~ โคลงกลบท พจน์รำเพย-พจน์รำพาย ~ ชื่นรัก ~ ( โคลงกลบท ๗ ) จากการศึกษากลบทต่างๆ พบว่าการซ้ำเสียงพยัญชนะบาทต่อบาท มักบังคับตำแหน่งไว้คงที่ หรือไม่ก็บังคับเพียงจำนวนคู่เสียงแต่ไม่บังคับตำแหน่ง คราวนี้จึงขอนำกลบทซ้ำเสียงเคลื่อนที่ที่คิดว่าน่าสนุกคิดในการแต่งมาให้ลองดูครับ กลบทนี้บังคับซ้ำเสียงพยัญชนะ เริ่มจาก ๑ และ ๒ ในบาทแรก ไปซ้ำตรง ๒ และ ๓ ในบาทสอง ต่อไปซ้ำตรง ๓ และ ๔ ในบาทสาม แล้วไปซ้ำตรง ๔ และ ๕ ในบาทสี่ บังคับแบบนี้ใช้แต่งได้ง่ายทั้งโคลงและกลอน เมื่อเสียงคำเคลื่อนต่อเนื่องไปตามลำดับเช่นนี้ จึงอยากให้ชื่อว่า "พจน์รำเพย" ถ้าท่านแต่งซ้ำเสียงพยัญชนะได้ถึงสามเสียงจาก ๑-๒-๓ ไป ๒-๓-๔ ต่อไป ๓-๔-๕ ไป ๔-๕-๖ แล้วไซร้ ก็น่าจะยกให้เป็น "พจน์รำพาย" ไปเลยครับ หากกลบทนี้ไปรอด ก็อาจยกระดับความยากขึ้นไปอีกโดยให้มีบังคับซ้ำเสียงสระด้วย ตัวอย่างกลบทดังนี้ครับ "ชื่นรัก" ~ ชื่นรักชักโลกล้อ ลอยละมุน ยามฉุดราตรีหมุน มาสน้อย ดาดาวช่วงเรืองจุน ใจเพริศ พาพจน์พร่ำฉ่ำร้อย รื่นรู้กานท์กล ~ จนรักชักเชื่อมคล้อง คิดถึง ดวงจิตราวโดนดึง ดูดพ้อง ครวญคำจ่อมรำพึง พันผูก โยงเยื่อใยใจร้อง ร่ำซึ้งสิเนหา คุณเฌอมาลย์ ลองดูสักเที่ยวท้า ........ ทดลอง ติดหล่มโดดลงคลอง ... แค่นั้น คำคลังล่มแดหมอง ..... มัวหม่น หมดอักษรเล่นดั้น ..... ดิ่งห้วยลงคลอง คุณยาแก้ปวด เมื่อสายสวาทขาดแล้ว ..... ลาไกล รักมั่นสูงจากไป ............ แปลบดิ้น ฤาเรามุ่งเสียใจ .............. จรดจ่อ แม่นอ ไฟสว่างมอดหมดสิ้น ..... สุดแล้วเลือนแสงฯ คุณเพียงพลิ้ว : หนาวน้ำตา หนาวอารมณ์ข่มไว้ ........ วันหวาม นานเนิ่นอ่อนไหวลาม .... รุ่มร้อน นวลนึกนิ่งอิงความ ......... คราวก่อน ใครคร่ำครวญนัยอ้อน ..... อุ่นเนื้อแอบขม อุ่นน้ำตาจุกแล้ว ............... หลายคราว อุกอาจนำเรื่องราว ............. รักร้าว พลัดพลาดอกนอนหนาว .... เหน็บหน่วง จากจบเจ็บเอิบน้าว ........... เหนี่ยวได้น้ำตา . ขอเพิ่มเติมตัวอย่าง "พจน์รำพาย" ที่แต่งกันเข้ามาครับ คุณเฌอมาลย์ พจน์รำพายร่ายร้อย ........ เรียงคำ เพียรพร่ำเรียงพจน์อำ ...... เอ่ยอ้าง ดังฝนพร่างรินพรำ ......... พรูพรั่ง เปียกชุ่มไพรพฤกษ์ร้าง .... พุ่มไม้งอกเงย คุณโอเลี้ยง โลกรอรักชักเรื้อ ........... อารมณ์ นัยร่าหลอมระบม ........ จากห้วง บทหวานล่ามลนรม ..... ตวงชื่น พาจิตไหลลอบล้วง ....... รับพลิ้วนองฝัน ผันยามยังคู่ใกล้ .............. ใครคน จินต์พรั่งเยือนใยดล ......... ก่อเคลิ้ม เหมือนรอยแผ่วยอมยล ..... วาดวุ่น หยดรักจองภักดิ์เยิ้ม .......... เยี่ยงคล้อยคนหวง ต้องบอกว่าเขียนได้เนียนมาก ดังนี้เห็นทีต้องขยายกันต่อไปครับ ซ้ำเสียงพยัญชนะ ๑-๒-๓-๔ ไป ๒-๓-๔-๕ ไป ๓-๔-๕-๖ ไป ๔-๕-๖-๗ ขอเรียกว่า "พจน์รำเพยรำไพ" ซ้ำเสียงพยัญชนะ ๑-๒-๓-๔-๕ ไป ๒-๓-๔-๕-๖ ไป ๓-๔-๕-๖-๗ ไป ๔-๕-๖-๗-๘ ขอเรียกว่า "พจน์รำพายรำไพ" คุณก้าวที่...กล้า เขียนใจใส่รักร้อย ........ เรียงผสาน หวังขับจินตนาการ ...... กล่อมฟ้า เคียงดาวขจ่างปาน ...... ประดับ ท่ามรัตติกาลแข่งจ้า ..... จรัสด้วยประกายฝัน ( พจน์รำเพย ) จันทร์ทอทบรูปไล้ ........ โลมตา เพื่อจักถอดทรมา .......... มั่นแล้ ทุกขณะจึ่งทาบทา ........ ทุกท่วง โชติช่วงประจักษ์แท้ ..... ท่วมท้นดวงมาน ( พจน์รำพาย ) สานผูกพันรักด้วย .......... ใจดาว รับส่งพจน์เพราราว .......... รื่นซ้อง กาลสรรค์ซึ่งแพรวพราว .... เลอลักษณ์ จำรัสทุกศัพท์พ้อง ........... พิศรู้ดูงาม ( พจน์รำเพยรำไพ ) ตามภักดิ์ฤๅผ่านพื้น ...... คำขยาย อาจแตกพจน์รำพาย ...... แผกรู้ อักษราต่างพรรณราย ..... พรายพร่าง จินตภาพต่อผู้ .............. ร่วมพ้องพิสมัย ( พจน์รำพายรำไพ ) เมื่อมาถึงจุดนี้ก็ควรมีจุดต่อไปครับ เมื่อซ้ำเสียงได้ ๕ เสียงไล่เรียงกันไปได้ การซ้ำเสียง ๖ ลำดับคงไม่ใช่ปัญหาแล้ว เพียงเพิ่มเติมอีกว่าซ้ำเสียงพยัญชนะท้ายบาทไปขึ้นต้นเสียงคำในบาทต่อไปด้วย ไปจนถึงบาทสี่ คำสุดท้ายของบาทสี่ให้ซ้ำเสียงพยัญชนะท้ายบาทสอง หรือถ้ามีสร้อยโคลงในบาทสาม คำต้นของสร้อยโคลงก็ให้ซ้ำเสียงจากท้ายบาทสองเช่นกัน หากตรงตามบังคับนี้ ย่อมเสมือนพลังแรงที่ขับเคลื่อนไปจนสุดแล้วหมุนวนกลับมา จะเป็นพายุหมุนก็ปาน ดังนั้นหากให้ชือว่า "พจน์พายุรำไพ" น่าจะได้นะครับ หวังว่า พจน์พายุรำไพ อันเป็นที่สุดนี้ จะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายครับ ( 1 )( 2 )( 3 )( 4 )( 5 ) ........ ( 6 )( 7 ) ( 0 ส ) ( 7 )( 1 )( 2 )( 3 )( 4 ) ........ ( 5 )( 6 ) ( 6 )( 7 )( 1 )( 2 )( 3 ) ........ ( 4 )( 5 ) ( 6 ส ) ( 5 )( 6 )( 7 )( 1 )( 2 ) ........ ( 3 )( 4 )( 5 )( 6 ) คุณก้าวที่...กล้า ไพจิตรเคียงรจน์ร้อย ..... คอยเพียร พันผูกใจคิดเรียน ......... ร่ายเคล้า คัมภีรภาพจรสเขียน ..... รอยรัก ครองรา เลอค่าพรพจน์เจ้า ......... ขับเรื้องรองขวัญ ( พจน์พายุรำไพ ) เขียนคำโคลงแต่งแต้ม ..... ตามจิต จรดขีดเขียนคำติด .......... ต่างต้อง ตรึกจนเข็ดเคี่ยวคิด ......... ตัวต่อ แตกนอ ตรูไต่ใจคาดคล้อง ........... ค่อยตั้งตัวตรง ( พจน์พายุรำไพ ) .
พจน์รำพัน 12 พ.ย. 2552 11:02 น. - ID 130534 
2587
20
0
19 พฤศจิกายน 2552 19:56 น. - comment id 1043847
เรียนคำโคลงกาพย์ถ้อย....ถักทอ เขียนหน่อรักแตกกอ.....โยงไว้ เพียงพรั่งใจเผลอรอ....หยาดหยด คำซึ่งเผยเผื่อให้......หนึ่งพ้องสัมพันธ์ สวัสดีค่ะ คุณพจน์รำพัน ดอกบัวขออนุญาตเขียนแบบ งง งง ค่ะ พอดีงานยุ่งๆเลยไม่ค่อยมีเวลาศึกษาเท่าไรค่ะ มีแต่ความสุขในทุกๆวันนะค่ะ
18 พฤศจิกายน 2552 16:11 น. - comment id 1044191
1คุณเฌอมาลย์ มาแบบเสือซ่อนเล็บมั้งครับ 4
12 พฤศจิกายน 2552 11:08 น. - comment id 1063409
ขอจองที่ 1 มาอ่านอย่างเดียว มิกล้าท้าประลอง คริ คริ
12 พฤศจิกายน 2552 11:16 น. - comment id 1063418
^ ^ ^ ลองหน่อยน่าคุณเฌอมาลย์ เดี๋ยวบ่ายกานต์อู้งานมาแจม คริๆ
12 พฤศจิกายน 2552 11:18 น. - comment id 1063422
^ ^ ไว้ว่างๆจะลองแจม แต่ตอนนี้หัวฟูอยู่ คริ
12 พฤศจิกายน 2552 11:21 น. - comment id 1063428
มิกล้าเช่นกัน ไม่สามารถ
12 พฤศจิกายน 2552 14:25 น. - comment id 1063509
สวัสดีค่ะคุณพจน์ กลบทนี้ โอเลี้ยงมีเล่นแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้เขียนใหม่ อิอิ เรียงไล่ไปทีละอย่างค่ะ จวนถึงแล้วค่ะ เราเรียกว่า "กลบทพยัคฆ์ซิกแซกทาง" ค่ะ โอเลี้ยงเอาการบ้าน เรื่องผีหลอก ที่ส่ง "จาน" มาแจมแทนก่อนนะคะ วันนี้โอเลี้ยงจะเขียนกลบท "รีๆข้าวสาร" ก่อนน่ะค่ะ
12 พฤศจิกายน 2552 14:50 น. - comment id 1063516
มาดูเฉยๆ เช่นกันค่ะ
12 พฤศจิกายน 2552 14:59 น. - comment id 1063525
ลองดูสักเที่ยวท้า ทดลอง ติดหล่มโดดลงคลอง แค่นั้น คำคลังล่มแดหมอง มัวหม่น หมดอักษรเล่นดั้น ดิ่งห้วยลงคลอง คริ ขอ 1บทพอ ผิดถูกขออำภัยมณีเจ้าค่ะ
12 พฤศจิกายน 2552 15:57 น. - comment id 1063538
แอบมาอีกรอบตอนงานหายยุ่งค่ะ อิอิ เล่นด้วยค่ะคุณพจน์แบบนี้ได้ไหมคะ
12 พฤศจิกายน 2552 16:13 น. - comment id 1063547
จ๊ากกกกเพิ่งเห็นคำสั่ง บาทสี่ให้ไปที่คำที่๖ นี่นา งั้นโอเลี้ยงแก้ใหม่ อิอิ (ดีจังเดี๋ยวเอามาผวนอีกกล) ใช้สามเสียง โอเลี้ยงว่าเล่นง่ายกว่าสองเสียง เลยขอลองแบบด่วน อิอิ คือใช้คำพยัญชนะ (ตัวซ้ำ)นะคะคุณพจน์ โลกรอรักชักเรื้อ...อารมณ์ นัยร่าหลอมระบม...จากห้วง บทหวานล่ามลนรม...ตวงชื่น พาจิตไหลลอบล้วง...รับพลิ้วนองฝัน ผันยามยังคู่ใกล้...ใครคน จินต์พรั่งเยือนใยดล...ก่อเคลิ้ม เหมือนรอยแผ่วยอมยล...วาดวุ่น หยดรักจองภักดิ์เยิ้ม...เยี่ยงคล้อยคนหวง
12 พฤศจิกายน 2552 17:14 น. - comment id 1063567
พจน์รำพายร่ายร้อย เรียงคำ เพียรพร่ำเรียงพจน์อำ เอ่ยอ้าง ดังฝนพร่างรินพรำ พรูพรั่ง เปียกชุ่มไพรพฤกษ์ร้าง พุ่มไม้งอกเงยไปดีกร่า
12 พฤศจิกายน 2552 18:34 น. - comment id 1063586
คุงพจน์ลบอันบนด้วยนะคะ อิอิ แผนกมั่วเจ้าเก่า เมื่อสายสวาทขาดแล้ว...ลาไกล รักมั่นสูงจากไป............แปลบดิ้น ฤาเรามุ่งเสียใจ ...........จรดจ่อ แม่นอ ไฟสว่างมอดหมดสิ้น.....สุดแล้วเลือนแสงฯ ปล. ไงยะยาหยีเฌอ ได้ข่าวหัวฟูทั้งวัน
12 พฤศจิกายน 2552 19:51 น. - comment id 1063620
หิวข้าวแล้วล่ะ ปลาวาฬทอดสักตัวคงอิ่มพุงพอดี
13 พฤศจิกายน 2552 02:53 น. - comment id 1063744
โอ...ชื่นรักหรือขื่นขมคะเนี่ย อิอิ... คุณอัลมิตรา ปลาวาฬทอดเนี่ย ชุปแป้งทอด หรือผัดพริกคะ น่าอร่อยจัง แค่โคลงธรรดาก็เวียนหัวแล้วค่ะ อ๊ะ ๆ ไม่ได้ท้อนะคะ ศึกษาค่ะน้องโอเลี้ยง เธอเก่งค่ะ ชื่นชมค่ะ
13 พฤศจิกายน 2552 10:36 น. - comment id 1063806
กานต์มาแล้วค่ะท่านชาย คริๆ ไม่รู้จะอ่านได้ความไหมนะคะ เหมือนว่าจะง่าย แต่ไม่ง่ายเลยนะคะ
13 พฤศจิกายน 2552 14:53 น. - comment id 1063878
อันนี้จองที่ไว้ก่อนนะคะ
13 พฤศจิกายน 2552 18:58 น. - comment id 1064032
เอ่อ งง ครับ อะไรเนียนๆ ไม่รู้ อิอิ
13 พฤศจิกายน 2552 22:02 น. - comment id 1064157
มาชื่นชม ความคิดสร้างสรรค์ ครับ
16 พฤศจิกายน 2552 11:40 น. - comment id 1065220
เขียนใจใส่รักร้อย.. เรียงผสาน หวังขับจินตนาการ.. กล่อมฟ้า เคียงดาวขจ่างปาน.. ประดับ ท่ามรัตติกาลแข่งจ้า.. จรัสด้วยประกายฝัน . . จันทร์ทอทบรูปไล้.. โลมตา เพื่อจักถอดทรมา.. มั่นแล้ ทุกขณะจึ่งทาบทา.. ทุกท่วง โชติช่วงประจักษ์แท้.. ท่วมท้นดวงมาน . . สานผูกพันรักด้วย.. ใจดาว รับส่งพจน์เพราราว.. รื่นซ้อง กาลเวลาซึ่งแพรวพราว.. เลอลักษณ์ จำรัสทุกศัพท์พ้อง.. พิศรู้ดูงาม . . ตามภักดิ์ฤๅผ่านพื้น.. คำขยาย อาจแตกพจน์รำพาย.. แผกรู้ อักษราต่างพรรณราย.. พรายพร่าง จินตภาพต่อผู้.. ร่วมพ้องพิสมัย แจมค่ะ
16 พฤศจิกายน 2552 14:33 น. - comment id 1065304
^ ^ กาลเวลาซึ่งแพรวพราว.. เลอลักษณ์ (กาล)(เวลา)(ซึ่ง)(แพรว)(พราว) ตรงนี้โดยนัยของคำก็ห้าคำก็จริง แต่ก็มองเห็นว่าน่าเป็นปัญหา เพราะ เวลา พยางค์หน้าไม่ได้เป็นลหุ เวลา อ่านรวบคำไม่ได้ ซึ่งเมื่ออ่านก็จะเป็นว่า (กาล)(เว)(ลา)(ซึ่ง)(แพรว)(พราว) เสียงมีหกจังหวะ ส่วน แสนสนุกศรีอโยธยา อ่านรวบคำได้เป็นว่า (แสน)(สนุก)(ศรี)(อโย)(ธยา) ซึ่งกระชับเสียงให้เป็นห้าจังหวะได้ คุณก้าวฯช่วยแก้ไขให้นิดนึงนะครับ ที่แต่งมาชุดนี้สุดที่จะพรรณนาจริงๆ
17 พฤศจิกายน 2552 10:14 น. - comment id 1065738
จริงด้วยนะคะ กาลเวลากาลสรรค์ซึ่งแพรวพราว.. เลอลักษณ์ ขอบคุณค่ะ
23 พฤศจิกายน 2552 10:04 น. - comment id 1067199
ไพจิตรเคียงรจน์ร้อย.. คอยเพียร พันผูกใจคิดเรียน.. ร่ายเคล้า คัมภีรภาพจรสเขียน.. รอยรัก ครองรา เลอค่าพรพจน์เจ้า.. ขับเรื้องรองขวัญเหงื่อตกเลยค่ะ มีอีกหรือเปล่าคะ คริ
23 พฤศจิกายน 2552 11:01 น. - comment id 1067208
11
23 พฤศจิกายน 2552 16:22 น. - comment id 1067313
ไพจิตรเคียงรจน์เคล้า.. คิดพะนอ พันผูกใจคอยรอ.. เคลื่อนคล้อง คัมภีรภาพขจ่างคลอ.. ลออคืบ ครองรา คุณค่าพาพิศจ้อง.. ขับรุ้งคำขวัญ รบกวนดูบทนี้ให้ด้วยนะคะ เนื่องจากเป็นบทแรกที่เขียน แต่ มีคำสองพยางค์จึงไม่แน่ใจว่าใช้ได้ไหมอ่ะค่ะ
23 พฤศจิกายน 2552 21:07 น. - comment id 1067430
^ ^ คำสองพยางค์ที่พยางค์หน้าเป็นลหุ พยางค์หลังเป็นครุ เมื่อจะซ้ำเสียงสระหรือเสียงพยัญชนะ น่าถือตามเสียงพยางค์ครุครับ คิดพะนอ > (คิด)พะ(นอ) คัมภีรภาพขจ่างคลอ.. ลออคืบ > (คัม)(ภี)ร(ภาพ)ข(จ่าง)(คลอ).. ล(ออ)(คืบ) หากคำสองพยางค์ที่เป็นลหุทั้งคู่ เช่น สิริ ขรุขระ กะทิ ในกรณีทีต้องเลือกซ้ำเสียงพยัญชนะหรือเสียงสระ ผมก็ยังคิดว่าน่าถือตามพยางค์หลังครับ โดยความคิดที่ว่าคำสองพยางค์ส่วนมากจะมีพยางค์หลังเป็นครุ ดังนั้นความเคยชินต่อน้ำหนักเสียงจะตกที่พยางค์หลังเป็นหลัก
24 พฤศจิกายน 2552 10:05 น. - comment id 1067566
ขอบคุณค่ะ
24 พฤศจิกายน 2552 14:22 น. - comment id 1067644
16
25 พฤศจิกายน 2552 09:47 น. - comment id 1067861
22
25 พฤศจิกายน 2552 14:29 น. - comment id 1067909
23, 25
25 พฤศจิกายน 2552 15:49 น. - comment id 1067918
เขียนคำโคลงแต่งแต้ม ..... ตามจิต จรดขีดเขียนคำติด ..... ต่างต้อง ตรึกจนเข็ดเคี่ยวคิด ..... ตัวต่อ แตกนอ ตรูไต่ใจคาดคล้อง ..... ค่อยตั้งตัวตรง ถ้าก้าวที่กล้าเป็นคุณพจน์ฯ ก็คงมึนเหมือนกันอ่ะค่ะ ตอบตั้งเยอะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
30 พฤศจิกายน 2552 11:02 น. - comment id 1069200
หน้าส่วนตัว
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
