ขมิ้นเมือง

แม่น้ำในฟ้า

สิบปีผ่านนานวันฉันยังอยู่

อย่างไม่รู้สิ่งใดจะใคร่หวัง

ย่ำเดินดินถิ่นหล้าล้ากำลัง

โซเซซังซัดเซพเนจร

 

มองดาวเดือนเกลื่อนฟ้านภามืด

ฟ้าดูชืดจืดไปเพราะใจหลอน

ค่ำคืนฝนหล่นพร่างกลางนคร

แอบเปียกปอนรินหยดรดน้ำตา

 

ข่มหัวใจให้หยุดสุดจะคิด

โชติอาทิตย์ ฤ จันทร์ ก็ฝันว่า

ฝันดีพาลผลาญเผาเร้าอุรา

เพราะฝันพา...หัวใจไปพบเธอ

 

 

ภาพตำตา...คาทรวงยังทวงจิต

คู่ตัวติด...ผิดคน...เป็นผลเพ้อ

รากหยั่งแค้นแสนลึกเมื่อนึกเจอ

มิอาจเบลอ...ภาพนั้นลงบั่นทอน

 

 

ค่ำนอนหนาวดาวเคียงเพียงลมกอด

ท่อนแขนสอดหัวดุนหนุนแทนหมอน

กล่อมจิตพักหลับไหลในบทกลอน

ขมิ้นเมืองเหลืองอ่อน..นอนหลับตา

 

ลมโชยแผ่วแว่วเสียงสำเนียงเอื้อน

โอ้ดวงเดือน...ดวงดาวที่สาวว่า

เด่นดวงใดในรักประจักษ์พา

ขวัญชีวา...ยอดชู้จะชูชม

 

 “ เฉิดโฉมงามนามเชื้อพี่ชายมาด

ชาตรีชาติ...เช่นพี่...ฤดีสม

ผิดเชิญควักชักมีดมากรีดคม

ให้สิ้นลม...ชมวาตพินาศใจ

 

น้ำตาคลอรอหยดลงรดแก้ม

เพียงแตะแต้มฝุ่นล้างพอพร่างใส

สิบปีเลื่อนเคลื่อนกาลที่ผ่านไป

หมดหัวใจ...ไม่เห็นอยากเป็นคน

 

ถึงกระนั้นตัวฉันในวันนี้

แม้นฤดี...เปรอะเปื้อนเหมือนปี้ป่น

ก็แค่เจียมเขียมคิด...ในจิตตน

มิใช่คน...บ้าบอและขอทาน

 

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน