ฉัตรเพชรรัตนมณี สีชมพู..เบิกฟ้า...ใจไทยทั้งหล้า..พร่างพราว...!

พุด

attachment.php?attachmentid=130684&stc=102950.jpgpic06191%5B1%5D.jpgpic_c.jpgLotus2.jpg
โลกวันนี้สีชมพูผ่องพราว
คืนเหน็บหนาวทั้งพสุธาไทยหายสิ้น
ไทยทั้งชาติปิติกราบแทบเบื้องพระยุคลบาทน้ำตาริน
เจ้าแผ่นดินผู้ครองใจไทยทั้งปวง
คือพระมิ่งมงคลกมลดั่งเพชรพร่าง
ทุกก้าวย่างสอนสัจจธรรมดำเนินล่วง
หยาดพระเสโทร่วงพราวราวหยาดเพชรสู่เรียวรวง
เพื่อให้ปวงพสกนิกร..มีกิน..
หยาดน้ำใจใสงามประดุจดั่งน้ำค้างฟ้า
ระรินหล้าทุกหนแห่งดับแล้งสิ้น
รักห่วงใยแก้ไขปัญหาให้ทั้งแผ่นดิน
ไททุกชีวินตามรอยบาททุกชาติภพ
ขอมอบกายถวายมโนชีวีธุลีหล้า
แด่ชาติศาสนาตราบดินกลบ
ทำความดีตามรอยพ่อจิตน้อมนบ
เพียรอธิษฐานขอพบ..พระมิ่งขวัญนิรันดร์กาล...!

StoryFieldLogo.jpg04139-14.jpgหยาดพระเสโทร่วงพราวราวหยาดเพชรร่วงพลีแด่ผืนพสุธาไทนี้..แล..ผองชน.. 

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6196.html
(อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์*รัก)

สองดวงใจ....
ลำน้ำน่าน....พุดพัดชา
ดั่งธุลีหล้า...
ข้าแห่งแผ่นดินไทผืนดินธรรมแผ่นดินทอง
ขอ..
ปองมั่นหมายจิต
อธิษฐานนิรมิตทิพยทองสร้อยภาษาอักษราไทย
ด้วย...
ดวงใจพิสุทธิ์ใส...
ดั่งหยาดน้ำค้างกลางหาวห้วงแห่งกตเวทิตา
สำนึกรู้...
ในพระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณ
ขอน้อม..
ศิระกรานกราบ..ณ..แทบเบื้องพระยุคลบาท
ด้วยแรงแห่งรักภักดี
พลีเทิดพระเกียรติแด่องค์ราชันขวัญชาติ

ด้วย...
บทความเรียงพร้อมบทกวี
*พบพุทธบุญเพรงสยาม*
เพื่อ..
เทิดไท้สดุดี..
พระปิ่นเพชรจอมขวัญจอมใจไทยทั้งชาติ...
เนื่อง..
ในวโรกาสมงคลสมัย
ที่พระองค์ทรงเถลิงถวัลยครองสิริราชสมบัติ
*ครบรอบ60ปี
ด้วย..
ทศพิธราชธรรม 
ที่ธ..ทรงนำไทยให้แสนสุขสงบร่มเย็นเป็นสุข...
บรรเทาทุกข์ ทุกหย่อมหญ้า 
ด้วย..
พระปรีชาสามารถที่ทรงมองเห็นการณ์ ไกลเป็นยิ่งนัก


และ..ยังทรงตรัสสอน
ให้รู้จักใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่าย
พอดี พอเพียง...มาอย่างช้านาน...
เพื่อปกบ้าน..
ป้องเมืองของเรานี้
เอาไว้..
ให้ลูกหลานไทยได้มีอิสระเสรี
ที่จะยังคงมีผืนดินหยัดยืน ได้อย่างทรนง 
คงความเป็นไท ให้..แสนภาคภูมิปิติใจ
ไปตราบชั่วกาลนานเนานิรันดร์...
................................. 


พบพุทธบุญเพรงสยาม..ลำน้ำน่าน
๑) อยุธยายศล่มแล้ว...........ลอยสวรรค์ ลงฤา*
โคลงสะอื้นรำพัน.................ศึกแพ้
แรมนิราศจาบัลย์................บุณย์รักษ์ เวียงแล
อินนรินทร์ธิเบศร์แล้...........ร่ำร้าวโคลงหวนฯ
(*นิราศนรินทร์)
(๒) เศวตฉัตรช่อฟ้า............    วงศ์สวรรค์
เก้ารัชกาลบรร-...................    จบแล้ว
รัตนวงศ์วรรณ....................    วัฏแผ่น ดินแฮ
สันตติวงศ์แพร้ว.................    ร่วงรุ้งเรืองสยามฯ
(๓) แดง...ฤกษ์ไทฤกษ์ด้าว..    ดำเกิง สุรีย์แล
แดง...เลือดหลั่งเลือดเชิง.....    ศึกเชื้อ
แดง...มารมอดมารเพลิง......    พ่ายพุทธ
แดง...ชาดหรคุณชาดเกื้อ.....   เลือดแก้วละเลงสยามฯ
(๔) น้ำเงินงามรามร่มเกล้า....   เครือกษัตริย์
กษัตริย์เกษมวิวรรธน์.............วรทล้ำ
ล้ำแผ่นสุพรรณบัฏ...................บรมราช- วงศ์แล
ราชธรรมเพียบพร้ำ.................พุทธพร้อมพรสยามฯ
(๕) เขียว..กระทงตองท่องท้อง...ธารทอง
เขียว...ทุ่งข้าวรวงรอง...............ระบัดกล้า
เขียว...ผักคละครองคลอง.........เครียวยอด 
เขียว...พระมรกตหลักหล้า........เหล่านี้มณีสยามฯ
(๖) ขาว...กลีบแก้วพุดซ้อน.......แซมทรวง
ขาว...หยดน้ำค้างยวง...............หยาดน้ำ
ขาว...ข้าวดอกมะลิรวง..............หุงใหม่ 
ขาว...ดอกบัวไป่ช้ำ...................ผ่องแผ้วพุทธถวายฯ
(๗) เหลือง...รวงพวงพุ่มข้าว......โพสพสรม
เหลือง...พัสตร์สงฆ์รงค์ลม.........รุ่งคุ้ง
เหลือง...อรุณแรกขานขรม........ขมิ้นเพรียก 
เหลือง...บุปผาร่วงรุ้ง................เรื่อแล้วลานสยามฯ
(๘) แว่วตะโพนแผ่วพ้น...........เพลบุญ
โพ้นวรรษาราพิกุล...................เกี่ยวข้าว
ปรางค์สางรุ่งอรุณ.....................ระดะยอด อวดแฮ
บุญสยามค่ำเช้า........................ชาติฟื้นเกษตรศานต์ฯ 
(๙) ขึ้นสิบห้าค่ำไหว้..................วิสาขา
เทียนรุ่งร่ำเรียมตา...................ตาดเคื้อ
นวลเดือนอาบปฏิมา.................มณฑป 
อาบโบสถ์เทียนอาบเนื้อ...........นุชหน้าพัสตร์สงฆ์ฯ
(๑๐) ไขประทีปประดับต้น.........รัตติธรรม
สงฆ์แว่วแจ้วลำนำ...................นพน้อม 
เพลาพร่าจันทรารำ-.................ไรยอด โพธิ์แล
โบสถ์ค่ำพัสตร์ภายพร้อม..........พร่างพื้นแขไขฯ
(๑๑) ข้าวออกรวงดกแล้ว..........ละลานตา
ไหวว่ายตะเพียนปลา...............ผุดปลื้ม
พลบค่ำเพรียกวิหคนา............ นางเพรียก ละเมอฤา
แรมล่าอริราชครึ้ม...................ศกคล้อยเรือนหายฯ
(๑๒) ทองหยิบเคยหยิบป้อน......เพลา เสมอนอ
เรียมหยาดหวานหยาดตา.........ขยิบซึ้ง
เรียมหยอดรักหยอดยา.............หยดพิษ
แรมรักร้าวรักทึ้ง......................หยิบแย้มแซมขมฯ
(๑๓) รอนตะวันลับเศร้า...........บึงอุบล
จันทร์แจ่มแย้มนวลยล............เยี่ยมฟ้า
ขิมครวญดั่งครางคน.................ครวญพี่ นะแม่
นิราศเรียมห่างหน้า.................ห่อนได้แลเห็นฯ
(๑๔) ปรารถนาภาพลึกล้ำ.........ละเลงบุญ
เกล็ดทิพย์ลิบละมุน..................ม่านน้ำ
อารยธรรมค้ำจุน......................จวบค่ำ
เจ้าพระยาพาข้าม......................ล่องฟ้าสวรรค์สยามฯ
(๑๕) ทอดสะพานล่องข้าม..........แขนงชล
ระยับหมอกดอกอุบล.................เบ่งใต้
บัวเรียมระเมียรยล..................หยั่งย่าน ชเลแล
บัวสี่เหล่าเนาไซร้.....................สร่างสิ้นธรรมสรรค์ฯ
(๑๖) พรพรหมธรรมแต่เบื้อง....บุราณกาล
สืบแผ่นดินระรินมาลย์.............อะคร้าว
ข้าวจวักตักถวายทาน...............ทรวงบาตร อรุณแล
พบพุทธบุญเพรงข้าว................กนกเนื้อนาถสยามฯ
(๑๗) พุทธคุณไตรรัตน์ล้ำ.........รวีอรุณ
พุทธุปบาทกาลบุญ....................เบิกฟ้า
พุทธศาสนิกละมุน...................พุทธชาด สยามนอ
พุทธบุตรโชติชวาลหล้า.............สว่างเพี้ยงพันแสงฯ
(๑๘) เพชรพิกุลเกล็ดแก้วร่วง..พะไลทราย
พันพร่างธรรมทองพราย...........พิจิตรฟ้า
มะลิหล่นร่วงโรยวาย.................วัฏจักร
เบิกรุ่งบุญระบายหล้า............... โบสถ์เบื้องระเบียงวิหารฯ 
(๑๙) บัวบังใบตะไคร่ครึ้ม..........บัญจรงค์
บังอุบลจตุวงศ์..........................เวี่ยน้ำ
เบญจภูตโพชฌงค์....................ฌาปนกิจ บังฤา
เบญจขันธ์กิเลสล้ำ....................ยากยั้งบังไฉนฯ 
(๒๐) เบญจขันธ์กิเลสรั้ง............ยามโยค ญาณเอย
ทุกข์สร่างหมางเศร้าโศก...........สร่างสิ้น
วิปัสสนาวิโมกข์........................วิมุตติ
เบี่ยงบ่วงอบายหวิ้น..................วิวัฏโพ้นพรหมสวรรค์ฯ
(๒๑) ปราชญ์ใดในโลกร้าง.......ธรรมา
แสวงสว่างศาสนา....................เสน่ห์น้อม
ฤาประลาตพันธนา...................เนืองยศ 
กิเลสรัดมายาย้อม....................ขุ่นข้นใจถลำฯ
(๒๒) ปวงปราชญ์ปรัชญ์ก่อเคื้อ..กวีนิพนธ์
เพาะบ่มอักษรมนตร์.................มิ่งแก้ว
ค่าคำรดเหล่าอุบล.....................บริพัตร ทวีปนา
สงฆ์สะแบงกลดแล้ว.................เกียรติคล้อยครืนหลังฯ
(๒๓) เงาเมรุเงาวัดเวิ้ง.............ไพหาร
พุทธะหลั่งวิญญาณ....................หยาดไว้
ชะรอยพุทธเพรงกาล................มาล่ม ลงแล
ธารพระธรรมผากไร้................ร่อยร้างมลายขวัญฯ
(๒๔) พรายน้ำวาววับน้ำ...........นองพระยา
เงาโบสถ์คร่ำลำนาวา................ลิ่วลื้น
ไหลลอยล่องชีวิตมา..................มาดมุ่ง เมืองแล
จมคลื่นกระแสไป่ฟื้น...............ฝากน้ำซากสลายฯ
(๒๕) ปณิธานไพร่ฟ้า...............กวีไพร
พลีหลั่งเลือดละไม....................มุ่งฟื้น
ปลุกสำนึกดื่มดวงใจ.................ชนชาติ กวีนอ
กราบแผ่นดินน้ำตารื้น.............รักษ์ร้อยชาติสยามฯ
..............................


ดวงสุริยเทพ...
กำลังเผยโฉมอวดองค์อย่างสง่างาม
แผ่สร้านกำจายรัศมีสีรุ้งฉายฉาน
ปานประหนึ่งดั่งมณีแก้ววิเศษนพรัตน์อันจำรัสจำรูญ


ไขแสงสายพรายเหนือฟ้า*รัตนโกสินทร์*
แผ่นดินทองแผ่นดินไท..
แผ่นดินสาลีเกษตรอันแสนกว้างใหญ่ไพศาล
อัน..
ยังคงงามไสว..ด้วยเรียวรวงระย้าระยับ...
ราว..ถูกหัตถ์ทิพย์ปรายโปรย
โรยละอองอาบด้วยอัญมณีเพชรพราว..ระยิบ...


ตะวัน..ดวง...
ที่โชติช่วงฉายฉานเฉิดฉันท์พรรณราย
งามที่สุดในแผ่นดิน...ณ..วันนี้ในวันนี้
วันที่9มิถุนายนพุทธศักราช2549
วันครบรอบเฉลิมฉลองครองราชย์ครบ 60ปี
แห่ง..
องค์พระมหาจักรพรรดิในดวงใจ..ของปวงชนชาวไทย


สายแสงแดด..ดั่งดาดทองดาดเพชรพราว
งามอะคร้าว...ตกต้อง..ลงกระทบผืนหล้าฟ้าไทย
ที่กำลัง...
พร่างไสว...ราวมีรัศมีสีเหลืองทองสุกปลั่ง
แห่งแก้วโกเมนมณีงามผ่องผุดจรัสชัชวาลย์
ขึ้นมา..
ในแดนดินสุวรรณภูมิพุทธิ์..ให้แสนพิลาสพิไล


ปวงเทพยดาฟ้าดิน..สิ้นทั้งมวลมนุษย์ทั่วโลกหล้า
ต่างพา..
กันมาเฉลิมฉลองแซ่ซร้องสรรเสริญสดุดี
ดั่งมี..
เสียงทิพยดนตรี มีเพลงพิณ..
ลอยมาจากแดนเทวสวรรค์ทุกชั้นฟ้า
ที่ทวยเทพเทวา ต่างพากัน..
มาดีดสีพลีบรรเลงดั่งเพลงพรหมเสนาะ..สนองพร


สายน้ำใจเจ้าพระยา...ในทิวาราตรีนี้
ดั่งกระแสธารสีทองล่องไหลมาจากแดนดินศักดิ์สิทธิ์
มหาบรรพตหิมพานต์ 
ทิพยพิมานฟ้าขวัญแดนสวรรค์สรวง
ทอดตัวนิ่งเงียบสงบ 
เคี้ยวคดดั่งพญานาคจากแดนบาดาล..
รอรับขบวนพยุหยาตรา
อันแสนเกริกเกียรติเกรียงไกร
อัน...
แสนงามยิ่งใหญ่..
ซึ่งหามีไม่แล้วในพื้นปฐพี
ที่จะหาที่ไหนมาเทียมทันดั่งสวรรค์ลอย.....


แสงสีทองพร้อยแพร้วพร่างพราย
สาดส่องทั่วมหานทีธารเจ้าพระยา
ดั่งสายแสงแห่ง..
*มณีสวรรค์*
หยาดสายหวานหว่านเย็นลงประดับโลกหล้าแลฟ้าไทย


เสมือนเสมอ..
รัศมีหยาดเย็นแห่งน้ำพระทัย
ดั่ง...
น้ำค้างแก้วน้ำค้างฟ้า น้ำฝนทิพย์
หยาดอมฤตให้พสกนิกรไทยได้จิบ 
ด้วยดวงจิตแสนไสวเกษมเปรมปรีย์ปิติ
เปี่ยมล้น
ด้วย...
ความซึ้งค่า ในน้ำพระทัยมากล้นพระเมตตา
แสนชื่นชมโสมนัสในพระบารมี
แห่งพระบรมมหากษัตราธิราชเจ้า
นาม...
*พระภูมิพลนวมินทร์มหาราชา...*
พระโพธิทองร่มฟ้า..ร่มฉัตร...
แห่งผืนดินไทแผ่นดินธรรม...
พระ..
ผู้เปรียบดั่งสายธาราระรินใสสะอาด
ที่..เพียรหยาดสายพรายแผ่รัศมีฉ่ำเย็น
ดั่งมาจากธารทองแห่งพรหมโลก 
มาดับร้อนผ่อนโศก ให้โลกนี้แสนงาม...
ไป...จน...ตราบชั่วกาลกัปป์กัลป์...นิรันดร...
...............

กองทัพเรือจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค
ในโอกาสประชุมเอเปคในประเทศไทยพุทธศักราช ๒๕๔๖
ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัยผู้เห่ 
พลเรือตรี มงคล แสงสว่าง
           
 บทที่ ๑ชมเรือ
ลอยลำงามสง่าแม้น................มณีสวรรค์    
หยาดโพยมเพียงหยัน...........ยั่วฟ้า    
สายชลชุ่มฉ่ำฉัน                    เฉกทิพย์ ธารฤา    
ไหลหลั่งโลมแหล่งหล้า            หล่อเลี้ยงแรงเกษม 
เรือเอยเรือพระที่นั่ง              พิศสะพั่งกลางสายชล    
ลอยลำงามสง่ายล                   หยาดจากฟ้ามาโลมดิน    
สุวรรณหงส์ทรงภู่ห้อย             งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์    
โอดโฉมโสมโสภิน                  ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม    
นารายณ์ทรงสุบรรณ              ดังเทพสรรเสกงามสม    
ปีกป้องล่องลอยลม                  ดุจเลื่อนฟ้ามาล่องลอย    
กระบี่ศรีสง่า                          งามท่วงท่าไม่ท้อถอย    
เรือครุฑไม่หยุดคอย              ยุดนาคคล้อยลอยเมฆินทร์    
อสุรวายุภักษ์                         ศักดิ์ศรีคู่อสุรปักษิน    
พายยกเพียงนกบิน               ผินสู่ฟ้าร่าเริงบน    
เรือแซงแข่งเรือดั้ง                พร้อมสะพรั่งกลางสายชล    
เรือชัยไฉไลล้น                     ยลเรือกิ่งพริ้งเพราตา    
ยักษ์ลิงกลิ้งกลอกกาย             แลลวดลายล้วนเลขา    
รูปสัตว์หยัดกายา                   พาโผนเผ่นเป็นทิวธาร    
นาวาสถาปัตย์                        เชิงช่างชัดเชี่ยวชาญฉาน    
ท่อนไม้ไร้วิญญาณ                 ท่านเสกสร้างเหมือนอย่างเป็น    
ฝีมือลือสามโลก                      ดับทุกข์โศกคลายเคืองเข็ญ    
ยิ่งยลยิ่งเยือกเย็น                 เห็นสายศิลป์วิญญาณไทย    
เจ้าเอยเจ้าพระยา                  ถั่งธารามานานไกล    
เอิบอาบกำซาบใจ                   หล่อเลี้ยงไทยแผ่นดินทอง    
รวงทองเหลืองท้องทุ่ง              แดดทอรุ้งเหนือเขื่อนคลอง    
ข้าวปลามาเนืองนอง               เรือขึ้นล่องล้วนเริงแรง    
วัดวาทุกอาวาส                       พุทธศาสน์ธรรมทอแสง    
น้ำใจจึงไหลแรง                    ไม่เคยแล้งจากใจไทย    
เกลียดใครไม่นานวัน            แต่แรกนั้นนานกว่าใคร    
เจ้าพระยาหยาดยาใจ             คือสายใยหยาดจากทรวง    
เห่เอยเห่เรือสวรรค์               เพลงคนธรรพ์ลั่นลือสรวง    
ฝากหาวเดือนดาวดวง            อย่าลับล่วงอยู่นิรันดร์เทอญ. 
บทที่ ๒
ชมเมือง
สยามเอยอุโฆษครื้น             คุณขจร    
สุขสถิตสถาพร                      ผ่านฟ้า    
ไตรรงค์ลิ่วลมสลอน             .อวดโลก    
ตราบเมื่อนี้เมื่อหน้า             เมื่อโน้นนิรันดร์เกษม 
  
สยามเอย สยามรัฐ               งามร่มฉัตรทัดเทียมโพยม    
กิตติศัพ์ขับประโคม              โคมครืนครั่นลั่นหน้าคง    
สุโขทัยไกลสุด                      ถึงอยุธยายง    
ธนบุรีลอยฟ้าลง                    ทรงศักดิ์ฟื้นคืนคุณขจร    
รัตนโกสินทร์ศิลป์                สืบระบิลอันบวร    
แม่นแม้นแดนอมร              ถอนจากฟ้ามาเมืองดิน    
เจ้าเอย เจ้าพระยา               ถั่งธารามาเรื่อยริน    
ทวยไทยได้อาบกิน               ลินลาศลุ่มขุมกำลัง    
งามเอย งามระยับ                 แวววาววับวัดเวียงวัง    
ย่ำค่ำย่ำระฆัง                       วังเวงหวานซ่านซึ้งเสียง    
เจดีย์ศรีสูงเหยียด                เสียดยอดท้าฟ้ารายเรียง    
ปรางค์ยอดทอดเงาเคียง       เลี้ยงตาเมืองเรื้องเรืองรมย์    
พืชพันธุ์ธัญญาผล                 เลี้ยงชีพชนดลอุดม    
นาสวนชวนชื่นชม               ร่มรื่นไม้ไพรพฤกษ์มี    
รอยยิ้มพิมพ์ใจสวย              ชนรุ่มรวยด้วยไมตรี    
เสน่ห์ประเพณี                     ศรีสง่ามานิรันดร์    
น้ำใจไม่เคยจืด                    อยู่ยาวยืดยิ้มยืนยัน    
ต่างเพศต่างผิวพรรณ           แต่ใจนั้นไม่ต่างใจ    
แขกบ้านแขกเมืองมา           ไทยทั่วหน้าพาสดใส    
ท่านมาจากฟ้าไกล                อยู่เมืองไทยไร้กังวล    
เทคโนอาจน้อยหน้า             แต่ข้าวปลาไม่ขัดสน    
สินทรัพย์อาจอับจน               แต่ใจคนไม่จนใจ    
บ้านเรือนไม่หรูหรา              แต่สูงค่าปัญญาไทย    
หนทางอาจห่างไกล               แต่หัวใจใกล้ชิดกัน    
ศาสนาสถาพร                      ประชากรเกษมสันต์    
ร่มธรรมฉ่ำชีวัน                   ฟั้นฝึกใจใฝ่ความดี    
ราชันขวัญสยาม                   ปิ่นเพชรงามปักธานี    
ร่มพระบารมี                        ศรีไผทฉัตรชัยชน    
ไตรรงค์ธงชัยโชค                 ลอยอวดโลกโบกลมบน    
ขวัญฟ้าขวัญตายล                 ล้นเลิศหล้าศักดิ์ศรีสยาม    
เมื่อนี้ตราบเมื่อหน้า              คงคู่หล้ากล้าเกียรติงาม    
ใครบุกรุกเขตคาม                ตามหาญหักรักษ์แผ่นดิน    
ฟ้าเอย ฟ้าสยาม                   งามกว่าฟ้าทุกธานินทร์    
เพลงสยามทุกยามยิน           วิญญาณปลื้มดื่มด่ำเอย


และ..ทุกบทความด้านล่างนี้
ที่น้อมพลีมาเรียงวางไว้...เพียงส่วนหนึ่ง
จากหลายร้อยเรื่องที่พุดพัดชารจนานานมา...หลายปี
เพื่อน้อม*สดุดีพระองค์ท่าน..
ผู้ทรงเททุ่ม
*หยาดพระเสโทพราวราวหยาดเพชรพลี
แด่พสกนิกรแลผืนดินไท*ค่ะ
...................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem42257.html
ความฝันอันสูงสุด
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=83930
น้ำพระทัยสู่รวงข้าวราวรวงเพชร
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem71714.html
ลีลาวดีมณีรุ้ง
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=76322
ขวัญข้าวขวัญชีวิต
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem64557.html
แด่พสุธาที่ข้ารัก
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem76049.html
แผ่นดินของเรา
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=80090
แผ่นดินเดือด
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=81097
เพดานดาว
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=79708
ผ้าไทไหมทอง
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=79639
พระแม่ขวัญมิ่งเมือง
http://www.thaipoem.com/forever/poem.php?poemid=83932
ดวงตะวันธันวา
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem68585.html
ฟ้าพุทธภูมิ
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem64605.html
อัญมณีไท
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem67010.html
มงกุฏแก้วประกายพฤกษ์
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem65081.html
มุกดาเพ็ญ
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem62004.html
สไบนวลสไบนาง
http://truehits.net/let/index.php?id=29&pageNum=29
เพลงเห่เรือ
http://www.rta.mi.th/52200u/songs/honor.htm
เพลงสดุดี
.....................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6196.html
รัก ....เพลงพระราชนิพนธ์ 
รักทะเล
อันกว้าง ใหญ่ไพศาล
รักท้องฟ้า โอฬาร สีสดใส
รักท้องทุ่ง ท้องนา ดั่งดวงใจ
รักป่าเขา ลำเนาไพร แสนสุนทร
รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ
รักพฤกษา
รุกขชาติ ที่ดาษป่า
รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร
รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร
รักทั้ง รัตติกร ในนภดล
รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง
รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล
รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล
รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ... 
 

fl_19.jpgk80.jpg_01_Aug_2006_18272.jpgmom002.jpg				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    9 พฤศจิกายน 2550 16:34 น. - comment id 769994

    29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif
    
    ทรงพระเจริญ...ยิ่งยืนนาน
  • พุด

    8 พฤศจิกายน 2550 12:40 น. - comment id 784973

    29.gif16.gif2126.jpgwashington-olympic-rain-forest.jpgFCNA_Forest2.jpg
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3892.html
    
    ต้นไม้ของพ่อ 
    ธงไชย แมคอินไตย์ 
    นานมาแล้ว
    พ่อได้ปลูกต้นไม้ไว้ให้เรา
    เพื่อวันหนึ่งจะบัง ลมหนาว
    และคอยเป็นร่มเงา
    ปลูกไว้เพื่อพวกเรา ทุกๆคน
    พ่อใช้เหงื่อแทนน้ำรดลงไป
    เพื่อจะผลิดอกใบ ออกผล
    ให้เราทุกๆคน
    เติบโตอย่างร่มเย็น ในบ้านเรา
    ผ่านมาแล้วห้าสิบปี
    ต้นไม้นั้นสูงใหญ่
    ลมแรงเท่าไร ก็บรรเทา
    ออกผลให้เก็บกิน
    แตกใบเพื่อให้ร่ม เงา
    คอยดูแลเรา
    ให้เรายังมีวัน อยู่ต่อไป
    จนวันนี้
    ใต้เงาแห่งต้นไม้ ต้นใหญ่
    ลูกได้อยู่ได้คอย อาศัย
    แผ่นดินยังกว้างไกล
    แต่เหมือนว่าหัวใจ
    พ่อกว้างกว่า
    ลูกที่เกิดตรงนี้นั้นยังอยู่
    และยังอยู่เพื่อคอย รักษา
    จะรวมใจเข้ามา
    จะมีที่สัญญา ในหัวใจ
    จากวันนี้สักหมื่นปี
    ต้นไม้ที่พ่อปลูก
    ต้นสวยทั้งงดงาม และยิ่งใหญ่
    สืบสานและติดตาม
    จากรอยที่พ่อตั้งใจ
    เมื่อเราจะเทไป
    ให้ต้นไม้ ของพ่อ ยังงดงาม
    
    จากวันนี้สักหมื่นปี
    ต้นไม้ที่พ่อปลูก
    ต้นสวยทั้งงดงาม และยิ่งใหญ่
    สืบสานและติดตาม
    จากรอยที่พ่อตั้งใจ
    เมื่อเราจะเทไปจากหัวใจ
    เพื่อเราจะเทไป
    ให้ต้นไม้ ของพ่อ ยังงดงาม... 
     
    
  • บนข.

    8 พฤศจิกายน 2550 12:47 น. - comment id 784989

    ดอกบัวสวรรค์สวยงามมากครับพี่พุด
  • พุด

    8 พฤศจิกายน 2550 12:15 น. - comment id 785021

    29.gif16.gifspd_20070319131244_b.jpgfl_19.jpg
    http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=145438&NewsType=1&Template=1
    
    ในหลวง"เสด็จฯกลับ ปวงประชาปลื้มปีติ 
    
    ในหลวงทรงมีพระพักตร์สดชื่นแจ่มใส ฉลองพระองค์สูทสีชมพู เสด็จฯออกจากรพ.กลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ท่ามกลางการเข้าเฝ้าฯส่งเสด็จของพสกนิกรไทยทั้งในรพ.-ตลอดสองข้างทาง พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ-เพลงสดุดีมหาราชาดังลั่นทั่วบริเวณ เผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประทับรถเข็นพระที่นั่งลงจากตึกแล้วพระดำเนินด้วยเครื่องช่วยพยุงไปสักการะวางพวงพระมาลัยพระราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนก-ชนนี พร้อมทรงถ่ายภาพประวัติศาสตร์ที่ประชาชนมาแสดงความจงรักภักดี ขณะที่พสกนิกรต่างปลื้มปีติภาพพ่อหลวงทรงแย้มพระโอษฐ์-โบกพระหัตถ์ให้ ส่วนพระอาการพระพี่นางฯ คงที่ คณะแพทย์ยังดูพระอาการอย่างใกล้ชิด ด้านพระบรมฯ-องค์ศรีรัศมิ์ พระราชทานขนมพายให้คนที่มาเข้าเฝ้าฯ ส่วนบรรยากาศการลงนามถวายพระพร เจมส์-เอ๊ะ ควงแขนกัน ขณะที่สื่อ ตปท. เสนอข่าวในหลวงเสด็จฯกลับพระตำหนักฯไปทั่วโลก
    
    ภายหลังที่สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ฉบับที่ 26 เกี่ยวกับพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพละกำลังพระวรกายแข็งแรงขึ้น สามารถพระดำเนินได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องพยุงช่วยในระยะสั้น ๆ ทำให้ทรงสามารถเสด็จฯออกจากรพ.ศิริราช เพื่อกลับไปประทับที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน  ได้ในวันที่ 7 พ.ย. 50 นั้น สร้างความปลาบปลื้มยินดีแก่พสกนิกรชาวไทยทั่วหล้าที่เฝ้ารอข่าวมงคลนี้มาตลอดระยะเวลาร่วมเดือน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
    
    พสกนิกรจับจองที่รับเสด็จฯ
    ความคืบหน้าเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่รพ.ศิริราช บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติ และลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก มีประชาชนจำนวนมากที่พร้อมใจกันสวมเสื้อเหลือง ถือธงเหลืองและธงชาติขนาดเล็กมาโบกสบัด พร้อมกับนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาทูนไว้หนือหัว และร้องเพลงสดุดีมหาราชากันเสียงดังกึกก้อง เพื่อเตรียมเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ ส่งเสด็จฯกลับ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระอาการ ประชวรที่ดีขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่มาจัดเตรียมสถานที่เข้าเฝ้าฯอย่างเป็นระเบียบ  
    
    นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่กองพระราชพิธีจัดเตรียมพื้นที่ในการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนมัสการพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลา ธิเบศร อดุลยเดชวิกรมฯ และพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดเครื่องสักการะถวายด้วย โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาปักหลักรายงานข่าวมงคลครั้งนี้เป็นจำนวนมากตามจุดที่สำนักพระราชวังกำหนดไว้
    
    พระราชินีเสด็จฯเข้าเฝ้าฯ
    ทั้งนี้ในเวลา 10.45 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในฉลองพระองค์สีเหลืองทั้งชุด เสด็จฯยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยมีประชาชนจำนวนมากเฝ้ารอรับเสด็จฯ จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในฉลองพระองค์สีเหลืองอ่อน และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จมาถึงอาคารเช่นเดียวกัน 
    
    ส่วนคณะบุคคลสำคัญที่มาร่วมเข้าเฝ้าฯ ในครั้งนี้ด้วย อาทิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ.สิทธิ เศวตศิลา นายพลากร สุวรรณรัฐ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ นายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.
    
    ในหลวงทรงมีพระพักตร์แจ่มใส
    จากนั้นเวลา 11.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีสีพระพักตร์สดชื่น พระวรกายผ่องใส เสด็จฯลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติมายังชั้นล่าง พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์สูทสีชมพูติดเข็มกลัดพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. สีทอง ด้านซ้าย ทับฉลองพระองค์เสื้อเชิ้ตคอจีนสีชมพูอ่อนข้างใน โดยมีกล้องถ่ายรูปส่วนพระองค์วางอยู่บนพระเพลา (ตัก) มีรศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน หัวหน้าสำนักงานศูนย์รักษาหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นแพทย์ผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่งไฟฟ้า
    
    ทรงโบกพระหัตถ์-แย้มพระโอษฐ์
    ทันทีที่พสกนิกรที่รอเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออกมาจากลิฟต์ ต่างพร้อมใจกันพนมมือและเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั้งน้ำตา พร้อมทั้งร่วมร้องเพลงพ่อของแผ่นดิน เพลงสดุดีมหาราชา โดยพระองค์ได้ทรงโบกพระหัตถ์พร้อมแย้มพระโอษฐ์ให้แก่พสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ และเมื่อเสด็จฯผ่านบุคคลสำคัญที่มาเฝ้าฯรับเสด็จฯ ทรงมีพระราชดำรัสกับ พล.อ.เปรม พล.อ.สิทธิ พล.อ.สุรยุทธ์ นายอภิรักษ์ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ตามลำดับ ก่อนเสด็จฯไปยังศาลาศิริราช 100 ปี โดยระหว่างทางทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระโอษฐ์ให้กับ ประชาชน ขณะเดียวกันทรงยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปพสกนิกรที่มารอรับเสด็จฯด้วย สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ทรงบันทึกภาพประวัติศาสตร์นี้ไว้ในกล้องถ่ายภาพส่วนพระองค์
    
    เสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง 
    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯถึงศาลาศิริราช 100 ปี โดยมีคณะแพทย์และพยาบาลเฝ้ารับเสด็จฯ ได้ทรงมีพระราชดำรัสกับ ศ.คลินิก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โดย ศ.คลินิก นพ. ปิยะสกล ได้ถวายรายงานแนะนำ ศ.คลินิก นพ. ธีระวัฒน์ กุลทนันทน์ ว่าที่คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลคนใหม่ ที่จะรับตำแหน่งในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
    
    สักการะพระบรมราชชนก-สมเด็จย่า
    หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลุกจากรถเข็นพระที่นั่งและประทับยืนหันพระพักตร์ไปยังด้านหลังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อถวายพวงพระมาลัยสักการะ พร้อมทรงถ่ายรูปพระราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนกฯ และพสกนิกรที่ต่างมาเข้าเฝ้าฯโบกธงส่งเสียงทรงพระเจริญเสียงดังกึกก้อง จากนั้นพระองค์ทรงใช้เครื่องช่วยพยุงเดินหันกลับไปวางพวงพระมาลัยสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี แล้วทรงถ่ายรูปพระราชานุสาวรีย์ฯ ท่ามกลางเสียงพสกนิกรเปล่งเสียงทรงพระเจริญตลอดเวลา ในขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงจับพระหัตถ์ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ตลอดเวลาด้วย
    
    ส่งเสด็จฯเต็มสองข้างทาง
    ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เครื่องพยุงเสด็จฯออกจากอาคารศิริราช 100 ปี เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางก่อนประทับรถเข็นพระที่นั่งไปยังรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยภายหลังที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนออกจาก รพ.ศิริราชแล้ว ได้วิ่งไปตามเส้นทางเสด็จฯที่กำหนดไว้ คือ ผ่านหน้า รพ.ศิริราช ถนนอรุณอมรินทร์ เข้าทางสะพานพระราม 8 ลงถนนวิสุทธิกษัตริย์ เลี้ยวซ้าย แยก จปร. เข้าถนนราชดำเนินนอก เลี้ยวขวา ผ่านแยกวัดเบญจมบพิตร เข้าถนนพระราม 5 จนถึงพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 
    
    โดยตลอดเส้นทางเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงโบกพระหัตถ์ให้ประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯตลอดสองข้างทางเป็นจำนวนมาก ยังความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ประชาชนที่มาเข้าเฝ้าฯต่างตะโกนส่งเสียงทรงพระเจริญตลอดเส้นทางด้วย และในเวลา 12.15 น. รถยนต์พระที่นั่งได้มาถึงพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
    
    พระราชทานขนมให้คนเข้าเฝ้าฯ
    ในเวลา 15.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าฯพระราชทานขนมปังพายกรอบรูปผีเสื้อ 4,000 ชุด ให้พล.อ.ต.ธีระพงษ์ วรรณสำเริง ผู้แทนพระองค์ นำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยประชาชนที่ได้รับขนมพระราชทานต่างรู้สึกดีใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง
    
    คนต่างดีใจ-เปิดลงนามต่อ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯกลับ ประชาชนที่บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ฯ พระบรมราชชนก ต่างพร้อมใจกันตะโกนทรงพระเจริญ ร้องเพลงสดุดีมหาราชา และโบกธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ไปมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ขณะที่สำนักพระราชวังได้นำพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ มาประดิษฐานหน้าพระรูปสมเด็จย่า และเปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะพร้อมเปิดพื้นที่ให้ประชาชนลงนามถวายพระพรเช่นเคย ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ของทุกวัน โดยมีประชาชนเข้าแถวรอลงนามถวายพระพรจำนวนมาก
    
    พระพี่นางฯพระอาการคงที่
    ต่อมาเวลา 15.30 น. สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงประชวร ฉบับที่ 14 มีใจความว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่า พระอาการทั่วไปคงที่ คณะแพทย์ฯ ถวายการรักษาทางกายภาพบำบัด เพิ่มขึ้น และคงถวายพระโอสถรักษา ตลอดจนเฝ้าติดตามพระอาการ และการตรวจพระโลหิตต่อไป จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 7 พฤศจิกายน 2550
    
    ลงนามถวายในหลวงล้านกว่าชื่อ
    ทั้งนี้ตั้งแต่สำนักพระราชวังเปิดให้มีการลงนามถวายพระพรตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.-6 พ.ย. รวม 24 วัน ปรากฏว่า มียอดประชาชนที่ร่วมลงนามถวายพระพรทั้งสิ้น 1,096,563 คน 
    
    พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งขอบใจที่ตนได้เข้าเฝ้าฯและติดตามพระอาการในช่วงเย็น ส่วน ศ.คลินิก นพ.ธีระวัฒน์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งกับตนว่าเป็นนักเรียนใหม่ และทรงรับสั่งอีกนิดหน่อยแต่พระสุรเสียงเบาทำให้ตนฟังไม่ได้ยิน เข้าใจว่ารับสั่งให้ตั้งใจทำงาน
    
    เจมส์-เอ๊ะมาร่วมถวายพระพร
    ส่วนบรรยากาศบริเวณลานพระราชานุ
    ส่วนบรรยากาศบริเวณลานพระราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนก และพระรูปสมเด็จย่า มีประชาชนมาสักการะเหมือนเช่นเคย โดยมีบุคคลมีชื่อเสียงมาร่วมสักการะด้วย อาทิ เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ เอ๊ะ-ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์ ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร และนักเรียน รร.บ้านบางลาง จ.ยะลา กลุ่มสมาชิก อบต.หลักสาม จ.ปทุม ธานี เทศบาลตำบลบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้นำข้าวต้มผัดและข้าวขาหมูทอดกระเทียม แจกจ่ายประชาชนที่มารอรับเสด็จฯ
    
    7พ.ย.วันมหามงคลของไทย
    เจมส์-เรืองศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นข่าวดีของประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ แววตาของประชาชนวันนี้คือความสุขใจที่เห็นพระองค์เสด็จฯ กลับพระราชวัง อยากให้คนไทยทำความดีเพื่อให้พระองค์ท่านสบายพระทัยส่วนเอ๊ะ-ศศิกานต์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลของคนไทยทั่วประเทศ เชื่อว่าพลังของพสกนิกรชาวไทยทำให้พระพลานามัยของพระองค์ดีขึ้นและหายจากพระอาการประชวรจนเสด็จฯกลับพระราชวังได้
    
    คนทั่วทิศร่วมเข้าเฝ้าฯในหลวง
    นอกจากนี้ยังมีประชาชนทั่วไปที่มาร่วมเข้าเฝ้าฯรับเสด็จฯ และมีความรู้สึกดีใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรด้วย อาทิ นางสตางค์ เกาเต๊ะ อายุ 78 ปีชาวราชบุรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มารับเสด็จฯ ถือเป็นบุญที่ได้เห็นในหลวงเป็นครั้งแรก จะเก็บภาพความทรงจำนี้ไปจนวันตาย นางสร้อย อุปวรรณ อายุ 74 ปี ชาวกาญจนบุรี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ในหลวงทรงทอดพระเนตรมาบริเวณที่ตนนั่งอยู่ พร้อมแย้มพระสรวล ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ตื่นเต้นไปหมด ไม่คิดว่าจะมีโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ มาอยู่ที่ รพ. 11 วันแล้ว โดยในวันนี้ได้มาจองที่นั่งตั้งแต่ 1 ทุ่ม และค้างคืนที่นี่เลย ขอให้ในหลวงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยตลอดไป
    
    หลั่งน้ำตายินดีกับพ่อหลวง
    นางสุมล วงศ์ทองอยู่ อายุ 68 ปี ชาว กรุงเทพฯ กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกน้ำตาร่วงปลาบปลื้มที่ได้เห็นพระองค์หายจากพระอาการประชวรและเสด็จฯกลับวัง ในชีวิตได้เห็นพระองค์เพียงครั้งเดียวก็ดีใจแล้ว นางนิฮาวา ปอแซ อายุ 23 ปี ชาว จ.ยะลา กล่าวทั้งน้ำตาว่าเมื่อคืนนอนค้างเพื่อรอรับเสด็จฯ ช่วงที่พระองค์เสด็จฯผ่านได้ทรงทอดพระเนตรมายัง ด.ช.อับดุลเลาะห์ บุตรชายวัย 9 เดือน ซึ่งถือธงรับเสด็จฯอยู่ ตนดีใจมาก จะจดจำภาพบรรยากาศนี้ไปชั่วลูกชั่วหลาน นายบุญคบ ชารีรักษ์ อายุ 46 ปี ชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จะปั่นจักรยานกลับบ้านเกิดทันทีที่ในหลวงเสด็จฯกลับ รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นพระองค์ท่าน
    
    ปลาบปลื้มได้พบพระองค์จริง
    คุณยายพรหม เสนาวงศ์ อายุ 90 ปี   ชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเคยมานอนเฝ้าในหลวงทุกคืนเมื่อครั้งเสด็จฯเข้ารับการผ่าตัดเมื่อปี 49 กล่าวว่า ดีใจมากที่ในหลวงจะเสด็จฯกลับ พระองค์เปรียบเสมือนพระพุทธเจ้าของตน ซึ่งตนได้กราบไหว้ทุกวัน วันนี้ซึ้งใจที่ได้มาเฝ้ารับเสด็จฯอีกครั้ง ที่ผ่านมาก็ได้ทำพิธีสู่ขวัญให้กับพระองค์   ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรมาโดยตลอด คุณยายแกว รักขยัน อายุ 86 ปี เดินทางมาจาก จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ดีใจที่ในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวรและจะเสด็จฯออกจาก รพ. อยากให้ในหลวงหายจากโรคภัยไข้เจ็บ สบาย จะได้อยู่ปกครองประเทศเป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตลอดไป ที่มาเฝ้ารับเสด็จฯในวันนี้เพราะอยากเจอตัวจริงพระองค์ท่านเนื่องจากที่ผ่านมาเห็นแต่ทางทีวี
    
    นอนค้างคืนในรพ.รอเข้าเฝ้าฯ
    ด.ช.จิรายุ เจริญนาค หรือ น้องกาย  อายุ 9 ขวบ มาพร้อมกับนางกริณา มารดา ชาวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ โดยน้องกายบอกว่า รักในหลวงมาก อยากเห็นตัวจริงของพระองค์ท่าน ดีใจที่พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร นางกริณา กล่าวว่า น้องกายหัวใจรั่ว พามาหาหมอตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. พอทราบข่าวในช่วงเย็นว่าท่านจะเสด็จฯกลับตนกับลูกจึงได้นอนค้างคืนที่บริเวณเต็นท์หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ และมาจองที่นั่งตั้งแต่ 07.00 น.เพื่อชื่นชมพระบารมี
    
    นางจินตนา จิตสุนทรสวัสดิ์ อายุ 61 ปี  ชาวกรุงเทพฯ กล่าวว่า มานอนเฝ้าพระอาการของในหลวงทุกวัน ดีใจมากที่พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร และสามารถพระดำเนินได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องพยุง อย่างไรก็ตามหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯกลับแล้วก็จะมาเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯต่อไป
    
    สื่อนอกตีข่าวเผยแพร่ทั่วโลก
    ด้านสำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี เอเอฟ พี และ รอยเตอร์ รายงานข่าวและภาพข่าว เผยแพร่ไปทั่วโลกในวันเดียวกันนี้ว่า สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออกจาก รพ.ศิริราช แล้วเมื่อวันพุธ (7 พ.ย.) ที่ผ่านมา ท่ามกลางความปลาบปลื้มปีติของเหล่าพสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จฯตลอดสองข้างทางเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประทับที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราช วังดุสิต พร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" หลังจากทราบข่าวมหามงคลทรงมีพระวรกายแข็งแรงขึ้นแล้ว.
  • ดอกบัว

    8 พฤศจิกายน 2550 14:06 น. - comment id 785064

    สวัสดีค่ะ พี่พุด
    เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พ.ย บัวได้ไปทอดกฐิน
    ที่วัดพุทธราวาส กับ วัดบวร
    วันนั้นในความรู้สึกของบัวขณะที่บัว
    ถือผ้ากฐินเดินรอบโบสถ์บัวอธิษฐาน
    ขอให้พ่อหลวงหายจากอาการประชวรเร็วๆ
    สิ่งเดียวที่บัวขอ และเมื่อวานบัวดูถ่ายทอด
    จากทีวี บัวร้องให้ด้วยความปลื้มปิติ
    ที่เบื้องบนประทานสิ่งที่อธิษฐานขอไป
    
    พ่อหลวงได้หายและกลับวังได้แล้ว
    เป็นสิ่งที่ดวงใจคนไทยทั้งชาติรวมหนึ่งเดียวกันค่ะ
    ที่วัดบวรบัวรับเสด็จ
    และ ได้เข้ากราบสมเด็จพระสังฆราช
    ใจบัวก็ขอให้พ่อหลวงหายประชวรเช่นกันค่ะ
    
    บัวคิดถึงพี่พุดเสมอค่ะ
    46.gif36.gif
  • ผู้หญิงไร้เงา

    8 พฤศจิกายน 2550 21:04 น. - comment id 785353

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    
    (รูปสวยมากเลยค่ะพี่พุด  สวยทุกรูปเลย)

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน