ศิลางาม

พี่ดอกแก้ว

ศิลาทรายหลายแท่งบนแหล่งหล้า 
ต่างราคา ความงาม และความหมาย 
มีเกลื่อนกล่นบนหนถูกทิ้งดาย 
แต่บางแท่งกลับกลายเปี่ยมความงาม 
แกะสลักสักลายในเนื้อผิว 
ใช้ฆ้อนสิ่วสกัดพร้อยดั่งรอยหนาม 
แล้วขัดผิวริ้วรายให้ได้ความ 
เกิดความงามเพราะถูกบั่นหั่นเนื้อทราย 
ยิ่งประณีตยิ่งกรีดยิ่งสกัด 
ยิ่งขุดขัดยิ่งแต่งแบ่งเส้นสาย 
ยิ่งวิจิตรบรรจงลงลวดลาย 
ยิ่งใช้คมมากมายของเครื่องมือ 
จึงงดงามยามพิศจิตซึมซาบ 
บางคราวกราบบูชาพายึดถือ 
บางชิ้นเป็นมรดกเลื่องระบือ 
ตั้งราคาให้ซื้อปฏิมากรรม 
ดั่งมนุษย์ผู้งามด้วยความดี 
ต้องขัดสีเรือนใจให้เข้มขำ 
ด้วยทาน ศีล ภาวนา มากระทำ 
จึงน้อมนำเหนือระดับปรับจิตใจ 
อุปสรรคคือมีดกรีดลงลาย 
อย่าเหนื่อยหน่ายทดท้อพ้อหมองไหม้ 
อดทนรอผลงานอันวิไล
อย่าปล่อยใจให้เป็นหินใต้ดินดอน				
comments powered by Disqus
  • Robert TingNongNoi

    7 กันยายน 2547 08:35 น. - comment id 325869

     
    งสมในปรัชญาที่บรรจสื่อ เขาเปรียบว่า
    คนเกิดมาเหมือนผ้าขาว และกาลเวลา
    ก็แต่งแต้มสีลงบนผ้านั้น..ให้มีลวดลาย
    ถ้ามีสติสัปชัญญะ....ก็สามารถจะแต้มสี
    สันบนผืนผ้านั้นให้งดงามสดใส ดูมีต่ามี
    ราคาน่าทนุถนอม   แต่ถ้าหากขาดไร้ซึ่ง
    สติและหิริโอตตะปะผ้าผืนนั้นก็สกปรก
    หมองมัว ไม่มีค่าควรมองครับ     ๚ะ๛
    
    size> 
  • เมกกะ

    7 กันยายน 2547 08:37 น. - comment id 325871

    ~*~เกิดมาก็มีเพียงแค่นี้ 
    หมั่นคอยทำดีเถิดหนา 
    ชีวิตทุกชีวิตย่อมมีค่า 
    อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลย 
    
    ~*~คิดดีทำดีมีความสุข 
    คิดชั่วมีทุกข์นะเพื่อนเอ๋ย 
    บางคนทำดีศักครั้งยังไม่เคย 
    เกิดมาละเลยความเป็นคน 
    
    ~*~เมื่อถึงวันใกล้ดับดิ้น 
    เสียดายชีวินที่สลาย
    คนเราเกิดมามักกลัวความตาย 
    ยังไม่สายหากคิดกลับใจ 
    
    อิ_อิ  แวะมาเยี่ยมพี่ดอกแก้วนะครับ
    ฮิๆๆ  วันนี้ เมกขอธรรมะธรรมโมหน่อยนะ
    ก็วันนี้เป็นวันพระนิครับ  เด๋วเมกไปทำบุญก่อนนะครับพี่
    ที่บ้านเมก  ทำบุญเก้าโมงเช้าอ่ะครับ  เด๋วจะเอาบุญมาฝากครับพี่  บาย
  • พุด

    7 กันยายน 2547 08:44 น. - comment id 325876

    งดงามมากค่ะ
    
    
  • อรุโณทัย อาภาภัส ไม่ได้ลอคอิน

    7 กันยายน 2547 09:32 น. - comment id 325904

    หินวิเศษเลศนัยในเนื้อหิน
       อยู่ที่ลิ้นหัวใจใช้ขัดถู
       เกิดเป็นคนยากยิ่งจงตรองดู
       หากด่าครูนรกคงลงกระบาล
    
       สิ่งที่ดีครูบอกจงบอกต่อ
      ชีวิตหนอพอตายกลายเป็นศาล
      ลอยละล่องมองหาชั่วเนานาน
      สิ่งเหนือกาลกตัญญูและรู้คุณ
    
              อาภาภัส  ร่วมกลอนด้วยความเคารพ
  • ทิกิ_tiki ยังไม่ลงทะเบียน

    7 กันยายน 2547 09:45 น. - comment id 325914

    พกหินคือหนักแน่นของแผ่นผา
    ไม่อ่อนล้าหูเบาเขลาความอื่น
    ต้องแน่นหนักผลักตัวตนบนจุดยืน
    ไม่ล้มครืนด้วยฟังความเสี้ยมห่ามคน
    
    
  • คนเมืองลิง

    7 กันยายน 2547 10:01 น. - comment id 325918

    เปรียบเทียบได้ดีให้ข้อคิดเสมอขอบคุณค่ะพี่ดอกแก้ว
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    7 กันยายน 2547 11:27 น. - comment id 325975

    หวัดดีครับ
    
              แอบมาอ่านตอนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่
    
    มาอ่านกลอนเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี
    
    
  • เพราะรัก

    7 กันยายน 2547 12:14 น. - comment id 326014

    อิอิอิแวะมาอีกแระแหมได้ข้อคิดดีอีกแระสมเป็นพี่ดอกแก้วจริงเพิ่งรู้ความคิดผู้ใหญ่อิอิอิไปก่อนนะจะไปเยี่ยมอีกบ้านของพี่ค่ะคิดถึงจังเยย
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:02 น. - comment id 326051

    @...ทิงนองนอย...
    
    สวัสดีค่ะ ..
    สิ่งที่ไม่เคยถูกทดสอบนั้น ยากที่จะวัดคุณค่าคุณสมบัติได้
    แต่หากผ่านการทดสอบหลายๆครั้ง ผ่านการหล่อหลอมหลายๆหน
    และผ่านการเจียรนัยอย่างประณีต ..ความงดงามและคุณค่าย่อมมีมาก
    
    การแต้มสีสันก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยว่า
    จะวาดสีวาดลายอะไรลงไป ...ลวดลายบางอย่างมีค่า แต่บางอย่างไม่มีค่า
    บางทีคนเราก็มองเลยไปไกลถึงวัยเด็ก ที่ควรได้รับการเอาใจใส่ให้งดงาม
    แต่ที่จริงแล้ว ค่านิยมไม่งามที่เกิดขึ้นในสังคมนี้ เกิดจากลวดลายในใจของผู้ใหญ่
    ที่เปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆอย่างไม่ลืมหูลืมตา แล้วก็วาดซ้ำๆลงบนความฟุ้งเฟ้อ
    และชื่อเสียงจอมปลอม..
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:02 น. - comment id 326052

    @...เมกกะ...
    
    มวลมนุษย์เท่าเทียมที่มนุษย์
    บริสุทธิ์ที่ใจใช่ที่อื่น
    มีชีวิตเหมือนกัน..ไม่ยั่งยืน
    จะแตกตื่นฐานะไปทำไม
    
    สิ่งภายนอกใช่บอกถึงความดี
    ทรัพย์มากมีไม่อาจซื้อใจให้
    คลายจากหลงวงบาปที่อาบใจ
    แต่ต้องใช้ไตรสิกขามาล้างทราม
    
    อนุโมทนาค่ะน้องเมก ...
    ขอให้กุศลที่ได้กระทำนั้นจงส่งผลให้น้องเมก
    ร่มเย็นอยู่ในธรรม สงบกายสบายจิตยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
    และขอบคุณในกุศลจิตที่คิดเผื่อแผ่กุศลแก่ผู้อื่นด้วยค่ะ..
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:03 น. - comment id 326053

    @...น้องพุดพัดชา...
    
    ชีวิตที่ไม่ได้รับการฝึกฝน
    ย่อมอดทนต่อสิ่งที่มากระทบได้น้อยนะคะ
    บางครั้งก็ทนไม่ได้เลย ...
    
    ผู้ที่ไม่เคยต่อสู้ ย่อมไม่รู้ว่าตนเองเข้มแข็งแค่ไหน
    และหากผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนแล้ว..จะแพ้กี่ครั้งชนะกี่ครั้ง
    นั่นก็คือบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งที่แท้ ซึ่งในที่สุดก็จะสามารถรองรับได้ทุกสถานการณ์
    และปล่อยวางลงได้อย่างไร้ความขัดแย้ง
    
    ได้พบกันวันนี้ ดีใจมากค่ะ
    ขอบคุณนะคะน้องพุด..
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:03 น. - comment id 326054

    @...อาภาภัส อรุโณทัย...
    
    กตัญญูรู้ค่าครูอาจารย์
    ผู้สอนการฝึกคัดหัดอ่านเขียน
    ให้ก้าวสู่ความรู้ในเรื่องเรียน
    และหมั่นเพียรฝึกฝนได้ผลงาน
    
    จักเป็นผู้รุ่งเรืองเฟื่องศักดา
    และสำเร็จวิชาที่สืบสาน
    กุศลจิตจะป้องผองภัยพาล
    ให้แตกฉานผ่านพ้นหนทางภัย
    
    ขอบคุณค่ะอาภาภัส เป็นบทกลอนที่ดีมากๆ
    ในการสื่อถึงมือของผู้ฝึกฝนและวาดลวดลายให้สวยงาม
    
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:04 น. - comment id 326055

    @...คุณทิกิ...
    
    คือรูปนามความเหมือนเรือนชีวิต
    ต่างกันที่เรือนจิตที่ปลูกสร้าง
    ปลูกกุศลผลบุญหนุนเส้นทาง
    ปลูกความชั่วทำลายร้างสู่อบาย
    
    สวัสดีค่ะคุณทิกิ..ขอบคุณมากค่ะ
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:04 น. - comment id 326057

    @...คนเมืองลิง...
    
    ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งก็คือ
    คิดว่าตนเองนั้นด้อย หรือเหนือกว่าผู้อื่น
    เพราะโอกาสที่ไม่เท่ากัน
    แต่ที่จริงแล้วทุกคนมีโอกาสทำความดีเสมอ
    เช่น การไม่โกรธเวลาที่ถูกนินทาว่าร้าย ..เดินสะดุด
    ...ทำงานไม่ทัน ..
    
    เหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง 
    ก็เหมือนการฝึกฝนจิตใจให้อดทนต่อความไม่พอใจ
    ไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำจากมือของผู้อื่นก็ได้นะคะ
    
    ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:04 น. - comment id 326059

    @...ผลิใบสู่วัยกล้า...
    
    ขอบคุณค่ะน้องไก่ ...
    แอบมาตอนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่นี่ เห็นอะไรรกบ้างไหม..อิอิ
    อย่างไรก็ช่วยรับแขกไปพลางก่อนนะคะ ...
    หรือช่วยรดน้ำต้นไม่ก็ยังดี  ..รดกำลังใจไว้ตรงนี้ให้ชุ่มไปเลยค่ะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 13:07 น. - comment id 326060

    @...เพราะรัก...
    
    น้องหวาน...ขอบคุณค่ะมาเยี่ยมเรื่อยเล้ย..
    ไม่เหงาๆ ...แล้วมาอ่านอีกเรื่อยๆนะคะ
    
    
  • กอกก

    7 กันยายน 2547 13:56 น. - comment id 326112

    สวัสดีค่ะคุณพี่ดอกแก้ว..
    เป็นกลอนที่สอนใจได้ดีค่ะ
    อ่านแล้วนำไปคิดคำนึงถึงคุณค่าเพิ่มค่าทางใจให้ตัวเองค่ะ
    ขอบคุณนะคะ
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    7 กันยายน 2547 14:19 น. - comment id 326132

    @...กอกก...
    
    สวัสดีค่ะกอกก..
    ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่าน
    และแสดงความคิดเห็นที่ให้กำลังใจในการทำงานมากเลยค่ะ
    
    
    
  • ชัยชนะ

    7 กันยายน 2547 22:15 น. - comment id 326481

    กระจกมัวสลัวหน้าตาไม่ชัด
    ค่อยเพียรขัดมองเห็นชัดเจนใส
    ถ้าไม่ขัดคงหมองหม่นย่นเหี่ยวไป
    เหมือนจิตใจถ้าไม่ใสให้หมองมัว
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    8 กันยายน 2547 00:02 น. - comment id 326562

    อุปสรรคและปัญหาในคราไหน
    จึงสู้ไปอย่าย่นย่อท้อใจมั่น
    เพื่อให้สู้ความสำเร็จเสร็จสมพลัน
    แล้วเรานั้นจะรู้ค่าอุราตน
    
    *-*ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ*-*
  • นครา ประไพพงศ์

    8 กันยายน 2547 03:39 น. - comment id 326600

    เยี่ยมครับ ขอชื่นชม
  • พี่ดอกแก้ว

    8 กันยายน 2547 15:15 น. - comment id 326997

    @...ชัยชนะ...
    
    คุณสมบัติสูงค่าศิลาอาสน์
    นอกจากความผุดผาดและสวยใส
    คือความแกร่งอดทนผลพิษภัย
    รับรองไหวด้วยหนักแน่นแท่นศิลา
    
    สวัสดีค่ะชัยชนะ...
    ผ่องใสช่วยให้เห็นอะไรได้ชัดดีนะคะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    8 กันยายน 2547 15:17 น. - comment id 326998

    @...ผู้หญิงไร้เงา...
    
    อุปสรรคมักพ่ายผู้ใจสู้
    อาวุธที่กอบกู้คือความหวัง
    ความอดทนเป็นดุจดังพลัง
    มีความหวังเป็นเสบียงหล่อเลี้ยงใจ
    
    ขอบคุณค่ะน้องตูน...
    
  • พี่ดอกแก้ว

    8 กันยายน 2547 15:17 น. - comment id 326999

    @...นครา ประไพพงศ์...
    
    ขอบคุณมากนะคะ
    กลอนเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก..
    พระพุทธรูปหินทรายที่งดงามยิ่งค่ะ
    
  • ราชิกา

    8 กันยายน 2547 18:03 น. - comment id 327114

    แกร่งด้วยกายดุจหินทรายจากภายนอก
    แต่อยากบอกแกร่งแท้แน่นักหนา
    คือที่จิตแกร่งที่ใจไม่นำพา
    สู้ฟันฝ่ากิเลศสิ้นด้วยยินดี.....ฯ
    
    สู้กิเลศด้วยใจของเราเองค่ะ..มาทักทายนะคะ..
    
  • พี่ดอกแก้ว

    11 กันยายน 2547 16:04 น. - comment id 329160

    @...น้องราชิกา...
    
    ขอโทษนะคะที่มาตอบช้า...
    
    ใจที่แกร่งแม้แรงกายจะน้อย
    จึงไม่ถอยที่ก่อร่างสร้างศักดิ์ศรี
    ปริมาณคุณค่าและความดี
    ใช่อยู่ที่ความแกร่งของแรงกาย
    
    ขอบคุณค่ะน้องราชิกา
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน