...แด่เธอผู้เดียวดาย...

อัลมิตรา


......สองบ่าคราพรั่งพร้อม...............สัมภา-  ระเฮย 
ถมทับกับชีวา...............................แบกไว้ 
ท่ามกลางแห่งโลกา........................คราอ่อน-  แรงนอ 
อีกโดดเดี่ยวยากไร้-.......................ปราศผู้เคียงคลอ ฯ 
......เธอคงหวังหนึ่งผู้....................ปลอบโยน-  แม่เอย 
เพียงเพื่อผ่อนพิโลล*.....................ทุกข์ร้อน 
ขมขื่นดื่นพึงโอน..........................สู่มิตร-  สหายนา 
เพียงโอษฐ์เปล่งเสียงซ้อน-............เรียกร้องสรรพนาม ฯ 
......กาลเมื่อจิตเหว่ว้า.....................กังวล 
กาลปัจจุบันดล-............................จิตช้ำ 
คลายหมองหม่นจินต์จล..................สงบนิ่ง  นาแม่ 
ปราศสิ่งสิงจิตย้ำ............................รุ่มร้อนนอนหนาว ฯ 
......คราเมื่อปรารถน์หนึ่งผู้...............ชิดเชย 
เหน็ดเหนื่อยแหนงหน่ายเผย............ผ่อนร้าย 
คืนค่ำพร่ำเพรียกเคย.......................จิตแนบ  อนงค์นา 
ยามเมื่อนุฏนาชคล้าย.......................นิ่มน้องนางวัง ฯ 
......เราคือบุรุษนั้น..........................นวลอนงค์  แม่เอย 
คราเมื่อจิตจำนงค์...........................เนื่องใกล้ 
ขับขานซึ่งนามตรง-........................เพรียกพี่  นาแม่ 
ยามย่ำอาจกล่อมให้.........................โศกร้างสลดเลือน ฯ 
......ผันวารกาลผ่านพ้น....................สบสมัย 
พฤกษ์พืชสลัดใบ............................ร่วงพื้น 
สรรพสิ่งดุจตกไป............................สู่บ่า 
เปรียบทุกข์ทบถมสะอื้น....................ดื่นซ้ำสุมทรวง ฯ 
......คราวเมื่อเจือจิตล้า-....................อ่อนแรง 
คนหนึ่งอาจจำแลง-.........................ฉุดยื้อ 
โอบกอดพลอดพจน์แสดง.................กานท์กล่อม 
มูลเหตุฉะนี้หื้อ*.............................ดุจให้คลายตรม ฯ 
......เพียงเหตุอาเภทร้าย...................เบียดเบียน-  แม่เอย 
นามชื่อวงษ์สกุลเพียร.......................เพรียกพ้อง 
หากหมองหม่นดำเนียร*..................นิจจ์เนื่อง  นวลแม่ 
อาจเอ่ยเผยนามก้อง........................กู่ฟ้าสนั่นภูมิ ฯ 
......ในยามความเหว่ว้า.....................สิงทรวง 
หาใช่อาชญาลวง.............................ลอบย้ำ 
ละขมลดตรมปวง-...........................ห่วงมัด-  จิตนา 
เราต่างยังมากพร้ำ*..........................พรั่งพร้อมกาลเสมอ ฯ 
......ปราศสรรพสิ่งพลั้ง-....................พลาดมหันต์  นาแม่ 
หากพี่จักรับขวัญ.............................ปลอบเจ้า 
เพียงกาลปรารถน์สมานฉันท์.............เสมือนชิด  ชมเฮย 
ยามโศกวิตกเร้า...............................เรียกย้ำนามเผือ ฯ 
....เมื่อยามที่คุณเหว่ว้าอ้างว้าง...โดดเดี่ยวเดียวดาย... 
....สับสน...กังวล...วิตก...ขอให้คุณนึกถึงเพลงนี้...
....และพร้อมกันนั้น...ความหมายที่สื่อสารมาเป็นบทโคลง... 
....อาจทำให้คุณสบายใจขึ้น... 
....และนี่...คุณคงเข้าใจว่าทำไม...จึงมอบเพลงนี้ให้คุณ...
....เพราะเมื่อคุณอ่านทุกถ้อยความ...คุณจะเข้าใจนะ... 
....เข้มแข็ง...แต่ขอให้อ่อนโยนนะคะ...				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    3 เมษายน 2546 08:55 น. - comment id 121723

    ......Youre  Only  Lonely.....(  J.D.  Souther )..... 
    
    
    ......when  the  world  is  ready  to  fall  on  your  little  shoulders, 
    ......and  when  youre  feeling  lonely  and  small, 
    ......you  need  sombody  there  to  hold  you, 
    ......you  can  call  out  my  my  name.....when  youre  only  lonely, 
    ......now...dont  you  ever  be  ashamed,  youre  only  lonely, 
    
    ......when  you  need  sombody  around  on  the  nights  that  try  you, 
    ......(  remember )  i  was  there  when  you  were  a  queen, 
    ......and  ill  be  the  last  one  there  beside  you, 
    ......so  you  can  call  out  my  name, 
    ......when  youre  only  lonely, 
    ......now...dont  you  ever  be  ashamed,  youre  only  lonely, 
    
    ......when  the  world  is  ready  to, 
    ......fall  on  your  little  shoulders, 
    ......and  when  youre  feeling  lonely  and  small, 
    ......you  need  somebody  there  to  hold  you, 
    ......so  dont  you  ever  be  ashamed,  youre  only  lonely, 
    ......ah...you  can  call  out  my  name, 
    ......when  youre  only  lonely, 
    
    ......when  youre  only  lonely, 
    ......ah...its  no  crime...darling,  weve  got  lots  of    time, 
    
    ......ah...theres  nothing  wrong  with  you, 
    ......darling...i  get  lonely  too, 
    ......so  if  you  need  me,  all  you  gotta  do  is  call  me, 
    
    ......youre  only  lonely. 
    
    
    
  • น้ำ

    3 เมษายน 2546 09:03 น. - comment id 121726

    นิยมใจท่านแล้ว
  • พุดพัดชา

    3 เมษายน 2546 09:06 น. - comment id 121728

    รักทะเลเห่กล่อมหอมโลกฝัน
    รักนวลจันทร์อันพราวพร่างกระจ่างใส
    รักดอกไม้หลากสีในแนวไพร
    รักดวงใจละไมละมุนหมุนมาให้เราได้พบได้รักกัน..
     
    คิดถึงลำธารหวานดอกจิกปลิดกลีบดอกโปรยสายสีชมพู สะพรั่ง    ที่บ้านไร่ริมเชิงเขาในเงาเงื้อมโงกของภูเขาชะง่อนผา..
    คิดถึงควันไฟลอยล้าอ้อยอิ่ง ทิ้งสายหม่นเทาเหนือยอดไม้เรี่ยทิวไม้
    คิดถึงจิ้งหรีดไพรกรีดเสียงก้องร้องระงม
    คิดถึงสายลมพัดไหวไกวเปลเมฆเสกสุขสงบใจในยามย่ำสนธยา .. คิดถึงเธอผู้กล้านะหญิงงาม
  • ฟ้าสวย

    3 เมษายน 2546 10:04 น. - comment id 121735

    เก่งมากกกกกกกกกกกค่ะ พี่อัลมิตรา
  • ***กฤษณะ***

    3 เมษายน 2546 11:07 น. - comment id 121764

    ^J^      ................................
    
    
  • สดายุ

    3 เมษายน 2546 13:07 น. - comment id 121789

    ใครที่ไหนนะเดียวดาย...สาวหรือหนุ่ม
  • อัลมิตรา

    3 เมษายน 2546 13:31 น. - comment id 121799

    ขอบคุณค่ะ คุณน้ำ คุณพุดพัดชา คุณฟ้าสวย คุณกฤษณะ ..
    
    แฮ่ม .. พี่ชาย  คนเขียนเป็นหนุ่มมั๊ง คนอ่านเป็นสาวกระมัง ..คนที่เดียวดายย่อมเป็นอัลมิตราแน่แท้.. โดนทิ้งนี่นา บอกว่าจะไปสมุยตอนสงกรานต์ แล้วไหง๋ ย่องไปก่อนหนอ ..
  • น้ำ

    3 เมษายน 2546 13:37 น. - comment id 121803

    หาแนวเสนอใหม่
    คิดว่าใช้ธรรมชาติ....อารมย์จะกลางกลาง
    เรียนถามครับ
    จากใจ 
       สถานเสนาะเสียงไวโอลินคลอเชโล่
    สานสายพิณเสียงเปียโนเนิ่นโน้ตกล่อม
    ลออคล้อยลอยระเรื่อยเสียงแว่วกลม
    รอนหทัยบรรณวรรณะวงศ์ไสว
        ดอกบัวหลวงลอยไกวในสระกลมกลาง
    น้ำพุหว่างไหลรวงรินยินน้ำนวล
    ธารไหลไป่หวนอุบลทวนกระแสวน
    บัวตูมนวลบานแล้วดุจเพ็ญเด่นทรวง
        สัมฤทธิ์นาคจัตุรงค์เทินบุษบง
    ลอยองค์คงนิ่งดุจฟังทำนองเสียงสังข์
    ฟังเพลงแว้วกลมกล่อมใจลำนำกานท์
    ฤทัยนานกาลเบาบ่วงกรรม
  • ตะเอ๋า

    3 เมษายน 2546 17:13 น. - comment id 121851

    ทำมัย อัลมิตรา ชอบแต่งกลอนสมมต ตัวเองเป็นผู้ชาย
    เป็นทอมหรือป่าวฮะ
    
    5555
  • ทะเลใจ

    3 เมษายน 2546 18:08 น. - comment id 121857

    *^_^*  -----
    แวะมาส่งยิ้มหวาน ๆ ให้คนเก่งอย่างพี่อัลมิตราค่ะ ---
    
  • ลำน้ำน่าน

    3 เมษายน 2546 19:02 น. - comment id 121868

    ติดตามผลงานคุณอัลมิตรมาตลอด
    บทกวีเศร้ารานราวกับว่า 
    หัวใจสลายมาเนิ่นนาน..
    เหตุใดหนอ รักจึงมักคร่ำคราญ...
    และเดียวดาย..
    
    ชื่นชมในบทกวีคุณนะครับ
  • อัลมิตรา

    4 เมษายน 2546 01:08 น. - comment id 122004

    คุณน้ำ ร่ายได้ไพเราะมากค่ะ ... การร้อยเรียงอักษรเพื่อบ่งบอกถึงความดื่มด่ำในอรรถรส ตระกานแท้ ดนูเอย ..
    
    ตะเอ๋า ถ้าเป็นกระเทยเมื่อไหร่ เราจะเป็นทอมให้ดู ดีป่ะ 
    
    คุณทะเลใจ ขอบคุณมากค่ะ
    
    คุณลำน้ำน่าน เช่นกันค่ะ แวะไปอ่านของคุณบ่อยๆค่ะ :) ขอบคุณนะคะ
  • ข้าวปล้อง

    4 เมษายน 2546 10:05 น. - comment id 122084

    เยี่ยมมากเลยค่ะ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    4 เมษายน 2546 12:20 น. - comment id 122139

    รอเก็บเกี่ยวอย่างเดียว
    เต็มกระบุงแล้วเรางวดนี้
  • อัลมิตรา

    4 เมษายน 2546 17:36 น. - comment id 122253

    ขอบคุณมากค่ะ คุณข้าวปล้อง
    
    คุณฤกษ์...มีข้าวสารมาแลกข้าวเปลือกสองกระบุง ค่ะ ...
  • ราชิกา

    4 เมษายน 2546 20:51 น. - comment id 122295

    แวะมาชื่นชม..คุณอัลมิตรา..เก่งจริงๆค่ะ..
    ระดับฝืมือ..10 ดาวเลยค่ะ..
    
  • อัลมิตรา

    4 เมษายน 2546 21:41 น. - comment id 122309

    ท้องฟ้ามีหลายสิบล้านดวง อัลมิตรามีสิบแล้ว .. เย้ ขาดอีกกี่มากน้อยคะ ..กิ..กิ..
    
    ขอบคุณค่ะ
  • น้ำตัวจริง

    5 เมษายน 2546 08:14 น. - comment id 122405

    หาแนวเสนอใหม่
    คิดว่าใช้ธรรมชาติ....อารมย์จะกลางกลาง
    เรียนถามครับจากใจนิ
      
      ทะเลยามนี้ราบเรียบ   เทียบกระจก
    ใสไสวปกเห็นเส้นเงา  พรายสะท้อน
    รอนแสงฟ้าลาหลังเมฆ   สีควันเทา
    โอ้ใจเราเฝ้ารู้ดู    ตนแล
         คนช่างฝันยังมีกลอน  ในกมล
    ค้นลงดำดิ่งยลใต้ท้องทะเลใส
    ตีตีนกบสวมใส่  สะกรู้บร้า
    มองเจิดจ้าใต้วัง  ทะเลวาน
         ดอกเอ๋ยดอกปะการัง เขาเชิงชัน
    แผ่พังพานบานละลาน  นานเท่านาน
    กาลวนกาลทานทนทาน  จนจำวาน
    ม่านสายสาหร่ายริ้วทิว  วิวน้ำสวย
        ขังใจจรดจดจำ  รำฝูงปลา
    กาตูนเจ้าฝูงสร้อย  นกแก้วลอย
    (ปลา)ไหลทะเลเห่ไกวไป  ให้ระรวย
    สวยจนสวยจำมิอยาก  คืนถิ่นโลกา
    
    หลงอารมย์
    หลงคำท่านคม
    มิเคยหลงแบบนิ
    จะเลิกหลง
    ก็มิรู้ว่าหายหลงหรือยังจนกว่า
    หลงนิ
  • อัลมิตรา

    5 เมษายน 2546 21:23 น. - comment id 122645

    คุณน้ำ ..
    
    อารมณ์กลางๆ บ่งบอกถึงความงามของจิตใจที่มิได้เสแสร้ง
    ไหวเอน อ่อนโยน จารอักษรดั่งระลอกคลื่น
    
    ...ทะเลงามคลื่นพริ้วยามพระพายพัด
    ...ใบไม้กวัดแกว่งไกวได้ลมฝน
    ...สกุณากางปีกถลาร่อนท่ามสกล
    ...รังสิมันตุ์ จันทรา ดารา มิหมองหม่น
    ...ยังย้อนให้ยลอยู่ทุกวี่ทุกวัน
    
    ...ดนูร่ายเรียงร้อยรักษ์อักษรสวย
    ...นบนอบด้วยความศรัทธา ชื่นชม ปีติ เมื่อได้สัมผัส
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน