รอยไถ!ไม่แปร!

สาวบ้านนา


สาวนาก่อกองไฟใต้ไผ่กอ
หอมละออกอราตรีคลี่กลีบรับน้ำค้างใส
ไอหนาวโชยหมอกโรยรินห่มราวไพร
ฟังเรไรหรีดหริ่งช่างพริ้งพราว...
ไผ่เสียดกอฝากพ้อไกลกับฟ้ากว้าง
นกไพรร้างแรมใจทิ้งใครหนาว
สาวนารอราวเดือนแรมไร้แสงดาว
ฝากลมหนาวกระซิบฟ้านาแล้งรอ...
ตาลยืนต้นฝนทิ้งช่วงรวงแล้งลีบ
หอมดอกปีบบีบใจซึ้งถึงใครหนอ
ควายคาคอกยืนเบิ่งเศร้ารอขี่คอ
สาวนารอผ้าถุงดอกบอกอีกที...

หลังคาจากรูโหว่รอคนเปลี่ยน
ต้องจุดเทียนแทนไฟทุกคืนนี้
ไม่มีเงินมีงามใจรอคนดี
กลับเสียทีกลับมาอยู่รู้เพียงพอ...
น้องเย็บจากพี่หว่านไถจนเย็นย่ำ
พอยามค่ำจัดสำรับคอยป้อนหนอ
พอท้องอิ่มกายอุ่นชวนกันดูหนังสี่จอ
เคลียพะนอนอกชานหวานไม้ไพร...
ฟังเรไรร้องกล่อมทุ่งยามรุ่งสาง
หอมน้ำค้างพร่างเกสรอ้อนหวามไหว
นกละเมอเพ้อพลอดกอดนางไพร
พิสุทธิ์ใสรักเย็นฉ่ำลำนำดง..

ห่างแสงสีศิวิไลซ์ไกลโลกลวง
หนีมนต์บ่วงมายาพาไหลหลง
หนีโลกนี้ที่วายวุ่นสู่ไพรพง
ยามค่ำลงนกคืนคอนนอนนวลรัง...
เป็นวิถึชีวิตติดดินสุขงามเงียบ
เป็นความเรียบความง่ายบ้านแห่งหวัง
บ้านภายในสุขที่ใจไม่เซซัง
ถึงฝั่งฝันฝากใจร่างห่างมายา..

หวังนกไพรคืนกลับนาไม่นานนี้
รอคนดีคืนฝั่งใจเฝ้ารอท่า
รับขวัญน้องสองเราช่วยทำนา
หวังหว่านกล้าไม่แปรใจรอยไถงาม!  (ดวงใจงาม)...
************

สาวนาผู้พิสุทธิ์ใส
ผู้มีหัวใจดั่งหยาดน้ำค้างยามอรุณรุ่ง
นับวันหายากยิ่งนักในโลกโลกาภิวัฒน์นี้
ทีสาวสาวมีแต่แสวงหา..ใช้สมองสองมือและดวงตา
ควานคว้าหาสิ่ง..ข้างนอก..ใจ
มองไกล ไกลจนไกลห่าง ร้างและไร้..
แม้กระทั่งจะหาค้นหางามหาความหมายจริงแท้
จากธรรมชาติให้สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว
กับนวลเนื้อใจประโลมใจภายในตน..
เสมือนหนึ่งดัง..มองไปด้านหน้าเพียงนั้น..
หากมิเคยก้มลงมองลงในห้องหัวใจจริงแท้
อันเป็นธรรมชาติแท้แท้
ที่แสนงดงามเรียบง่าย
เฉกเช่นบ้านภายในที่แสนเงียบงามสงบ..
ไร้รานรุกจากเหนื่อยเหน็ดมิรู้จบรู้สิ้น
ที่ถวิลหวังสนองอยาก..มากเกินคำว่าพอดีพอเพียงเพียงพอ
โอ้ละหนอ..โลก..!
				
comments powered by Disqus
  • สาวบ้านนา

    18 พฤศจิกายน 2546 22:35 น. - comment id 182835

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=655
    
    สาวนาคอยคู่   
    พุ่มพวง ดวงจันทร์ : : Key Eb  
    มอง เหม่อมองท้องฟ้า
    ยิ่งพาใจเศร้า
    บ้านนาแสนเหงา
    ซึมเศร้าระทม
    ยาม อยู่เดียวฝันหา
    ใครมาเชยชม
    อกเราตรอมตรม
    เศร้าตรมจาบัลย์
    สุขอยู่ กับความใฝ่ฝัน
    อุตส่าห์ ตรำงานสู้ทน
    ขาดคนเห็นใจ เป็นคู่ชีวี
    คอย เฝ้าคอยฝันหวาน
    มานานแรมปี
    อยากมีรักแท้
    เคลียคลอดวงใจ
      
    จะพลีใจรัก มั่น
    ชีวันอุทิศ ให้
    มีเพียงใจเดียว คือรักแท้
    ขลุ่ยครวญหวนหา ดังใครรำพัน
    บ้านนาของฉัน วังเวงอาลัย
      
    รวงทองยังหมอง เศร้า
    ดังตัวเราหมอง ไหม้
    ระทมตรมใจ ยามไร้คู่
    บ้านนาแสนช้ำ ระกำชีวี
    ห่างไกลแสงสี
    เมืองกรุงลาวัลย์
    หากมีคู่เคียง ร่วมฝัน
    สุขกันไปตาม ประสา
    บ้านป่านั้นคือ วิมานบนดิน
    ถ้า ทุ่งทองแดนนี้
    มีเราเคลียคลอ
    สุขใจไหนหนอ
    จะมาเทียมทัน
    ฮา ฮ่า
    ฮ่า ทุ่งทองแดนนี้
    มีเราเคลียคลอ
    สุขใจไหนหนอ
    จะมาเทียมทัน
    ลา ลั่น ลัน ลั้น ล๊า
    ลัน ลัน ลัน ล้า
    ลั่น ลัน ลั้น ล๊า
    ลัน ลัน ลัน ลา
    ลา ลั่น ลัน ลั้น ล๊า
    ลัน ลัน ลัน ล้า
    ลั่น ลัน ลั้น ล๊า
    ลัน ลัน ลัน ลา... 
    
  • สาวบ้านนา

    18 พฤศจิกายน 2546 22:39 น. - comment id 182836

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=655
     คอยสาวบ้านนา   
    ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา : : Key F  
    ทุ่งนาฟ้างามยามสนธยา
    วิหกนกกา
    ถลา กลับ รัง
    ตะวันรอนๆ
    ขอวอนช่วยสั่ง
    ให้เธอคืนหลัง
    กลับยังบ้านนา
    ของเรา
    ทุ่งนาบ้านเรา
    ข้าวเริ่มออกรวง
    เจ็บปวดร้าวทรวง
    เพราะหวง ถึง เขา
    อยากให้เขาคืนทุ่งนาบ้านเก่า
    บ้านถิ่นเกิดของเรา
    เป็นของเราจนเติบโต มา
    พ่อและแม่ก็คิดถึง
    เฝ้ารำพึง
    คนึง บ่น หา
    เธอกลับไปหลงพวงเมืองฟ้า
    ลืมแล้วหรือบ้านนา
    ยังมีคนท่า
    เขายังรอคอย
    ทุ่งนาบ้านเรา
    ช่างเหงาวังเวง
    มีแต่เสียงเพลง
    จากขลุ่ย พริ้ว ลอย
    รู้ไหมบ้านนา
    ข้างเรือนโคนขล่อย
    ป่านนี้ยังมีคนคอย
    คอยสาวน้อย
    กลับบ้านนา
    
    ทุ่งนาบ้านเรา
    ช่างเหงาวังเวง
    มีแต่เสียงเพลง
    จากขลุ่ย พริ้ว ลอย
    รู้ไหมบ้านนา
    ข้างเรือนโคนขล่อย
    ป่านนี้ยังมีคนคอย
    คอยสาวน้อย
    กลับบ้านนา...
     
    
  • สาวบ้านนา

    18 พฤศจิกายน 2546 22:53 น. - comment id 182838

    กำลังเขียน..แม่ดอกผักบุ้ง
    
    รออ่านนะคะคนดีทุกดวงใจ
    จะได้หลับไหลกับงาน
    เรียบง่ายสบายๆใจของสาวนาที่หัวใจสงบงามเสียเหลือเกินแล้วจ๊ะ
  • tiki

    18 พฤศจิกายน 2546 23:07 น. - comment id 182845

    :)
  • อัลมิตรา

    18 พฤศจิกายน 2546 23:16 น. - comment id 182849

    เหมือนที่เล่นละครตอนเย็นค่ะ รอยไถ .. ใช่ป่าวหนอ ..เคยนั่งดูทีวีเป็นเพื่อนคุณแม่ตอนเย็นค่ะ เห็นบรรยากาศท้องทุ่งด้วยค่ะ
  • idahoูู^-^

    18 พฤศจิกายน 2546 23:22 น. - comment id 182858

    อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศสบายๆจังเลย  น่าอยู่จัง  คงมีความสุขไม่น้อยเลย  ชอบทุ่งนามากเลย  หอมดอกข้าว...
  • สาวบ้านนา

    18 พฤศจิกายน 2546 23:33 น. - comment id 182868

    ตอนนี้
    ริมกระท่อมสาวนาหอมดอกมะม่วงจ๊ะ
    หอมมากกกก
    และชอบคำหอมดอกข้าวด้วยจ๊ะ
    เชื่อไหมตอนนี้สาวนาเพิ่งอาบน้ำยัง
    นุ่งผ้าถุงสีไพลกระโจมอกอยู่เลยจ้า
    
  • ชัยชนะ

    18 พฤศจิกายน 2546 23:58 น. - comment id 182895

    ฟังเสียงไผ่ ล้อลม ชวนชมทุ่ง
    นุ่งผ้าถุง น้องนาง ช่างสุขสันต์
    หยอกเย้าบน คูคันนา เฮฮากัน
    ร้องเพลงลั่น สนั่นทุ่ง ทั่วพงไพร
    
    พี่แบกไถ ให้น้องนั่ง หลังควายตู้
    เย็นย่ำกรู สู่รวงรัง แหล่งอาศัย
    น้องเป่าขลุ่ย คลอแผ่ว แว่วหวานใจ
    ทั่วทิวไพร ไหวหวั่น สะท้านทรวง
    
    ก็อาศัยเคยเป็นหลานชาวนามาก่อน ก็นั่งเทียนเขียนเอา(ได้ ๒ บทก็ถือว่าเยอะแล้ว)
    ก็ตามความคิดนึกจินตนาการได้เมื่อสมัยเด็ก  
    ผมเคยได้ยินแต่เพลงรอยไถแปรครับ
    เป็นสาวบ้านนาก็ดีไปอีกอย่าง จะได้สนุกสนานกันบ้างครับ
    
  • สาวบ้านนา

    19 พฤศจิกายน 2546 00:16 น. - comment id 182905

    ขอบคุณทุกดวงใจนะจ๊ะ
    สาวนาเหนื่อยใจ..ขอลาไปนอนก่อน
    ฝนคงไม่ตกให้น้ำรั่วใส่หัวเพราะหลังคาจากรูโหว่..เพราะหมดหน้าฝนแล้ว..
    จริงๆ..รอยไถแปรไปนานแล้ว..จ๊ะ
    
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2068 
    
    ทุ่งนาแดนนี้ ไม่มีความหมาย
    เหลือเพียงกลิ่นโคลนสาบควาย
    เห็นซาก คันไถแล้วเศร้า
    เห็นนาที่ร้าง นั้นมีแต่ฟาง แทนรวงข้าว
    เห็นเคียวที่เกี่ยว เหน็บติดเสา
    เล่นเอาใจเรา สะท้อน
    ทุ่งนาแดนนี้ ข้าเคยไถทำ
    สองมือ ข้าเคย หว่านดำ
    ฤดู ฝนพร่ำ หน้าก่อน
    แต่มาปีนี้ ฤดี ข้าแสนจะสะท้อน
    เพราะมา ไร้คู่ กอดเคียงหมอน
    ทิ้งให้เรานอน ระกำ
    รอย ไถเอย ข้าเคยไถถาก
    เดี๋ยวนี้ เจ้ามา คิดจาก
    ฝากให้ เป็นรอย ไถช้ำ
    เปลี่ยนรอย ไถใหม่
    ทิ้งรอย ไถเก่า ระกำ
    อกใคร ใครบ้าง ไม่ช้ำ
    เมื่อยาม เห็นรอย ไถแปร
    ทุ่งนาแดนนี้ คงร้างไปอีกนาน
    ข้าเอง ก็เหลือ จะทาน
    เพราะมัน แสนสุด จะแก้
    หมดกำลังใจ แล้วเรียมเอ๋ยข้า คงตายแน่
    จะไถไปอีก ก็กลัวแพ้
    เพราะรอยมันแปร เสียแล้ว เรียมเอย
    
    ทุ่งนาแดนนี้ คงร้างไปอีกนาน
    ข้าเอง ก็เหลือ จะทาน
    เพราะมัน แสนสุด จะแก้
    หมดกำลังใจ แล้วเรียมเอ๋ยข้า คงตายแน่
    จะไถไปอีก ก็กลัวแพ้
    เพราะรอยมันแปร เสียแล้ว เรียมเอย... 
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    19 พฤศจิกายน 2546 01:50 น. - comment id 182963

    รอยไถงานนี้ที่ไม่แปร
    ด้วยมั่นแท้ในรักภักดีมั่น
    เป็นรอยไถที่จริงใจในทุกวัน
    ทำให้รอยไถนั้นไม่ปรวนแปร
    
    ***กลอนบทนี้ผู้หญิงไร้เงาชอบค่ะ  ตรงความรู้สึกดีค่ะ***
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ไม่ได้ล๊อกอิน)

    19 พฤศจิกายน 2546 14:38 น. - comment id 183086

    เป็นห่วงสาวนาเสียแล้วสิ
    เธออาบน้ำนุ่งกระโจมอก
    เล่น ตีโป่ง ในลำคลอง
    มีกอสันตวา ผักบุ้ง และก็ปลิง
    เหว๊อ ปลิง ระวังน๊ะ สาวบ้านนา  อิยย์
    ปลิงเข็มยังดีเจอปลิงควายเข้าละก็ เลือดแดงเลย อียย์

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน