๓๑. .....กบิลพรหมท่านท้าว.....................มหิทธิคุณ ทราบเรื่องพลันเคืองขุ่น....................จิตร้อน อิจฉาอีกเอื้อหนุน.............................ประทุษฐจิต จึงผูกปัญหาซ้อน............................เล่ห์ร้ายมล้างชนม์ ๚ ๓๒. .....ปัญหาดุจหอกง้าว.......................ดาบคม หวังบั่นคอนอนจม-...........................เลือดคลุ้ง เพียงจิตคิดโสมม.............................หมกมุ่น- บาปนา แก่งแย่งสำแดงฟุ้ง...........................ชั่วช้าสามานต์ ๚ ๓๓. ..... นี่แนะพ่อหนุ่มน้อย......................สุธี อันท่านปัญญาดี................................แน่แท้ สรรพวิทยาการมี..............................ปรากฏ- ตนเฮย อัจฉริยภาพแล้..................................ล่วงล้ำเทพสวรรค์ ๚ ๓๔. ...... หากเรามีสิ่งเร้น........................ปัญหา ยังปราศผู้วิสัชนา............................เนื่องด้วย ควรนักหากท่านมา............................คลายโจทย์ ฉงนนอ ฤาท่านจักมอดม้วย...........................เหตุด้อยจนเชาน์ ๚ ๓๕. .....ธรรมบาลนั้นใคร่-.........................ครวญเห็น- จริงนา พรหมอาจเจือจิตเป็น.........................มุ่งร้าย จึงถามไถ่ประเด็น..............................ความเงื่อน- งำเฮย ขอท่านจงผะผ้าย*............................กล่าวข้อปัญหา ๚ ๓๖. .....กบิลพรหมเจ้าเล่ห์.........................แห่งไตร- ภูมิเฮย กระหยิ่มยิ้มทันใด................................แยกเขี้ยว อันท่านหากจนใน...............................มวลปริศ- นานอ ขออย่าทำบิดเบี้ยว..............................จักต้องตัดหัว ๚ ๓๗. ..... นี่แน่ะพ่อหนุ่มน้อย........................หน้ามน หากท่านคลายความฉงน.....................ขุ่นข้อง เปิดเผยเอ่ยยุบล*...............................ตรงเหตุ เราจักตัดเศียรพ้อง..............................เพื่อให้ยุติธรรม ๚ ๓๘. .....หลากเรื่องหลากเล่ห์ร้าย.................หลอกลวง- ไรฤๅ พรหมเพ่งเพียงผลพวง........................ภัคน์พร้อม ซอกซัง*สิ่งสิงทรวง.............................ทรามซ่อน เหี้ยมโหดห่อหุ้มห้อม............................หัชให้โหยหวน ๚ ๓๙. .....ธรรมบาลคิดปลิดเปลื้อง....................ปัญหา พลันเอ่ยปิยวาจา................................ตอบด้วย เราขอผ่อนเพลา..................................ตรองตรึก จักบั่นคอมอดม้วย..............................หากไร้คำเฉลย ๚ ๔๐. ..... ดีละถ้าเช่นนั้น.............................พึงฟัง อรุณรุ่งสุริเยศยัง...............................เยี่ยมฟ้า ราศีที่ชนหวัง.....................................สถิตอยู่ ใดฤา ขอท่านอย่าชักช้า..............................ตอบให้คลายใจ ๚
อัลมิตรา 14 เม.ย. 2546 01:00 น. - ID 32218 
972
4
0
14 เมษายน 2546 11:26 น. - comment id 126320
กำลัง in ขอต่อ
14 เมษายน 2546 14:14 น. - comment id 126365
....ดีมากครับ..โดยเฉพาะบทที่ ๓๘ เป็นโคลงกลอักษรล้วน...เยี่ยมจริงๆครับ..คุณอัลมิตรา... ....ว่าแต่กระทู้นี้...บรรเลงเพลงอะไรดีครับ...นึกออกแล้ว...เรียก..อิกคิวซัง...ดีกว่า... .............สวัสดีครับ..........
14 เมษายน 2546 19:06 น. - comment id 126412
เริ่มทายปัญหากันแล้ว...ขออ่านต่อนะคะ..
15 เมษายน 2546 15:57 น. - comment id 126593
มานะอุตสาหะเสียจริง สาวอัลมิตรา
16 เมษายน 2546 12:35 น. - comment id 126823
แหะ แหะ ขอบอกก่อนละกันว่าเนื่องจากโคลงที่ส่งมาค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นเลยแบ่งกันกะลุงเวทย์ ให้ช่วยดูคนละครึ่งนะครับ และกระทู้นี้จะขอพูดแค่ ๑๐ บทก่อนละกัน ฮี่ฮี่ฮี่ ๓๔. ...... หากเรามีสิ่งเร้น........................ปัญหา ปราศซึ่งผู้วิสัชนา.............................เนื่องด้วย ควรนักหากท่านมา............................คลายซึ่ง ฉงนนอ ฤาท่านจักมอดม้วย...........................เหตุด้อยจนเชาน์ ๚ บทนี้มีตั้ง ๒ ซึ่งแน่ะ น่าจะเอาออกซักคำนะ แต่ว่าถ้าเป็นผม คงเอาออกหมดง่ะ แหะ แหะ อย่างบาท ๒ ก็แก้เป็น ...ยังปราศผู้วิสัชนา...เนื่องด้วย...ก็ได้ ฮี่ฮี่ฮี่ ๓๕. .....ธรรมบาลนั้นใคร่-.......................ครวญเห็น- จริงนา พรหมอาจเจือจิตเป็น.........................มุ่งร้าย จึงถามซึ่งประเด็น............................ความเงื่อน- งำเฮย ขอท่านจงผะผ้าย*...........................กล่าวข้อปัญหา ๚ ซึ่งมาอีกละ ไหงชอบคำนี้จั๊ง ใช้ ..จึงถามไถ่ประเด็น..ก็ได้นี่ คำว่า ผ้าย แปลว่า ผาย หรือเคลื่อนออกจากที่ ส่วนคำว่า ผะ เก๊าะแปลว่าผ้ายนั่นแหละ แบบว่าคำลักษณะนี้จะแปลเหมือนกับคำที่ตามหลัง เช่น ยะเยื้อง ยะก็แปลว่าเยื้องแล แต่สงสัยว่าทำไมต้องใส่ดอกจันทน์ ไม่แน่ใจเหรอ? ๓๖. .....กบิลพรหมเจ้าเล่ห์.........................แห่งไตร- ภูมิเฮย กระหยิ่มยิ้มทันใด..............................แยกเขี้ยว อันท่านหากจนใน...............................มวลปริศ- นานอ ขออย่าทำคดเคี้ยว..............................จักต้องตัดหัว ๚ คำว่าคดเคี้ยว ความแปร่งไปนะครับ ถ้าใช้ บิดเบี้ยว ความจะครบ แต่เสียงสู้ไม่ได้ (แต่ว่าพอทนนา แหะ แหะ) ๓๗. ..... นี่แน่ะพ่อหนุ่มน้อย........................หน้ามล หากท่านคลายความฉงน........................ขุ่นข้อง เปิดเผยเอ่ยยุบล*..............................ตรงเหตุ เราจักตัดเศียรพ้อง.............................เพื่อให้ยุติธรรม ๚ หน้ามลแปลว่าไรง่ะ หน้ามีมลทินเหรอ กิกิกิ ใช้หน้ามนน่อ ยุบล ใช้ถูกแล้วนี่ครับ เพราะคำนี้แปลว่าเรื่องราว ๓๘. .....หลากเรื่องหลากเล่ห์ร้าย..................หลอกลวง- ไรฤา พรหมเพ่งเพียงผลพวง........................ภัคน์พร้อม ซอกซัง*สิ่งสิงทรวง...........................ทรามซ่อน เหี้ยมโหดห่อหุ้มห้อม............................หัชให้โหยหวน ๚ อ่านแล้วเป็นเง็ง ภัคน์แปลว่า แตก หัก แต่ต่อด้วยพร้อมเฮะ พร้อมเนี่ยน่าจะใช้ในความหมายสอดคล้องนา หัชแปลว่า น่ารัก น่ายินดี ตกลงจะให้แปลว่าเหี้ยมมาห้อมความน่ารักเหรอ อะไรน่ารักล่ะ แล้วรวมแล้วมันแปลว่าไรง่ะ ๓๙. .....ธรรมบาลคิดเปลื้อง.......................ปัญหา พลันเอ่ยปิยวาจา..............................ตอบด้วย เราขอซึ่งเพลา................................ตรองตรึก จักบั่นคอมอดม้วย.............................หากไร้คำเฉลย ๚ บาทแรกขอเติมเป็น..ธรรมบาลคิดปลดเปลื้อง..หรือ ปลิดเปลื้องก็ได้ แล้วก็ ซึ่งมาอีกแล้วนา แก้เป็น เราขอผ่านเพลา..ตรองตรึก..ละกัน ๔๐. ..... ดีละถ้าเช่นนั้น...........................พึงฟัง อรุณรุ่งสุริเยศยัง...............................เยี่ยมฟ้า ราศีที่ชนหวัง...................................สถิตย์อยู่ ใดฤา ขอท่านอย่าชักช้า..............................ตอบให้คลายใจ ๚ สถิต ไม่มี ย ยักษ์เขี้ยวใหญ่จ้า
16 เมษายน 2546 21:23 น. - comment id 127042
สนุกนิ
17 เมษายน 2546 14:18 น. - comment id 127375
สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต สถิต ต่อไปนี้จะไม่ผิดแล้วจ๊ะ ปู่ก๊อง ทั้งหมดแก้ตามแล้วค่ะ ส่วนบทที่ ๓๘ และ ๓๙ ๓๘. .....หลากเรื่องหลากเล่ห์ร้าย..............หลอกลวง- ไรฤๅ พรหมเพ่งเพียงผลพวง......................ภัคน์พร้อม ซอกซัง*สิ่งสิงทรวง.............................ทรามซ่อน เหี้ยมโหดห่อหุ้มห้อม..........................หัชให้โหยหวน ๚ ...เรื่องราวทั้งหมดนี้...ธรรมบาลคิดว่า... ...การที่กบิลพรหมแต่งปัญหามาถาม... ...ล้วนมีสิ่งร้ายแอปแฝงอยู่... ...และมีสิ่งที่ไม่ดีแอบแฝงอยุ่ในจิตใจ... ...คือมุ่งฆ่าตัวเขา... ...พรหมนี้...ต้องการจุดหมายคือความแตกหัก...ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง... ...ภัคน์พร้อม......ความเหี้ยมโหดร้าย... ...ถูกห่อหุ้มอำพรางใว้ด้วยความรัก...ความยินดี...คำพูดไพเราะ... ...แต่มุ่งให้เจ็บช้ำ...และการหมายเข่นฆ่า.. ...(ห้อม-.................หัชให้โหยหวน ๚ ) ...เป็นอุปมาโวหาร...ค่ะ.. ๓๙. .....ธรรมบาลคิดปลิดเปลื้อง................ปัญหา พลันเอ่ยปิยวาจา................................ตอบด้วย เราขอผ่อนเพลา.................................ตรองตรึก จักบั่นคอมอดม้วย..............................หากไร้คำเฉลย ๚ ปู่คะ อันนี้อัลมิตรา เปลี่ยนจาก เราขอผ่านเพลา.. เป็น เราขอผ่อนเพลา .. ดีไหมคะ เหมือนผลัดผ่อน ค่ะ ใช้แทนกันหรือเปล่าคะ คำที่มีเครื่องหมาย * เป็นคำโบราณที่ไม่ค่อยได้ใช้กันนัก ค่ะ เลยทำสัญลักษณ์ไว้ ให้เพื่อนๆ ค่ะ ปู่ก๊อง.. ขอบคุณมากคะ :)
8 มิถุนายน 2547 15:00 น. - comment id 145357
หน้าส่วนตัว
.......ขอผ่านเพลา....... ????????
.......ขอผ่อนเพลา..... ????????
สวัสดีคุณอัลมิตรา คุณ คุณ ทุกท่าน
ทัก ขอ อนุญาต ช่วยคิดด้วยคนได้ไหมคะ
.... ขอผ่อนเพลา..
:)
.../|\...
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
