ณ ที่กาลเวลาใดโลกใบนี้
ไม่เคยมีผู้ได้รับแต่สรรเสริญ
คนรักเท่าผืนหนังใช่บังเอิญ
คนเกลียดเกินผืนเสื่อเหยื่อนินทา
รสคำชมเสพติดกันมากนัก
ใครขืนหักต่อต้านพาลโทสา
ด้วยหลงเพลินสรรเสริญอยู่เรื่อยมา
สรรวาจามายกยอก่อเกิดตน
ด้านสรรเสริญเพลินใจให้ซาบซ่าน
พลิกกลับด้านนินทาพาสับสน
คนอ่อนไหวร้อนเร่าในกมล
ไม่อาจทนพิษแผดเผาเข้าถึงใจ
เมื่อดอกไม้รับอรุณอุ่นแสงฉาย
จีงแย้มพรายกลีบตระการบานสดใส
อิสระจากการหุ้มห่อภายใน
ส่งกลิ่นไกลหอมหวนทวนตามลม
แสงสว่างแห่งปัญญาพาบรรเจิด
ก่อให้เกิดความคิดจิตเหมาะสม
ทั้งสรรเสริญและนินทาอย่าปรารมณ์
พ้นระทมทุกข์ท้อทรมาน
ขุนเขาไม่สั่นไหวด้วยแรงลม
อันคำชมเหล่าบัณฑิตผู้กล้าหาญ
แม้นินทาว่ากล่าวไม่เข้าการ
จึงเบิกบานเสมอเหนือคำคน.......................
12 ตุลาคม 2550 20:19 น. - comment id 770266
เขียนได้ดีครับ สายกลางครับสายกลางดีที่สุด ครับ ใจเราซิครับสำคัญที่สุดครับ
แก้วประเสริฐ.

12 ตุลาคม 2550 20:22 น. - comment id 770268
เห็นด้วยกับคุณแก้วประเสริฐทุกประการค่ะ

12 ตุลาคม 2550 20:48 น. - comment id 770291
สรรเสริญเก็บไว้ปลื้มใจ นินทาเก็บไว้แก้ไขตัวเราเอง ดีทั้งสองด้านครับ

13 ตุลาคม 2550 02:03 น. - comment id 770405
สวัสดีครับคุณเก็จถะหวา กลอนเพราะครับเนื้อหาดีด้วย ยิ่งในสภาวะบางอย่างตอนนี้ถือว่า ป้าทำได้ดีครับ ชื่นชมครับ

13 ตุลาคม 2550 03:19 น. - comment id 770425
ในโลกนี้ความดีที่ปรากฏ บางทีก็ถูกคนไม่คดเขาอิจฉา ในบางความจริงสิ่งนานา ไม่เข้าท่ากลับสรรเสริญเกินที่เป็น ไม่มีอะไรแท้และไม่เที่ยง หลายสิ่งเป็นเพียงภาพที่เห็น พิเคราะห์สิ่งใดให้ใจเย็น ความจริงจึงเป็นเช่นฉะนี้แล ฯ

13 ตุลาคม 2550 11:27 น. - comment id 770483
ทุกสิ่งทุกอย่างมี..2..ด้านเสมอ ไม่มีอะไรมีด้านเดียว..เนาะ

13 ตุลาคม 2550 19:21 น. - comment id 770601
ดีค่ะ แวะมาทักทายแม่ค่ะ อ่านกลอนแล้วเหอะๆสุดยอดเลย นับถือเลยค่ะ

14 ตุลาคม 2550 16:58 น. - comment id 770914
คำนินทา กาเล เหมือนเทน้ำ มิชอกช้ำ โบราณ ท่านบอกไว้ แล้วเราต้อง จดจำ ไปทำไม เมื่อเราไม่ สนใจใครนินทา
คนสรรเสริญ เยินยอ สอพลอนั่น ตัวสำคัญ หมั่นระวัง เอาไว้หนา ออกจากปาก หากใจ ไม่เอ่ยมา ทั้งนินทา และสรรเสริญ นั้นเกินจริง.
