ประดุจดั่ง..ประทีปรัตน์...ฉัตรเพชรแห่งแผ่นดิน...!

พุด

king2502.jpgking2478.jpg038_01.jpg2911254513214.jpg038_02.jpgid_14411_1.gifpicture%5C147254920472.jpg
วันนี้..
ใบบัว..มีความสุขที่สุด
เป็นวันมหามงคลแห่งความปลื้มปิติ
ของทุกดวงใจไทยทั้งหล้า
วันที่ใบบัวทราบซึ้งดีว่า
ใจคนไทยทุกดวงได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่องค์พระพ่อหลวง..
แห่งปวงชนชาวสยาม...
ที่โลกคงเฝ้าติดตามดูด้วยความมหัศจรรย์ใจ
พระองค์..คือหนึ่งในดวงใจไทยทั้งชาติ
พระองค์คือความสะอาดสว่างสงบ
พระองค์คือพลังอันงามงดยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน
พระองค์คือปิ่นเพชรฉัตรแก้วกางกั้นเกศ
พระองค์ทรงเสียสละด้วยมหาเมตตาบารมี
ให้ไทยพ้นทุกข์เทวษ
มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษแล้ว
และ..
พระองค์คือพระมิ่งขวัญร่มแก้ว 
ที่เราทุกคนเทิดไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม
และ..
ให้เราได้สอนจิตตน
ให้รู้ซึ้งถึงสัจจธรรมแห่งค่าคน
ค่าแห่งลมหายใจนี้ที่ได้เกิดมา
ให้รู้ใฝ่เพียรทำความดี 
ดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท
เพื่อถวายเป็นราชพลีกตเวทิตาแด่พระองค์ท่าน
และ..
แด่แผ่นดินทองแผ่นดินธรรม
แห่งผองเราอย่างเนานาน
อันคือความฝันอันสูงสุด 
ในชีวิตหนึ่งที่ได้เกิดมา
ใต้ร่มฟ้าร่มฉัตร..
อันรัตนเรืองรองของแผ่นดินรัตนโกสินทร์นี้
ใบบัว...มีโอกาสมงคลสิริ
ได้ไปนั่งสมาธิ สวดมนต์ถวายพระพรที่วัดสุทัศน์
หน้าเบื้องพระพักตร์พระศากยมุนีสีทองสุกปลั่ง
ที่งามมลังเมลืองใจเกินจะกล่าว
และ..
มากเรื่องราว แห่งวันเฉลิมขวัญ ฉลองรัฐ
ที่ใบบัวได้ทำและประสบทุกสิ่ง
ด้วยดวงใจนิ่งงาม
ใบบัว...
ได้แต่บอกกับดวงใจตัวเองซ้ำๆ
และกับผู้ที่เคียงข้างชิดใกล้
ให้อธิษฐานจิตไว้...
ว่า
หากเราจำต้องเวียนวนเกิดมาใช้กรรมอีกกี่ภพชาติ
ขอให้เพียรสร้างทาน ศีล สมาธิ ภาวนา 
ให้ได้มีบุญวาสนา 
ได้เกิดมาในแผ่นดินพุทธภูมิ
ได้พบพระพุทธศาสนา 
ได้เกิดมาใต้ร่มฉัตรเพชร
แห่งพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม
ได้เกิดมาพบองค์พระอรหันต์แห่งแผ่นดิน
ได้มีใจดวงสัมมาทิฏฐิ คิดดี พูดดี ทำดี
รู้พลีให้..อย่างมีเมตตา อย่างสมค่าคำว่ามนุษย์
ผู้มีใจดวงพิสุทธิ์งามผ่องแผ้วด้วยเทอญ..!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6195.html
อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์
ลมหนาว
ยาม ลมหนาว
พัดโบกโบย โชยชื่น
เหล่า สกุณฯ ร้องรื่นรมย์
หมู่ ดอกไม้ ชวนภมร ร่อนชม
ช่าง สุขสม เพลินตาน่าดูชูใจ
โอ รักเจ้าเอย
ยามรัก สมดังฤทัย
พิศ ดูสิ่งใด
ก็แลวิไล แจ่มใสพลัน
อัน ความรัก
มักจะพา ใจฝัน
เมื่อรักนั้น สุขสม จิตปอง
ยาม ลมหนาว
พัดโบกโบย โชยชื่น
เหล่า สกุณฯ ร้องรื่นรมย์
หมู่ ดอกไม้ ชวนภมร ร่อนชม
ช่าง สุขสม เพลินตาน่าดูชูใจ
โอ รักเจ้าเอย
ยามรัก สมดังฤทัย
พิศ ดูสิ่งใด
ก็แลวิไล แจ่มใสพลัน
อัน ความรัก
มักจะพา ใจฝัน
เมื่อรักนั้น สุขสม จิตปอง... 
.............................
 
  
rice%20farm.jpgบุญข้าว..ประดับดิน..!

ขอเทิดพระเกียรติ 
ด้วยบทรจนาในนามปากกาสาวบ้านนา 
ด้วยรักแผ่นดินทองแผ่นดินไทของเราค่ะ

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song330.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song81.html
(ค่ำแล้วในฤดูหนาว..หนาวลมที่เรณู)
............


วูบแรก..ของไหวพรายแห่งสายลมหนาว 
กำลัง...พัดพร่างพาให้ สายหมอกกระจ่าง
และ..
มวลเมฆแสนงามค่อยๆพล้อยสายพรายพลิ้วปลิว
ฟ่องท่องทาบฟ้า
จน..ราวกับทาบทาด้วยอิ่มสีเทาทอง
พลางส่องล่องไล้ลูบจูบแผ่วผิวน้ำ
จนมองเห็นระยิบริ้วพลิ้วไหวดั่งแสงเพชรเกล็ดแก้วแวววะวับ
จับสายน้ำรักนิรันดร์งามดั่งภาพฝันในยามเหมันตฤดู


ที่คือ..
ฤดูกาลแรกแย้มแห่งปลายฝนต้นหนาว
อันแสนเหน็บหนาวหนาวเหน็บในดวงใจ
หาก..
ไม่ยอมรับความแปรไปในวัฎฎกาล
แห่งธรรม ..ธรรมชาติอันวนหวานเวียนย้อน
กลับมาสอนสัจจะใจ ราวกับฤดีใจฤดูกาล
ที่..
ทุกสิ่งทุกอย่าง มักจะแค่ผันผ่านมาผ่านไป 
ไม่คงที่คงทน...
ราวกับ...
กมลแห่งมวลมนุษย์นี้ที่มากมีมากมาย
ที่จำต้องพบดีร้ายมากรายกล้ำ..
ให้รู้ปล่อยวางร้างไร้
อย่างเข้าใจ 
ให้..
ฝึกฝนเพียรพาจิตใสให้บานไสวราวบัวพ้นน้ำ


และ
กับยามนี้..ที่
สาวนา..คนดีกับอ้ายยอดดวงใจ
กำลังเดินคลอเคลียเคียงคู่กันริมชายชล
ริมบึงบัวกับฟ้าเริ่มสลัวโพล้เพล้สีไพลในยามค่ำ


กับ..
สายลมหนาว
ที่พราวพัดระร่ำระรินระรินมาพร่างพรมพราย
มาร่ายมนต์ให้หนาวกายหากมิหนาวใจ 
ด้วยได้ไออุ่นโอบเอื้อจากอ้อมกอดอันอวลรักจนได้ไอร้อน


อ้าย..หันมาแย้มยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน
ให้สาวนา
และ...
กระชับไหล่แข็งแรง
ให้เอนอิงพิงพักราวกับจะพิทักษ์ลมหนาว
ที่..
กำลังกรีดกรายมากรายกล้ำ..
มิให้ช้ำชอกหยอกเนื้อนวลเนื้อนาง..
ให้ระคางระเคืองผิวผ่องยองใยดั่งน้ำผึ้งไพรน้ำผึ้งรวง


เสียงบทเพลง...แห่งคิมหันตฤดู...กำลังครางครวญ
หวนไห้...ลอยแว่วแผ่วมา..ในมโนนึก
ให้..
ย้อนรอยถอยหลังรำลึก 
คิดถึงอดีตอันแสนงามในกาลโบราณ


บทเพลง...ที่หนุ่มสาว 
จะพากันรอวันเวลาแห่งสายลมที่มาพรมพร่าง
ให้..
ทุกคนเฝ้ารอ งานฤดูหนาว
ที่จะให้สนุกสนานเตรียมต้อนรับปีใหม่
อันคือ...
สัญญลักษณ์แห่งวัยวันให้ได้เริ่มต้นชีวิต
หากคิดผิดทำพลาด อย่างผู้ฉลาดหวัง
............


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song330.html
ค่ำแล้วในฤดูหนาว 
พอย่างเข้าเขตหน้าหนาว
ลมหนาวก็โชยพัดกระหน่ำ
สายลมเอื่อยมาในเวลาค่ำ ฮึม
ฉ่ำชื่นกว่าทุกวัน
น้าค้างพร่างพรมลมเย็นรำเพย
หนาวโอ้อกเอ๋ยหนาวจนสั่น
เสียงเรไรร้องก้องสนั่น ฮึม
ทำให้ฉันเป็นสุขใจ
เสียงเพลงค่ำแล้ว ค่ำแล้ว ค่ำแล้ว
ดังแว่วมาแต่ไกล
นี่ใครหนอใคร ฮึม
ช่างประดิษฐ์คิดเพลงค่ำๆ
หนาวลมยิ่งทำให้ใจคนึง
คิดถึงแต่รักที่หวานฉ่ำ
หารักอื่นใดไหนจะหวานล้ำ ฮึม
ฉ่ำเท่ารักเราไม่มี
สวนลุมพินีถิ่นที่เคยไป
เขาดินถิ่นไกลก่อนนี้เคยชื่น
เดี๋ยวนี้ผ่านไปเห็นแล้วขมขื่น ฮึม
ไม่ชวนชื่นเหมือนก่อนนั้น
นภาสะอาดดูงามสดใส
ฉันรักจับใจสะอาดนั่น
หนาวลมเยือกเย็นนั้นทำให้สั่น ฮึม
จิตใจฉันเลื่อนลอยไป
เสียงเพลงค่ำแล้ว ค่ำแล้ว ค่ำแล้ว
ดังแว่วมาแต่ไกล นี่ใครหนอใคร ฮึม
ช่างประดิษฐ์คิดเพลงค่ำๆ
คิดถึงร่วมทางเคยเที่ยวด้วยกัน
ทุกคืนก่อนนั้นหนาวชื่นฉ่ำ
ทุกทีที่ไปฝังใจจดจำ ฮึม
ไม่ลืมคำที่ฝากกัน...
...............


สำหรับ..สาวนา
เมื่อย่างเข้าเขตหน้าหนาว
ที่ลมหนาวพัดกระหน่ำ
ระร่ำริน...ให้ดวงใจแสนรักแสนถวิลหวัง
ตั้งใจจะไปอยุธยา..เมืองเก่าขอเงราแต่ก่อน


เพื่อไปสัมผัส
ประเพณีทำขวัญข้าว 
พิธีสำคัญของชาวนา 
ประเพณีพื้นบ้าน
ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนไทย 
อันผูกพันกับสายน้ำมาเนิ่นนาน


โดยในฤดูฝนเมื่อเสร็จ สิ้นการดำนา 
นับจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป จนถึงราว เดือนพฤศจิกายน
ที่น้ำหลากเต็มตลิ่ง 
ที่ชาวบ้านร้านถิ่นริมชายชลจะจัด งานแข่งเรือกันขึ้น
เพื่อความสนุกสนานและการ สมัครสมานสามัคคีกัน


และ..
ทำพิธี ที่ยาม เมื่อต้นข้าว
แตกกองอกงาม..
จะทำพิธี " ขวัญข้าว " เพื่อเป็นการขอบคุณ
และ...
เอาใจแม่โพสพที่ให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนนา 
ที่พอถึง...
เดือนอ้ายชาวนาจะลงแขกเกี่ยวข้าว
 แล้ว...เอาข้าวเข้าลาน 
ก็จะทำพิธี " รับขวัญเข้าลาน " 
เชิญพระแม่โพสพกลับเข้าเรือน 
จากนั้นก่อนนวดข้าวจะทำพิธี " ขวัญลาน " ให้เป็น
สิริมงคล ซึ่งก็คล้ายกับรับขวัญเข้าลานนั่นเอง...


ประเพณีทำขวัญข้าว 
เมื่อข้าวเริ่มตั้งท้อง 
ชาวนาจะเอาไม้ไผ่มาสานชะลอมแล้วนำ
ครื่องแต่งตัวของหญิง ...
เช่นแป้ง น้ำมันใส่ผม น้ำอบไทย หวี กระจก
ใส่ในชะลอมพร้อมด้วยขนมหวาน ๒ - ๓ อย่าง 
ส้มเขียวหวาน ส้มโอแกะกลีบ 


ปักเสาไม้ไผ่แล้วเอาชะลอมแขวนไว้ในนา 
เพื่อให้แม่พระโพสพแต่งตัวและเสวยสิ่งของนั้น 
จะได้ออกรวงได้ผลดี..
 
ทำพิธีลงยันต์เสกเป่า 
แล้วเอาตอกไม้ไผ่มาขัดไขว้เป็นรูปยันต์ ๕ มุม 
ปักไว้ที่ปากหม้อ เขาเรียกว่า "เฉลว


ลักษณะเฉลวแบบหนึ่ง
ที่ใช้ไม้ไผ่สาน
จักเป็นตอกเส้นบางๆ
สานตาเหลี่ยม..หรือตาชะลอมมัดไว้กับไม้ไผ่
ปักให้แน่นในแปลงดำนา...
 หมายถึงการปัดรังควานสิ่งชั่วร้าย
ที่...จะทำให้ข้าวไม่งอกงาม 
รวมทั้งเป็นเครื่องหมายที่ทำให้เจ้าของนาเป็นศิริมงคล
ในการประกอบอาชีพเก่ากาล ..
สืบสานตำนานนาต่อไปอย่างไม่รู้สิ้นรู้จบ.........


และ..
หวังดวงใจสาวนา
ก็คงถูกรับขวัญ...
ให้..
พบพลังอิ่มหวานในลานใจเฉกเช่นกัน
ในทุกยามย่ำแห่งเหมันตฤดู


สาวนา..
ผู้เกิดมาคู่กับวัวควาย...
รักวิถีไร่นาวิถี*บุญข้าวประดับดิน*
ผู้มิยอมทิ้งถิ่น..ลืมทุ่งทอง ลืมรวงหอมข้าวใหม่
ที่...ยังมีดวงใจใสงาม 
จึง..เพียงเพียรหวังไปต่อตามเติมใจ
ให้ยิ่งไสวงามเกิดก่อพอกันกับกอรวงเรียว


ที่..
ยังมีหวังรอคมเคียวพลีเกี่ยวเก็บ
ทุกเมล็ดข้าวพราวหอมงามจากผืนดินถิ่นแหลมทอง
ที่คงกลับมาหล่อเลี้ยงท้องผองพี่น้องคนไทย 
ให้...
ยังไม่สิ้นเรี่ยวแรงด้วยแรงรักในรวงเรียวเรียวรวง
มิหวงหยาดเหงื่อ..ที่ยอมพลีมิรู้สิ้น
แม้นใคร...จะหยามหมิ่น ว่าแสนเหม็นสิ้นงาม
ก็ตามทีตามใจ
ด้วยแรงใจแรงรักมิมีวันจักให้รอยใจรอยไถจักแปร..


และ..
เพียรมิท้อแท้
ที่จะพยายาม...*รักษาพันธุ์ควายเจ้าเพื่อนยาก..*
ให้ฝากอุดม...ช่วยกันหว่านพรมผืนนาให้แปรสี
ดั่งมี..
พรมแพรทองแห่งท้องนามาผลิกล้า
บานประดับหล้าประดับดินประทังท้องประทังหิว
ให้ทุกกายชาวไทยมีกิน..มิอดตาย 


มิหมายทะเยอทะยาน 
มิหวังรานยาก...ไปฝากผีไข้ในราวเมืองเรืองรุ่ง 
ให้ยิ่งยุ่งยากยิ่งนัก 
หาก..
มิพบกับความสงบงาม
มิสมถะมิมีธรรมชาติ
ที่แสนสะอาดบริสุทธิ์ใส


ที่จะค่อยๆหลอมละลาย..ซึมดวงใจให้พบเงียบงาม
ในทุกยามทอดสายตา 
ไม่ว่า..
จะบึงเหว่ว้าที่เห็นผักบุ้งทอดยอดเลื้อยช่อชูชัน
ฤาเห็น..
ปลาตะเพียนในยามสายวสันต์กระโดดผึง
เพื่อรอกินข้าวที่พึ่งร่วงพรูกรูลงน้ำนา
ยามข้าวกล้าสุกหลงเหลือจากเรียวจากเคียวคม..เกี่ยว..


สาวนา..พร้อมดวงใจมิเปลี่ยวเหงา
หากงามเงียบในยามนี้...
ยามที่...ยังมีอ้าย
มาชิดใกล้เคียงกาย..ทรุดร่างไร้ลงรึมบึงบัว
กับฟ้าสีชมพูเจือส้ม
กลืนด้วยสีเทาทึม
ที่..
กำลังคลี่ทอดทาบเงาสลัวๆลงมาโอบไล้ร่าง
ให้ยิ่งงามอย่างนางไม้ในแสงละมุน..ละมุน


สาวนา....เอนกายสยายผม..หอมกรุ่นพิงไหล่อ้าย
รับสายลมหนาว...ริมชายนาใต้ตาลเดี่ยว..
ปล่อย..
ให้เจ้าสายน้ำ*ควายเดียวในดวงใจ*
ได้เลาะเลียบเล็มหญ้า 
นอนเคี้ยวเอื้องอยู่ใกล้ๆ อย่างแสนสุขใจ..


อ้ายคนดีค่อยๆไหวร่างแข็งแรงกำยำ
เอื้อมมือออกไปเด็ดบัวบูชา
ที่...
ผลิดอกงามแย้มแต้มตระการไปทั่วทั้งบึงฝัน
แล้วนำมามัดรวบใส่ไว้ในใบบัว
เขียวสดไสว 
แล้ว..
รัดร้อยด้วยสร้อยสายบัว
มากำนัลให้ในอุ้งมือสาวนา
พร้อม..กับรอเวลาให้เราสองไปวางพลีถวาย
เป็นพุทธบูชาสัการะหน้าพระพักตร์พุทธ
ในค่ำคืนนี้ ..ในราตรีนี้


ที่มีจันทร์เสี้ยวเกรียวทองดั่งเรือธรรมเรือทอง
คอยท่าพา..ลัดเลี้ยวลอยล่องท่องทิพยรุ้ง
พุ่งไป..
สู่แดนดินแห่งฝันว่างกระจ่างงาม
ให้เพียรพาร่างท่ามเดือนครึ่งดวง
มิห่วงหาใคร 


มี..เพียงจิตไสวเป็นหนึ่งเดียว
ผสานเสี้ยวสมาธิกับความสงบงามเงียบ
เปรียบประดุจดั่งปัญญาพิสุทธิ์ใส
ที่จะนำพาพายใจพาจิต
สู่แดนนิรมิตใต้ร่มพระรัตนตรัย
ที่มีบึงใจบึ้งใจเราเพียงนั้น
รอรับเรือธรรม ยามพบฝั่งแห่งความฝัน
ที่จะกลายกลับเป็นจริง..


 เมื่อเรากล้าพอ..
ที่จะสละทิ้งทุกสรรพสิ่งจากเรือใจ
อย่างไม่ไยดี...และยึดมั่นถือมั่นไว้นาน 
มิ..ให้เรือพานพาล่ม จมใต้น้ำ 
ก่อนการได้ขึ้นถึงฝั่ง
อันคือเกษมสานต์..
ตราบชั่วกาลกัลปาวสานต์
ตราบชั่วนิจนิรันดร...มิย้อนวน
มาปนเปื้อนกับกิเลสโลกย์โศกสุขทุกข์รัก
ที่..
หนักดั่งศิลาอีกแต่ไป..ในภพภูมิกรรม


สาวนาหลับตาราวบริกรรมคาถา
ภาวนาสมาธิ
และ..
ในคลองจิตที่คิดดีแสนเงียบงาม
กลับราวได้ย้อนรำลึกนึกจินตนาไปถึง
ภาพจาก..
*พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน *
ที่..
สาวนาเคยหลั่งน้ำตาปิติเกษมยามได้พลีอ่าน
ผ่านดวงตาและดวงใจแสนใสงาม..


และ...
กับในยามนี้ราวกับ
ในจิตดวงอัญมณี..ได้พลีพบภาพในทิพยนิรมิต
อันมีเพียงจิตไสวเลื่อมประภัสสรเพียงนั้น 
จึงจะจับได้....


คล้ายดั่ง....
มีมุกมณี..
ที่พร่างพราวฉายฉันท์ดั่งฉัพพรรณรังสี
ที่กำลังโชติช่วงแตกช่อ..
ดั่ง...กอเพชรพราวพร่างไสวในรวงใจของสาวนา
ราวกับ...ภาพตรงหน้าได้พบประสบเอง..เช่นฉะนั้น...!!!
....................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song81.html
หนาวลมที่เรณู ..โอภาส ทศพร 
เรณูนคร ถิ่นนี้ช่างมีมนต์ขลัง
ได้พบนวลนาง ดั่งเหมือนต้องมนต์แน่นิ่ง
น้องนุ่งซิ่นไหม ไว้ผมมวยสวยเพริด พริ้ง
พี่รักเจ้าแล้วแท้จริง 
สาวเวียงพิงค์แห่งแดนอิสาน
เราเคยสัมพันธ์ 
พรอดรักเมื่อคราวหน้าหนาว
คืนฟ้าสกาว เหน็บหนาวน้ำค้างหรือนั่น
เพราะได้เคียงน้อง
ถึงต้องหนาวตายไม่หวาดหวั่น
รุ่งรางต้องร้างไกลกัน
สุดหวั่นไหว ก่อนลา
ผ้าผวยร้อยผืน ไม่ชื่นเหมือนน้องอยู่ใกล้
ดูดอุร้อยไห ไม่คลายหนาวได้หรอกหนา
ห่างน้อง พี่ต้องหนาวหนักอุรา
คอยนับวันเวลา จะกลับมาอบไอรักเก่า
เย็นลมเหมันต์ ผ่านพ้นยิ่งพาสะท้อน
โธ่น้องบังอร ก่อนนั้นเคยคลอเคียงเจ้า
ครั้งเที่ยวชมงานพระธาตุพนม
ยามหน้าหนาว พี่ยังไม่ลืมนงเยาว์
โอ้แม่สาว เรณู...

a017.jpg				
comments powered by Disqus
  • โคลอน

    6 ธันวาคม 2550 13:22 น. - comment id 797235

    เห็นพระบรมฉายาลักษณ์แล้วยิ้มออกมาเลยค่ะ
    
    ประทับใจจัง
    
    29.gif29.gif29.gif
  • พุด

    6 ธันวาคม 2550 14:22 น. - comment id 797267

    36.gif16.giffl011.jpg
    น้องโคลอนคะ
    
    พี่พุด..ดีใจซึ้งใจค่ะ
    ที่มีน้องเข้ามาอ่านงานพี่พุด
    ที่วนเวียน เขียนไปมาจะห้าปีแล้ว
    มีแต่เรื่องรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    
    คนดี...น้องรัก
    จิตพี่พุด
    ยังเกษมเอมอิ่มพริ้มพรายอยู่เลยค่ะ
    เพราะ..
    สองวันมานี้
    พี่พุดแสนโชคดีราวมีบุญ
    ได้เห็นได้ดูได้รับรู้
    แต่สิ่งอันตรึงตรา ตรึงตา 
    
    สำหรับพี่พุด
    ทุกสิ่งเป็นยิ่งกว่า
    มหามิ่งมงคลแห่งชีวิตนิดนึงน้อยนี้
    ที่..
    ทรงพระเมตตา
    ให้ผองชนคนไทยทุกชั้นวรรณะ
    ได้เข้าเฝ้านะคะ
    
    พี่พุด..ได้กรานกราบอธิษฐานจิต
    ตอนรถพระที่นั่งผ่านถนนราชดำเนินค่ะ
    วันเดียวสองครั้งค่ะ
    และ..
    ได้สวดมนต์ถวายพระพรชัย
     พลีแด่พระองค์ท่านค่ะ
    
    พี่พุด..เดินนับเป็นสิบกิโลได้มังคะ
    เพราะ..
    เมื่อคืนตั้งจิตตั้งใจไปจุดเทียน
    ถวายพระพร ที่ท้องสนามหลวง
    ที่ทำให้ได้เห็น
    ปวงชนนับหลายหมื่นคนค่ะ
    ล้นหลามไปหมด 
    และ..
    ทุกดวงใจใสงาม
    มีเพียงกุศลจิต 
    ได้หลอมรวมใจรวมชีวิตแสดง
    พลังแห่งความจงรักภักดีค่ะ 
    และ...
    สิ่งเหล่านี้ 
    คือความจริงในโลกใบนี้
    ที่หามีไม่แล้ว..
    ยิ่งกว่าปาฏิหารย์รัก
    อันแสนยิ่งใหญ่
    และ
    คงมีพระองค์ท่าน
    เพียงหนึ่งเดียวในโลก
    ที่...
    ทำให้เราคนไทยทุกคน
    ต้องสำนึกรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
    อันสูงสุดใส่เกล้าใส่กระหม่อม
    ไว้ว่า...
    เรามีบุญหนักหนาแล้ว
    ที่ได้เกิดมาในร่มรัตนตรัย
    ใต้ร่มฉัตรเพชรอันพร่างไสว
    โอบเอื้อเมตตา
    ไปทั่วทั้งพสุธาไทพสุธาทอง
    ได้เกิดมาในร่มเรืองรอง
    ของ..
    แผ่นดินรัตนโกสินทร์อันแสนจำรัสจำรูญ
    
    ได้...เกิดมา
    มีดวงตาสวยใสดวงใจแสนงาม
    รู้ค่าแห่ง
    ความรักชาติรักศาสนา
    รักพระมหากษัตริย์
    รักความอิสรา 
    รักธรรมะ ธรรมชาติ
    
    ที่ทุกสรรพสิ่งที่แสนงดงามเหล่านี้
    ทำให้..
    ใจเราสงบสว่างสอาด 
    อย่างพิไลพิลาสที่สุดแล้วค่ะ..!
    
    ด้วยรักและขอบคุณค่ะ
    จากใจ
    พี่พุด
    
    
    36.gif
  • โคลอน

    6 ธันวาคม 2550 14:56 น. - comment id 797285

    29.gif29.gif29.gif
    
    โคลอน เคยไปลงนามถวายพระพรท่านที่ ศิริราช...และ เฝ้ามองพระองค์ท่านจากสนามหญ้าสายตาจดจ่ออยู่ที่ชั้น 16 อธิษฐานให้พระองคืท่านให้หายจากพระอาการประชวร..บรรยากาศที่โรงพยาบาลมีประชาชนเนืองแน่นเต็มไปหมดเลยค่ะ....เห็นแล้วซาบซึ้งมากๆเลยค่ะ เห็นชาวต่างชาติหลายคนใส่เสื้อเหลืองสวมสายรัดข้อมือมาร่วมลงนามแล้วชื่นใจค่ะ....วันที่ท่านเสด็จออกจากโรงพยาบาลร้องไห้ออกมาไม่รู้ตัวเลย10.gif
    
    
    ขอเกิดเป็นประชาชนของพระองค์ทุกๆชาติไปค่ะ
    
    29.gif29.gif29.gif
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    6 ธันวาคม 2550 14:57 น. - comment id 797287

    พระราชดำรัสซึ้งใจพสกนิกร พวกที่จะซื้อรถถัง เรือดำน้ำ เครื่องบิน สำนึกบ้างหรือเปล่า ลองฟังทบทวนสักหลาย ๆ ครั้ง กระโหลกเขายังจะหนาหรือเปล่า
  • ต้นกล้า อันดามัน

    6 ธันวาคม 2550 17:28 น. - comment id 797377

    มาทักทายครับ พี่คงสบายดีนะครับ
  • ยาแก้ปวด

    6 ธันวาคม 2550 18:57 น. - comment id 797418

    29.gif29.gif29.gif
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
  • แสงเหนือ

    6 ธันวาคม 2550 18:58 น. - comment id 797421

    มาร่วมชื่นชมพระบารมีครับ
    
    16.gif
  • พุด

    6 ธันวาคม 2550 19:19 น. - comment id 797433

    yellow-lotus.jpg
    คุณฤกษ์ ที่รักยิ่ง36.gif
    น้องโคลอน อีกครั้ง36.gif
    น้องต้นกล้า อันดามัน ที่ฝันถึงเสมอมา36.gif
    น้องยาแก้ปวด 
    นามปากกาที่พาให้สิ้นปวดร้าวใจดีจังค่ะ36.gif
    
    พี่พุด 
    มีโอกาสเข้าไปถวายพระพรชัยมงคล
    ในวังสวนจิตรลดาค่ะ 
    ด้วยหยาดน้ำตา
    แห่งความปลาบปลื้มปิติเกษม 
    ณ ภายในใจดวงเล็กๆดวงนี้ที่
    ดั่งธุลีหล้าข้าพระบาทค่ะ
    
    และ...
    ตอนที่รถเพื่อนพี่พุดถอยออกมาจากในวัง
    บังเอิญไปจมโคลนเล็กๆริมรั้ว
    มีดินติดล้อรถมาค่ะ
    พี่พุดวอนขอให้เขาช่วยเก็บมา
    พี่พุดจะนำมาห่อผ้าเช็ดหน้า
    เพื่อ
    นำเอาไปให้ดวงใจพี่พุด
    ที่ต้องเหิรบินทั่วโลกค่ะ นำติดตัวไป
    เพื่อให้รำลึกนึกถึงกตเวทิตาคุณ
    ต่อแผ่นดินแม่
    และ...
    ตั้งใจจะนำไปบูชารวมหลอมไว้ที่
    วิมานวนา
    วิมานวารี
    วิมานลอย 
    ที่ดินของพี่พุดที่เกาะพะงัน
    และ..
    ที่วิมานดาวราย
    วิมานโมก
    วิมานมนตราทวารวดีแดนดาว
    ที่แก่งกระจานค่ะ
    
    เพื่อเป็นมิ่งมงคล...
    นี่คือความจงรักภักดี 
    ที่พี่พุดตั้งจิตอธิษฐานเสมอมา 
    ว่า...
    ขอมีลมหายใจที่แจ่มใสแข็งแรง
    เพื่อทำคุณประโยชน์ให้กับ
    *แผ่นดินของเรา*
    ตราบลมหายใจยังมีค่ะ
    
    พี่พุด..
    กระซิบบอกน้องๆ
    ที่ร่วมรับเสด็จว่า
    หากจะอธิษฐานจิต 
    ก่อนอื่นต้องขอมีลมหายใจชีวิต
    เพื่อยังประโยชน์ 
    แสดงกตเวทิตาคุณต่อแผ่นดินทอง
    ผืนดินไทยของเราก่อนอื่นค่ะ
    และ...
    ด้วยดวงใจที่งดงาม 
    เหนือรักใดในหล้าโลกคือ
    ต้อง..
    รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเราค่ะ
    และ..
    ยังมากมายเรื่องราว
    ที่พี่พุดจะรจนาพลีฝากนะคะ
    ไม่ว่าภาพ
    ที่พี่พุดยืนดูพลุไฟพร่างพราว
    ราวเพชรมณีรุ้งที่ตึกสูงของโรงแรมปริ๊นเซทส์
    หรือ..
    ที่ท้องสนามหลวง
    ที่มีการบันทึกภาพมาฝากค่ะ
    รอติดตามอ่านนะคะ
    
    ด้วยซึ้งใจทุกคนดี 
    ที่ยังมาอ่านงานพี่พุด
    และ
    ในนามปากกาสาวบ้านนานะคะ
    
    ด้วยรักขอบพระคุณยิ่งค่ะ
    
    36.gif
  • ดอกบัว

    6 ธันวาคม 2550 21:03 น. - comment id 797477

    พี่พุดค่ะทุกครั้งที่บัวได้เห็นพระองค์ท่าน
    น้ำตาแห่งความปลื้มปีติรินหลั่งทุกครั้ง
    หลายครั้งที่บัวต้องเป็นแบบนี้
    พี่พุดไม่มีอีกแล้วค่ะประเทศไหนๆ
    ที่ศิริราชบัวหัวใจบัวเจ็บแทนพระองค์ค่ะพี่พุด
    57.gif46.gif36.gif
  • แมวสีขาว

    28 สิงหาคม 2551 00:42 น. - comment id 890369

    พระองค์ท่านทรงมีพระอัจฉิริยะภาพในหลายๆเรื่อง ฑีโฆยุโก โหตู มหาราชา11.gif12.gif12.gif12.gif12.gif11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน