
    ก็จำเป็นต้องบูชาบุคคลที่ควรบูชา ไว้เป็นตัวอย่างการดำเนินชีวิตที่ถูก
    เป็นหลักใจ ป้องกันความเห็นผิดและอกุศลกรรมต่างๆ   มิให้ย้อนกลับกำเริบขึ้นมาอีกฉันนั้น
    
    
    ผู้ใด พึงบูชาท่านผู้อบรมตนแล้วผู้หนึ่ง แม้เพียงครู่เดียว 
    การบูชาของผู้นั้น ประเสริฐกว่าการบูชาของบุคคลผู้บูชา 
    (โลกิยมหาชน) ด้วยทรัพย์เดือนละพัน ตลอดร้อยปี 
    ขุ. ธ. ๒๕/๑๘/๒๙
    
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+เพื่อคุณพ่อผู้ล่วงลับ+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 7555 - เมกกะ  
     รหัส - วัน เวลา : 335640 - 11 ก.ย. 47 - 20:48   
     
    >>>>> อืม! ค่ะ ปฏิบัติบูชา ย่อมส่งผลมากกว่าอามิสบูชา...ขอบคุณสำหรับหลักการที่แนะนำมาค่ะ 
     
     ความคิดเห็น : มีความสามารถแล้ว พอที่จะสืบสานได้บ้าง ก็จงหมั่นกระทำเถิด..เยาวชนเบื้องหลังมากมาย..
    
    แม้จะเป็นเพียงเชือกเส้นเล็กๆ ก็ควรทำให้มีค่า..ดีกว่าปล่อยให้เยาวชนไปพบเจอสิ่งไม่ดี อย่างน้อยการเขียน ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย..
    
    เวลามีคนใหม่เข้ามา โดยเฉพาะเยาวชน อย่าปล่อยให้เค้าคิดว่า ณ.ตรงนี้มีความอ้างว้าง..
    
    คนละไม้ละมือ ย่อมเกิดประโยชน์ได้บ้าง..  
     จาก : คนจำแลง   
     
    >>>>> รับทราบค่ะ...ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดี ๆ ที่มีให้เสมอมาค่ะ เมื่อใดที่ได้รับโอกาสแล้วเมื่อนั้นควรจะตอบแทนสังคมตามกำลัง
    และความสามารถของตน  
    
    ..การเขียนไม่ใช่เรื่องเลวร้าย...
    
    ...
  • คนเมืองลิง

    12 กันยายน 2547 14:57 น. - comment id 329668

    เห็นด้วยค่ะ ....
    
    ผลงานที่เปี่ยมคุณภาพ ^___^

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน