..๏ สไบหอม

อัลมิตรา


..๏ สไบหอม..พยอมใจเคยใกล้ชิด
มาห่างจิตจากไกลโหยไห้หา
ยามราตรีพี่-น้อง ครองนิทรา
บัดนี้กลับร้างรา..เหมือนมิเคย..
อกเคยอุ่นละมุนละมัยได้เคียงข้าง
กลิ่นสาบสางยังจรุงฟุ้งเฉลย
ผ่านคืนวันผันใจคล้ายละเลย
สิ่งที่เคยกลับมิเห็นเช่นก่อนกาล..
ฤๅจักต้องหนาวใจในครานี้
ดวงฤดีก่อนเคยเปรยหวามหวาน
กลับขื่นขมตรมเศร้าร้าวดวงมาน
มิสราญหมองหม่นยากด้นนัย..
ยากเรียกคืนกลับหลังดั่งความคิด
ด้วยว่าจิตแปรเปลี่ยนหมุนเวียนได้
ช่างพลิกผันเกินรับสดับไป
ทุกข์ท่วมใจจึงเพียรเขียนเป็นกลอน..
สไบเอ๋ย..ก่อนเคยมาอิงแอบ
กายใจแนบแน่นสนิทชิดสมร
จึงร่ำไห้โหยหาว่าอาวรณ์
อกสะท้อนแสนเทวษด้วยเหตุตน..
จะกู่เรียกร่ำร้องทำนองเศร้า
เหมือนไร้เงาคืนกลับแสนสับสน
ดั่งพี่-น้องคล้องใจในกมล
ต้องดั้นด้นห่างเหินเกินมองตาม ..
สไบหอม..พยอมใจของน้องน้อย
จักต้องคอยอีกเท่าใดขอไต่ถาม
อยากให้รับรู้ซึ้งซึ่งบทความ
ว่าทุกข์ลามโรมเศร้าใครเล่าทำ..? 
จวบราตรีมาเยือน ณ เวหน
ฟากฟ้าหม่นหมองจิตคิดถลำ
ใครกันหนอคลอเคล้าเหย้าประจำ
ขับลำนำเพลงพิณจากถิ่นไกล ..
โอ้ละหนอ..ศศิเพ็ญงามเด่นฟ้า
ปลอบจิตข้าคลายตรมระทมไห้
หลากดารากระพริบเยือนดุจเพื่อนใจ
ฤๅเทียบเท่าคนไกล...อย่าหมายเทียม..
ใจเจ้าเอยเคยเช่นเย็นสงบ
กลับต้องพบความเศร้าเข้าเต็มเปี่ยม
แสนปวดปร่าอุราข้าไหม้เกรียม
ด้วยมิเตรียมห้ามจิตคิดให้ปลง..
สไบหอม..พยอมใจใครคนนั้น
คงลืมวันลืมคืนชมื่นหลง
ทั้งที่เคยสัญญาว่ามั่นคง
กลับติดกรงบ่วงอื่น..น้องขื่นทรวง..
สไบหอม..พยอมใจคนไกลเอ๋ย
ก่อนชิดเชยเคียงคู่ดูดั่งหวง
กลับทิ้งร้างห่างหายในแดดวง
คงลับล่วงกลายคำ..ลำนำเรา..
พี่และน้องเคยคล้องใจเคียงข้าง
กลับอ้างว้างเดียวดายกลายเป็นเศร้า
คงยากยิ่งสิ่งใดหมายบรรเทา
บันทึกเรา..ฤๅยลยิน..ตราบสิ้นฟ้า ๚ะ๛				
comments powered by Disqus
  • ปู เสฉวน

    17 มกราคม 2547 01:32 น. - comment id 203847

    อยากรู้จริงว่าใครสไบหอม
    ที่เคยดมเคยดอมเคยกล่อมขวัญ
    หอมสไบอบอวลชวนผูกพัน
    คนไกลนั้นหลบหน้าไปหาใคร
    
    สไบหอมพยอมใจไม่มาหา
    อัลมิตราโศกยิ่งนั้นจริงไหม
    โธ่เอ๋ยโธ่ช่างเขลาเจ้าสไบ
    ไม่รู้ซึ้งว่าใครเขาแอบคอย
    
    
  • ปู เสฉวน

    17 มกราคม 2547 01:42 น. - comment id 203853

    อกเคยอุ่นกรุ่นไอยามใกล้ชิด
    ประทับจิตกลับเศร้ากลับเหงาหงอย
    กู่เรียกร้องเท่าไรไม่ทิ้งรอย
    หนีห่างลอยหลบหน้าไม่มาเลย
    
    ฤๅจักต้องหนาวใจด้วยไม่รู้
    สไบไม่มาดูมาเฉลย
    ว่าที่ทิ้งที่ร้างอย่างเฉยเมย
    ด้วยเพราะเอ่ยสิ่งใดให้เจ้าเคือง
    
    
  • ปู เสฉวน

    17 มกราคม 2547 01:50 น. - comment id 203864

    จะกู่เรียกร่ำร้องก้องท้องฟ้า
    จะกล่าวท้าว่าข้าจะหาเรื่อง
    จะขุดพลิกแผ่นดินจนสิ้นเมือง
    จะกระเดื่องต่อสวรรค์จนวันตาย
    
    โอ้ละหนอ..ศศิเพ็ญงามเด่นฟ้า
    เห็นสไบบอกข้าเถิดโฉมฉาย
    ตลอดมาข้าหาจนตาลาย
    ไร้จุดหมายอ่อนล้าสุดอาลัย
  • ผู้หญิงไร้เงา

    17 มกราคม 2547 02:03 น. - comment id 203873

    กลอนไพเราะมากเลยค่ะ  ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ  ชื่นชมเสมอนะค่ะ
  • ปู เสฉวน

    17 มกราคม 2547 02:03 น. - comment id 203875

    ใจเจ้าเอ๋ยเคยเย็นเช่นสายน้ำ
    กลับชอกช้ำรันทดไม่สดใส
    ยิ่งร้อนรุ่มยิ่งคะนึงถึงสไบ
    ที่ทิ้งร้างห่างไปไม่อาวรณ์
    
    เคยสาบานบอกรักกลับหักหลัง
    สิ้นความหวังช้ำชอกยิ่งหลอกหลอน
    เคยชิดเชยชมกลิ่นร่วมยินกลอน
    สายตาค้อนน่ารักยังปักทรวง
  • ปู เสฉวน

    17 มกราคม 2547 02:11 น. - comment id 203879

    สไบหอม..พยอมใจใครคนนั้น
    ข้ายังรั้นรักเจ้ายังเฝ้าหวง
    แม้จะต้องชอกช้ำด้วยคำลวง
    ในแดดวงเจ้าสไบมีใครรอ
    
    ชีวิตก้าวผ่านฝันไปวันหนึ่ง
    ยังรำพึงต่อสวรรค์ทุกวันหนอ
    ให้เจ้าซึ้งถึงใจว่าใครรอ
    สไบเอยข้าพ้อขอเจ้าคืน
    
    
  • ที่รักของฉัน

    17 มกราคม 2547 02:12 น. - comment id 203881

    ....สไบหอมจอมขวัญที่ฉันได้
    ยังเก็บในกมลไร้คนเห็น
    แทนสัมพันธ์ฉันเธอเสมอเป็น-
    เพื่อนรู้เห็นดวงใจใครอีกคน...
    
    ...............สวัสดีครับ..................
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    17 มกราคม 2547 05:47 น. - comment id 203914

    คงจะเป็นสะใบทองของนางนาค
    แฟนพี่มากจึงมีกลิ่นสาบสาง
    ไม่เป็นไรเราพกของเครื่องลาง
    แต่ถ้าร้องครรวญครางคงวิ่งตาย.
    
    อิอิกลิ่นยังพอทน ถ้ามีเสียงโหยหวลด้วยวิ่งตับแลบ อิอิ...
  • dinsor

    17 มกราคม 2547 13:04 น. - comment id 204014

    กลิ่นสไบครานั้นยังอวบอบ
    สะท้านทบครวญร่ำถึงน้องแก้ว
    น้องร้างลาไกลไม่มีแม้วี่แวว
    อกพี่คงแคล้วจากน้องนาง
  • ชัยชนะ

    17 มกราคม 2547 16:39 น. - comment id 204149

    คิดไม่ออก บอกเป็นเพลง
    
    สไบแพร                   ชรินทร์ นันทนาคร : : Key F  
    สไบน้องแทนกาย             หอมมิวายคลายกลุ้ม
    หอมกระถินกลิ่นปทุม        ดั่งไฟรุมสุมทรวงห่วงหา
    
    สไบเจ้าเอ๋ยแทนกาย          หอมมิวายคลายพร่า
    ทุกค่ำคืนกลืนน้ำตา             ปวดอุราเพราะเจ้าของสไบ
    
    รักคนที่เขาไม่รักเรา           จึงต้องเศร้าเคล้าแต่สไบ
    แสนสุดระทมใจ                  โอ้สไบขอให้เจ้าเป็นพยาน
    
    อกข้านี้คงต้องร้าวราน          ทรมานทุกวันคืน
    แม้ชีวิตจะขมขื่น                  ข้าทนฝืนยอมรักเพียงสไบแพร
    อกข้านี้คงต้องร้าวราน           ทรมานทุกวันคืน
    แม้ชีวิตจะขมขื่น                   ข้าทนฝืนยอมรักเพียงสไบแพร 
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1463
    
    
  • tiki

    17 มกราคม 2547 17:39 น. - comment id 204170

    มาอ่านก็คุ้มแล่วค่ะ
    ทั้งคนเขียนทั้งคนตอบ
  • ^^LittlE_PenguiN^^

    17 มกราคม 2547 20:40 น. - comment id 204274

    แวะมาทักทายค่ะ
  • ฟ้าใหม่

    18 มกราคม 2547 21:37 น. - comment id 204739

    มาปลอบโยน อ่อนไหว ที่ใจเจ้า 
    อย่ามัวเศร้า น้อยใจ กระไรนั่น 
    ยังอยู่ใกล้ แนบสนิท ชิดชีวัน 
    ไม่จากกัน อย่าโศก วิโยคครวญ 
    แล้วชวนน้อง มาชม สวนศรี 
    ให้เปรมปรีดิ์ หมดสิ้น กำศรวล
    กุมมือเหมาะ เกาะเกี่ยว แล้วเลี้ยวชวน 
    ชมหมู่มวล พฤกษา นานาพันธุ์ 
    นั่นบุหรง โฉมยง งามเหมือนเจ้า 
    นั่นคัดเค้า กระดังงา และปาหนัน 
    โน้นประยงค์ หอมระรื่น ชื่นชีวัน 
    แล้วก็นั่น มณฑา สารภี 
    ดอกตูมตูม ขาวสั้น นั้นยี่หุบ..
    พุดน้ำบุศย์ หอมแม้น มารศรี 
    บัวสวรรค์ จันทร์กระพ้อ บานบุรี 
    แล้วราตรี กลิ่นเศร้า กระเส่าใจ 
    หมู่มวลไม้ มากพันธุ์ อร่ามศรี 
    แต่ไม่มี ให้หวล ชวนหลงไหล 
    เท่าที่กุม แขนคล้อง ประคองไป 
    ชี้ชมไม้ เริงรื่น ช่างชื่นทรวง..
    
  • ผู้เฒ่า

    19 มกราคม 2547 20:10 น. - comment id 205039

    มาเยือนคุณ ขอโทษที่คิดได้ช้า...คิดถึงเสมอ.
  • อัลมิตรา

    19 มกราคม 2547 22:38 น. - comment id 205074

    ขอบคุณค่ะ ทุกๆคน ..
  • สาง

    19 มกราคม 2547 23:24 น. - comment id 205083

    โอ้อกเอ๋ยอ่อนใจสไบสาง
    ไยเศร้าซึมเหินห่างยังสงสัย
    มีเรื่องร้ายระเบิดลงที่ตรงใด
    ยากทำใจสดชื่นกลับคืนฤๅ
    
    ใครก่อเรื่องเคืองใจที่ไหนหนอ
    อุตส่าห์รอแทบตายไปไหนหือ
    กลับมาแล้วโกรธกันยิ่งมันมือ
    พิมพ์ไม่หยุดขอดื้อจนเห็นใจ
    
  • สาง

    19 มกราคม 2547 23:36 น. - comment id 205088

    จะให้ทำอย่างไรให้ยกโทษ
    จนหายโกรธหายเคืองเรื่องไหนไหน
    บอกมาเถิดจะทำตามสั่งไป
    ขอสไบอย่าเมินเหินห่างเลย
    
    หากเกลียดมากจะไล่กันจงยันเถิด
    ยิ่งไม่ตอบยิ่ง hurt ยิ่งเหลือเอ่ย
    ฤๅสาบสางจางหายไปแล้วเลย
    อยากให้เผยความในใจให้รู้ที
    
    
    
    
    
  • อัลมิตรา

    20 มกราคม 2547 12:14 น. - comment id 205238

    คุณพี่เสือ นี่ก็น่าตีเสียจัง .. ๕๕๕ .. มายั่วให้หัวร่อจนได้ ..
    
    อ๊ะ สักหน่อย .. เห็นใจหรอก ทั้งยกทะเล ยกบก มาเยี่ยม ..
    
    ขอฝังความทรงจำแต่ก่อนเก่า
    ลบเรื่องราวที่ผ่านเมื่อกาลหลัง
    ณ ริมฝั่งสายธารกานท์ภวังค์
    คิดถึงครั้งแรกเดิมเคยเริ่มมา
    
    ให้สะท้อนเมื่อย้อนตอนครั้งนั้น
    ร่ายรำพันกาพย์โคลงโยงหรรษา
    อีกฉันท์กลอนมากพจน์รจนา
    เสกสรรค์เสริมอักษราคราเยือนยล
    
    มากพี่น้องคล้องใจแนบสนิท
    ดุจใกล้ชิดผูกจิตทั่วทิศหน
    มิตรภาพต่างแลกให้ในบัดดล
    ด้วยต่างคนทราบซึ้งซึ่งหนึ่งนัย
    
    นาฏกรรมอำลาคราครั้งนี้
    บทกวีจะสื่อชื่อนั้นให้
    สไบหอมพยอมเจ้า..จำจากไกล
    จึงพักใจหลบซ่อนตอนระทม
    
    
  • อัลมิตรา

    20 มกราคม 2547 12:20 น. - comment id 205241

    แวะมาเขียนคำขานหวานอีกรอบ
    ร่ายกลอนตอบด้วยหทัยคล้ายขื่นขม
    ดุจห่างมิตรสนิทญาติอาจต้องตรม
    เกินคิดข่มอาวรณ์สะท้อนเปรย
    
    มิตรภาพตราบสิ้นดินถิ่นฟ้า
    เคยนำพาสุขใจใคร่เฉลย
    ต่อนี้ไปทำอย่างไรเล่าทรามเชย
    จึงเสบยอย่างก่อนย้อนอีกที
    
    จะคิดถึงซึ้งใจหรือเปล่าหนอ ?
    เคยเคียงคลอสุขสันต์ฉันท์น้องพี่
    ร่ายคำกลอนตอนระกำช้ำฤดี
    น้ำตาปรี่สองแก้ม..หมายแรมลา
    
  • อัลมิตรา

    20 มกราคม 2547 12:24 น. - comment id 205245

    คงซัดเซพเนจรดั่งกาลก่อน
    ลิงเร่ร่อน..แสนอนาถดุจปราชญ์ว่า
    ไร้พำนักพักพิงอิงชีวา
    ท่ามพนาตามถิ่นดินแดนดง
    
    นกขมิ้นกลับคอนตอนสนธยา
    แต่ตัวข้าฯเดียวดายคล้ายจะหลง
    ในไพรพฤกษ์พยัคฆ์ร้ายหมายปลิดปลง
    ชีพยืนยงหรือมลาย..ยากหมายคำ
    
    จังงังเอ๋ย..ก่อนเคยมีพวกพรรค
    ล่อลิงหลักรุกเล่นให้เป็นขำ
    บัดนี้แค่นจะเขียนเพี้ยนกระทำ
    ให้ระกำนึกถึงคืนที่ชื่นทรวง
    
    
  • ลูกชายลมใต้

    21 มกราคม 2547 11:47 น. - comment id 205713

    เมื่อลมรักโถมพลันให้สั่นหนาว
    บ้างก็ร้าวใจยับจนจับไข้
    บ้างก็อุ่นด้วยใจได้แนบใจ
    บ้างก็ยิ้มรื่นได้ไม่แยแส
    
    มิตรภาพตราบสิ้นจวบดินฟ้า
    การอำลาพรากใจ?...มิใช่แน่
    สรรพสิ่งสสารอาจผันแปร
    แต่ความรักที่แท้ย่อมอยู่ทน
    
    ลำนำรักหวานครั้งยังแจ่มจ้า
    กำลังใจจักพาไปทุกหน
    ใครจากมาจากไปไม่เคยจน
    แค่จากคนเปลี่ยนได้ฤๅใจเรา
    
    
  • ว่างมาก

    21 มกราคม 2547 11:58 น. - comment id 205718

    มิตรสหายมากมายในโลกนี้
    สไบใหม่มากมีมากกลิ่นหอม
    สารพัดมะรุมมะตุ้มล้อม
    ไยจึงยอมโศกสิ้นกับกลิ่นสาง
    
    สไบเก่าเก็บเอาไปซักแห้ง
    สไบใหม่ดัดแปลงมาห่มร่าง
    กลิ่นใหม่นั้นไม่กี่วันก็พลันจาง
    ด้วยกลิ่นนางหอมกลบลบเลือนแล
    
    
  • ม้าลาย

    23 มกราคม 2547 00:56 น. - comment id 206328

    ม้าลาย
  • อัลมิตรา

    25 มกราคม 2547 03:39 น. - comment id 207379

    คุณลูกชายลมใต้..ที่ว่างมาก
    
    เมื่อกลิ่นหอมพยอมเจ้ากรุ่นเคล้าอยู่
    ใครจักสู้เทียบค่ามารศรี
    ยังตราตรึงคะนึงหาทุกราตรี
    หวังสไบผืนนี้โอบกล่อมกาย
    
    หากว่าสายสัมพันธ์ยังมั่นจิต
    เจ้ามิ่งมิตรควรรู้ดูความหมาย
    รักที่มอบตอบแทนมิแคลนคลาย
    เสื่อมสลายกับกาลที่ผ่านมา
    
    สไบน้อง..หวังปองมาเคียงข้าง
    กลับอ้างว่างมิชื่นรื่นหรรษา
    แสนสาหัสสาสมขมอุรา
    เจ้าเบือนหน้ามิคืนผืนอกเดิม..
    
    ตอบช้าไปหน่อย ขออภัยนะคะ คือว่า คืนวันที่ 21 ตอบไปแล้วหลายชุดแต่ทางweb มีปัญหานิดหน่อย ตอนนี้ทางเวปมาสเตอร์แก้ไขจัดการเรียบร้อยแล้ว จึงย้อนกลับมาตอบอีกหนค่ะ (แต่ไม่ยักจะเขียนเหมือนเดิมนะ ..)
    
    ****
    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณม้าลาย
  • โซมีโอ

    26 มกราคม 2547 00:20 น. - comment id 207749

    หนึ่งราตรีหนึ่งหนาวยาวนานนัก
    ยิ่งพลาดรักยิ่งเหงายิ่งเศร้าหนอ
    สไบร้างสลักรักที่ถักทอ
    จากหัวใจหนึ่งรอให้หวนคืน
    
    ยากกล่อมน้องตัดใจสไบแล้ว
    นั่งปอกแห้วมีดบาดมิอาจฝืน
    ใส่น้ำเชื่อมน้ำแข็งป่นทนกล้ำกลืน
    นั่งสะอื้นซดความหวานแห่งกานท์กรอง
    
    อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
    หากยังยากเทียบหวานแหววแห้วกระป๋อง
    สไบอื่นมากมายยังก่ายกอง
    พาดรอน้องมาหอมนะจอมใจ
    
    
    
  • อัลมิตรา

    26 มกราคม 2547 23:05 น. - comment id 208110

    หนึ่งราตรีที่ผ่านยังขานหา
    สักหนึ่งคราหากใจใคร่เฉลย
    สไบน้อยคอยห่มกอดกายเกย
    เหมือนดั่งเคยคงสุขมิทุกข์ตรม
    
    หากแต่มาร้างลาอุราร้าว
    ให้นอนหนาวเดียวดายคล้ายขื่นขม
    รักมิชื่นฝืนเก็บเจ็บระบม
    ที่มากบ่มจำเพาะเกาะกัดใจ
    
    โอ้ว่าหนาวคราวนี้ฤดีเอ๋ย
    คงยากเปรยว่าเศร้าร้าวเพียงไหน
    สไบร้างห่างเหินเมินห่างไกล
    สุดที่ใจจะคว้ามาเชยชม..
    
    
    
  • เทอไก้

    27 มกราคม 2547 00:10 น. - comment id 208141

    ทุกราตรีทุกวารที่ผ่านแล้ว
    คอยยินแว่วเพียงคำที่พร่ำขอ
    แม้หนาวเหน็บเพียงไหนไม่เคยพอ
    คงนั่งรอเสียงแผ่วจากแก้วใจ
    
    เพียงอิจฉาตาร้อนนอนไม่หลับ
    สไบสางกลิ่นอับยังหอมได้
    ทั้งอบอุ่นกรุ่นนักรักจริงใจ
    เจ้าสไบคงยิ้มเอิบอิ่มทรวง
    
    แม้หนาวนี้ผิงไฟไม่หายหนาว
    แสนปวดร้าวอกแล้งด้วยแรงหวง
    เอาเถิดนะเก่าก็เก่าแม้เศร้าทรวง
    อัลมิตรายังห่วงน้องสไบ
    
    ผ้าห่มไหนรักใครไม่อุ่นเท่า
    สไบเก่าผืนบางอยู่ทางไหน
    ปลิวลอยลมไปตกซบอกใคร
    จงจำไว้กลิ่นเจ้าไม่เก่าเลย
    
  • อัลมิตรา

    27 มกราคม 2547 00:25 น. - comment id 208155

    หนาวครั้งใดอุ่นใจอิงไออุ่น
    แนบดรุณเนื้อนวลครวญเฉลย
    หากครานี้ฤดีเศร้าเกินกล่าวเปรย
    รักละเลย..ไม่ย้อนกลับคอนรัง
    
    สไบเจ้า..เคยคิดบ้างไหมหนอ
    คนหนึ่งท้อกับการณ์เมื่อวานหลัง
    รักเคยชื่นระรื่นหมายคล้ายชิงชัง
    ยากฉุดรั้งวันของเราเศร้าเสียจริง
    
    สไบหอม..พยอมใจของข้านี้
    ดวงฤดีขอยอมพร้อมทุกสิ่ง
    หวังให้เจ้ากลับคืนผืนอกอิง
    รักใหญ่ยิ่งมอบแด่นวลคร่ำครวญรอ ..
    
    
    
  • อัลมิตรา

    27 มกราคม 2547 00:27 น. - comment id 208159

    หว๋าย .. มาสี่บทสี่นา งั้นต่ออีกบทนะ จะได้ไม่เอาเปรียบกันนัก..
    
    
    เพียงหนึ่งคำน้อยคิดจากจิตแจ้ง
    แม้นนวลแล้งใจตอบมอบเสนอ
    ยังหมายมั่นสัญญาคราปรนเปรอ
    ที่พร่ำเพ้อกลิ่นเจ้า..เคล้าสไบ ..
  • ไทเกอร์

    27 มกราคม 2547 00:40 น. - comment id 208168

    ไม่ต้องหลับต้องนอนมาย้อนเปิด
    จิตเตลิดตอบกลอนขอวอนเจ้า
    แม้ลมหนาวกี่ระลอกมาหยอกเย้า
    อย่าได้เฝ้ารอสไบที่ไหนเลย
    
    สไบอุ่นเพียงใดใคร่อยากรู้
    ความหลังใดยังอยู่จงเปิดเผย
    หากรอแต่สไบสางเหมือนอย่างเคย
    ห่มสไบจะยิ่งเชยขอบอกกัน
    
    ดวงฤดีขอยอมพร้อมทุกสิ่ง
    น้อยใจจริงสไบจ๋าข้ายังฝัน
    เมื่อไหร่หนอหากเกลอได้เจอกัน
    จะฟาดฟันด้วยขะม้าท้าสไบ
    
  • miss-sandy

    27 มกราคม 2547 00:42 น. - comment id 208171

    แวะมาเยี่ยมเยืยนค่ะ...กลอนเพราะดี
  • ไทเกอร์

    27 มกราคม 2547 00:47 น. - comment id 208174

    ต่ออีกบทก็ได้
    
    อันความรักยากนักจักบอกน้อง
    รักที่ปองจะรอคว้าหาที่ไหน
    เมื่อกระบี่คงมีอยู่ที่ใจ
    ห่มอะไรก็อุ่นได้ไม่แพ้กัน
    
    ไปนอนแล้วจ้า
    
  • อัลมิตรา

    27 มกราคม 2547 00:57 น. - comment id 208188

    ขอบคุณค่ะ คุณแซนดี้ .. เขียนให้พี่ชาย(คุณหนังสือ) ค่ะ
    
    คุณเสือ .. ราตรีสวัสดิ์นะ
    
    หวังสไบผืนเก่าหวานเย้าจิต
    ดั่งถูกพิษมายาพาลุ่มหลง
    ผ้าผวยใดยากคลายให้หนาวปลง
    คงลุ่มหลงสไบน้อง..ปองห่มใจ
    
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน