@..ตัณหา..

อัลมิตรา


จากแรกเริ่มดรุณวัยไร้เดียงสา
มือไขว่คว้ายึดมั่นฉันเจ้าของ
โตมาเสาะสินทรัพย์แย่งจับจอง
พาให้ต้องทุกข์ท้นทุรนทุราย
หลงอัตตาตัวตนจนเกินเหตุ
เป็นประเภทฟั่นเฟือนเลือนจุดหมาย
ปล่อยใจตามความอยากที่มากมาย
ชีวิตกลายกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง
ท่ามกลางการแก่งแย่งการแข่งขัน
การแบ่งปันมิอาจแทนการแหนหวง
จนสังคมจมบาปหลงภาพลวง
พลอยผลพวงชักพาถึงฆ่าฟัน
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น
ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน
เป็นจุดอับจุดอ่อนซ่อนโทษทัณฑ์
กลายจุดผันผลักไสให้เลวทราม
คือรากเหง้าเหล่านี้ที่เห็นทั่ว
คนลืมตัวลืมตรองกลับมองข้าม
โลภโกรธหลงเหลวไหลเฉกไฟลาม
ยากมีความสุขสงบให้พบพาน
ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก
ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร
เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน
หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว
				
comments powered by Disqus
  • Lovers moon

    16 มิถุนายน 2546 15:49 น. - comment id 147468

    หลงอัตตา มัวเมา  เอาว่าแน่
    ไม่ได้แคร์  คนอื่น  ยังรื่นชั่ว
    บาปอันใด  อย่างไร ไม่เคยกลัว
    เห็นแก่ตัว  ตัณหา  มาสิงตน...
    
    แวะมาสวัสดีครับ...
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    16 มิถุนายน 2546 15:55 น. - comment id 147473

    กลอนงามไว้เตือนใจ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    16 มิถุนายน 2546 16:15 น. - comment id 147478

    เก่งจังเลยค่ะ  ผู้หญิงไร้เงาแต่งกลอนลักษณะนี้ไม่เป็น  แต่ก็ชอบอ่านะค่ะ
  • ส่องหล้า

    16 มิถุนายน 2546 16:56 น. - comment id 147492

    วิถีวิถีนี่แหละทาง
    ตัณหาแสนกว้างตามวิถี
    มีมากก็อยากมากท้นทวี
    พอไม่มีก็ยังอยากมีมากตาม
    
    มาเยี่ยมมาเยือนครับ
  • ตะเอ๋า

    16 มิถุนายน 2546 17:14 น. - comment id 147498

    โห ในรอบสัปดาห์ กลอนนี้ เจ๋งสุด
  • ผู้ชายรักสบาย

    16 มิถุนายน 2546 18:40 น. - comment id 147534

    เพราะครับ
    ชอบเลยอันนี้
    
    
  • เวทย์ (ลืม login)

    16 มิถุนายน 2546 18:56 น. - comment id 147541

    จากแรกเริ่มดรุณวัยไร้เดียงสา
    มือไขว่คว้ายึดมั่นฉันเจ้าของ
    โตมาเสาะสินทรัพย์แย่งจับจอง
    พาให้ต้องทุกข์ท้นทุรนทุราย
    
    หลงอัตตาตัวตนจนเกินเหตุ
    เป็นประเภทฟั่นเฟือนเลือนจุดหมาย
    ปล่อยใจตามความอยากที่มากมาย
    ชีวิตกลายกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง
    
    ท่ามกลางการแก่งแย่งการแข่งขัน
    การแบ่งปันมิอาจแทนการแหนหวง
    จนสังคมจมบาปหลงภาพลวง
    พลอยผลพวงชักพาถึงฆ่าฟัน
    
    ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น
    ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน
    เป็นจุดอับจุดอ่อนซ่อนโทษทัณฑ์
    กลายจุดผันผลักไสให้เลวทราม
    
    คือรากเหง้าเหล่านี้ที่เห็นทั่ว
    คนลืมตัวลืมตรองกลับมองข้าม
    โลภโกรธหลงเหลวไหลเฉกไฟลาม
    ยากมีความสุขสงบให้พบพาน
    
    ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก
    ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร
    เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน
    หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว
    
    (นี่เป็นอีกเวอร์ชั่น  ต่างกันเล็กน้อย  อิอิ)
  • อัลมิตรา

    16 มิถุนายน 2546 21:18 น. - comment id 147579

    ขอบคุณค่ะ ทุกๆท่าน
    
    ลุงเวทย์คะ .. ลงเสียง สระเอว .. หาคำยากจัง ยังไม่ค่อยพอใจเลยค่ะ นี่..ไว้คราวหน้าแก้ตัวใหม่ค่ะ
  • พุดพัดชา

    16 มิถุนายน 2546 22:11 น. - comment id 147600

    ดอกเยาว์    
    
    
    หากเปรียบชีวิตนี้ดังดอกไม้
    ก็คลับคล้าย คลับคลา ดวงดอกฝัน
    ดอกเยาว์วัย หวานแฉล้ม ต้นวัยวัน
    บริสุทธิ์สั้น แสนดี วันวัยเยาว์
    
    แล้วดอกโศก เริ่มแย้มบาน เมื่อรู้รัก
    ซึ้งประจักษ์ เล่ห์กลกาม จนใจเขลา
    ดอกเสน่หา ผุดงอกงาม แทนดอกเยาว์
    เมื่อสองเรา แลกรสรัก รู้รสกัน
    
    ดอกราโรย เริ่มบาน ไร้รักแท้
    ผ่านเกมแก้ เกมกาม จนเลิกฝัน
    ดอกความจริง ผุดสอนใจ ทุกคืนวัน
    ดอกสวรรค์ ลอยลาลับ ลงลานดิน
    
    ดอกดวงใจ แม่พ่อ เพาะบานใหม่
    วนเวียนไป เป็นดอกเยาว์ มิรู้สิ้น
    ดอกโศกบาน ดอกรักร่วง พราวสู่ดิน
    บานมิสิ้น ดวงดอกไม้ ชดใช้กรรม!  
    
  • น้ำ

    17 มิถุนายน 2546 07:47 น. - comment id 147669

    กลอนงามแท้พี่อัลคนงามของนิ
    คันมืออิอิ
    
    แต่เด็กน้อย ศึกษา หาวิชา
    เติบใหญ่มา สะสม สินออมทรัพย์
    เฒ่าแล้วเฝ้า ค้นหา ภูมิธรรมสรรพ
    สามวัยปรับ ตามครู ผู้สอนสั่ง
    
    แต่เด็กน้อย เล่นสนุก ไม่เดียงสา
    เติบใหญ่กล้า มุ่งหา มาสะสม
    ทำธุรกิจ กำไร ตัณหาบ่ม
    เร็วหมักหมม รีบเร่ง ร้อนร้ายกลาย
    
    จิตเดิมที สติมี เพียงไม่รีบ
    เป็นประทีป ครอบครัว ตัวใฝ่ฝัน
    ชนะใครล้วน  ตัวตน ไม่สำคัญ
    ชนะจิตตน ตั่งมั่น ไป่นิวรณ์
    
    ใจสูงส่ง คงสติ ดูจิตนิ่ง
    ได้ละทิ้ง ทางหมอง หมางห่างหาย
    ปะร้ายมา ใจมั่น ไม่คลอนคลาย
    ดังแก้วเก้า พรรณราย สถิตวิมาน
    
    มหาสติ ปัฏฐาน สูตรพุทธองค์
    มั่นดำรงค์ รั้งใจ สงบสงัดเหมือน
    เสพทิพย์ธาร ธารา ทุกคลาเยือน
    อย่าแชเชือน  เรือรอง ผ่องอำไพ
    
    ขออภัยเขียนจากอารทย์กลอน วอนผู้รู้เมตตา
    อภัยนิ 
    
  • เวทย์

    17 มิถุนายน 2546 10:21 น. - comment id 147697

    ลูกลิงไม่ยักเยื้องคำเองตะหาก
    แทนที่จะเป็นคนคุมคำ  กลายเป็นให้คำมาคุม
    
  • อัลมิตรา

    17 มิถุนายน 2546 11:12 น. - comment id 147698

    จากแรกเริ่มดรุณวัยไร้เดียงสา
    มือไขว่คว้ายึดมั่นฉันเจ้าของ
    โตมาเสาะสินทรัพย์แย่งจับจอง
    พาให้ต้องทุกข์ท้นทุรนทุราย
    
    หลงอัตตาตัวตนจนเกินเหตุ
    เป็นประเภทฟั่นเฟือนเลือนจุดหมาย
    ปล่อยใจตามความอยากที่มากมาย
    ชีวิตกลายกลัดกลุ้มไฟสุมทรวง
    
    ท่ามกลางการแก่งแย่งการแข่งขัน
    การแบ่งปันมิอาจแทนการแหนหวง
    จนสังคมจมบาปหลงภาพลวง
    พลอยผลพวงชักพาถึงฆ่าฟัน
    
    ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น
    ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน
    เป็นจุดอับจุดอ่อนย้อนโทษทัณฑ์
    เป็นจุดผันผลักไสให้ทำเลว
    
    ที่ใจสูงเคยงามตามปรากฏ
    มาถูกปลดเขวี้ยงทิ้งให้ดิ่งเหว
    จากความดีก็ผละมาคละเลว
    ธรรมจึงเหลวแหลกยับไปกับกาล
    
    ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก
    ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร
    เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน
    หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว 
    
    งั้น..อัลมิตราแก้ตามลุงนะคะ 
    
    ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เคยแลเห็น
    ก็กลายเป็นเปลืองเปล่าให้เขาหยัน
    เป็นจุดอับจุดอ่อนซ่อนโทษทัณฑ์
    กลายจุดผันผลักไสให้เลวทราม
    
    คือรากเหง้าเหล่านี้ที่เห็นทั่ว
    คนลืมตัวลืมตรองกลับมองข้าม
    โลภโกรธหลงเหลวไหลเฉกไฟลาม
    ยากมีความสุขสงบให้พบพาน
    
    ขอสักเศษส่วนเดียวเสี้ยวสำนึก
    ได้รู้สึกรู้สาหาแก่นสาร
    เลิกปล่อยใจจมปลักความดักดาน
    หลุดจากการโง่เง่าหลงเงาตัว
    
    ....
    
    ขอบคุณค่ะ คุณน้ำ คุณพุดพัดชา

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน