ฤดูกาล วัฏฏะ กาย จิต

อักขระ อักษรศรัทธ์


                    กวีวัจนะ
          ร่ายสุภาพ
๏ จักรพาลรังสรรค์    ดึกดำบรรพ์กาเล    มวลเทหวัตถุ
รวมประจุอัดเข้า    ขั้วคู่เร้าบวกลบ    เสริมประสบเพิ่มพล
จลนาจลลักษณ์    จวบจนหนักเกินการ    สรรพสสารระเบิด
บังเกิดกล้าอาทิตย์    แลวิวิธนพเคราะห์    จำเพาะใต้ทินกร
ต่างโคจรวาดวง    ตรงต้องแรงดึงดูด    ตามดั่งสูตรดารา
แลจันทราบริวาร    เจือจานแสงสังโยค    สู่ผิวโลกพิลาส
จตุธาตุก่อบังเกิด    เลิศคุณลักษณ์ล้ำ    กอปรดินน้ำลมไฟ
วายุไกรกล้าบุก    รุกแผ่นพื้นครื้นชเล    เทละอองวารี
พลีพัดชื้นรื้นหล้า    ผุดพรั่งกล้าเกลื่อนตฤณ    ทุกเม็ดดินชุ่มฉ่ำ
ดอกไม้ร่ำเบิกบาน    มหาศาลไพรพฤกษ์    เขียวคึกปกโลกธาตุ
ดาดาษมวลวิหค    ผีเสื้อผกแผ่วบิน    สุคนธ์กลิ่นมวลมาลย์
กลีบผลิบานดำรู    ตรูตายามได้พิศ    ชื่นจิตยามได้ดอม
ละมุนหอมกลิ่นอวล    ชวนภมรมาเฟ้น    เค้นมธุอำพัน
เลือกสรรจากเรณู    อีกเสียงซู่โตรกธาร    ฟองสนานมัจฉา
แหวกว่ายธาราริก    ยามพลิกตัวแสงวาบ    แปลบเงินปลาบไวว่อง
จากสูรย์ส่องเบื้องบน    ด้าวมณฑลส่ำสัตว์    จัตุบททวิบาท
ต่างลีลาศค่อยค้อย    ทั้งใหญ่น้อยสูงแคระ    มฤคและมฤคี
กูปรีแมลงมด    มวลหมู่คชสาร    ม้าฟานแลกุญชร
จรอจรแลลาน    ยลกาลนี้สุขไซร้    ฤดูใบไม้ผลิ
คือนิธิธรรมชาติ    สวยสะอาดปรีดี    แรงกวีเกิดกล้า
จึงร่ายยอดินฟ้า    ด่ำฟ้อใจเผือ๚
          โคลงสี่สุภาพ
๏ เรืองเรื่อสูรย์ส่องกล้า..........รังสี
สาดส่องแรงอัคนี..........หน่ายร้อน
คิมหันต์ย่างกรายที..........ชนทั่ว
แรงอยากกลับคืนย้อน..........อยู่เหย้ายังเรือน๚
๏ วารยาวเหมือนค่ำเร้น..........หลบลา
หลับบ่หลับเต็มตา..........เบิ่งตั้ง
เหนอะหนะเหงื่อกายา..........โซมทั่ว
สรงสนานสองครั้ง..........ค่อยร้อนเลือนหาย๚
๏ เดือดพรายมวลหมู่น้ำ..........แนวสินธุ์
แตกแล่งระแหงดิน..........ด่านด้าว
พระพายห่อนรวยริน..........หลุบหลู่
หินแกร่งยังลาญร้าว..........ฤ เร้นแรงสูรย์๚
          กาพย์ฉบัง ๑๖
๏ ดั่งกองกูณฑ์เจิดเพริดสี..........ดั่งภาพโสภี
ดั่งเที้ยรอัคนีระบายใบ๚
๏ สีสันสะพรั่งวิไล..........สีซาบอาบใจ
สีฤดูใบไม้ร่วงลาน๚
๏ แดงดุจชาดกลีบชบาบาน..........แดงดื่มดวงมาน
แดงปานรวิอัสดง๚
๏ ส้มแทรกแสดสานซ่านรงค์..........ส้มแห่งบุษบง
ส้มปีกบุหรงชัฏวนา๚
๏ น้ำตาลเปลือกอ้อยช้อยตา..........น้ำตาลสีชา
น้ำตาลแผ่นผิวชคดี๚
๏ เหลืองเหลือบลายแห่งภุมรี..........เหลืองเอื้องพงพี
เหลืองแก่นกรักสีเพรางาย๚
๏ เขียวแซมขาบซ่อนขจาย..........เขียวแก่ระบาย
เขียวลายขนเลื่อมมยุรินทร์๚
๏ ผลัดใบกลบด้าวเกลื่อนดิน..........ผลัดเปลี่ยนปฏิทิน
ผลัดเป็นอาจิณจวบนาน๚
๏ ฤดูเอื้อจินตนาการ..........เก็บฤดูกาล
ในกาพย์กรรดิกาลฤดู๚
          วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
๏ อู้อับพยับวชิระแล่น
กลแผ่นนภาภินท์
คล้ำมืดโพยมภฤศนิล
ดุจศอศุลีแล๚
๏ ครืนครืนทิฆัมพรนินาท
สุรภาษสยดแด
โปรยปรายพิรุณพยุหะแพ
ภพทั่วก็ชุ่มชล๚
๏ บรรดาฉทึงอุทกทด
จรจดตลิ่งดล
ไพรพลิกและฟื้นตลสถล
ภพเขียวขจีเพรง๚
๏ ยินเสียงเสนาะแปะเปาะเพราะพ่าง
ดุริยางคบรรเลง
นิ่งในภวังคมนเพ่ง
พิศพรรษพร่างพราย๚
๏ ดังฟ้าพิลาปวิรวะก้อง
ลุตข้อง ณ อกคลาย
หลั่งอัสสุชลอุระสลาย
นิรทุมโนใน๚
๏ เย็นแผ่วพระพายพิภพหยาด
พิธุภาสประดับไพร
หริ่งหรีดซะซิบสนิกใส
สุขศานตนิทรา๚
          กลอนสุภาพ
๏ คราเขียนกลอนบทนี้ฟ้าสีพลบ
อุณหภูมิติดลบหนาวขบเนื้อ
เมฆเปื้อนส้มชมพูช้ำแดงก่ำเจือ
ไม่มีเหลือหลงฟ้าดาราดวง๚
๏ หอมใจรักแย้มยุบลใครคนนั้น
กระแจะจันทน์ฝันกรุ่นยี่สุ่นสรวง
แตะซอกคอเอิบอาบกำซาบทรวง
หอมกว่าปวงพเยียใดในโลกคน๚
๏ มาตุคามไกลแสนอยู่แดนโพ้น
หวังเรียมโชนฉายฉานผ่านแห่งหน
คำนึงนึกฝันใฝ่หทัยดล
อยากคืนเหย้าไปเยี่ยมยลคนคอยรอ๚
๏ เย็นหิมะปลอบกมลอันรนร้อน
เขียนคำกลอนข่มสกัดอุธัจหนอ
ขับทำนองคล่าวซ้ำน้ำตาคลอ
นิวรณ์ก่อใจโหยอ่อนโรยแรง๚
๏ เสียงกลอนแทรกหมอกหม่นสนกระซิบ
ธารใสไหลเงียบกริบกรวดพริบแสง
ตะวันวาดแดดสายส้มพรายแดง
ใบไม้แห้งกราวไหวในสายลม๚
๏ ฤดูหนาวระบายโศกสีโลกหมอง
เหม่อตาจ้องหน้าต่างเหงาใจเศร้าขม
หากเสียงกลอนที่แว่วโอดเชิดโสตชม
เช็ดโศกช้ำจากอกตรมสร่างงมงาย๚
๏ ฤดูกาลนิตย์นิรันดร์ย่อมผันเปลี่ยน
ร้อนหนาวฝนวนเวียนเป็นวัฏฏ์ว่าย
ผิว์ว่าเราฉุกคิดจิตเหนือกาย
จะร้อนหนาวเปียกมิหน่ายมโนครอง๚
๏ จิตคุมเหนือผัสสะจะดีเลิศ
แจ่มบรรเจิดอภิธรรม์ปัญญาผอง
แว่วไหวทันถ้วนทุกข์ไซร้ใจประลอง
ช่วยปัดป้องนิวรณ์ให้กระจายพลัน๚๛
_._._._._._._._._._._._._._._._._._._.
				
comments powered by Disqus
  • idaho

    26 มิถุนายน 2546 18:20 น. - comment id 149766

    รสผัสมวลหมู่ฤดูกาล
    ซึ้งแสดงความงามสื่อความหมาย
    วจีจ้องตรึงจิตซึ้งหทัย
    วาดระบายงามล้ำคำกวี
  • พุดพัดชา

    27 มิถุนายน 2546 00:44 น. - comment id 149868

    พุดพัดชาดีใจในวันนี้
    อักขระคนดีกลับมาให้รับขวัญ
    พร้อมงานงามยามนัยน์ยลแย้มยิ้มพลัน
    สัมผัสฝันอ่านด้วยใจเข้าใจเธอ..
    อิ่มหัวใจในงานผ่านธรรมะ.ธรรมชาติ
    เหมือนคนขาดไดน้ำกลางทะเลทรายใช่รอเก้อ
    เป็นคนดีมีพรสวรรค์ชั้นเลิศเลอ
    ไทยโพเอมเลิกเพ้อเธอกลับมา..ประดับใจ..ใส่สร้อยคำ..
    
    ยังจดจำคนเก่งค่ะ และดีใจมากนะคะที่กลับมา
    
  • อังโกะ จัง

    1 กรกฎาคม 2546 00:07 น. - comment id 150740

    ดีใจที่ได้อ่านบทประพันธ์ที่มีคุณภาพให้ข้อคิดและความหลากหลายในการแต่งบทประพันธ์
    บุษชื่นชมผลงานของพี่เสมอมานะคะ
    ประทับใจในเจตนารมณ์ของพี่ ค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน