เพลงที่แต่งให้น้องสถาปนิกไปงานFat

pigstation

ปรารถนา
		แต่ละคืนวัน ทุกคนต่างมีฝันและปรารถนา
		แต่ละครั้งเวลา  ทุกคนต่างไขว่คว้าหาสิ่งต้องการ
		แต่แล้วในความเป็นจริง ทุกสิ่งนั้นมันคล้ายเป็นภาพลวงตา
		สิ่งที่มองหากลับมองไม่เห็น สิ่งที่เป็นไปกลับไม่ตั้งตัว
			@  ปรารถนา ชื่อเธอช่างน่าพิชิต
			ปรารถนา ชื่อเธอช่างน่าคิดถึง
			ปรารถนาเป็นความซาบซึ้ง
			ปรารถนาจึงตราตรึงติดอยู่ในดวงตา
			ปรารถนาจึงลุกลามมาติดตรงกลางใจ
			
					มายาภาพ
		ลองดูให้ดี สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นจริง
		ลองดูให้จริง สิ่งที่เป็น  คือภาพลวงตา
		ลองสัมผัสให้รู้ มากกว่ามองดูด้วยตาเปล่า
					บรรยากาศ
		เลิกงานแล้ว หาที่ชนแก้วและพบเจอกัน
		เป็นที่สังสรรค์ทั้งเพื่อนร่วมงานและเพื่อนหัวใจ
		คืนหนึ่งนั้นเราพบกันที่ร้านแห่งหนึ่ง
		เธอส่งตาซึ้งถึงฉัน เลยได้มานั่งโต๊ะเดียวกัน
		เลิกงานแล้ว หาที่ชนแก้วและพบเจอกัน
		พูดคุยถึงความฝันเพื่อลืมวันที่มันทุกข์ใจ
		คืนนี้ใช่ไหมที่เราได้บอกเลิกกัน
		เหลือแต่เพียงฉันและความช้ำใจ
			บรรยากาศของการดื่มกิน
			แว่วยินเสียงเพลงบรรเลงไป
			สายตาเหม่อมองออกไป
			พบแววตาสดใสของใครคนหนึ่ง
		เลิกงานแล้ว หาที่ชนแก้วและพบเจอกัน
		มีคนปลอบใจฉันเมื่อคืนวันก่อน
		พบกันได้เพราะต่างคนถูกใครเขาทอดทิ้ง
		นี่คือเรื่องจริงของบรรยากาศและแอลกอฮอล์
		
							เลิกแล้วต่อกัน
					เหนี่ยวรั้งกันไว้ทำไม อยู่กันไปก็เสียเปล่า
					บอกลากันที อยู่อย่างนี้เหมือนถูกจองจำ
					ต่างคนต่างไป สู่ทางเลือกใหม่ ไม่ซ้ำทางเก่า
					เหลือแต่เพียงเรื่องราว เรื่องเก่าๆของความทรงจำ
					
					จนมาวันนี้สิ่งที่เคยดีมันดีไม่พอ
					จึงมาถึงวันเลิกแล้วต่อกันมันถึงดีกว่า
					วันวานเป็นเพียงของเก่าล้ำค่า
					แต่วันข้างหน้าคือความสบายใจ
					เลิกแล้วต่อกันใช่มันไม่ดี
					ไม่อยากเซ้าซี้อย่างนี้เรื่อยไป
					เลิกแล้วต่อกันเพื่อเปิดทางใหม่
					เผื่อเจอใครต่อใครที่เข้ากันดี
					เจอกันอีกครั้งถามว่าสบายดีหรือไม่
					ดีกว่าอยู่กันไปแล้วไม่พูดจา
					จากกันไปเพื่อฟ้าสดใสไม่อึมครึม
					แต่ไม่ลืมครั้งหนึ่งซึ่งเราเคยเป็นคนรักกัน
					
					ถนนสายฝัน
		ถนนเส้นหนึ่งซึ่งแสนสั้น แต่ว่ามีความฝันทอดยาวไกล
		เป็นเส้นทางแห่งความวางใจ เป็นทางเดินที่เราก้าวไปด้วยกัน
		แม้เธอหลับตา จงเชื่อใจว่าฉันจะนำทางได้
		หรือให้ฉันล้มลงตรงไหน เธอพร้อมปลอบใจ ในเส้นทางฝัน
		วันเวลาอาจผ่านมาสั้น ๆ  แต่ว่าความรักนั้นคงอยู่ตลอดไป
		เหมือนวันนี้เราอยู่กันแสนไกล แต่รู้ไหมเหมือนข้างกายมีเธออยู่
		ดังดวงอาทิตย์ทอแสงทั่วฟ้า ความคิดถึงส่งมาหาทุกแห่งหน
		เป็นเช่นสายลมทักทายสายน้ำ เป็นความทรงจำแสนงามสองเรา
		จุดหมายอาจถึงปลายทางได้สักวัน แต่ความรักนั้นไม่มีวันสิ้นสุดลงได้
		ขอเธอหลับตาแล้วฝัน ชั่วหนึ่งเวลานั้นคือรักเธอเสมอ
		เหมือนน้ำค้างข้างแก้มกลีบกุหลาบงาม ทุกโมงยามเราเคียงข้างกัน
		ต่อให้ฉันสูญเสียทุกอย่างไป จะรักษาไว้ตรงความรักแท้ที่มีต่อเธอ
					ทะเลแห้งแล้ง พระจันทร์ผอมโซ
			เคยคิดกันหรือไม่  ว่ามีสิ่งใดอยู่ได้ยั่งยืน
			กลางวันผันเปลี่ยนกลางคืนไม่อาจฝืนโลกหมุนได้
			เคยคิดกันหรือไม่  ว่ามีสิ่งใดอยู่ได้แน่นอน
			ตึกสูงใหญ่ยังล้มก่อนเมื่อแผ่นดินไหว
			เคยคิดกันหรือไม่  ว่ามีสิ่งใดอยู่ได้ด้วยดี
			ผ่านพ้นวันปีใหม่ก็กลายเป็นเก่าเช่นเดิม
			ทะเลอาจแห้งแล้งถ้าขาดเธอไป
			พระจันทร์นั่นไงยังผอมโซเหมือนขาดอาหาร
			ทะเลจะเป็นทะเลต้องมีฝูงปลา
			ใจฉันก็แสนว้าเหว่เหมือนทะเลไม่มีปลา
			ขอรักเธอคืนมาสู่ใจ แล้วพระจันทร์จะสดใสเต็มดวง
			
		เนื่องจาก....
ไม่ได้แก้ตัว ไม่ได้มั่วหรือโมเม
ไม่ได้ล้อเล่น ไม่ได้เป็นคนหลอกลวง
เนื่องจากว่า
			
ไม้บรรทัดและคัตเตอร์
ไม้บรรทัดทัดใช้วัดและคัตเตอร์ตัดได้
เช่นทำงานอะไรสายตาต้องคมกริบฉับไว 
และหัวใจต้องเที่ยงตรงคงมั่น
สมาธิรวบรวมไม่ไหวสั่น ตัดสินใจฉับพลันไม่ลังเล
งานที่ดีไม่หักเห  ต้องทุ่มเทเพื่อความสำเร็จ
นกปีกเดียว
นกชื่อความรักบินมาปีกเดียว โดดเดี่ยวกลางฟ้ากว้าง
บินปีกเดียวและหลงทาง สุดอ้างว้างรอบางสิ่ง
สายลมแสนว้าเหว่ พัดพาให้บินเป๋หลงทิศ
รอให้พบเจอปีกอีกข้าง ที่แสนห่างไกล
มาเป็นสองปีกสมบูรณ์ได้ 
แล้วบินข้ามฟ้าไกลไปสู่รักนิรันดร์
สิ่งเดียวที่มีของนกชื่อความรัก
คือความแน่นหนักในหัวใจเด็ดเดี่ยว
บินไปแม้ไร้ปีกอีกข้างอย่างนกปีกเดียว
รอสักวันจะพบปีกเดียวดายคอยอยู่
แล้วจะเป็นนกปีกคู่บินสู่ฟ้าใสใจจริง
เก้าอี้ตัวเก่า ร้านเหล้าที่เดิม
เธอเจอคนใหม่จึงจากไปทิ้งไว้แต่ความอับเฉา
เหลือเพียงเก้าอี้ตัวเก่า ตรงร้านเหล้าที่เดิม
โต๊ะอื่นมีเก้าอี้มาเสริม มีแขกเพิ่มเติมต่างจากโต๊ะฉัน
ผ่านพ้นคืนวัน เหล้านั้นเจือจางบางได้ด้วยโซดา
ส่วนความเศร้าฉันนับวันยิ่งหนาแน่นเป็นเพราะอะไร
รอวันให้มีใครสักคนบนความเปลี่ยวเหงา
มาขอนั่งดับเบิ้ลเศร้าบนเก้าอี้ตัวเก่าร้านเหล้าร้านนี้
ปลอบใจกันไปตามประสาคนผิดหวังทั้งปี
จนมาวันนี้แววตาหม่นเศร้าหลังแก้วเหล้าใบนั้น
ส่งสายตามาถึงกันเหมือนถ่านจะมอดไฟ
ดวงตาเศร้าส่อแววความเข้าใจ ฉันยกแก้วให้แล้วยิ้มเชื้อเชิญ
เก้าอี้ตัวเก่า ร้านเล่าที่เดิม มีรักเก่ารักใหม่ มาต่อเติม
ไม่อยากมีเก้าอี้เสริมให้ใครแทรกกลาง หรือต้องร้างลาไกลได้แต่นั่งคนเดียว 
ผสม
จากทรายที่ไม่เห็นเป็นเนื้อเดียว
จากปูนซีเมนต์ที่เป็นผงสีเทา
ผสมกันตามด้วยน้ำของเหลวราดซ้ำ
พอขยำกลับทำได้กลายเป็นความแข็งแกร่ง
กำแพงใช่มีได้ด้วยสิ่งเดียว
อิฐแต่ละก้อนเรียงซ้อน
ถ้อยคำแห่งความหวัง
หายหน้าไปไหนมา หรือว่ายุ่งกับงาน
เลยไม่มีเวลามาสนุกสนานเหมือนเคย
วันนี้ทำไมนิ่งเฉยไม่สำราญเลย เพื่อนเรา
หากมีเรื่องทุกข์ใจอย่าเก็บไว้ให้อับเฉา
หันหน้าปรับทุกข์เรา ยังยินดีรับฟัง
ค่อยๆมองดู อย่าไปสู้อย่างวู่วาม
หยุดนิ่งเพื่อคิด และตั้งคำถามถึงความพ่ายแพ้
ใช่ว่านายอ่อนแอ้ แต่ต้องใจเย็น
หลังฝนมาพายุซัดฟ้าก็แจ่มชัดเจน
วันนี้อาจไม่เป็นเช่นใจเราต้องการ
ถ้อยคำแห่งความหวังคือพลังจากเพื่อนแท้
ไม่หวังแค่อยู่แต่ข้างผู้ชนะ
ถ้อยคำแห่งความหวังคือพลังวาจาสัจจะ
จะแพ้ชนะอะไรไม่เท่าชนะใจตัวเอง				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    11 ตุลาคม 2549 20:21 น. - comment id 613961

    ชอบประโยคนี้จัง
    
    "วันวานเป็นเพียงของเก่าล้ำค่า
    แต่วันข้างหน้าคือความสบายใจ"
  • pigstation

    11 ตุลาคม 2549 23:43 น. - comment id 614024

    มีเพียงเงาแต่ไร้ผู้หญิง
    เพราะภรรยาทิ้งไปมีไว้เพียงลูกรัก
    
    หนุ่มโสดสถานีร้างรักแต่รอใหม่

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน