สงกรานต์บ้านนา..กับฟ้าแรม..!

สาวบ้านนา

nk2006-3.jpgff2.jpgcp021qh3.jpg1170529382.jpg
เดือนเสี้ยวลอยคว้างกลางฟ้า
ลีลาวดีปลิดกลีบระรินร่ำ
ดาวพรายดงกระถินร่ายรำ
สาวนามองฟ้าฝันแล้วถอนใจ
เพลงสงกรานต์ลอยลมมากับฟ้ากว้าง
นาร้างรออ้ายอยู่หนไหน
สัญญาจะซื้อทองมาคล้องใจ
หลงสาวกรุงหรือไรจึงไม่มา
หวังก่อเจดีย์ทรายหมายเคียงข้าง
อย่าแรมร้างลาไกลให้ห่วงหา
ดอกจานบานรอใจคนไกลตา
สาวบ้านนายังรักยังภักดี
จุดฟืนไล่ริ้นไรริมคอก
กระซิบบอกเจ้าทุยเคยขี่
เพลงขลุ่ยลับลาหนาวราตรี
จันทน์กะพ้อพลีกลิ่นเศร้ารานร้าวใจ
จุดเทียนทองบนหิ้งพระอธิษฐาน
ถวายบัวบานด้วยใจใส
ตั้งสมาธิภาวนารักษาใจ
รอฟ้าใหม่กราบแม่พ่อพร้อมขอพร
...........................

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5453.html


เสียงไก่ขันก้อง
พร้องเสียงนกการ้องกระจิ๊บๆรับอรุณรุ่ง
สะเทือนทุ่ง สะเทือนนา
ยามฟ้าเริ่มสลัวสลัวเลือนลาง
กับ..
ฟ้าใกล้สว่างรำไรรำไร..
กลิ่นลั่นทมริมหมอน...หอมพร่าง
มาอวลปลุกให้สาวนา..รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา...


และ...
กับดวงดาราราย..
สาวนา...ค่อยๆยิ้มพราย
รับ..
สายแสงจันทราที่ยังค้างฟ้า
ที่พร่างพาสายแสงแสนหวาน
หว่านแสงสีเงินยวงระยับระยิบ
มาโลมไล้ร่างให้พริบพราวสว่างนวลพอกัน 
ในท่ามวิมานฝัน วิมานนา กระท่อมไพร


วันนี้ เป็นวันสุกดิบก่อนวันมหาสงกรานต์
วันแห่งประเพณีไทยโบราณ ที่แสนงามนัก
หากทว่าเมื่อกาลเวลาผันผ่านไป
ลูกหลานไทยกลับ ทำในสิ่งน่าเศร้าใจแทน
ด้วยสนุกสนานสราญใจจนขาดสติ


และ..
ทุกปี....
ก็จะเกิดการพรายพลัดพรากจากจบ เจ็บนับหลายร้อย
ให้คนทั้งโลกหล้าต่างพากันตกตะลึง 
คิดไม่ถึงว่า...ด้วยเหตุใดเล่า
เมืองแห่งความงามพราวไสวด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ
และ..
เมืองแห่งพระพุทธศาสนาไท
ที่เน้นย้ำสอนเรื่องจิตภายใน ให้ถึงพร้อม
ด้วยศีล ทาน ภาวนา 
ว่า..
จักมีคนหนุ่มสาวมากหน้าพากัน
หลงเมามาย จนไร้สติสตังค์ ให้แม่พ่อสิ้นหวัง
ยังไม่ทันได้ฝากผีฝากไข้
 ยังไม่ทันได้เกาะชายผ้าเหลืองลูกชายเลย


ก็..
มาลาเลยเลือนลับดับไปด้วยความประมาท
ฝากไว้เพียงหยาดน้ำตา 
อย่างไม่สมค่าคน
ที่แสนโชคดีที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
ยังไม่ได้เพียรภาวนา 
พาตนพ้นทุกข์ พบสุขว่างกระจ่างจิต
ให้ลมหายใจแห่งชีวิตหนึ่งชาติสูญเปล่า..
จนช่างแสนน่าเศร้าใจ..สะเทือนใจ...


ปีนี้ 
วันสงกรานต์เป็นวันอาทิตย์ 
นางสงกรานต์จะมีนามว่า "ทุงษะเทวี" 
ทัดดอกทับทิม ประดับอาภรณ์ด้วยปัทมราช 
ภักษาหารผลมะเดื่อ(อุทุมพร) 
พระหัตถ์ขวาทรงจักรซ้ายทรงสังข์ 
และทรงครุฑเป็นพาหนะ 
ปีนี้พืชพันธุ์ธัญญาหารในเรือกสวนไร่นา
ไม่สู้งอกงามนัก


สาวนา...จึงแสนห่วงใย
กับคำพยากรณ์ที่ว่า
พืชพันธุ์ธัญญาหารในเรือกสวนไร่นา
ไม่สู้งอกงามนัก
เพราะหมายถึงภักษาหาร
ที่จักหล่อเลี้ยงคนทั้งแผ่นดินให้อิ่มท้องนั้น
จักราคาแพงเสมือนแกล้ง
ให้คนจนยากยิ่งหนักเข้าไปอีก


สำหรับ...
ดวงใจสาวนานั่นไซร้..
ทุกเช้าค่ำ
เพียรฟังคลื่นวิทยุธรรมทานสีขาว
ที่..
เฝ้าเพียรสอนให้เรารู้ทันเท่า..
เฝ้าตามดูจิตเกิดดับณ..ภายใน
ไม่ว่า...
จะทุกผัสสะใดมากระทบ 
จักต้องรู้จบรู้วาง
ไม่ยึดมั่นถือมั่น...ไม่ว่าสุขเศร้า ดีร้าย... คล้ายให้ผ่านๆไป
ประดุจดั่งสายน้ำไหล
ให้..
มีเพียงจิตดวงใส มีเพียงความเป็นกลาง 
จึงจะพบความว่างกระจ่างสว่างสะอาดสงบ
พบเพียงใจดวงนิ่งนิ่ง ลำพังแสนงาม


เช้านี้ ...
สาวนาจึงตั้งใจไปวัด
ไปน้อมนมัสการอัฐิหลวงพ่อ
ไปก่อเก็บเกี่ยว..เพียงหอมบุญ..ให้หนุนนำจิตให้ไสว
ไปถวายพวงมาลัยดวงดอกไม้
กราบกรานองค์พระประธานองค์โตในโบสถ์คร่ำ


แล้ว..
น้อมนำจิตพลี..สวดมนต์ภาวนาสมาธิ
ก่อน....
จะถึง..วันพรุ่งนี้...ที่สาวนาจักเดินทาง
ไป*บ้านทะเล...*
ไปดูดวงดอกไม้บานหวานเหว่ว้าริมทาง
ที่..
คงพร่างพรายสีสันหลากหลาย
ร่ายฟ้อนอ้อนสายลมร้อนแห่งคิมหันตฤดู


ไป..
นอนเหนือเนินทรายดูเกรียวเมฆแสนหวาน
ไปดูดวงดอกดกตระการปาริชาติสีแดง
ไป..
แฝงตัวนั่งริมหาดทราย
ดูคลื่นเคลียไคล้ไล้โลมโถมถาโอบกอดชายฝั่ง
ไป..
ฟังเสียงสนครวญ 
ไปชมมวลหมู่นกนางนวลปีกขาว..แสนอิสราเสรี
ที่พากันผกโผผินบินโฉบเหยื่อ
เหนือฟองคลื่นพราว ระลอกพลิ้ว
ที่ค่อยๆทอยทอดมารัดร้อยฝากรอยจูบผืนทราย


ไปเดินดายเดียว
ให้ริ้วสายลมพัดผมกระจาย..อย่างไร้สิ้นพันธนาใด
ไป..
ปล่อยจิตปล่อยใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
ในวาดวงทะเลแสนงาม ในท่ามโลกแล้งร้ายรายรอบเพียงนั้น..!
...................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5453.html
สงกรานต์บ้านนา ...สุขสันต์ วันสว่าง 
ประเพณีไทย
เมื่อสมัย ครั้งเก่าก่อน
เล่น แอบซ่อน
รูปหลวง พวงมาลัย
ตรุษ สงกรานต์
สนาน สนุกกัน พอใจ
พี่ วิ่งไล่
น้องก็หลบ เมื่อ พบหน้า
พี่ เข้ากอด
น้องยังออด ทำ เอียงอาย
คืน เดือนหงาย
พอพี่จูบ น้อง ทุบพลาง
นอน หนุนตัก
สัญญารัก ข้าง กองฟาง
จน แสงเดือนจาง
พี่ไม่ยอมห่าง น้องไปไกล
ลืม น้ำคำของพี่ เสียหมด
พี่คงอด เที่ยววันสงกรานต์
เดือนอ้าย
ย่างเข้าเดือนยี่
แล้ว น้องหนีพี่ไปไหน
หรือเจ้า ไปมีแฟนใหม่
ลืมเราวิ่งไล่ ในวันสงกรานต์
รัก กัน มา
แต่เมษา วันที่เก้า
เศร้า ปีนี้เศร้า
ขาดคู่เคล้า เศร้าซมซาน
คืน วัน เพ็ญ
แสงเดือนเด่น เป็นพยาน
กลับเถิด นงคราญ
มาเล่นสงกรานต์
ที่บ้าน นา เรา
  
ลืม น้ำคำของพี่ เสียหมด
พี่คงอด เที่ยววันสงกรานต์
เดือนอ้าย
ย่างเข้าเดือนยี่
แล้ว น้องหนีพี่ไปไหน
หรือเจ้า ไปมีแฟนใหม่
ลืมเราวิ่งไล่ ในวันสงกรานต์
รัก กัน มา
แต่เมษา วันที่เก้า
เศร้า ปีนี้เศร้า
ขาดคู่เคล้า เศร้าซมซาน
คืน วัน เพ็ญ
แสงเดือนเด่น เป็นพยาน
กลับเถิด นงคราญ
มาเล่นสงกรานต์
ที่บ้าน นา เรา... 
 
  
				
comments powered by Disqus
  • สาวบ้านนา

    10 เมษายน 2551 23:39 น. - comment id 838246

    คำทำนายนางสงกรานต์
     
      
            1.ปีใดวันสงกรานต์เป็นวันอาทิตย์ นางสงกรานต์จะมีนามว่า "ทุงษะเทวี" ทัดดอกทับทิม ประดับอาภรณ์ด้วยปัทมราช ภักษาหารผลมะเดื่อ(อุทุมพร) พระหัตถ์ขวาทรงจักรซ้ายทรงสังข์ และทรงครุฑเป็นพาหนะ ปีนั้นพืชพันธุ์ธัญญาหารในเลือกสวนไร่นาไม่สู้งอกงามนัก
    
            2.ปีใดวันสงกรานต์เป็นวันจันทร์ นางสงกรานต์จะมีนามว่า "โคราษะเทวี" ทรงทัดดอกปีบ ประดับอาภรณ์ด้วยมุกดาหาร ภักษาหารน้ำมันงา พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ ซ้ายทรงไม้เท้า ทรงเสือเป็นพาหนะ ปีนั้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และราชบริพารจะเรืองอำนาจ
    
            3.ปีใดวันสงกรานต์เป็นวันอังคาร นางสงกรานต์จะมีนามว่า "ราษสเทวี" ทรงทัดดอกบัวหลวง ประดับอาภรณ์ด้วยโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล ซ้ายทรงธนู ทรงหมูเป็นพาหนะ ปีนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย
    
            4.ปีใดวันสงกรานต์เป็นวันพุธ นางสงกรานต์จะมีนามว่า "มณฑาเทวี" ทรงทัดดอกจำปา ประดับอาภรณ์ด้วยแก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม ซ้ายทรงไม้เท้า ทรงลาเป็นพาหนะ ปีนั้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้ยศถาบรรดาศักดิ์จากต่างประเทศ
    
            5.ปีใดวันสงกรานต์เป็นวันพฤหัสบดี นางสงกรานต์จะมีนามว่า "กีริณีเทวี" ทรงทัดดอกมณฑา ประดับอาภรณ์ด้วยแก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงพระขอ ซ้ายทรงปืน ทรงช้างเป็นพาหนะ ปีนั้นจะแพ้ผู้เป็นใหญ่และเจ้าไททั้งมวล
    
            6.ปีใดวันสงกรานต์เป็นวันศุกร์ นางสงกรานต์จะมีนามว่า "กิทิมาเทวี" ทรงทัดดอกจงกลนี ประดับอาภรณ์ด้วยแก้วมรกต ภักษาหารกล้วยน้ำว้า พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ ซ้ายทรงพิณ ทรงกระบือเป็นพาหนะ ปีนั้นพืชพรรณธัญญาหารอุดม ฝนหนัก พายุร้าย จะเจ็บตากันมาก
    
            7.ปีใดวันสงกรานต์เป็นวันเสาร์ นางสงกรานต์จะมีนามว่า "โมหะทรเทวี" ทรงทัดดอกสามหาว ประดับอาภรณ์ด้วยนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงพระจักร์ ซ้ายทรงตรีศูล ทรงนกยูงเป็นพาหนะ ปีนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วยกันมาก
  • ทวารวดี

    10 เมษายน 2551 23:49 น. - comment id 838249

    12.gif16.gif36.gif
    
    
    
    
    ตำนานนางสงกรานต์ประจำปี 2551
    
     
    
     
    
     
    
    
    
     
    
    
    
     
    
    
    
    เทศกาลสงกรานต์ในปี พ.ศ. 2551 วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันที่13เมษายน เป็นวันอาทิตย์ ขึ้น 8ค่ำ  เดือน 5 เวลา 18 นาฬิกา 24 นาที นางสงกรานต์นาม ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุ ทุมพรหรือผลมะเดื่อ พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จนั่งมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะ วันที่ 15 เมษายน เวลา 22 นาฬิกา 53 นาที 24 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1370 ซึ่งปีนี้วันพุธธงชัย วันอังคารเช้าอธิบดี ตกบ่ายอุบาทว์ และศุกร์อุบาทว์ พฤหัสบดีโลกาวินาศ ดินฟ้าฝนอาทิตย์อธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 400 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 40 ห่า ตกในมหาสมุทร 80 ห่า ตกในป่าหินพานต์ 120 ห่า ตกในเขาจักรวาล 160 ห่า นาคให้น้ำ 4 ตัว เกณฑ์ธัญญาหารได้เศษ 2 ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผลกึ่งเสียกึ่ง เกณฑ์ธาราธิคุณตกราศีวาโยหรือลม และน้ำน้อย
     น.ส.อมรรัตน์ กล่าวว่า จากประกาศสงกรานต์ข้างต้น เมื่อพิจารณาตามคำพยากรณ์โบราณจะเห็นได้ว่าทำนายว่าพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่สู้งอกงามนัก วันจันทร์เป็นวันเนา มักจะเกิดความเจ็บไข้ต่างๆ เกลือจะแพง นางพญาจะร้อนใจ วันอังคารเป็นวันเถลิงศก ข้าราชการทุกหมู่เหล่าจะมีความสุข มีชัยชนะแก่ศัตรูหมู่พาล ส่วนสงกรานต์ตามคติความเชื่อทางล้านนาทำนายว่า ปีนี้ข้าวหมากเกลือจักแพง คนจักเป็นพยาธิ ข้าศึกจะมีแก่บ้านเมือง หนอนแมลงกินพืชไร่ แถมนางสงกรานต์เสด็จมาท่านั่ง อิริยาบถนี้ตามคำทำนายท่านว่าจะนำมาซึ่งความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตายและจะเกิดเหตุเภทภัยต่างๆ โดยรวมแล้วปีใหม่ไทยมีแต่เรื่องชวนหดหู่ไม่น้อย ส่วนคำทำนายที่ดีมีนิดเดียว อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ดูคำทำนายแต่ก็สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนดินฟ้าอากาศที่ผ่านมาสามารถบ่งบอกถึงอนาคตได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ประกอบกับคติความเชื่อเรื่องการทำนายวันสงกรานต์ตั้งแต่โบราณมาตอกย้ำด้วย จึงไม่ควรประมาท
     นางสงกรานต์ปีนี้จะไม่ดุนัก ยังทรงครุฑซึ่งเป็นพาหนะของพระนารายณ์หรือพระวิษณุ ผู้เป็นหนึ่งในสามมหา เทพของพราหมณ์ และในพระหัตถ์ยังทรงจักรและสังข์ที่เป็นอาวุธของพระนารายณ์อีกเช่นกัน หากจะมองในด้านบวก นางทุงสะเทวีก็เป็นเสมือนนอมินีของพระนารายณ์ ที่ทรงมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองโลก และปราบปรามเหล่ายักษ์อสูรที่คอยมาสร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์ ส่วนภักษาหารที่เป็นผลมะเดื่อนี้ทางฮินดูถือเป็นไม้มงคล ตามหลักวิทยาศาสตร์เป็นผลไม้แคลเซียมสูง รากผลมีสรรพคุณทางยาแก้ท้องร่วง ชะล้างบาดแผล ถอนพิษไข้ และเป็นยาระบายอีกด้วย
  • สาวบ้านนา

    10 เมษายน 2551 23:55 น. - comment id 838250

    m017.jpgในผืนทุ่งงาม..!
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4721.html
    (ข้าวคอยเคียว)
    .................
    
    
    
    ฝนพรำทั้งวันคืน
    ให้หัวใจสาวนาเหว่ว้าเหลือดี
    เพราะ..
    สาวนาคนนี้...
    มีกระท่อมไพรมุงหลังคาจาก
    และ
    แสนหนาวเยือกใจ
    ยามเมื่อได้...
    ฟังเสียงสายฝนหล่นลากระทบหลังคาทีไร
    ให้ใจสาวหวิวหวิวหวั่นหวั่น 
    ราวขวัญหายอย่างไรก็ไม่รู้
    
    
    สาวนา...
    นอนดูสายฝนพร่างลงกลางใบบัว...บึงบัว
    ที่กำลังชูช่อสีขาวพร่างพรึบพราวนวลไปทั้งสระไสว
    จากกระท่อมไพรของสาวนา
    
    ที่มีชานเรือนเปิดโล่ง
    ให้นอนแลละลิบ
    ไปถึงทิวทิพย์ทุ่งนาป่าเขา
    ที่ทอยทอดซ้อนซ่อนสลับ
    สูงเสียดฟ้าท้าเฆมฝนอยู่รำไรรำไร
    
    
    กระท่อมไพร...
    ที่สาวนา
    ใช้ต้นไม้ใหญ่แบบไม่เหลากลมเป็นเสาบ้าน
    ให้ฝันงามโดดเด่นเป็นสง่า
    โชว์ลีลาความเป็นไม้ธรรมชาติ
    ราวต้นไม้จริงมาให้พิงพัก
    
    
    ไม้ฟากที่ปูพื้นกระท่อมก็แผ่นโต 
    เป็นเนื้อไม้ดิบเดิม
    ไม่ทาสี...มีแต่ลวดลายไม้อันแสนงาม
    ที่รู้ว่า...ผ่านกาลเวลาร้อนหนาวมายาวนาน
    
    
    หลังคานั้น
    สาวนามุงเลียนแบบบ้านชาวป่าอัฟริกา
    
    และ...
    มีชานแสนกว้างไว้โอบกอดบึงบัว
    ให้ออกมายืนทอดทัศนายามฟ้าสลัวโพล้เพล้
    และ...
    ดูดาวเดือนเกลื่อนฟ้าไพรในยามค่ำ
    ทุกอย่างสาวนาจำมาจากนิตยสารที่ผ่านตา
    และ...
    ฉลาดพอ
    ที่จะนำมาดัดแปลงให้เป็นวิมานนาสำหรับสาวนา
    ตามประสายาก
    
    
    อย่างอ่างอาบน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยซ์
    ที่จำลองแบบมาแล้วหล่อด้วยปูน
    ราวกับอ่าง..จากุชชี่..ที่ได้ยินช่างแอบเรียก
    
    ช่างงามกระจ่างหล้าน่านอนอาบนัก
    เพราะ...
    ได้นอนพักใจบ้าง
    แม้บางทีอย่างไรอย่างไรก็ยังชอบอาบน้ำ
    ในบึงบัวในโอ่ง
    หาก...
    ยามฟ้าโล่งอยากแลดาว
    สาวนาจึงจะเลือกไปใช้บริการ
    
    
    ให้ได้เฝ้านอนดู
    มวลหมู่ดารารายพรายพราวกระพริบระยิบระยับ
    มาหลิ่วตาล้อ
    มาพ้อพร่างอิจฉาสาวนา
    
    ที่อย่างไรๆ
    ก็ยังอายผีสางเทวดามิกล้าเปลือย
    มิกล้าอาบน้ำแบบเย้ยฟ้าท้าดิน 
    
    ยังมิสิ้นนวลใยแห่งอาย
    ยังใช้ผ้าถุงให้วับแวมหวามไหวอยู่
    
    
    สาวนา..
    มีฝักบัวที่ทำจากลำรางไม้ไผ่
    ที่แสนเก๋ไก๋และธรรมชาติดีจัง
    และ...
    ทุกสิ่งอัน 
    สาวนาก็จำมาทำเอาเองทั้งนั้น... ให้ฝันเป็นจริง
    ด้วยทุกสิ่งจากธรรมดาชีวิตรายรอบ 
    พยายามมาประกอบกัน
    
    ให้ชีวีชีวิตสาวนาสาวบ้านป่าบ้านไพร
    ได้ไสวงาม ตามมีตามเกิด
    
    
    หากที่แสนเลิศหรู โรแมนติก เสียยิ่งกว่าคฤหาสน์
    ก็ตรงที่ฉลาดรู้อยู่ให้เป็น...
    เน้นอิสราจากงามฟ้าดิน 
    
    มาแต่งแต้ม
    มาแกล้มใจให้มิสิ้นไหวหวาม
    ให้งามได้ด้วยความดิบเดิม
    
    
    และ
    สาวนาชอบใช้ม่านมุ้งฟูกนอนสีขาว
    ที่ดูสะอาดตาสบายใจ 
    แสนสงบในท่าทีสมถะ
    มีความเรียบง่ายแบบพอดีพอเพียง
    
    
    และ
    ในชีวาชีวิตสาวนา
    ชอบนอนดูสายฝนหล่นลา
    จากหลังคาจากยามพรากเม็ดหยดย้อย
    ห้อยเป็นรวงรายพรายพริ้งทิ้งตัวลงมา
    
    ดูราวหยาดน้ำค้างเพชรจากฟากฟ้ากว้าง
    ช่างแสนสวยใสงามจับใจจับตานัก..
    
    
    และ
    ชอบนอนนิ่งแนบหน้านวล
    แอบดู...
    มวลภู่ผึ้งบินว่อนร่อนภิรมย์คลึงเคล้า
    กลางกลีบเกสรอวลอรชร
    ของมวลดวงดอกไม้รายรอบเรือนกระท่อม
    
    ที่สาวนารักแสนรัก...
    ได้พักใจ...
    ไปกับ
    สีแห่งเขียวไพลไสวรวงเรียวระย้าย้อย
    ที่สุกห้อยเคลียไคล้ดิน
    ที่แสนทำให้ใจสาวนารู้สึกชีวินแสนสงบสุข
    
    
    และ
    กับวิถีไพรวิถีนา..
    ที่ไม่จำต้องพาร่าง
    ให้เร่าร้อนรีบเร่งเคร่งเครียด
    ได้สุขใจ
    ไปกับความงามเงียบนิ่งงัน
    กับการหาผักปลามาแค่ดำรงชีพชอบ
    ได้ประกอบอาชีพสุจริต
    
    เป็นสาวนา...
    ที่ได้ปลูกข้าวทิพย์นิรมิตเลี้ยงท้อง...แด่ผองชนคนไทย
    ไปทั้งผืนดินทอง แผ่นดินธรรมที่แสนงามล้ำนี้
    
    
    และ...
    กับชีวีที่ได้ฝึกสมาธิ
    มีความสงบสงัด
    มีวัดวาหลวงพ่อเป็นที่พึ่งทางจิต
    มิพาชีวิตหลงผิดทาง..ธรรมทางทอง
    
    
    และ..
    นี่คือชีวิตที่..สาวนาพอใจแล้ว
    
    เพียงสิ่งดียว...ที่บางครั้งคราว
    หัวใจสาวนาคนดียังมีเลือดเนื้อ
    ยังเหลือความรัก
    สาวนา...ก็อดคิดถึงอ้ายไม่ได้ในบางครั้งครา
    ตามประสาปุถุชนคนธรรมดา
    
    ทั้งๆที่อ้ายตัดใจลา 
    พรากสาวนาไปทำหน้าที่รักษาแผ่นดิน
    แถวชายแดนโน่นแล้ว
    
    
    สาวนา นอนคิดถึง...สงสารอ้าย 
    จะดีร้ายอย่างไรก็ไม่รู้
    
    นับวัน..
    จะได้ข่าวแต่คนนั้นตายคนนี้หายไป
    แล้ว...
    อ้ายยิ่งไปเป็นทหารรับใช้แผ่นดิน
    จะให้สาวนาปิดตาปิดใจมิยลยินอะไรได้อย่างไร
    
    สาวนายังมีหัวใจดวงนวลนะ
    ถึงแม้นว่าจะเกิดมากับทุ่งนาป่าเขา
    ที่มีวิถีชีวิตให้ทนอดทนเอาในทุกสิ่ง
    
    และ..
    ทนนิ่งถ่อมตนเงียบงามอย่างรู้รักพอเพียงสมถะ
    
    
    แต่มาวันนี้ ..
    ใจดวงดีสาวนาชักทนไม่ไหวแล้ว
    กับปัญหาบ้านเมือง 
    ที่ฟังแล้วไม่ประเทืองประทับใจ
    
    และ
    แสนจะน่าห่วงใยเสียไม่มี
    ทั้งภัยจากธรรมชาติ สึนามิจากไปไม่ทันไร
    น้ำท่วมใหญ่ก็ตามมาหลายพื้นที่
    
    
    ไหนจะผองภัยจากคนใจร้ายใจดำ
    ที่คอยฆ่าฟันกันไปมา
    ราวหนังจีนล้างแค้น ที่แสนจะน่าเวทนา
    
    ที่หารู้ไม่ว่า..
    ในที่สุด...
    แผ่นดินที่ตัวเองเคยอาศัยข้าวสุกซุกหัวนอน
    ก็ไม่มีจะอยู่ ....
    
    แผ่นดินที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เรือกสวนผลไม้ไร่นา
    มาพากันแล้งไร้ ..
    ดั่งคล้ายตายดับไปกับความสิ้นคิด..
    
    
    สาวนา..ไม่รู้ดอกว่าใครถูกผิด
    เพราะ...ในชีวิต สาวนาคิดแค่ว่า
    แผ่นดินไหนให้ร่มเงาอาศัยแด่เรา
    
    แผ่นดินนั้น...
    คือแผ่นดินแห่งกตัญญุตา
    ที่จะรักษาไว้ด้วยหยาดเลือดสุดท้ายพลี
    ที่ที่เรา..
    จะได้ปิดเปลือกตา
    พาร่างวางกลางพื้นพสุธาได้อย่างสมภาคภูมิใจ 
    ไม่เสียที
    ที่ได้อาศัยข้าวน้ำให้ลูกหลานอิ่มท้อง
    อยู่อย่างปรองดองสามัคคีสงบสุขมานานวัน
    
    
    ทำไม...!
    เราต้องมาผลาญพร่ากัน..ด้วยความไม่เข้าใจ
    และ...
    แบ่งแยกศาสนาใดศาสนาเขา
    ในเมื่อทุกศาสนา...ก็สอนให้เราเป็นคนดี มีเมตตา
    
    
    ฤาว่า...
    สอนให้ฆ่ากัน....
     อันนั้นคงมิใช่ศาสนาแล้ว
    คงเป็นลัทธิของอมนุษย์ปีศาจ..
    ที่ชอบความโหดร้ายทารุณ
    ให้ตายๆกันไปไม่ได้ผุดเกิด
    
     เพราะ..
    มนุษย์ประเสริฐใครเขาจะทำกัน..
    
    
    มีก็แต่..พวกมาจากโลกันตร์อเวจีนรกเพียงนั้น
    ที่มิจิตดำสกปรก
    คิดแต่เรื่องรกไร้ 
    
    คล้ายเห็นความตาย!
    และ
    มรณะแห่งชีวีผู้อื่นเป็นผักปลา
    
    ไม่สงสารเด็กไร้เดียงสา หญิงไร้สามี 
    ผู้ไม่มีทางสู้...ผู้บริสุทธิ์..
    ต้องอยู่อย่างไร้ทิศทางหางเสือ
    เมื่อมาขาดนาวานาวีแห่งชีวีชีวิต
    
    
    คิดๆแล้วสาวนา
    ก็ว่าแสนน่าสงสารจิตวิญญาณ
    ผู้คนบนผืนโลกนี้...
    
    ที่แสนหาเรื่องทุกข์เทวษมิรู้สิ้น
    ขนาดดินฟ้ามาสอนสั่ง ก็ยังมิเคยสำนึก..
    
    สาวนา..นึกนึกแล้ว
    ต้องรีบใช้สติสมาธิมากำกับ กับวิบากกรรมนี้
    
    ที่แสนที่จะทำให้โลกแห่งดวงใจผู้พิสุทธิ์
    ต้องมาสะดุดโศกสะเทือน
    ที่ทอดทับไปทุกหย่อมหญ้า 
    
    ไหนจะน้ำฟ้าลงโทษ 
    ไหนจะพิโรธจากพายุ
    ไหนจะน้ำมันแพงแข่งกันให้คนบ้า..
    หากไม่รู้ค่าการรู้รักความสมถะพอเพียง
    
    
    สาวนา...
    รักแสงตะเกียงมาตั้งนานแล้ว
    และรู้ว่าอย่างไรๆ
    จะมีไฟหรือไม่มี
    สาวนาคนนี้ก็พอทำใจยอมรับได้
    
    มิใช่...
    เพราะจำใจ
    หากเพราะ..ในดวงใจเคยชินมาแต่เด็ก
    และ..
    คนเราทุกวันนี้ คงต้องทำใจฝึกใจไว้
    ให้รำลึกนึกกลัวว่า...
    มิช้านาน 
    คงถึงกาลที่โลกนี้จะไร้สิ้นทรัพยากร...แล้ว
    
    
    
    วันนี้...
    สาวนามาบ่นเพ้อละเมอหาทุกข์ใจจัง
    
    ทั้งๆที่...
    สาวนาแสนรักสายฝน
    กมลสาวนาแสนสุขใจ
    
    ยามได้ยินเสียง
    ไพรพงแมกไม้กรายกิ่งไกวไหวรับ
    หยาดละออละอองของพระพิรุณร่ำ
    หยาดน้ำตานางฟ้า ที่พลีมาฝากจากดวงใจ
     
    
    ไม่ให้ชาวนา
    ไร้ฝน ทุกข์ทนเพราะแล้งน้ำ
    ขอเพียงอย่าให้มากไป ไม่อย่างนั้น
    ก็พลันเศร้าไปอีกแบบ
    
    เพราะ
    รวงเรียวเขียวไสว
    จักจมไปกับสายน้ำ..อย่างน่าเสียใจเป็นยิ่งนัก
    
    วอนขอพระพิรุณได้รับรู้ 
    อย่าให้อู่ข้าวพังทลาย 
    ให้แม่พระโพสพ
    ต้องขวัญหายเลยนะหยาดสายธาราทอง
    ..........
    
    
    และ..
    ทุกคราที่ฝนมาฟ้าหม่น
    ในกมลสาวนา...
    จะจำได้...
    
    ถึง..
    คำอ้ายที่เคยให้คำมั่นกับสาวนาไว้ว่า...
    จะพาสาวนาไปดู...
    ความประหลาดของเมือง....*คำชะโนด*
    หนึ่งในตำนานพญานาคราช
    
    
    ดงชะโนด...
    ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอบ้านดุง
    พื้นที่ราว 20 ไร่ 
    ซึ่งมีน้ำล้อมรอบคล้ายเกาะ
    
    มีดงต้นปาล์มชนิดหนึ่ง
    ลักษณะคล้ายต้นตาลผสมต้นมะพร้าวขึ้นอยู่
    เรียกว่า..*ต้นชะโนด*
    
    
    คนสมัยก่อนเรียกที่นี่ว่า....
    *วังนาคินทรคำชะโนด*
    
    เชื่อกันว่า..
    บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กลางดง
    เป็นประตูไปสู่เมืองบาดาล
    เป็นที่อยู่อาศัยของพญาสุทโธนาค
    
    ที่แปลกคือ....
    ในดงชะโนดมีน้ำน้ำซับน้ำซึมอยู่ตลอดเวลา 
    แต่กลับไม่มีน้ำท่วมเลย...
    
    
    และ....
    จะพาไปไหว้พระอจนะ
    ที่เมืองสุโขทัย...
    ที่สาวนาอ่านมาจากหนังสือที่ยืมมาจากหลวงพ่อที่วัด
    
    ไปดูความมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ทางจิตวิญญาณ
    ที่มีเรื่องเล่าขานเป็นตำนาน
    
    ที่สาวนาแสนจำจดไว้ด้วยความงดงาม
    ด้วยความเชื่อศรัทธา
    และ
    มากล้นค่า ในดวงใจสาวนานี้
    ที่คิดดี คิดได้ คิดให้ คิดรัก
    คิดเพียง...
    อยากเดินไปตามรอยพระบาทแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดา 
    ที่....
    สาวนาเชื่อว่า
    คือเส้นทางสว่างสะอาดสงบที่สุดแล้ว
    
    
    พระอจนะ ที่วัดศรีชุม 
    หนึ่งในความพิศวงบนแดนดินมรดกโลก
    และ..
    แม้ลักษณะวิหารของวัดศรีชุม
    จะเหลือเพียงองค์พระและผนังสี่ด้าน
    แต่...
    ความงดงาม
    ก็ยังคงประจักษ์แก่สายตาคนรุ่นหลัง
    
    องค์พระอจนะนั้นดูศักดิ์สิทธิ์เร้นลับ
    หากดินผ่านช่องบันไดแคบๆไปยังผนังด้านข้าง
    ที่...
    ช่องหลีบนั้น
    เมื่อเสียงใดถูกเปล่งออกมา
    ผนวกกับความอลังการขององค์พระประธาน
    คงเป็น..
    ความอัศจรรย์หนึ่ง
    ซึ่งสืบเนื่องถึงที่มาของความเชื่อว่า
    *พระอจนะพูดได้*
    
    
    และ...
    สาวนาอยากไปดู..
    ความงดงามแห่งเจดีย์ศิลปะสุโขทัยแท้
    ที่อยู่ในวัดมหาธาตุ 
    ภายในอุทยานประวัติศาสตร์
    
    ที่เคยมีเจดีย์มากมายได้สำรวจพบถึง200องค์
    
    
    ไหนจะโบราณสถานโบราณวัตถุอีกตั้ง215แห่ง 
    ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
    แล้ว..
    ยังมีวัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว
    และ
    วัดนางพญา
    
    ไหนจะ..
    มีเครื่องทองโบราณ ที่เมืองศรีสัชนาลัย
    ที่มี..
    เทคนิคสีสันการลงยาแปลกตากว่าที่อื่น
    เช่นสีแดงสีเขียวและสีน้ำเงิน
    และ..
    ยังมีเครื่องประดับที่งดงามแบบทองโบราณ
    ที่แสนตระการตาตระการใจ
    
    ที่ชาตินี้ สาวนา คงไม่มีวาสนาได้ใส่
    แต่ก็ยังดีแค่ได้ดูได้รู้ซึ้งค่า
    หาได้ปรารถนายึดติดไม่
    
    
    แต่อ้ายนั่นแหละสัญญา..
    ไม่รู้กี่หน้าฝนแล้ว
    ว่า...
    ปีไหนฝนฟ้าดี ข้าวมีล้นฉาง
    จะแบ่งเงินให้สาวนาซื้อทองใส่
    
    สาวนาดีใจ ...
    มิใช่ตรงจะได้ทอง
    หากทุกสิ่งที่มาจากใจอ้ายของสาวนา
    สาวนาซึ้งค่าทั้งนั้นแหละ
    
    
    เพราะ...
    คือความทรงจำความรัก
    ไม่ว่า...สร้อยฤากำไลแห่งรักแห่งภักดิ์นั้น
    จักจะเป็นเงินหรือเป็นเชือกถักธรรมดาๆ
    เพราะ..
    สำหรับสาวนามันมากล้นคุณค่าทางใจ 
    ว่า..
    อ้ายยังมีเยื่อไย 
    ยังมีน้ำใจรักคิดถึงสาวนา
    นั่นคงมีค่าเกินกว่าจะประเมินประมาณได้ละกระมัง..!
    
    
    
    สาวนา...
    นอนหนาว...ดูฝนพรำ
    พร้อมกับ..
    ได้ยินเสียงอึ่งอ่างกบเขียดร้องกันลั่นบึง 
    สาวนา...
    แสนสงสารเจ้าลูกควายสายน้ำ
    ที่ณ..บัดนี้เริ่มเป็นหนุ่มใหญ่วัยกำดัด
    หากทว่า..
    ยังไม่มีคู่จัดแต่งให้
    จะได้ผลิตพลเมืองควายน้อยๆมาห้อยหน้าตามหลัง
    ทั้งแม่ควายทั้งสาวนา...พาให้นึกเอ็นดู
    
    
    สาวนา..
    นอนดูสายฝน
     แล้วทนไม่ไหว...
    เลยคว้าไม้กวาดไม้ไผ่ออกไปกวาด
    ดวงดอกแก้วที่พร่างหล่นจนเต็มพื้นลาน
    
    สาวนาดีใจ
    ที่เห็นลั่นทมสราญดอก..ในหยาดน้ำฝน
    และนั่น..
    พรายพร่างพรมด้วยดวงดอก โมก มะลิ พุดซ้อน
    
    ไหนจะยังบานชื่นอวด อรชรอ้อนหวานบานแฉ่ง
    แย่งกันเริงรื่นชื่นฉ่ำใจไปกับสายวสันต์พร่างงาม
    
    
    ดวงใจสาวนา...
    จึงพร่างสด..ด้วยบทเพลงแห่งฝนฝันปันใจ
    ให้แสนไหวหวาม ในยามนี้ 
    
    ที่สาวนาคนดี...ยอมพลีร่างให้
    รับหนาวดายเดียวได้ลำพัง ...
    อย่างมิสิ้นหวังรอหวาน
    ราว...
    กลีบดอกไม้คลี่บาน
    รอเพียงหยาดน้ำผึ้งรักจากอ้ายในวันที่กลับมา
    
    
    และ...
    ไม่ว่าจะ...
    กี่ทิวาราตรี...กี่ฝนหนาว..กี่เศร้าฝัน
    ใจสาวนาก็ยังซื่อสัตย์มั่นคง...
    
    ยังคงรำลึก..นึกถึงบึงบัว
    ยามฟ้าสลัวเข้าไต้เข้าไฟในอ้อมอกอ้าย
    
    ที่อ้ายเคยพิร่ำพิไรรำพันว่า...
    แม้นบัวนับหมื่นนับพัน...ไหนเลยจะงามสล้าง
    เท่าบัวงามดอกหวาน..ของสาวนา
    
    
    และ...
    กับฟ้าครวญฝนคราง
    กับ..
    เสียงพร่างพรมเปาะแปะๆ
    ของสายฝนยามหล่นร่วงลงบนหลังคาจาก
    ในยามยาก...
    ที่สาวนา..
    ให้อ้ายนอนเอนอิงในอ้อมตักในกระท่อมไพร
    
    
    และ...
    ในท่ามแสงตะเกียงระริกระริกริบหรี่ไหว
    กับ..
    ใจและร่างราวหลอมละลาย
    ไหวสะท้อนสะท้านสะทือนเลื่อนลอยราว
    ตกในหอมห้วงแห่งสวรรค์สรวง..
    จนดุเหว่าแว่วแผ่วมาในยามฟ้าสาง
    
    
    กับ..
    ร่างนวลสล้างของสาวนาในม่านมุ้ง
    ที่อ้ายบอก..
    สุดแสนซึ้งยามสาวนาหนุนนอนซบไหล่
    ได้อยู่ในอ้อมใจกันและกัน
    แล้วนิทราฝันดี..เมื่อพลีสิ้นรักแล้ว.....
    
    
    
    ราตรีฝนราตรีฝัน...
    สำหรับสาวนา
    ในวันนี้...
    ไม่มีร่างอ้าย
    
    สาวนาได้แต่
    ถวายมาลัยบัวบูชา
    สวดมนต์ภาวนาวอนไหว้
    หน้าพระพักตร์พระพุทธ
    ให้ทุกฝ่ายหยุดเข่นฆ่ากัน
    ให้อ้ายพลันได้คืนหลังกลับบ้าน
    กลับมาสู่อ้อมตักแสนหวานของสาวนา
    
    
    
    
    
    แต่ถึงไม่มีอ้าย..ในวันนี้
    แค่หลับตาพลีฝันฝันฝัน
    
    คำหวานคำมั่นสัญญา
    ก็จักมาปรากฎพร่างแก่ดวงจิต..
    เป็นสถิตรักนิรันดร์ไปตราบชั่วกาล......!!!!!
    
    ************************************
    
    
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4721.html
    ข้าวคอยเคียว ผ่องศรี วรนุช
    
    ได้ยินไหมพี่ เสียงนี้ คือสาวบ้านนา
    พร่ำเพรียกเรียกหา ตั้งตานับเวลารอคอย
    คอยเช้า คอยเย็น ไม่เห็นสักหน่อย
    ปีเคลื่อนเดือนคล้อย
    รักเอ๋ยจะลอยรักเอ๋ยจะลอยแรมไกล
    อีกเมื่อไรรักจะคืนรื่นรมย์
    ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
    หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
    รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
    รวงข้าวคอยเคียว
    น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา
    กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย
    
    ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม
    หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว
    รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว
    รวงข้าวคอยเคียว
    น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา
    กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย.
    
    
  • กชมนวรรณ

    11 เมษายน 2551 07:55 น. - comment id 838316

    36.gifมาเก็บเกี่ยว ความรู้จากพี่พุด และแวะขอพรจากพี่พุด ด้วยค่ะ ในวาะปีใหม่ไทยนี้รันขออนุญาต อวยพรให้พี่พุด จงมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขกาย สุขใจ ยิ่งๆขึ้นไปนะค่ะ นับถือพี่ค่ะ29.gif36.gif36.gif
  • อินสวน

    11 เมษายน 2551 08:24 น. - comment id 838326

    ฟ้าร้องครางครืนคล้ายข่มขวัญ
    สายลมครวญหวนหาน่าใจหาย
    คืนฟ้ามืดมัวหม่นคนเดียวดาย
    เป็นหรือตายร้ายหรือดีไม่มีมา
    คอยฟังข่าวร้าวรานสะท้านเทือน
    หลงลืมเลือนหรือไรใครคอยหา
    ม่านลมฝนหล่นลานม่านน้ำตา
    วอนสายฟ้าอย่าเกรี้ยวกราดด้วยหวาดกลัว
    ฝนปีนี้หัวปีวี่แววบอก
    ความชำชอกตอกย้ำจำเกินกว่า
    ดอกลำดวนส่วนสุดท้ายที่ปลายนา
    คงร่ำลาล้าแล้วแผ่วแรงรอ
  • แก้วประเสริฐ

    11 เมษายน 2551 12:04 น. - comment id 838408

    36.gif16.gif36.gif
    
             มาขอร่วมรดน้ำดำหัวกับสายบ้านนาด้วยคนจ้า
    รักเสมอ
    
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • อรุณสุข

    11 เมษายน 2551 14:14 น. - comment id 838431

    x1piYkpqHC_35mMyVSN6CU10VXwiuN6RgU5k8JpQ
    
    ปีนี้ขอให้พี่พุดมีสุขภาพดีครับ..ทั้งกายและใจ
    ให้สมหวังทุกประการที่หวังครับ...
    หากสิ่งใดที่ล่วงเกินไปโดยตั้งใจหรือมิได้
    ขอได้โปรดอภัยด้วยครับ...
    
    29.gif29.gif
  • มณีจันทร์

    11 เมษายน 2551 14:19 น. - comment id 838440

    27-03-2008_11.gif
  • การัณยภาส

    12 เมษายน 2551 11:15 น. - comment id 838683

    สวัสดีค่ะ แวะมาร่วมสงกรานต์ด้วยคนค่ะ
    ได้ข้อมูลความรู้เยอะดีจังเลยค่ะ ทั้งคำทำนายนางสงกรานต์ และตำนานนางสงกรานต์
    ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่ให้เนื้อหาความรู้ที่เป็นประโยชน์
  • ฝากฝัน

    13 เมษายน 2551 07:36 น. - comment id 838888

    36.gif36.gif36.gif
    ตื่นๆๆตื่นได้แล้วคร๊าบ....ไปเล่นสงกรานต์กัน......นอนขี้เซา..น้ำมาแล้วๆๆๆๆๆๆๆสาดๆๆๆๆๆโครม....ทั้งที่นอนเลย...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
    
    
    ไปหล่ะ....ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ..เงินทองไหลมาเทมา...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน