..๏ กาพย์เห่เรือ “กระบวนพยุหยาตราชลมารค ” พระราชพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน

อัลมิตรา

430667_466954766680582_1784493814_n.jpg๏ กาพย์เห่เรือ กระบวนพยุหยาตราชลมารค    
๏ นารายณ์จำหลักล้ำ.......เลออง-  อาจเฮย
ครุฑยุดนาคทรวดทรง......สง่าแท้
ลายทองล่องชาดผจง.......กระจกแต่ง
ฉัตรพู่ดูเลื่อมแล้.............เลิศริ้วปลิวงาม ๚
๏ นารายณ์หมายเทียบไท้...สยามินทร์
ทรงครุฑเยือนปฐพิน-.......ถิ่นแคว้น
พระเกียรติแห่งพระจักริน...ขจัดทุกข์-  เข็ญนา
ทวยราษฎร์ปราศยากแค้น...เนื่องด้วยพระบาร-มีเฮย ๚
๏ เรือเอยเรืองยิ่งแท้  ........... ล้วนเลื่อมแล้หลากสรรพนาม 
ลอยเด่นกลางชลตาม  ...........รูปลักษณ์ล้ำงามใกล้ไกล 
๏ เรียงรายเลื่อมพรายพร้อม ..เพ็ชรพลอยล้อมเหลืองอุไร 
ปิดทองผ่องอำไพ  ................ แลทางใดล้วนงามสม 
๏ พู่ย้อยห้อยระย้า  ............... ลวดลายผ้าน่าชื่นชม 
ธงฉัตรพัดตามลม  ............... เลื่อมวิจิตรโศภิษฐ์แพรว 
เรือทองขวานฟ้าคล้อย ..บรรเจิดลอยนำหน้าแนว 
เรือทองบ้าบิ่น แน่ว .........แสนปราดเปรียวสุดโสภี 
 เรือเสือทะยานชล ..... เสือคำรนสินธุ์นาวี 
เคียงข้างดั่งเสนี  ................. เรือดั้งปรี่มีสองลำ 
๏ ตรงกลางเรืออีเหลือง .. ดูปราดเปรื่องสมน้ำคำ 
ฝีพายชายกำยำ  .................. ยกพายจ้วงท่วงช่ำชอง 
เรือดั้งสามและสี่  ....... แล่นเร็วรี่มีครรลอง 
พร้อมเพรียงไปทั้งผอง ....... .ฝีพายคล่องเกริกไกรเกิน 
เรือดั้งห้าและหก  ........ให้สาธกล้ำจำเริญ 
เรียงรายได้ยลเพลิน  .............ด้วยดำเนินอย่างยรรยง 
เรือตำรวจนอกลิ่ว  ...... หลากแพรพลิ้วทั้งทิวธง 
เรือดั้งเจ็ด,แปดคง  ........ ลอยเลียบคู่อยู่ครบครัน 
เรือดั้งเก้าอยู่ซ้าย  ....... ซึ่งเลื่อมลายวิไลวรรณ 
เรืออสุรปักษีสัณ-  ........... ฐานเฉิดฉันนั้นตรึงตา 
เรือตำรวจในเคียง  ..... .คงลำเลียงมวลเสนา 
อีกลำงามโสภา  ................... เกียรติก้องหล้ามาเนิ่นนาน 
อสุรวายุภักษ์  .............. นามประจักษ์เลื่องชลยาน 
เรือดั้งสิบแหวกธาร  ........ แสนวิกรานต์ห้าวหาญนัก 
เรือดั้งสิบเอ็ดตาม  ..... .ยังคงความเก่งกาจประจักษ์ 
เรือดั้งสิบสองพรัก-  ........ พร้อมเพรียงจักด้วยว่องไว
กระบี่ราญรอนราพณ์  ... กระบี่ปราบเมืองมารใด 
คำชมสมพิสมัย  ................... คำใดเปรียบเทียบเรืองาม 
๏  เรื่อยเรื่อยมาเลียบเคียง.....อย่างพร้อมเพรียงมาติดตาม
คือ เรือดั้งสิบสาม ".........น่าครั่นคร้ามทั้งยำเกรง
เรือดั้งสิบสี่ นั้น.............ขุนพลนั้นช่างกล้าเก่ง
จ้วงพายอย่างครัดเคร่ง..........ทั้งครื้นเครงทั้งเร่งมือ
เรือดั้งสิบห้าล่อง  ........ ความแคล่วคล่องต้องเชื่อถือ 
สุครีพครองเมืองคือ  ..... นามระบือชื่อมงคล 
พาลีรั้งทวีป  ............... ดั่งคืนชีพผลาญมารผจญ 
โดดเด่นเห็นงามล้น  ........... อุกฤษฎ์จนดั่งเวชยันต์ 
๏ เรือหนึ่งซึ่งงามนัก  ........... ดั่งรูปลักษณ์เทพรังสรรค์ 
เรือพระที่นั่งอัน  ................... แสนวิจิตรตระการตา 
อนันตนาคราช  ........... ล้ำพิลาศทัศน์ลักขณา 
ลือเลื่องเฟื่องโลกา  .............. สุดโสภาคราชื่นชม 
เรือดั้งสิบหกคล้อย  ...... พลเรือคอยจ้วงพายจม 
งัดน้ำยามต้องลม  ................ เป็นฟองแตกแปลกตาไป 
๏ เห็นเรือดั้งสิบเจ็ด  ....... เรือครุฑเตร็ดไตรจักรไกร 
เกริกกล้าเรืองวิไล  ............... ลอยลำใกล้เรือแตงโม 
เรือครุฑเหิรเห็จห้าว  .. เรือดั้งกร้าวสิบแปดโบ- 
ราณท่านใช้ฝ่าโต้  ............... ทัพข้าศึกทั้งฝึกปรือ 
เรือดั้งสิบเก้านั้น  ........ แสนสำคัญนามเลื่องลือ 
องอาจเก่งฉกาจคือ  ............. คงเกียรติกล้าเหล่าวีรชน 
เรือดั้งยี่สิบ แสน-  .........ยานุภาพแม้นมากเหลือล้น 
สำเนียงเสียงขุนพล  ............. พร้อมเพรียงจนมากเรี่ยวแรง  
 เรือดั้งยี่สิบเอ็ด  ......... .เรือลอยระเห็จดั่งสำแดง 
ชายชาญหาญกร้าวแกร่ง  ...... จ้วงน้ำใสพรายกระเซ็น 
เรือดั้งยี่สิบสอง  ........... แหวกธารท่องล่องลอยเห็น 
พลหมู่เสนาเป็น  ................... เช่นมุ่งหน้าผลาญไพรี 
๏ เรือหนึ่งซึ่งเกินคำ  ............. ร้อยวรรณกรรมบรรยายมี 
ด้วยรูปทรงโศภี  ................... ลวดลายสีผ้าแพรพรรณ 
๏ รูปลักษณ์ล้วนวิไล  ............. เรือเอกชัยหลาวทองอัน 
พิลาสเป็นอัศจรรย์  ............... ดั่งมุ่งมั่นผลาญศัตรู 
๏ อีกหนึ่งซึ่งคงเกียรติ์  .......... ดั่งคำเธียรบรมครู 
บรรเจิดให้เชิดชู  .................. คู่บารมีพระจักรินทร์ 
เอกชัยเหิรหาวห้าว  ..... ผุดผ่องพราวสุดโศภิน 
ลายทองพ้องศาสตร์ศิลป์ . ......แสนพิพิธจิตรการตา 
๏ โอ้เรือพระที่นั่ง  ................. ทองสุกปลั่งดั่งจันทรา 
สมเกียรติ์แห่งราชา  .............. ธ ผ่านฟ้ามไหศวรรย์ 
๏ พระผู้ทรงผ่านฟ้า  ..............ทรงบุญญาจอมราชัน 
ทศพิธราชธรรมมั่น  .............. มากเมตตาเปี่ยมปรานี 
นารายณ์ทรงสุบรรณ ... เกินเสกสรรด้วยวาที 
ร้อยรจน์เบื้องบทกวี  .......... เกินจดจารด้านงามล้ำ 
๏ นารายณ์สี่กรนั้น  ............... เปรียบ ธ มั่นคงคุณธรรม 
เมตตาปรานีนำ  .................. ต่อไพร่ฟ้าประชากร 
๏ ศึกใหญ่คือภัยแล้ง  ............ น้ำเหือดแห้งแหล่งดินดอน 
ธ โปรดอำนวยพร  ................. เปลี่ยนทุกข์ร้อนเป็นร่มเย็น 
๏ เสกฝนแลเสกน้ำ  ............. ต่างชุ่มฉ่ำไร้ลำเค็ญ 
ชี้ทางห่างทุกข์เข็ญ  ............. เช่นคงชีพอย่างพอเพียง 
นารายณ์ทรงสุบรรณ ... ดั่ง ธ นั้นเฝ้ามองเมียง 
เสด็จไปทั่วไทยเพี้ยง-  .......... องค์นารายณ์ไล่อาธรรม์ 
๏ ยอดเขาสุดเขตแดน  ......... ถิ่นยากแค้นแดนใดกัน 
ทรงย่างพระบาทพลัน  .......... หมายเปลื้องทุกข์มอบสุขใจ 
๏ ทวยราษฎร์ต่างแซ่ซ้อง  ...... ดังกึกก้องทั้งแดนไตร 
ขอองค์พ่อหลวงไทย  ............ ทรงสำราญนิรันดร 
๏ เรือพระที่นั่งทรง  ............. .ประหนึ่งองค์ธราธร 
เสกสร้างสถาพร  .................. เสกประสิทธิ์ในโลกา 
๏ เนรมิตวิจิตรนัก  ............... แจ้งประจักษ์รูปลักขณา 
รื่นรมย์สมอุรา  .................... ดุจหงส์ฟ้าสิวาลัย 
๏ คือ เรือสุพรรณหงส์  .... อันสูงส่งคงคู่ไทย 
ล้ำหล้าเกริกเกรียงไกร  ........ รอยจำหลักพิไลงาม 
๏ หงส์ทองล่องสายชล  .......... น้ำใสจนเห็นแวววาม 
ต้องแสงสำแดงภาม  ............. ชดช้อยตามคำกล่าวชม 
๏ ฉัตรพู่ลู่ลมระย้า  ................ธงโสภาคราสวยสม 
เพริศพลิ้วทิวเทพพนม  ......... แสนรื่นรมย์ยามชมพลัน 
๏ เหล่าหมู่ฝีพายมาก  ........... แต่งกายหลากมากแพรอัน 
ดิ้นเงินเดินทองนั้น  ............... ช่างผ่องพรรณอันงามแล 
๏ โสตสดับกาพย์ทำนอง ........ดังกึกก้องพ้องจริงแท้ 
เปรียบเปรยนำเผยแพร่ ..........สิ่งล้ำค่าในวารี 
๏ เอื้อนอ้างดั่งเวทมนต์  ......... ศักดิ์สิทธิ์ดลในบทกวี 
บ่งความงามประเพณี  ........... ร่ายวาทีกาพย์คำโคลง 
๏ ลอยเด่นเห็นงามสง่า  ........ ทองเลื่อมตาผ้าแพรโพลง 
จำหลักลวดลายโยง - ........... คล้ายคงชีพรีบเริงชล 
๏ คือเรือพระที่นั่ง  ................ สุดสะพรั่งนภมณฑล 
เอนกชาติภุชงค์ ดล  ....... งดงามล้นพ้นพรรณนา 
๏ ฉัตรตั้งตระหง่านงาม  ....... ทองเหลืองอร่ามงามภูษา 
แต่งจนวิจิตรา  ..................... พลเสนาพายพร้อมเพรียง 
๏ สวมหมวกกลีบจำปา  ........ ช่างแปลกตาคราระเรียง 
จ้วงพายคล้ายสำเนียง  .......... ร่ายคำเจรียงเยี่ยงบรรยาย 
เรือแซง เจ็ดลำล่อง  ..... แสนแคล่วคล่องมวลฝีพาย 
เสนีย์มีนายท้าย  ................... นุ่งผ้าสีสอดไหมงาม 
๏ แต่งกายลวดลายหลาก  ...... พลหมู่มากหากมองตาม 
เลื่องลือระบือนาม  ................ พรักพร้อมตามท่วงทำนอง 
๏ บรรพชนคนกร้าวแกร่ง  ..... มุ่งสำแดงเกียรติทั้งผอง 
รุกไล่ไพรีต้อง  ................. .....พ่ายทัพไทยในบัดดล 
เรือตำรวจกรมวัง  ....... คุมแนวหลังดังขุนพล 
ตรวจตรามาแต่ต้น  ......... ......เช่นวีรชนอันเกรียงไกร 
๏ นับได้ห้าสิบสอง  ............... เรือลอยล่องชลาลัย 
โอ้แสนอวดศักดิ์ไทย  ............ อันยิ่งใหญ่ในคงคา 
๏ เลิศศิลป์ล้ำศาสตร์สร้าง  ..... เด่นสล้างอวดศักดา 
ยังสุขทุกครั้งครา  ................. ตรึงตราภาพมิลืมเลือน 
๏ บุญแท้เกิดเป็นไทย  .......... แสนสุขใจหาใดเหมือน 
มากสุขทุกครัวเรือน  ............ ใต้ร่มหล้าพระบารมี 
๏ ขอเทิดทูนบูชา-  ............... พ่อหลวงฟ้าจอมจักรี 
จงรักและภักดี  ..................... ตราบสิ้นฟ้ากว่าสิ้นลม  
 ธ ทรงครองราชย์ เหล่าทวยราษฏร์ถวายพระพร 
๏ บารมี ธ เลิศหล้า............เลอสรวง
ทศพิธราชธรรมปวง...........เปี่ยมล้น
ทรงวิวรรธน์ประดุจดวง.......ดาวฤกษ์
พระอัจฉริยภาพพ้น............พรั่งพร้อมบุญญา  ๚
๏ ทรงเสด็จครองราชย์ด้วย..ราชธรรม์
พระราชกรณียกิจอัน...........สฤษฏ์แล้
บังเกิดซึ่งคุณมหันต์............แก่ราษฎร์
ดับทุกข์สร้างสุขแท้............ทั่วหล้าสุขสราญ ๚
๏ หกสิบกว่ากาลฝน ..............พระบารมีพ้นชนชื่นชม 
เป็นยิ่งนโรดม ......................ในไตรโลกแต่ปางบรรพ์ 
๏ พระบาททรงก้าวย่าง ..........ทุกเส้นทางอย่างมุ่งมั่น  
เปลื้องทุกข์ทวยราษฎร์อัน- .....ผู้ยากจนพ้นลำเค็ญ 
๏ ทรงสอนให้พึ่งตน ...............เพื่อสยามชนได้อยู่เย็น - 
เป็นสุขไร้ทุกข์เข็ญ ................ดำรงชีพอย่างพอเพียง 
๏ หากผองพื้นปฐพี ................แทนพื้นที่ให้ร้อยเรียง 
รจนาวรรณกรรมเพี้ยง ...........จารึกซึ่งพระบุญญา 
๏ ด้วยน้ำมหาสมุทร ..............ต่างหมึกสุดร่ายพรรณนา 
เขียนพื้นแผ่นพสุธา ...............ทั้งโลกหล้าเบื้องมหาศาล 
๏ ร่ายรจน์ด้วยบทกวี ..............ล้ำวาทีทั้งจดจาร 
บรรยายซึ่งอุปการ .................แห่งภูมินทร์ผู้ทรงธรรม 
๏ สิ้นฟ้าแลปฐพี ....................สิ้นหมึกที่มหาสมุทรนำ 
กล่าวเกริ่นสรรเสริญคำ ..........มิอาจจดบทอ้างคุณ 
๏ ทวยราษฎร์น้อมภักดี ..........จอมจักรีผู้เปี่ยมบุญ 
ผู้ทรงพระการุณ ....................ให้ทรงเกษมทั้งเปรมปรีดิ์ 
๏ ด้วยคุณพระไตรรัตน์ ...........ความพิพัฒน์บังเกิดมี 
คุณเทพเรืองฤทธี ..................ทั้งจักรวาลอันศักดา 
๏ คุณงามความศักดิสิทธิ์ .......เสถียรสถิตไตรโลกา 
ปกปักแลรักษา ......................ซึ่งองค์พระสยามินทร์ 
๏ ให้ทรงพระเจริญยิ่ง ............อยู่เป็นมิ่งขวัญชีวิน 
ทวยราษฎร์ข้าแผ่นดิน ............ตราบร้อยพันวสันต์กาล 
๏ ธ ประสงค์พุทธางกูร ...........จงสมบูรณ์ด้วยนฤพาน 
สรรเพชญพระโพธิญาณ .........ยิ่งไพศาลในบัดดล 
๏ ศรีสวัสดิ์นิรันดร ..................จตุรพรสัมฤทธิผล 
เทิดไท้พระภูมิพล .................ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ๚ะ๛ 

เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทรงพระราชพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน ในวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้าอัลมิตรา สมาชิกเวปบ้านกลอนไทย				
comments powered by Disqus
  • ยาแก้ปวด

    7 พฤศจิกายน 2555 12:30 น. - comment id 1250420

    41.gif41.gif41.gif
    
    สวยสดงดงามตามเรือ
    36.gif36.gif
  • อนงค์นาง

    6 พฤศจิกายน 2555 21:36 น. - comment id 1250457

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    
    36.gif36.gif36.gif29.gif29.gif29.gif36.gif36.gif36.gif
  • แม่น้ำในฟ้า

    7 พฤศจิกายน 2555 00:25 น. - comment id 1250461

    เลอสรวง
    ดุจดั่งดวงประทีปแสง
    งามล้ำคำสำแดง
    กาพย์เห่ร้องก้องโลกา
    
    เลอเลิศยิ่งนัก  41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif
  • ศรีสมภพ

    7 พฤศจิกายน 2555 00:43 น. - comment id 1250462

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    
    29.gif29.gif29.gif
  • กรต

    7 พฤศจิกายน 2555 07:27 น. - comment id 1250467

    ว๊าววว.....ผลงานเยี่ยมยอด ...11.gif
    นับถือๆๆ 29.gif11.gif6.gif
    
    ใกล้พระราชพิธีเข้าไปทุกทีแล้ว....
    รอชมขบวนเรือพระที่นั่งกัน...11.gif11.gif6.gif11.gif36.gif
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    7 พฤศจิกายน 2555 08:01 น. - comment id 1250471

    ยอดเยี่ยม ขอเก็บไว้ในหน้าส่วนตัวให้ลูกหลานในอนาคตได้ศึกษา ตอนนี้ต้องหาวิธีมีลูกหลานก่อน อิอิ
  • อัลมิตรา

    7 พฤศจิกายน 2555 10:58 น. - comment id 1250475

    กาพย์เห่เรือนี้ อัลมิตราเคยนำเสนอครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖   ๙ ปีล่วงมาแล้วที่อัลมิตราติดตามชมทางทีวี ตอนนั้นกระบวนเรือในพระราชพิธีมีจำนวน ๕๐ ลำ แล้วก็พยายามจับภาพในใจบรรยายออกมาเป็นกาพย์เห่เรือ  และอีก ๓ ปีถัดมาก็นำเสนอกาพย์เห่เรือนี้เป็นครั้งที่สอง ก็มีการปรับบางคำและเพิ่มเติมบทอาเศียรวาท กระบวนเรือในพระราชพิธีมีจำนวน ๕๒ ลำ งดงามยิ่งใหญ่ตระการตาในพระราชพิธีครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ 
    
    และอีกคราครั้งที่อัลมิตรานำกาพย์เห่เรือเสนอในเวป Thaipoem  ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราทรงโปรดให้มีพระราชพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน ในวันศุกร์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ในการนี้มีการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคเต็มรูปแบบ มีจำนวนเรือทั้งสิ้น ๕๒ ลำ และในพระราชพิธีนี้ จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของพุทธมามกะที่ดี ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนา สืบทอดพระราชประเพณีอันดีงาม
    
    การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้เป็นการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคใหญ่   มีเรือในขบวนจำนวน  ๕๒ ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง ๔ ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์  เรือรูปสัตว์ และเรือพระราชพิธีอื่น ๆ โดยใช้กำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือเป็นฝีพายเรือพระราชพิธีรวมถึงกำลังพลในส่วนอื่น ๆ จำนวน ๒,๓๑๑ นาย โดยการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๑๗ ครั้งล่าสุดเป็นการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน ประจำปี ๒๕๕๐
    
    นอกเหนือจากความสวยงามเป็นระเบียบของขบวนเรือ  ในวันซ้อมใหญ่ที่ผ่านมายังได้ชื่นชมความสง่างามของเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายตามแบบโบราณราชประเพณี จากข้อมูลที่ปรากฏดังเช่นในสารานุกรมไทย  จดหมายเหตุ รวมทั้งจากกองศิลปกรรม  สำนักพระราชวัง ซึ่งได้อธิบายถึงการแต่งกายของผู้ประจำเรือในริ้วขบวนเรือพระราชพิธี  อาทิ ผู้บัญชาการกระบวนเรือ และรองผู้บัญชาการกระบวนเรือ สวมเสื้อผ้าเยียรบับ กางเกงสนับเพลาพร้อมผ้านุ่ง คาดเข็มขัดพู่ไหมทอง ขัดดาบสักหลาดแดงกระบังเงินหัวบัว สายสะพายดาบแถบทองใหญ่  สวมถุงเท้าสีขาว รองเท้าชูติดโบ
     
    นายเรือ (พระที่นั่งสุพรรณหงส์) สวมเสื้อผ้าโหมดเทศสีฟ้า  นุ่งผ้าม่วงเชิงทอง สวมหมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว  คาดเข็มขัดพู่ไหมแดงและสายกระบี่แถบทองเล็ก ขัดดาบทองเหลืองหุ้มหนัง สวมถุงเท้ายาวสีขาว รองเท้าชูติดโบสีดำ ส่วน เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ สวมเสื้อผ้าโหมดเทศสีน้ำ  เงิน นุ่งผ้าม่วงเชิงเงิน  คาดเข็มขัดพู่ไหมแดงและสายกระบี่แถบทองเล็ก สวมหมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว  สวมถุงเท้ายาวสีขาวและรองเท้าชูติดโบสีดำ
    
    ฝีพายเรือพระที่นั่งลำทรงและเรือพระที่นั่งรอง สวมเสื้อสักหลาดสีแดงติดลูกไม้ใบข้าว กางเกงรูเซียสีดำ คาดผ้ารัดประคดโหมดเทศ ดาบกำมะลอ ด้ามไม้กลึง สายสะพายดาบสักหลาดสีแดงติดแถบลูกไม้   สวมหมวกทรงประพาสกำมะหยี่สีแดงขลิบลูกไม้ใบข้าว  ยอดเกี้ยว  สวมถุงเท้ายาวสีขาว รองเท้าหนังสีดำ ฝีพายเรือรูปสัตว์ สวมเสื้อเสนากุฎลาย สวมกางเกงผ้าขาวริ้วทางแดง  คาดผ้ารัดประคดสีแดงดอกขาว สวมหมวกสังกะสีทาสีแดงมีลายยันต์ สวมถุงเท้ายาวสีขาว สวมรองเท้าหนังสีดำ  ฝีพายเรือเสือ สวมเสื้อผ้าปัศตูสีแดงขลิบสีเหลือง กางเกงปัศตูแดงขลิบเหลือง คาดผ้ารัดประคดแดงชายพิมพ์ สวมหมวกกลีบลำดวนสีแดงขลิบเหลือง สวมรองเท้าหนังสีดำ
    
    สำหรับ คนเห่ สวมเสื้อผ้าโหมดเทศสีชมพู  นุ่งผ้าเกี้ยวลาย  คาดผ้าคาดโหมดเทศ  สวมหมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดเกี้ยว สวมถุงเท้ายาวสีขาว รองเท้าชูติดโบ ส่วนคนนั่งคฤหพล จะสวมเสื้อเข็มขาบไหม กางเกง มัสรูไหม สวมหมวกหูกระต่ายแดงขลิบเหลือง รัดประคดแดงชายพิมพ์ สวมถุงเท้ายาวสีขาว รองเท้าหนังสีดำ ฯลฯ  คนนั่งคฤหนาย จะสวมเสื้อนอกขาวแบบราชการ นุ่งผ้าเกี้ยวลาย   หมวกทรงประพาสโหมดเทศยอดจุก สวมถุงเท้ายาวสีขาว รองเท้าหนังสีดำ เป็นต้น
    
    การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้ประพันธ์กาพย์เห่เรือใหม่ชื่อว่า กาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย ข้าราชการบำนาญ สังกัดกองทัพเรือ  มี ๓ บทได้แก่ บทสรรเสริญพระบารมี บทชมเมือง  และบทชมเรือขบวน โดยมี นาวาโท ณัฐวัฏ อร่ามเกลื้อ เป็นพนักงานเห่  
    
    จากการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคซึ่งได้ซ้อมเป็นรูปขบวนย่อย ซ้อมใหญ่ครบถ้วน โดยในวันที่ ๙ พฤศจิกายน  ๒๕๕๕ ที่จะถึงนี้ บรรยากาศแห่งความงดงามตระการตาของริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของชาติไทยถูกถ่ายทอดด้วยศิลปกรรม ประติมากรรมวิจิตรบรรจงสลักเสลาจนเป็นลำเรืออ่อนช้อยงดงาม   เมื่อนำมาผนวกกับกาพย์เห่เรือที่ร้อยเรียง
    ด้วยถ้อยคำสละสลวยตามฉันทลักษณ์ ประกอบกับความพลิ้วไหวและพร้อมเพรียงของฝีพาย
    
    เมื่อสอดรับกับเสียงขับขานกาพย์เห่เรือที่ดังกังวานทั่วคุ้งน้ำจะทำให้บรรยากาศทั่วทั้งบริเวณที่ขบวนเรือแล่นผ่านประดุจดังเมืองสวรรค์ สายน้ำที่นิ่งสงบทอดยาวจากเหนือจดใต้ถูกทาบทาด้วยขบวนเรืออันงดงาม ยิ่งใหญ่  ตระการตา ภาพที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะถูกถ่ายทอดแก่สายตาของชาวไทยอีกครั้ง.
    
     ......................................................... ......................................................... 
    
    (ประวัติการนำเสนองานเขียนชุดกาพย์เห่เรือกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค)
    
    ครั้งที่ ๑..  
    ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๖ .. มีการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นการพิเศษ เพื่อแสดงให้กับผู้นำเขตเศรษฐกิจในการประชุมเขตการค้าเสรีประจำภูมิภาพเอเซียและแปซิฟิกหรือที่เราเรียกกันย่อ ๆ ว่า.."เอเปก" ครั้งนั้นอัลมิตราได้เขียนกาพย์เห่เรือฯ โดยที่ไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แต่การซักซ้อม ทั้งหมดที่เขียนเป็นกาพย์นั้น เกิดจากการค้นคว้าและดูการถ่ายทอดสดทางทีวี 
    
    กระบวนเรือในครั้งนั้นใช้เรื่อพระราชพิธีจำนวน ๕๐ ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง ๒ ลำ คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ และเรือรูปสัตว์อีก ๑๒ ลำ และเรือประเภท เรือตั้ง และเรือแซงอีกจำนวน ๓๖ ลำ  ความยาวกระบวนเรือประมาณ ๑,๒๐๐ เมตร ใช้กำลังพล และฝีพลาย จำนวน ๒,๐๘๒ นาย เรือที่ไม่ได้อยู่ในกระบวนในครั้งนั้นคือ เรืออนันตนาคราชซึ่งเป็นเรืออัญเชิญพระไตรปิฏก และ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ซึ่งเป็นเรือพระที่นั่งรองสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์
    
    ครั้งที่ ๒.. 
    ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี  ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ทางกองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เชิญกระบวนเรือพระราชพิธี รวมถึงการเลี้ยงรับรองและทอดพระเนตรกระบวนเรือพระราชพิธีแด่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีจากประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นพระราชอาคันตุกะ
    
    กำหนดใช้เรือพระราชพิธีทั้งหมด ๕๒ ลำ ใช้กำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ จำนวน ๒,๒๐๐ นาย 
    
    เรือประเภทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมในกระบวนพยุหยาตราชลมารค 
    เรือเอกไชยเหินหาว  เรือเอกไชยหลาวทอง  
    เรือพาลีรั้งทวีป  เรือสุครีพครองเมือง  
    เรืออสุรวายุภักษ์  เรืออสุรปักษี  
    เรือกระบี่ปราบเมืองมาร  เรือกระบี่ราญรอนราพณ์  
    เรือครุฑเหินเห็จ  เรือครุฑเตร็จไตรจักร  
    เรือเสือทยานชล  เรือเสือคำรณสินธุ์  
    เรืออีเหลือง  เรือแตงโม  
    เรือทองขวานฟ้า  เรือทองบ้าบิ่น  
    เรือดั้ง จำนวน ๒๒ ลำ  เรือตำรวจ จำนวน ๓ ลำ  
    เรือแซง จำนวน ๗ ลำ  
    
    ในคราวนั้น ด้วยความตั้งใจของอัลมิตรา อยากจะเห็นกระบวนพยุหยาตราชลมารคกับตาตนเองสักครั้ง เพื่อว่าจะได้นำกาพย์เห่เรือชุดที่เคยเขียนไว้เมื่อสามปีก่อนมาปรับปรุงพร้อมกับเพิ่มเติมในส่วนของบทอาเศียรวาทแด่องค์พระเจ้าอยู่หัวฯ  
    
    และแล้วฝันของอัลมิตราก็เป็นจริง อัลมิตราได้มีโอกาสไปดูการซ้อมกระบวนเรือ ฯ ถึงสองครา เรียกได้ว่าหนีงานไปดีกว่า ในวันที่ ๒ ,๖ มิถุนายน ๒๕๔๙ ซึ่งครั้งแรก อัลมิตราอยู่บริเวณท่ามหาราชบนระเบียง และครั้งที่สองอัลมิตรามองจากมุมสูงบนสะพานพระราม ๘ สิ่งที่ประจักษ์แก่สายตาในตอนนั้น อัลมิตราเองก็บรรยายไม่ถูกว่ามีความสุขมากมายแค่ไหน รู้แต่ว่าปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก รู้สึกเป็นบุญตาที่ได้เห็น ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการซ้อมก็ตาม กาพย์เห่เรือที่อัลมิตราร่างไว้คร่าว ๆ อัลมิตราอ่านทวนแล้วทวนอีกพร้อมกับมองไปยังแม่น้ำมองแล้วมองอีก เพื่อที่จะเทียบกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้น เรือ ๕๒ ลำที่เรียงลำดับการเคลื่อนกระบวน ถูกต้องตามความเป็นจริง 
    
    และถึงแม้ว่าในปีนี้อัลมิตราจะไม่ได้ไปดูกระบวนเรือ ฯ ในวันที่ ๑๒ มิถุนายนนี้ แต่อัลมิตราก็คงไม่พลาดที่จะจับจ้องทางทีวีอีกเช่นเคย โดยมีกระดาษที่พิมพ์งานกาพย์ชุดนี้ถืออยู่ในมือด้วย 
    
    ความสุขใจที่ได้จากการเขียนในแต่ละครั้ง อาจจะมีมากมีน้อย เหมือนหรือไม่เหมือนก็คงจะแล้วแต่สภาพจิตใจของอัลมิตราในการเขียนในแต่ละครั้งนั้น ๆ แต่เมื่อเทียบกับการเขียนกาพย์เห่เรือในครั้งนี้แล้ว สุดประมาณที่จะบอกได้ว่าปลื้มปิติเป็นล้นพ้น ยิ่งในขณะที่เขียนบทอาเศียรวาท อัลมิตรานึกถึงภาพของพ่อหลวงไทย นึกถึงพระราชกรณียกิจ ยิ่งทำให้รู้สึกว่า 
    
    ๏ ด้วยน้ำมหาสมุทร ..............ต่างหมึกสุดร่ายพรรณนา 
    เขียนพื้นแผ่นพสุธา .............ทั้งโลกหล้าเบื้องมหาศาล 
    ๏ ร่ายรจน์ด้วยบทกวี ............ล้ำวาทีทั้งจดจาร 
    บรรยายซึ่งอุปการ .................แห่งภูมินทร์ผู้ทรงธรรม 
    ๏ สิ้นฟ้าแลปฐพี ....................สิ้นหมึกที่มหาสมุทรนำ 
    กล่าวเกริ่นสรรเสริญคำ .........มิอาจจดบทอ้างคุณ  
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
  • ทักทาย

    7 พฤศจิกายน 2555 19:37 น. - comment id 1250498

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
  • มะกรูด

    7 พฤศจิกายน 2555 20:50 น. - comment id 1250501

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
  • มะกรูด

    7 พฤศจิกายน 2555 20:52 น. - comment id 1250502

    งดงามมากเลยค่ะ  คุณอัลฯ
    ชื่นชมผลงาน  ยอดเยี่ยมมาก...
    
    
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • วศร

    7 พฤศจิกายน 2555 23:03 น. - comment id 1250508

    41.gif41.gif41.gif
  • คอนพูทน

    8 พฤศจิกายน 2555 09:54 น. - comment id 1250518

    ยอดเยี่ยมมากมาย ..กาพย์เห่เรือครบถ้วน
    กระบวนความ งานนี้พลาดไม่ได้เหลือเพียง
    แห่งเดียวในหล้า   พรุ่งนี้เจอกัน
    จองที่ไว้แล้วครับ (หน้าทอทัด)
    
    สวยอย่าได้โทรม
    36.gif6.gif7.gif8.gif16.gif
  • เพียงพลิ้ว

    8 พฤศจิกายน 2555 14:29 น. - comment id 1250546

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
  • มวลภมร

    8 พฤศจิกายน 2555 22:08 น. - comment id 1250582

    หนึ่งเดียวในโลก29.gif29.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน