ทุ่งแสงสงฆ์ (The Enlighten Field)

ลำน้ำน่าน

หอมเอยหอมดอกไม้ในลานรุ่ง
กลิ่นจรุงกำจายคล้ายศีลสงฆ์
หอมละมุนกรุ่นกุฎิที่แดนดง
ประกายพรึกคล้อยลงตรงฝั่งฟ้า
อุษาโยคทอแสงทุกแหล่งถิ่น
ปวงนกไพรโผบินสู่เวหา
ผกสู่ทุ่งรุ่งรางกลางมรรคา
สู่อภิญญานิรพานลานชีวิต
ภิกษุสงฆ์บวชใหม่ในพรรษา
ยึดพุทธามั่นไว้ในดวงจิต
จากย่ำค่ำรุ่งแจ้งแสงนิมิต
ตราบแสงธรรมเจิมทิศบูรพา
บริสุทธิ์น้ำค้างพร่างจากสรวง
สู่ดอกดวงไร่ฝ้ายไพรบุปผา
หยาดสู่ห้วงสายธารอนัตตา
อยู่คู่เดือนคู่ฟ้าตราบตาปี
ตื่นขึ้นรับแสงใหม่ในวันพระ
ท่ามงามเงียบสภาวะอันดิถี
เมื่อปทุมแย้มพรายสายวารี
เจิมนทีครรลองอยู่นองเนือง
แว่วบทเพลงโพธิ์แก้วเจื้อยแจ้วมา
ประสานเสียงสกุณาเมื่อฟ้าเหลือง
สายหยุดย้อยเริ่มหอมในรองเรือง
ทุกมุมเมืองท้องทุ่งเริมรุ่งรับ
ภิกษุใหม่ไหว้พระพุทธเจ้า
สวดมนต์เช้าแผ่วเบาเงาเทียนจับ
อัญเชิญแสงแห่งสงฆ์ลงประทับ
จีวรวับสบงเหลืองงามเรืองรอง
อรุณวดีคลี่แสงอาบแหล่งหล้า
สกุณาทิ้งถิ่นบินสู่หนอง
ในอุษาผ้าสงฆ์สีจีวรครอง
บิณฑบาตรตามครรลองสู่ท้องนา
พื้นอัมพรสว่างแก้วทุกแนวทาง
หน่อพุทธางค์สว่างไหวในพรรษา
เพียรไปสู่หนทางแห่งปัญญา
สู่มรรคาเงียบสงบพบนิพพาน
เมื่อแสงเช้าทอทาบอาบผ้าพุทธ
ดั่งวิสุทธิ์แสงธรรมนำสังขาร
สุดสว่างเรืองระยับจับสายธาร
ส่องจักรกาลไตรลักษณ์จับจิตใจ
ทุ่งรวงข้าวไหวช่อพอพระผ่าน
ทุกหมู่บ้านมณฑลตำบลไหน
แสงแห่งสงฆ์ส่องทางกลางเวไนย์
ส่องพระไตรฯ ปรมัตถธรรมสัจจา
ทุ่งแสงสงฆ์สามัญในวันนี้
งามหน้าที่อสังขตธรรมล้ำพรรษา
พ้นปรุงแต่งแห่งรอยอวิชชา
แท้ทุ่งแสงอภิญญาธรรมาพุทธ

-------------------------------------------
เทียนไขสีเหลืองอร่ามถูกจุดขึ้นท่ามกลางวัดป่าดงดอน
ก่อนอรุณกลางพรรษาหนึ่งในดินแดนแห่งพุทธะ...
ครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคยเป็นพระภิกษุบวชใหม่
ในวัดป่าแห่งนั้น  ทุกๆ ยามเช้าใกล้อุษาวดี 
ตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงนกกา และน้ำค้างทรงหยด  
พร้อมกลิ่นหอมแห่งสายหยุดมวลบุปผาไพร
ที่กุฎิของข้าพเจ้าตั้งอยู่ใต้ร่มสายหยุด
และหมู่มวลดอกพิกุล ก่อนที่จะสวดมนต์
และห่มจีวรออกบิณฑบาตรตามธรรมยาตรา
บรรยากาศในลานรุ่งแห่งนั้น
ส่งเสริมให้มีความสงบเย็นในจิต เสียงวิหคไพร
บึงและเสียงดนตรีธรรมชาติรับอรุณนั้น
เป็นสภาวะบริสุทธิ์แห่งธรรมชาติ
ส่งเสริมให้สติปัญญาข็งแกร่ง
ธรรมชาติเดิมแท้อันไม่ปรุงแต่ง 
เป็นความสงบ ว่าง ไม่มีบวก
ไม่มีลบ ไม่มีเกิด ไม่มีตาย เป็นอนัตตสภาวะ 
ป็นปรมัตถสัจจะ เป็นอสังขตธรรม 
เส้นทางบิณฑบาตรข้าพเจ้าผ่านทุ่งนา
อันเรียงรายด้วยข้าวรวงหมอกเหมย  สายน้ำ  
และดงตาลนา... เมื่อยามพระสงฆ์ห่มผ้าเหลือง
ต้องแสงแรกแห่งอรุณ ราวท้องทุ่งทั้งปวงต้องแสงสงฆ์ 
เหลืองงามอร่ามไปทั้งทุ่ง  
ประหวัดไปถึงอานุภาพแห่งพระธรรมที่อาบหล้า
เป็นแสงสว่างให้เหล่าเวไนยสัตว์ทั่วพื้นนพดล  
เพียรตระหนักดีว่า........
ชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสามัญ 
สงบงามและเรียบง่ายเข้าใจในความจริง
และความเป็นไปในกฎธรรมชาติ
แห่งกฎไตรลักษณ์นั้นเป็นชีวิตที่ศาสดาทรงสรรเสริญ
ด้วยเหตุที่เราหนีธรรมชาติไม่พ้นฉันใดก็ฉันนั้น......
				
comments powered by Disqus
  • tiki

    23 กันยายน 2547 03:40 น. - comment id 336438

    ลงกลอนตนเองเสร็จเพิ่งเห็นของลำน้ำน่านค่ะ
    ยังสวยงามเยือกเย็นในหัวใจเช่นเดิม...
    ระลึกถึงเป็นอย่างยิ่งค่ะ
  • พี่พุดไพร

    23 กันยายน 2547 06:25 น. - comment id 336467

    ตื่นมาอ่านงาน
    ขวัญเมืองขวัญแก้วเนรมิตร
    ตอนอุษาฟ้าสาง
    
    พร้อมฟัง
    บทเพลงบรรเลงโพธิ์แก้วโพธิ์ทอง
    พุทธธรรมสถิต
    เหนือดวงใจศรัทธา
    
    ท่วงทำนองสาธยาย
    ให้ดอกดวงใจราวเพชรพรายพร่าง
    รับ
    บทกวีราวดวงดอกน้ำค้างทิพย์
    หยาดสายระริน
    มิสิ้นสายแสงสงฆ์แสงธรรม
    ส่องล่องลงสู่สายธารใจ..
    
    พลันพา..
    รำลึกถึงภาพ..
    เส้นทางสายรวงธรรมรวงทอง
    เส้นทางไสวพร่างสว่างเย็นสงบงามสมถะ
    ในยามอุษา
    
    กับฟ้าหลัวหมอก
    ในยามเช้าหลายอรุณ
    ริมเส้นทางนาข้าวอันพราวรวงระบัด
    ตาลต้นสงัดสงบสยบหวาน
    
    ที่ดวงดอกพุดไพรยืนรอ
    ใส่บาตรธรรมยาตรา
    จากพระสงฆ์พระบวชใหม่..สงบนิ่ง
    
    ท่านเดินมาเป็นทิวแถว
    รัศมีแก้วรัศมีจีวรราวทองทาทาบ
    อาบไปทั่วท้องทุ่งนา
    กระจ่างจ้าสว่างโพลง
    ราว*แสงสงฆ์มลังเมลือง*
    
    งามล้ำจน
    เกินจะกล่าวถึงพราวภูมิแห่งปิติใจ
    หยาดน้ำตาจึงยิ่งเอ่อไหล
    เมื่อเห็นภาพสุนัขแม่ลูกอ่อนสีขาว
    เฝ้าติดตามพระน้อยค่อยๆเดินตามหลังไป
    เป็นงามจริงงามใจ
    เหนือดวงใจนี้
    ที่แม่ดวงดอกพุดไพรดอกนี้
    พร้อมพลีศรัทธาเดินทางไกลบ้านเกือบพันกิโล
    เพื่อไปแสดงสักการะแสวงหาบุญ
    ด้วยใจดวงกรุ่นหอมงาม
    
    และในยามนี้
    พระองค์งามในนิมิตยังจำพรรษาอยู่
    และจะลาสิกขาราวปลายเดือนสิบ
    
    หวังพุดไพร..ได้เดินทางไปนมัสการ
    อีกคราครั้ง
    เห็นชายผ้าเหลืองอีกคราคราว
    ไปกราบท่านเจ้าอาวาส
    หลวงพ่อนักพัฒนาผู้รักธรรมชาติไพร
    ปลูกต้นไม้เป็นพันชนิด
    
    ที่ได้รินร่ำพร่ำบอกให้จำจด
    ด้วยดวงใจใสงาม
    มากเมตตาบารมี
    ท่านยอมพลีเวลา
    สนทนาธรรมฝากล้ำค่าศรัทธาใจแด่ใจดวงนี้
    และ
    ในนาทีนี้
    งานงามล้ำเฉกนี้..พี่พุดขอคารวะนะคนดี
    สมกับที่พี่พุดรอคอยค่ะ
    
    
    
    
    
    
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    23 กันยายน 2547 07:02 น. - comment id 336525

    สวัดีครับ.............
    
             ผมเข้ามาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี  
    
             หาก ผลิใบ ยังอยู่ก็จะคอยให้ความอบอุ่นเช่นนี้ตลอดไป
    
    กำลังใจจากข้างในส่วนลึก
    ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น
    จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น
    จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
     
    
    หายไปนานเลยนะ
  • แทนคุณแทนไท

    23 กันยายน 2547 10:21 น. - comment id 336597

    งานยังยอดเยี่ยมเช่นเคยครับ...
    
    ยิ่งอ่านยิ่งเย็นใจ และเสมือนได้ความสว่างในงานคุณ....
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    23 กันยายน 2547 13:05 น. - comment id 336651

    ได้ซึมซับช่วงเวลาที่น่าสงบนัก...ด้วยความอิ่มใจยิ่งค่ะ
    ...............................................................................
    ลี่...ผู้มาเยือน
    .
  • ผู้หญิงไร้เงา

    23 กันยายน 2547 13:23 น. - comment id 336664

    ทางสายธรรม นำมาซึ่งความงดงามเสมอ  นานแล้วที่หายไป หวังว่าคงสบายดีนะค่ะ ห่วงใยเสมอค่ะ  ผลงานงดงามมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ
  • วิจิตร ภู่เงิน

    23 กันยายน 2547 14:36 น. - comment id 336722

    ...........
    
    วิจิตรเคยบวชเณรครับ
    
    ตอนบวชหน้าร้อน.....ออกบินทะบาด ได้มาม่าเต็มบาดเลยครับ
    
    มีแอบหลบอาจานเอาใว้กินตอนค่ำด้วย
    
    พอโตตอนจบ ม.ปลาย เคยเป็นศิษย์วัดอยู่ประมาณ 6 เดือน ออกช่วยอาจานถือของ
    
    .........
  • เมจิคเชี่ยน ขี้เกียจล็อคอิน

    23 กันยายน 2547 15:01 น. - comment id 336759

    ผลงานยังยอดเยี่ยม
    ภาษณสวยเหมือนเดิมเลยนะขอรับ
    
    แหะๆ หายไปนานเลย
    หวังว่าสบายดีนะขอรับ : )
  • แก้วประเสริฐ

    23 กันยายน 2547 16:53 น. - comment id 336827

    สุดยอดแห่งการเขียนกลอนแปดที่สุดเท่าที่ผมพบมา ยกเว้นอาจารย์สมัยโบราณนะ  ยุคนี้ก็คุณลำน้ำน่านนี่แหละ  ขอชมเชยด้วยหัวใจ  และในทำนองเดียวกัน ก็ขออนุโมทนาผลบุญที่เกิดกับคุณไว้ด้วยนะ
    
                        แก้วประเสริฐ.
  • ชัยชนะ

    23 กันยายน 2547 21:34 น. - comment id 337009

    พระภิกษุ สามเณร เถรอุ้มบาตร
    ยุรยาตร บาทวิถี ที่สวยสด
    จริยา เยื้องย่าง ช่างงามงด
    ช่างหมดจด โปรดมนุษย์ ฉุดจากมาร
    
    
  • ใจปลายทาง

    23 กันยายน 2547 21:53 น. - comment id 337024

    ดีใจจังค่ะที่วันนี้เข้ามาได้อ่านงานที่งดงามของพี่นิว
    
    ...........คิดถึงค่ะ..........
  • ตะแหง่ว

    24 กันยายน 2547 12:26 น. - comment id 337368

    ชื่นชมกลอนอันงดงามค่ะ..
  • คนเมืองลิง

    24 กันยายน 2547 17:31 น. - comment id 337558

    ขอเก็บงานชิ้นนี้นะคะ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    24 กันยายน 2547 23:05 น. - comment id 337680

    มาชื่นชมงานงามยอดเยี่ยม..ไม่ได้ยอ...เป็นความจริงที่ทุกคนยอมรับ  อ่านแล้วหวนนึกถึงบรรยากาศที่เคยได้ทดแทนคุณบุพการี ห่มผ้าเหลืองสะพายบาตร ท่อง ปฎิสังขาโย ไปตามทางใต้ดงมะพร้าวเพื่อโปรด...ให้ท่านได้ใส่บาตร
    มองเห็นใบหน้าที่อิ่มเอิบสายตาที่เปี่ยมสุขของโยมแม่ เมื่อเห็นพระลูกชาย......แม้ว่าท่านสิ้นบุญไปนานแล้วก็ยังไม่ลืมแววตาคู่นั้น...
  • น้องสาว

    29 พฤศจิกายน 2547 16:15 น. - comment id 380549

    ศรัทธาพี่ชายเสมอค่ะ...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน