ณ.รอยเดิม

กุ้งหนามแดง

น้ำเงินครามปูลาดพาดคุ้งน้ำ
สิงขรค้ำคู่เคียงเรียงพฤกษา
ลมรำเพยพริ้วผ่านลานมาลา
สกุณาขับขานหวานละมุน
ระลอกคลื่นตามลมผสมส่ง
สลายลงในทางร้างแรงหนุน
เมฆาคล้อยเคลื่อนทัพรับอรุณ
รอวรุณโปรยปรายเติมสายธาร..
จะล้างรอยหม่นหมองของท้องฟ้า
จะชุบกล้าผลิใบใหม่ประสาน
จะลบคืนไหวหวั่นในกันดาร
จะสมานชุ่มชื่นคืนแดนดิน..				
comments powered by Disqus
  • แอ็ปเปิ้ล

    21 มกราคม 2548 10:30 น. - comment id 410307

    งดงามทั้งภาพ และ อักษร เลยคะ ^___^
    
    ชอบจัง ธรรมชาติงดงามเช่นนี้
    
    แวะมาทักทายจ้า....
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    21 มกราคม 2548 10:45 น. - comment id 410320

    รูปสวย..กลอนงดงามครับ..แวะมาทักทายครับผม..
  • สิทธา

    21 มกราคม 2548 10:54 น. - comment id 410332

    คุ้งน้ำ.......กันดาร
    ??????
    
    ใช้คำขัดแย้งในตัวเองอีกหลายๆจุด
    
    ฯลฯ
    
    
    เกลาอีกสักรอบดีกว่าม้างงงงง
    
    
    
    
  • กุ้งหนามแดง

    21 มกราคม 2548 11:02 น. - comment id 410344

    คุณ Apple..
    
    ขอบคุณค่ะ...
    
    .....................................................................
    
    คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้..
    
    ขอบคุณค่ะ..
    
    .....................................................................
    
    คุณสิทธา..
    
    จริงแฮะ..แต่ไม่เกลา...เอาไว้เป็นบทเรียน..สอนตัวเองกับคนอื่น..ดีกว่า...กระมัง..น่าจะมีประโยชน์กว่า...ยอมเสียหน้า..เพราะปล่อยไก่มาหลายร้อยตัวแล้ว..ปล่อยอีกสักตัวคงไม่เป็นไร..
    
    ความผิดพลาด ทำให้รู้ว่าต่อไปควรเขียนยังไง..
    น่ะจ๊ะ..
    
    ขอบคุณค่ะ...ยินดีที่กล้าแนะนำตรงๆ...ว่าแต่ ฯลฯ นี่ยังมีตรงไหนอีก...น่าจะบอกเราให้หมดน่ะ..
    
    :)  
    .....................................................................
  • ธรรณกับวุ้นเส้น

    21 มกราคม 2548 11:34 น. - comment id 410367

    เพราะดีคับ อบอุ่นละมุนดีมาก แต่ไม่รู้ความหมายหลายคำ ผมไม่เก่งไทยอ่ะคับ
  • ผลิใบสู่วัยกล้า ( ไม่ได้ล๊อกอิน)

    21 มกราคม 2548 11:39 น. - comment id 410370

    งดงามมากครับ
    
    
  • กุ้งหนามแดง

    21 มกราคม 2548 12:17 น. - comment id 410407

    คุณธรรณกับวุ้นเส้น..
    ความหมายตามด้านล่างนี้ค่ะ..
    
    http://rirs3.royin.go.th/ridictionary/lookup.html
    
    สิงขร = ยอดเขา
    พฤกษา = ต้นไม้
    รำเพย = พัดโชยๆ
    สกุณา = นก
    ละมุน = อ่อนนุ่ม, นุ่มนวล
    เมฆา = เมฆ
    อรุณ = เวลาใกล้พระอาทิตย์จะขึ้น มี ๒ ระยะ คือ มีแสงขาวเรื่อๆ (แสงเงิน) และแสงแดงเรื่อๆ (แสงทอง), เวลาย่ำรุ่ง
    วรุณ = พระพิรุณ, เทวดาแห่งน้ำ, เทวดาแห่งฝน
    กล้า = ต้นข้าวที่เพาะไว้สำหรับย้ายไปปลูกที่อื่น, โดยอนุโลม เรียกพืชที่เพาะไว้สำหรับย้ายไปปลูกในที่อื่นว่า กล้า เช่น กล้าพริก กล้ามะเขือ
    ประสาน = ทำให้เข้ากันสนิท, เชื่อม
    กันดาร = อัตคัด, ฝืดเคือง, ลำบาก, แห้งแล้ง, คำนี้มักใช้แก่เวลา ท้องที่ หรือถิ่นที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น กันดารข้าว กันดารน้ำ คราวกันดาร ทางกันดาร ที่กันดาร
    สมาน = เสมอกัน, เท่ากัน
    
    คุณผลิใบ..
    
    ขอบคุณค่ะ...
  • แก้วประเสริฐ

    21 มกราคม 2548 12:28 น. - comment id 410415

    ไหวยะเยือกลมผ่านระรานจิต
    จนความคิดพุ่งไปไกลสุดแสน
    ถึงคนรักยากยิ่งต่างถิ่นแดน
    ช่างเหลือแผ่นภาพไว้ให้ชื่นชม
            ยกขึ้นส่องมองภาพวาบหวิวหวั่น
    รู้สึกพรั่นสั่นเข้าไปไม่เคียงสม
    ความรักหนอพนอไว้กลายเป็นลม
    ให้ตรอมตรมข่มไว้คล้ายคีรี........
               อิอิ ล้อยอดเพื่อนนิ.....
                  แก้วประเสริฐ.
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    21 มกราคม 2548 12:59 น. - comment id 410433

    ประทับใจมากนะคะคุณกุ้ง...
    
    มาขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^_^
    ..............................................................
    ลี่...ผู้มาเยือน
    .
  • คนเมืองลิง

    21 มกราคม 2548 13:11 น. - comment id 410444

    อารมณ์กวีจริงๆเลยคุณกุ้งเนี่ย สวยงามมากค่ะ หิวแล้วค่ะขอเวลานอกไปกินอาหารเที่ยงก่อนนะคะ
  • สิทธา

    21 มกราคม 2548 13:53 น. - comment id 410478

    ระลอกคลื่นตามลมผสมส่ง
    สลายลงในทางร้างแรงหนุน
    
    
    วรรคสองมาตามกลอน  ความไม่มีเอกภาพ
  • ฟ้าไม่เก่า

    21 มกราคม 2548 14:08 น. - comment id 410484

    จ้าวครองฟ้าไม่อยู่..ดีใจจังได้ออกมาซน..
    คุงปู่กับอาเฮียก็ยุ่ง..หนุ่มไฮโซ(โซซัดโซเซ)..ประจำสำนักกลอนตลาดอย่างกระผม..เลยต้องมาคอยดูเจ๊...
    
    แหม๋แปลซะยาว..ดีแล้วล่ะ ยิ่งขี้เกียจแปลอยู่..
    ที่ผิดก็คือไม่ถูก..เจีก็จำไว้แก้คราวหลังแล้วกัน..
    แต่ที่คันๆตาอยู่ ตรงที่..
    
    เมฆาคล้อยเคลื่อนทัพรับอรุณ....เมฆน่ะ..นับว่าเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลยนะ..ที่ใช้คำว่า เคลื่อนทัพ....ยังกับจะไปรบ...เจ๊ก้อ.พูดถึงเมฆน่ะ..ต้องให้อ่อนโยนสักหน่อย..
    
    เอ..เข้ามาปากเสีย จะโดนจวกมั้ยเนี่ย..ยังไงก็อย่าด่าแรงนักนา..
    
  • หนอนสายตายาว

    21 มกราคม 2548 14:10 น. - comment id 410487

    ตามมาอ่านจ้ะ
  • ไวยากรณ์

    21 มกราคม 2548 14:22 น. - comment id 410491

    .. งดงามครับ ชมจากใจ...
  • กุ้งหนามแดง

    21 มกราคม 2548 15:07 น. - comment id 410506

    เพื่อนแก้ว...
    
    ล้อได้ดีนิ..อิอิ..
    
    ........................................................................
    
    คุณลี่..
    
    อิอิ เราอ่อนซ้อมไปนิด..อย่าตำหนิแรงน่ะจ๊ะ..
    ทำได้เพียงนี้แหละเพื่อนเอ๊ย..5555
    .......................................................................
    
    คุณอุ๊..
    
    ทานเผื่อด้วยน่ะค่ะ...
    
    .......................................................................
    
    คุณสิทธา..
    
    ลมฟ้า แปรปรวน ได้ไหมอ่ะ..
    
    ความจริง กุ้งก็รู้น่ะ..แต่บางทีเราก็จินตนาการให้มันเกินจริงไปบ้าง....ซึ่งความจริงมันคงไม่มีหรอกน่ะที่...
    
    1. สกุณาขับขาน ตอนฝนใกล้จะตก..เพราะนกเหล่านั้น คงจะกลับรังไปก่อนแล้ว ด้วยสัญชาตญาณ ...ต้องหลบภัย (ฝน-ฟ้า)..จุดแรกเลย
    
    2. ระลอกคลื่นตามลมผสมส่ง..แล้วจึงอ่อนลง..ทำให้คลื่นสลาย เพราะหมดแรงหนุน...เป็นไปได้ไหมค่ะ....อาจไม่มีเอกภาพในบทกลอน. แต่ทว่าเราจะจำกัดเอกภาพทางความความคิดเราเพื่ออะไร....รักษาความหมายหรือ...(น่าคิดน่ะ)
    
    3. ลมรำเพยพริ้วผ่านลานมาลา...ในรูปไม่มีน่ะแต่ในใจมี..
    
    4. เมฆา เคลื่อนทัพ...ความจริงควรสื่อให้นุ่มนวล เหมาะกับความเป็นปุยเมฆ..แต่ทว่าก่อนฝนฟ้าจะตก จะมีเสียงครืนๆ (ในกลอนไม่ได้บอกไว้ น่ะ) เลยใช้คำว่าเคลื่อนทัพ...มาสื่อ..
    
    5. รอวรุณโปรยปรายในสายธาร...รอเทวดามาทำหน้าที่โปรยฝน..(ตามที่คิด)
    
    6. เมื่อฝนตกจะล้างรอยหม่นหมอง ตามในรูปน่ะค่ะ..ดูหม่นหม่น..
    
    7. จะชุบกล้า ..ในรูปนี้คงไม่มีใครมาเพาะกล้าไว้เพื่อโยกย้ายไปปลูกที่อื่น...รูปไม่ละเอียดขนาดนั้น....
    
    8. แม้น้ำท่าจะอุดมสมบูรณ์ เป็นคุ้งน้ำ.....แต่ทว่ามีบางช่วงเวลา ที่ฝนไม่ตกลงมา...จะเรียกว่ากันดารฝน..ได้ไหม... 
    
    สรุปว่า...กลอนบทนี้แม้มีที่ติอยู่มากมาย...แต่ก็
    เขียนตามจินตนาการ...ทั้งสิ้น
    
    ถ้าคิดจากหลักความจริง คงต้องพึ่งวิชาภูมิศาสตร์ประกอบ...ซึ่งมันคงยากที่จะลงลึก..
    
    อย่างไรก็แล้วแต่ กุ้งรับฟังความเห็นของเพื่อนๆ เสมอ..
    .......................................................................
    
    
  • กุ้งหนามแดง

    21 มกราคม 2548 15:13 น. - comment id 410510

    คุณฟ้าเพื่อนเก่า..
    
    เจ๊ไม่เคยดุใครเล้ย...มีแต่ถูกดุประจำ...
    
    ไม่ว่าน่า ถ้าคนโต๋เต๋..จะมาแวะมาเยี่ยมเพื่อนแสนรั้นบ้าง..
    
    เรื่องเมฆตอบคุณสิทธา ไปแล้วจ๊ะ..ไว้วันหลังจะพยายามเขียนให้อ่อนโยนน่ะจ๊ะ..
    
    วันไหนก็ไม่รู้ ที่ความดื้อจะน้อยลง..อิอิ..ติดใครมาก็ไม่รู้...(ฝนฟ้า แปรปรวน แล้วเป็นงี้เรื่อยเลย) หรือใกล้ถึงวัยทองแล้วไม่รู้...บ่น บ่น..
    
    .......................................................................
    
    คุณหนอนสายตายาว..
    
    ขอบคุณค่ะ..
    
    .......................................................................
    
    คุณไวยากรณ์..
    
    ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ..
    
    .......................................................................
  • แม่จิตร

    21 มกราคม 2548 15:50 น. - comment id 410540

    ผมเป็นอีกหนึ่งที่ชอบ ธรรมชาติและภาพศิลป์
    
    จากภาพวาดสาดใจให้เขียน
    เล่าเรียบเรียงเรื่องราวคราวสุขสม
    ธรรมชาติหมู่ภมรต่างดอมดม
    เห็นแล้วสมสุขใจไปได้เยือน
    
    ผมได้ไปเขาใหญ่เป็นครั้งแรก รู้สึกชอบธรรมชาติมาก ๆ ครับ
    
  • กุ้งหนามแดง

    21 มกราคม 2548 17:07 น. - comment id 410586

    คุณแม่จิตร..
    
    จากภาพวาดครั้งหนึ่งถึงเขาใหญ่
    งามพฤกษ์ไพรหนักหนายิ่งกว่าฝัน
    สุขสดชื่นธรรมชาติวาดประชัน
    จึงรำพันเขียนไว้ในบทกลอน...
    
    ขอบคุณค่ะ กุ้งยังไม่เคยไปเลยค่ะ เขาใหญ่ 
    เคยไปแต่พะเนินทุ่ง..จังหวัดอะไรน๊า ลืมแล้วค่ะ..ทุ่งหญ้าแห้งๆ สวยไปอีกแบบนึงค่ะ..(ตอนนั้นไปหน้าหนาวค่ะ)
    ...
  • สิทธา

    21 มกราคม 2548 17:20 น. - comment id 410595

    เมื่อความนิ่งเนืองแน่นแผ่นอุทก
    คล้ายกระจกสะท้อนภาพอาบสีสัน
    โลกก็ทอทิวทัศน์มหัศจรรย์
    ราวสวรรค์วาดวางพร่างพราวตา
    
    เงาสะท้อนซ้อนทาบคล้ายฉาบทิพย์
    ฤๅเทพหยิบมาสำหรับประดับหล้า
    งดงามเหมือนเนรมิตในนิทรา
    น้ำกับฟ้าผสานผสมจนกลมกลืน
    
    ครั้นลมไล้ไล่ระลอกเหมือนหยอกยั่ว
    ความพร่ามัวแทรกร่างหว่างริ้วคลื่น
    ยิ่งพายุพัดโหมเสียงโครมครืน
    ยิ่งครั่นครื้นคลื่นคลั่งบดบังตา
    
    เกลียวคลื่นสาดฟาดกระหน่ำทำลายล้าง
    สามารถสร้างเภทภัยได้หนักหนา
    กลางฝันร้ายรุนแรงแห่งธารา
    เหมือนโลกาวินาศอนาถใจ
    
    รอผิวน้ำผืนเดิมเริ่มราบเรียบ
    คืนความเงียบความงามความสดใส
    เหลือแค่ความทรงจำอันรำไร
    กาลผ่านไปอีกหน่อยค่อยลบเลือน
    
    ซึ่งชี้ชัดสัจธรรมอันล้ำลึก
    จิตสำนึกเปรียบน้ำเก็บงำเงื่อน
    ปล่อยอารมณ์อันสงบกระทบกระเทือน
    อาจชีพเหมือนทะเลคลั่งพึงสังวร
    
  • กุ้งหนามแดง

    21 มกราคม 2548 17:39 น. - comment id 410607

    คุณสิทธา..
    
    ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ..คุณสิทธา..
    วันนี้พูดมากกว่าทุกวัน...
    ลองชมธรรมชาติหน่อยเดียว..กลับสอบตก..ตั้งแต่บทแรกเลย...
    
    เฮ้อ..ยัยกุ้งเอ๊ย..ชีพอาจเหมือนทะเลบ้าหาญท้าทาย..
    
    ปิดบ้านนอนดีกว่า..
    ......
    
  • namsai

    21 มกราคม 2548 18:52 น. - comment id 410629

    
    ++
    
    มาชื่นชมจ้า
    
    ++
    
    ++++
    
    ^__^
    
     
  • สิทธา

    21 มกราคม 2548 19:54 น. - comment id 410660

    ชมธรรมชาตินี่แหละงานยาก
    
    บรรยายอย่างไรให้คนอ่านเห็นภาพตาม?
    
    แล้วจะชมเรื่อยเปื่อย หรือมีจุดหมาย
    
    
    แค่คิดก็ยากแล้ว
    
    
    
    
  • ปลาวาฬสีน้ำเงิน

    21 มกราคม 2548 20:01 น. - comment id 410669

    รูปสวยมากๆเลยดิค๊า
  • กุ้งหนามแดง

    22 มกราคม 2548 08:22 น. - comment id 410879

    คุณน้ำใส..
    
    ขอบคุณค่ะ...
    .......................................................................
    
    คุณสิทธา
    
    ค่ะ กุ้งก็อยากลองเขียนดูบ้างค่ะ เห็นเพื่อนเขาเขียนเพราะๆ กัน...ชื่นชมเขา อยากมีงานของตัวเองสักชิ้นสองชิ้น ..
    
    เผื่อว่าจะได้ชื่นชมตนเองบ้าง....
    
    ถ้ากุ้งทำอะไรไม่เหมาะสม ก็ขออภัยด้วยน่ะค่ะ...
    
    ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ...แล้วจะค่อยๆ ศึกษาไปตามกลอนที่เขียนให้น่ะค่ะ..
    
    .....................................................................
    
    คุณปลาวาฬสีน้ำเงิน
    
    ขอบคุณค่ะ..
    
    ......................................................................
  • ชัยชนะ

    22 มกราคม 2548 18:25 น. - comment id 411106

    ถ้าเป็นเรื่องธรรมชาติใกล้ตัวเกินไป มักจะเขียนไม่ออก
    
    แต่ถ้าเป็นเรื่องไกลตัวเช่นเรื่องสาว ๆ คิดออกอย่างไรไม่รู้
    
    ท้องฟ้าในวันนี้
    อาจดูสีไม่สดใส
    วันหน้านภาใหม่
    ผ่องอำไพพิไลตา
    
  • carot

    23 มกราคม 2548 01:30 น. - comment id 411410

    ภาพสวย...งานงาม...มาชื่นชมนะคะ
    คุณกุ้ง  แคร์ไม่ได้เข้ามาหลายวัน...
    
    คิดถึงคุณกุ้งเสมอค่ะ...
  • กุ้งหนามแดง

    23 มกราคม 2548 10:34 น. - comment id 411470

    พี่ชัย..
    
    ท้องฟ้าในวันนี้
    ดูให้ดีมีสีสรร
    เมฆงามเหลือรำพัน
    อาทิตย์นั้นสาดส่องฟ้า..
    
    .....................................................................
    
    คุณ carot
    
    ชื่นชม และคิดถึงเช่นกันค่ะ..
    
    .....................................................................
  • เพียงพลิ้ว

    23 มกราคม 2548 19:54 น. - comment id 411670

    ภาพสวย กลอนก็สวยค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน