คุ้มขวัญ..คืนเรือน...!

พุด

110202XSignalLakeAutumnTrees.jpg
พบเงียบงามสี่ห้องใจใสราวแก้ว
วะวับแววราวสายรุ้งพร่างพรายสี
ตะวันใจส่องไสวแล้วคนดี
กับวันนี้โลกแสนหวานปานน้ำผึ้งรวง
เมื่อดวงใจแห่งรักกลับคืนเรือน
นอนดูเดือนนับดาวเจ้าขวัญสรวง
มาคุ้มฝันคุ้มใจให้ชื่นทรวง
เจ้าดั่งดวงดารารายเฝ้าหมายรอ......!


ราตรีนี้ ฟ้ากระจ่างไร้เมฆหมอกหม่น
กมลขวัญช่างหอมหวานปานน้ำผึ้งรวง
ดั่งมีดาวดวงดาริกานับพันพร่างพรายในสายใจ
การรอคอยใครสักคน ให้คืนหลังกลับมา
ช่างมากมีค่า ทางความรู้สึก
อันแสนล้ำลึกผูกพัน 
ดั่งมีสายใยขวัญ..สร้อยโซ่รักพันธนา


ขอบคุณฟ้าดิน ขอบคุณที่เมตตามิสิ้น
ต่อผู้หญิงคนนี้..เสมอมา
ให้ได้พบคนดีมากมีค่า
ดั่งอัญมณี..
มาปลอบประโลมแด่ดวงชีวีน้อยนิดหนึ่งนี้
ให้..หนาวคลาย..!
...............................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song481.html
คิดถึง 
จันทร์ กระจ่าง ฟ้า
นภา ประดับ ด้วยดาว
โลก สวย ราว
เนรมิต ประมวล เมืองแมน
ลม โชย กลิ่น
มาลา กระจาย ดินแดน
เปรืยบ มี แสง
คนึง ถึง น้อง นวลจันทร์
งาม ใด หนอ
จะพอ ทัดเทียบ เปรียบน้อง
เจ้า งาม ต้อง
ตาพี่ ไม่มี ใครเหมือน
ถ้า หาก น้อง
อยู่ด้วย และช่วย ชมเดือน
โลก จะ เหมือน
เมืองแมน แม่นแล้ว
นวลเอย... 
 
BS_WeddingBeauty_366.jpgthe-great-escape.jpg1769-lake-marian.jpg
......................

พร้อมพลีกำนัล
รับขวัญ..
ในราตรี..
ที่ดวงดอกไม้
กำลังบานหวานหอมในดวงใจแม่ดวงดอกพุดไพร..ค่ะ
...................................
ทะเลสาบสีเงิน!

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song282.html
(ธาราระทม)
จำได้ไหม..ดวงใจ
ทะเลสาบแห่งนี้ที่คุณเคยบอกว่า
คล้ายกับเรื่อง*บ้านเล็กในป่าใหญ่* 
ของลอร่าอิงกัลส์ ไวเดอร์


ที่คุณเคยอ่านมาตั้งแต่เด็ก
ภาพฝันจึงตามมาในจินตนาการ
ถึงภาพป่าใหญ่ไพรกว้าง..ทุ่งกว้างด้วยดงดอกหญ้า
กับตะวันสีทองอ่อนอุ่นอ่อนหวาน
ละลานตาเต็มไปด้วยดวงดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง
ป่าที่ยังอุดม ด้วยสัตว์ป่านานา หมี เสือ สิงโต


และ
ชนชาวอินเดียนแดง
ที่กำลังพยายามปกป้องแผ่นดิน
ที่ถูกคนขาวที่เจริญกว่าเข้ามาจับจองแย่งชิง
หนังสือชุดนี้มีหลายเล่ม
ที่สะท้อนวิถีชีวิตคนอเมริกัน
ที่เพิ่งจะอพยพบุกเบิก
และเริ่มสร้างบ้านสร้างเมือง
คุณผู้ซึ่งหลงรักวิถีไพร จึงอ่านซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่รู้เบื่อ


ทุกกระท่อมที่ชาส์ล เลือกและสร้างเองนั้น
ช่างงามง่ายไร้มายา
และภาพที่แคโรไลน์ภรรยา
ทำกับข้าวภายในครัวกระท่อม
ให้หอมอวลกรุ่นน่ากินในคำนึง..


ดวงใจ
นวนิยายเรื่องจริงนี้ เป็นแรงฝันบันดาลใจ
ให้คุณ บอกผมว่า 
ให้มาสร้างกระท่อมนะที่ตรงนี้
ที่เคียงทะเลสาบสีเงิน
ยามเราบุกบั่นป่าเข้ามา
และพบ ที่ตรงนี้ที่เป็นบึงกว้าง
เกิดจากการขุดแร่ทำเหมือง..
และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ให้งามราวทะเลสาบผืนใหญ่
ราวผืนแพรไหมสีเงินงาม
ที่กำลังสะท้อนพร่างวะวิบวับรับพรายแดดอ่อนละออ
ที่คุณถึงกับอุทานดีใจเมื่อมาเห็น


ฟ้าสีครามงามเข้ม..ใสกระจ่าง..สดสว่างไสว..สุดตา
ตัดฉับกับผืนทะเลสาบสีเงินระยิบตาตรงหน้าระยับใจ..
ประดุจสวรรค์สรวง
อากาศหอมสดชื่นบริสุทธิ์
กระแสลมแรง..จนแล้งไร้ต้นไม้
มีเพียงร่ายระบำของดงดอกหญ้า
ไหวเอนรับรินร่ำพรายแสงรอนรอน
ละอออ่อนอุ่นยามค่ำย่ำสนธยา


ดวงใจ..
ยามนั้นคุณบอกผมให้หันหลังให้
แล้วถอดเสื้อออกเพื่อกระโดดลงไป
นะกลางสายธารอย่างเริงร่าราวปลาแหวกว่ายในสายชล


คุณ..ว่ายน้ำเก่งราวเงือกสาวและยิ่งดูราวจะยิ่งเหมือน
เมื่อคุณนอนลอยตัวเหนือทะเลสาบสีเงินนั้น
และพลันแผ่สยายเส้นผมงาม
คล้ายสาหร่ายลอยเป็นแพ ล้อมรอบวงหน้าเรียวละมุน


ร่างงามคุณดูโดดเด่น
ในท่าที่คุณนอนหลับตาพริ้มลอยตัวเหนือผืนน้ำ
และ
กระทบกับสายแสงสุริยาที่กำลังจะลาลับฟ้า
จนพาให้ร่างคุณนั้น
งามจรัสเรืองแสงคล้ายนางไพรนางไม้หนีมาว่ายวน
เริงร่าในท่ามกลางป่าไพรในทะเลสาบสีเงิน 


กับดวงดอกไม้ป่า
ที่กำลังส่งกลิ่นสะพรั่งรินรายรอบ
ให้ผมแอบชำเลืองดูคุณ
และแทบอยากให้โลกหยุดหมุน
ได้แต่นอนเอนอิงริมตลิ่ง
แล้วเฝ้าวนเวียนสายตาไม่ไกลไปจากร่างคุณ


จำได้ไหม..
ดวงใจ..ยามที่คุณแกล้งลากผมลงมา
แล้วเราสองต่างพากันโอบตระกองกอด
ในอ้อมอกอ้อมฝันของสายน้ำ


ที่พลันอุ่นอิ่มไปกับนิ่มเนื้อนวลหนั่นแน่น
ที่เบียดร่างผมแนบแน่นด้วยแรงรัก
จนทำให้หัวใจผมกระเจิงด้วยมนต์เสน่หา
และ..จำต้องจูบประทับรับขวัญบดขยี้
แทบให้ร่างเราสองนี้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน


ดวงใจ
มาตรแม้นชีวิตผม..ในวันนี้
มีแต่ความเงียบเหงาเปล่าร้างเพราะไร้คุณเคียง
หากชีวีผมก็แสนสุขสงบงามกับทุกโมงยามณ.ที่แห่งนี้
ที่ซึ่ง ราวอาณาจักรไพรริมทะเลสาบสีเงิน..ลำพัง


ผม..จะพาตัวเองไปนอนนิ่งฟังเสียงดนตรีจากทุ่งหญ้า 
ทุ่งแห่งความฝัน
ฟังดนตรีไพรร่ายมนตรา
บรรเลงบทเพลงธรรมชาติอันโอบเอื้อพึ่งพิง


ให้ผมเฝ้ามองดูฟ้าเล่นแสงสีราวเวทีธรรมชาติ
ดูเมฆแล้ววาดเป็นภาพงามตามแต่ใจนึก
ดูแมกไม้ไพรพฤกษ์ฝูงสกุณา
ที่พากันผกโผผินบินร่อนมาโฉบเหยื่อ


เฝ้าดูฟ้าที่งามระเรื่อเจือสีชมพูอมส้ม สวยสดเศร้า
กับความเหงางามในใจ 
ที่ช่างเป็นความรู้สึกยิ่งใหญ่
ราวเราแค่เศษเสี้ยวธุลี 
ที่มาแฝงร่างผสานผสมห่มห่อด้วย
ความงาม อันยากยิ่งจะพรรณนา 
นอกเสียจากผู้รักวิถีไพรดิบเดิมเพียงนั้นถึงจะเข้าใจ
ยามที่เราถอดใจถอดจิตราวสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง


ดวงใจ..
ในยามราตรี
ผมจะก่อกองไฟริมกระท่อม
แล้วนั่งจิบกาแฟบนขอนไม้
หาอาหารง่ายๆมานั่งรับประทาน
กับเจ้าสุนัขเพื่อนยาก


ยามนั้นผมจะได้ยินเสียงสายน้ำ
ในทะเลสาบครวญคร่ำระรินราวร่ำไห้อย่างดายเดียว
เสมือนเพื่อนยากผู้รับรู้ความเปลี่ยวเหงาใจ
ยามผมไม่มีคุณ..


ผมจะนอนหนุนแขน
ฟังเสียงฟืนปะทุ
และ
ในอ้อมฟ้าอ้อมฝัน
เฝ้ามองดูดาวประจำเมือง ประจำใจ
ที่พราวพร่างสุกใสนับพันดวง
ดาวใจที่คุณเคยฝากไว้ให้
ส่องนำทางชีวิตจิตวิญญาญ์ผม
ยามอ่อนล้าท้อแท้แพ้พ่ายไร้สิ้นกำลังใจ
ให้น้ำตาลูกผู้ชายชาติไพรซืมซึ้งในเรียวตา
ด้วยเหว่ว้าดายเดียวสุดทน


และ
ดวงใจ
ทุกอุทัยโลกหมุน 
ผมพึงใจที่อาศัยริมกระท่อมทะเลสาบสีเงิน
อันงามเงียบนี้ลำพัง..
กับยามค่ำที่ผมได้รจนางานงามอันเลอล้ำค่า
พลีบรรณาการให้แด่โลกบรรณพิภพ
ที่ยิ่งดวงชีวีผมพบความงามเงียบเท่าใด 
งานงามของผมก็ยิ่งแสนงามยิ่งใหญ่พอกันเพียงนั้น


 
ผมมีเวลา ทำงานเพื่อสังคม 
ในฐานะเจ้าหน้าที่ป่าไม้
ผู้รักษาอุทยานและป่าทุกผืนในประเทศนี้
ให้ยาวยืนไปจนถึงลูกหลาน 


เป็นงานงามที่ราวปิดทองหลังพระ
เหมือนพ่อพระในดวงใจของผม
ที่เคยเททุ่มทำงานฝากอุดมการณ์อุดมคติไว้ให้ชนชาวไทย
ทุกดวงใจได้หันมารับฟังแม้นต้องแลกกับชีวิต
คุณ..สืบ นาคะเสถียร ผู้เพียรพยายาม 


แม้นถึงกระทั่งยอมสังเวยชีวิตเพื่อ
เพรียกเรียกร้องสามัญสำนึก
ให้สังคมหันมาสำนึกรำลึกรู้ค่ารักษ์ป่าไพร


ที่ดวงใจ..คุณคงรู้ว่า
หากไร้ป่าแล้วไซร้ เราก็เท่ากับรอวันตาย กับภัยพิบัติที่นับวัน
จะมาฝากพิโรธสอนสั่งให้เราสำนึกรู้
ว่าคนเรานี้จะอยู่ดีมีสุขได้อย่างไรไฉนเล่า
หากไร้ซึ่งเงาแห่งร่มไม้ได้ดูดซับน้ำไว้
ให้โลกได้สงบงามอย่างพึ่งพาพึงพิง


ทุกสรรพสิ่งเป็นวัฎจักร
ที่โลกสรรสร้างมาให้อย่างลงตัว
มีฟ้า มีดิน มีน้ำ ลมไฟ 
มีดวงใจที่ใสงาม ตั้งแต่เริ่มเกิด
หากเรามองเมินเพียงเพลินผลาญทำลาย
ทุกสิ่งที่ธรรมชาติให้มาอย่างงามง่ายแสนงาม
ให้หลงละเมอหยาบหยามต่อเติมเพิ่มความทุกข์
รุกล้ำก้ำเกินในทุกสิ่ง แบบโง่เขลาเบาปัญญา


แม้นกระทั่งดวงจิตอันกระจ่างราวแก้วใสภายในตัวเราเอง
ที่พระเจ้าให้มาอย่างบริสุทธิ์ใส
หากเรานั้นหาได้เฉลียวใจไม่
พากันมาเติมตัวทุกข์สุขในโลกวัตถุไม่รู้หยุดรู้พอที่ไม่จีรัง..


ให้หุ้มห่อพอกไว้ยิ่งหนานับวัน
จนยากจะลอกเปลือกออกพบแก่นกระพี้
ที่แสนงามแสนดี
คือจิตกระจ่างงามพราวราวดวงแก้ววิเศษ


ดวงใจ...
ผมก็แค่ธุลีในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้
ที่พัดผ่านมาคละเคล้าไป
ในดงมนุษย์อันมากมีมากมายนี้


หากแม้นเปรียบชีวีแค่ธุลีนี้
ก็ขอแค่ได้มาพลีฝากดีฝากงาม
ก่อนวันจะสิ้นสายแสงแห่งดวงสุริยาใจ


ไม่เป็นธุลีใจที่หมองหม่นปนเปื้อนมลทิน
หากขอเลือกเป็นธุลีดิน
ที่งดงามอุดม 
รอเพียรเพาะบ่มให้ทุกต้นกล้าแห่งรักได้หยัดยืน


ให้งานรักรจนา
ได้พาจิตมนุษย์ไสวพร่างกระจ่างจิตไสวชูช่อ
ราวรอรับพรายแสงตะวัน
อันหมุนวนมาสอนบทเรียนใจในทุกวันให้รู้คุณค่า
ว่าทุกดวงชีวามีโอกาสเริมต้นชีวิตใหม่ได้เสมอ


และ
ราวกับพราวนวลจากเดือนดวงงามนามพระจันทร์
ให้ประดับขวัญประดับโลกงาม..
เป็นนิยามความดีสามัคคี
ที่แสนร่มเย็นเป็นสุขใจไปตราบชั่วกาล..


ดวงใจ...
ชีวิตคืออะไรกันเล่า
หากมิใช่เศษเสี้ยว
ที่มาฝากร่างเพียงชั่วครู่ชั่วคราว
ให้ได้มามองดูโลกงาม
ให้ได้มารู้ค่าคำรัก
อันจักเป็นพลังสรรสร้างอันยิ่งใหญ่
หากทุกดวงใจรู้รักเย็น


และ
โชคดีเพียงใด
ที่ได้เกิดมาในผืนดินอันอุดมร่มเย็น
ใต้ร่มฉัตรใต้ร่มธรรมใต้ร่มทองแห่งพุทธศาสนา
ที่จักประคองให้จิตเรา..ใสกระจ่าง
รู้ฝึกวางว่างก่อนจะสิ้นแสงแห่งตะวันใจไปชั่วกาล


ดวงใจ...
ผม..ภูมิใจในตัวคุณ และตัวผมนี้
ที่เกิดมามีนวลเนื้อใจที่แสนบริสุทธิ์ใสแสนงาม
รู้หักห้ามรู้รักเย็น


และ
มาตรแม้นเราเป็นเฉกเช่นชาวดินชาวไพร
หากดอกดวงใจเรานั้นรู้ใฝ่เพียรหาดวงดอกธรรม
และน้อมมาพร่ำห่มหอม..
เผื่อแผ่ให้ทุกดวงใจได้พบใสงาม
ไปด้วยกัน..


และสุดท้าย
ไม่มีอะไร
*จะงามเท่าดอกดวงใจใครเล่าจะรู้นี้*
ที่เราสองต่างพร้อมพลีภักดิ์
เพียรถักทอทองดั่งสายสร้อยภาษาร้อยรักรจนา
เพื่อคืนกลับให้ผืนดินแห่งมาตุภูมินี้
ที่เป็นที่รักยิ่งกว่ารัก
ศรัทธาภักดิ์ยิ่งกว่าศรัทธา
เปรียบประดุจดั่งพสุธาแห่งความฝันอันสูงสุด
ที่แสนหนักแน่นมั่นคงยิ่งใหญ่เหนือ
กว่าสิ่งใดในหล้าโลกนี้
แล้วมิใช่ละหรือ..คนดี..นะยอดดวงใจ!
.................


ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..
ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตาในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!
*



http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_32429.php
ฉันอยู่นี่ที่กลางใจในโลกฝัน...พุดพัดชา
ฉันอยู่นี่ที่กลางใจในโลกฝัน
คอยเคียงขวัญในเงาใจไม่ไปไหน 
ในเงาดาวใต้เงาจันทร์ยามฝันไกล
ในดวงใจในดวงตาดารากาล..
อยู่ในรักในอ้อมกอดของยอดรัก
ฝากใจภักดิ์รักเพียงเธอเพ้อคำหวาน
ในแสงทองท้องทะเลดอกไม้บาน 
ในสายธารหวานชื่นฉ่ำลำนำไพร
อยู่ใต้หล้าฟ้าพริบพราวเคล้าใจสุข
ไร้รอยทุกข์สุขเคียงขวัญวันไหนไหน
เงาอดีตแค่กรีดรอยฝากแผลใจ
ไม่เป็นไรยอมรับโศกโลกนี้คือละคอน
รอและรอ..ขอคืนหลังยังบ้านเก่า
ลบลืมเหงาเงาใจใครลวงหลอน
พร่ำสวดมนต์ภาวนาเพื่อขอพร
เลิกร้าวรอนสิ้นร้าวรานนานนิรันดร์!..
*


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song282.html
แว่ว ยิน แต่ เสียง
น้ำหลากมาเสมือนยิ่งพาน้ำตาข้าหลั่ง
ธารารักเอยรักเคยฝากฝัง
ท่ามกลางแสงเดือนสะพรั่ง
รักกลับอ้างว้างในคืนเดือนเพ็ญ
รูป รอย ปาง หลัง
ฝังฝากใจมาไร้ความจริงทิ้งให้ลำเค็ญ
มองเดือนครั้งใดหมองใจไม่เว้น
ค่ำคืนรักเชยเคยเช่น
แสงแห่งเดือนเพ็ญเชยฟ้าราตรี
รัก จาก พราก ไป
เหลือ เพียงรอยอาลัยไม่มี
สายน้ำยามเพ็ญ ก่อนเคยได้เป็นสักขี
ยินแผ่วแว่วเสียงวจี
คล้ายเสียงเสียดสีที่เย้ยดวงใจ
โอ้ คำ อธิษฐาน
เสมือนบ่วงมาร มารับเอาคำสาบานข้าไป
มนต์มารร้ายยิ่งรักจริงสลาย
ตั้งปณิธานวอนไหว้
แสงแห่งดวงใจจงพบกันเทอญ
รัก จาก พราก ไป
เหลือ เพียงรอยอาลัยไม่มี
สายน้ำยามเพ็ญ ก่อนเคยได้เป็นสักขี
ยินแผ่วแว่วเสียงวจี
คล้ายเสียงเสียดสีที่เย้ยดวงใจ
โอ้ คำ อธิษฐาน
เสมือนบ่วงมาร มารับเอาคำสาบานข้าไป
มนต์มารร้ายยิ่งรักจริงสลาย
ตั้งปณิธานวอนไหว้
แสงแห่งดวงใจจงพบกันเทอญ...
........................
				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    6 มิถุนายน 2550 23:03 น. - comment id 706492

    ริมทะเลสาบสีน้ำเงิน และกระท่อมหลังเล็กหลังนั้น
    ด้านหลังโอบล้อมด้วยขุนเขาและเงาป่า
    
    อยากหลุดเข้าไปในโลกหนังสือจังค่ะ
  • 7 มิถุนายน 2550 04:41 น. - comment id 706518

    y1p-pl-XrjxRsRI_9LK1rqlr_JucrJAgGB66kvUX 
    
    สวัสดีค่ะพี่พุด ป.มีแค่ดอกทิวลิปมาฝากอีกแล้วค่ะ
    
    36.gif11.gif16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน