ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=975
(ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก)
...............
คนดี..ดวงใจของผม..
คุณรู้ไหม...
ทันทีที่นกยักษ์กางปีกออกและค่อยๆแล่นถลา
พลอยพาร่างงามของคุณ ไปตามทางรันเวย์ อย่างช้าๆนั้น
หัวใจผม..ก็พลันราวจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ
ด้วยความรู้สึกวูบไหว  ดั่งคล้ายจะปลิดปลิวลอยละลิ่วตามคุณไป
ในเวิ้งฝัน  เวิ้งฟ้านภากาศ   อันไร้ขอบเขตมิสิ้นสุด
อันแสนกว้างไกล ที่แยกร่างเราไกลห่างออกไป  ทุกที ทุกที...


ดวงใจ...
หัวใจผมราวหล่นหาย..ในนาทีนั้น
ทำไม...ผมราวสิ้นไร้ใคร ไร้ใจ..
ที่ยังคงต้องหายใจในร่างทรนง
ที่ยังคงต้องหยัดยืน  นะที่ตรงนี้..ที่สนามบิน 
ในท่ามทิวมะพร้าวพัดไกวไหวแกว่งราวร่ำไห้
คล้ายเคียงปลอบ ประโลมใจผม
ที่กำลังรู้สึกอ้างว้าง เหว่ว้า สุดทน
เหมือนกมลฝัน  ฝันฝัน....
อยู่ปลายโลกร้างกลางหนาวเหน็บเพียงลำพัง..


คนดี...
คุณเห็นผมมั้ย ผู้ชายนัยน์ตาสีสนิมเหล็ก
ที่คุณบอกราวสีอำพัน.....
 ผู้ชายอารมณ์ลึกล้ำ ช่างฝัน  ผันแปร
ที่ยากหยั่งถึงก้นบึ้งแห่งดวงใจ
ที่ขยันหยอกล้อพ้อใจ
พอใจเพียงรอ...ขอพรายยิ้ม แต้มอิ่มแก้มอุ่น
กรุ่นหอมหวานปานข้าวใหม่ของคุณเพียงนั้น...แค่นั้น
ก็สุขพลัน ก็สุขใจ..


ผู้ชาย คนนี้ที่คุณบอกว่า บางเวลานิ่งงัน
ราวแบกโลกฝันแปลกแยกแผกคิด..พิเศษพิสุทธิ์
มิเหมือนใคร เสมือนดั่งขุนเขาในเงาฝน
ท้าแดดลมบ่มพายุกล้าถาโถมมิหวั่นไหว หวาดกลัว


คุณ..บอกผมว่า
ใจผมคงลึกกว่าทะเลงามแห่งบ้านเกิด..ตรงหน้า
คงยิ่งกว่ามหาสมุทรสุดหยั่งถึง
เพราะทุกงาม..
ยาม..ผม..ตกอยู่ในภวังค์ฝันอันมหัศจรรย์ซึ้งเศร้า 
ยากนักที่ใครจะเข้าใจ ....


ในยามนั้น..ที่ตัวผมและใจผมพลัน
ราวตอกสลักลั่นดาล*บ้านภายใน*
แยกไกลห่างจากโลกภายนอกแบบกู่ไม่กลับ
มิมีใครสามารถได้ย่างกรายเข้ามาสัมผัสได้แม้เพียงผู้เดียว


จิตวิญญาณเหงาเปลี่ยวดวงสงบงามของผม
จะโผผินโบยบินไปกับปีกแห่งฝันเสรี
ไป..ณ..ที่แห่งหนึ่ง ...

ซึ่ง
ผมเพียงผู้เดียว...
จะชำนาญเที่ยวท่องล่องสู่ดินแดน.แห่งนี้
ที่แห่งความว่าง..
งามไร้...ราวทะเลเมฆ วิเวกสุขสงบเย็น
เร้นไร้ร่าง...ไร้ร้างผู้ใด..

ดวงใจ...
ในยามนั้น ผมเพียงเพียรเฝ้าอธิบายให้คุณได้เข้าถึง
จิตวิญญาณไพรเสรี ที่มีเพียง ความสงบเย็น
ไม่มีใคร ไม่มีคุณ ไม่มีเขา ไม่มีเรา
ไม่มีร่าง ไม่มีตัวตน
 เป็นกมลละไร้ สุขทุกข์
ไม่มี ไม่มี และไม่มี ทุกๆสิ่ง เลยที่รัก

ดวงใจ....
ผมมิสามารถ
จะพาคุณโบยบินไปกับผมในดินแดนแสนงามเย็นนี้ได้
หากคุณเองต้องใช้ความเพียรของคุณเอง..นะคนดี
แล้ว....
คงมีสักวัน 
ที่คุณจะได้สัมผัส
แดนดินแห่งรักนิรันดร์ฝันวาง ว่าง ร้างไร้ สงบงาม


คุณ..เพียงต้องใช้สมาธิ มีปัญญานำพาไป
เป็นหนทางใช่!ไกล...หากราวสถิตในกมลเราเอง


ที่แห่งสุดท้ายที่มวลมนุษย์มากมายมากมี 
เพียรพยายามตะเกียกตะกายไขว่คว้า
ต่างหลงผิดคิดกันว่าแสนไกลยากลำบากกว่าจะไปถึง
ซึ่งราวมีม่านกรรมบังตาพาบังใจ 
ไกลทางดับทุกข์ ทุกสรรพสิ่ง ให้ทิ้งทุกอย่างวางทุกเรื่องราว
เพราะเพียงวาง ว่าง ห่างแอกใจ
งามนั้นพลันจะบังเกิดกลางใจ
สว่างใสราวกระจกวิเศษเลยทีเดียว

 
แต่คนดี...นะวันนี้
ผม..มิโทษคุณ มิโทษใคร มิโทษใจตัวผมเอง
ที่ยังคงยอมปล่อย
ให้บทเพลงโลกย์โศกสุขทุกข์รุกล้ำมากล้ำกรายมาก้ำเกิน
*โลกภายใน บ้านภายใน*ที่ราวแก้วดวงใสสะอาดสว่างสงบเย็น..
มาพบเข็ญพบขมตรมเศร้าร้าวรานอีกครา...

.
บางทีเพราะผมรู้ดี...
โลกมอบบทเพลงนี้ ที่มีชื่อว่าบทเพรงกรรม..มาย้ำรอยวน
หมุนระทมให้ผมจำต้องดำรงร่างใจชดใช้
ราวรอเวลาหลุดพ้น บ่วงกมล บ่วงกรรม
แต่หนหลัง แต่ปางก่อน
ที่หมุนย้อนกลับมาอีกคราอีกภพอีกชาติ 
จนกว่าพิสวาทจะวาย คล้ายบททดสอบใจ


ดวงใจ..
ผม..จึงต้องพาใจมาไหวครวญหวนไห้ ราวคลื่นฝันรัญจวน
ครางครวญ ร่ำไห้ซัดทรายคลอฝั่ง ในคืนสิ้นหวาน ไร้หวัง
เหลียวหาฝั่งฝันฝั่งใจมิพบเจอ ราวละเมอรอจันทร์ในคืนเดือนดับ!


คนดี...
โลกของผมนับแต่นี้ จะมีก็เพียงเงียบงัน 
ในท่ามกลาง*ทะเลฝันพะงันงาม*
หว่างเราสอง..ผู้ครองเศร้า รานร้าว กับวันพรากจาก
ทันทีที่คุณก้าวเท้าลาจาก  ลาลับไกล   ลาลับไป...


จนกว่า..จะถึง วันที่
พระเบื้องบน จะเมตตาพาดวงใจผมให้เพียรหลุดพ้น
เพรงกรรม..โดยการรู้ทันใจ รู้ทำใจ รู้ดับไฟรัก 
หักสวาทขาดกันไปในภพนี้ชาตินี้
มิไหวหวั่นมิฝันเฝ้ารอเป็นนิรันดร์อันแสนว่างร้างไร้
ราวรอลมลมพร่างพรมระเหยหาย
คล้ายคือความว่างเปล่า ที่เป็นเงาตาม งามธรรมชาติสอนใจ
หากใจดวงดี ดวงงามคิดตามคิดเป็น...นะคนดีนะดวงใจ


คนดี...
ผม..ขับรถ กลับกระท่อมน้อย เหนือโค้งอ่าว
ที่คงเฝ้ารอคอยการกลับมาของผม
กับแสงตะวันลา อ้อยอิ่ง 
ที่วิ่งไล่ ตามหลังผมมา ราวปลอบประโลม..


แต่ทำไม..เล่า
น้ำตาเจ้ากรรมของผม..
จึง
ระรินหลั่งโหมโถมถั่งออกมาเต็มนัยน์ตาอย่างมิอายฟ้าดิน
ที่ราวสิ้นทุกสิ่ง  ไร้ทุกอย่าง..และ แสนอ้างว้าง ดายเดียว..


ดวงใจ..
ผม..ขับรถต่อไปไม่ได้ เมื่อนัยน์ตาซึมซึ้งถูกตรึงตรา
ด้วย ดวงดอกตะแบกเหว่ว้ารายเรียงสองฟากฝั่ง


ภาพที่ตรึงฝัน ตราใจผม ยามมีคุณเคียง
และคุณเคยขอให้ผมเบี่ยงรถหลบเข้าข้างทางใต้เงางาม
ใต้ร่มไม้ชายคาของดอกดวงม่วงละมุน..
ที่กำลังหมุนเกลียวกลีบบางเบาล้อสายลมเหงาเงียบระริน
ในยามค่ำร่ำสนธยา...


คนดี....
ภาพคุณงามละม่อมละมุน
ช่างหวานหอมกรุ่นในทรงจำนะกลางใจ
จากเลนซ์ใจ 
ที่ผมตั้งใจบันทึกภาพนางในฝัน
ไว้กลางก้นบึ้งซึ้งสุขซุกใจไม่มีวันเลือน


ภาพผู้หญิงผิวใสในเรียวหน้าแสนเศร้า
ที่ละออแดดอ่อนทอทอดราวทองทาบอาบงามราวนางไพร
กลางกลีบดอกไม้ไหวพรายร่ายฟ้อนอ้อนแสงสวยฉ่ำ..
ช่างงามเศร้าเร้าใจเร้าอารมณ์ผมเสียเหลือเกิน..
.........................


และ
คนดี..
ผมกำลังฝึกใจนี้ จิตใน ให้หยุดนิ่ง...
ทิ้ง..ฝัน..พราก 
ที่จากลาลับกลายกลับเป็นอดีตรักไปแล้ว


กมลดวงงามของผม
กำลังพร่ำบ่มเพียรสอนให้สงบสยบร้อน เร่า ในเศร้ารัก
ให้รู้ดับไฟรักทัน ผันผ่อน 
ให้ร้อนค่อยๆเพลาเย็นเหลือเพียงเป็นเถ้าฟอน
นำมาน้อมใจ ให้ราวมีน้ำใสระรินให้วาง ว่างมาแทนที่ 
มีแต่ปัจจุบันตรงหน้า
ที่มีแต่ฟ้า ฟ้า และฟ้า  ใกล้ค่ำ 
ราวกับดวงตะวันชีวี
ที่กำลังจะอำลาหล้าโลกทิ้งทั้งโศกสุขไว้...นะเบื้องหลัง


ตะวันรอนรอนอ่อนแสงพราย
ราวเรียวรุ้งห่มพร่างกลางทะเลเมฆ
เสกเวทีธรรมชาติวาดเวิ้งฝันอันยิ่งใหญ่
ให้มวลมนุษย์หยุดแหงนเงยดู
ได้สัมผัสงาม ในยามนี้..


ให้เราพร้อมพลียอมรับ
ราวธุลีที่จะปลิดปลิวปนไปในพื้นพสุธา
มินาทีใดก็นาทีหนึ่ง อย่าพึงประมาท..
จงวาดหวังใจพร้อมยอมรับ
ยามตะวันแห่งชีวีใกล้จะลาลับดับดวง


คนดี.
เพราะโลกนี้ราวละคร 
ทุกฉากตอน ร้อยรัดรึงให้ตรึงใจเพียงขณะ
ใช่ยาวยืน ฝืนชะตากรรมได้ ...


แค่มาหมุนสอน
ให้เราเพียรสร้างกรรมดี หนีทุกข์ในทุกสรรพสิ่ง
นิ่งและรำงับ ไม่หวังติดค้างใจ
ติดค้างใครเป็นหนี้กรรมหนี้ใจไปทุกภพชาติ
วนเวียนเวียนวนมิพ้นกฏแห่งกรรม..
จำต้องย่ำรอยเดิมเพิ่มมิรู้จักจบสิ้น..ในสายถวิลเหว่ว้า..


คนดี..
และนาทีนี้
น้ำตาผมหยุดไหล
พร้อมกับใจผมก็สว่างพราว
ราวมีดวงแก้ววิเศษส่องสว่างนำทางใจ
ไปชั่วกาลกัปป์ และ..
จักสถิตในจิตวิญญาณตราบนานเนาเป็นรักนิรันดร์..
..................


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=975
อัน แสงจันทร์ ส่องประจำ ยามราตรี
อัน ความรัก ร้อนเร่า เผา ฤดี
ส่อง ชีวี ทุกโมงยาม ประจำใจ
มีรักแล้ว ไม่คลาดแคล้ว ต้องตรมฤทัย
เหมือน แบกโลก ทั้งโลกไว้ ให้โศกหนัก
ไม่อยากให้ โลกนี้ มีความรัก
แต่ฉัน สมัคร แบกรักไว้ ไม่หนักเลย
มีรักแล้ว ไม่คลาดแคล้ว ต้องตรมฤทัย
เหมือน แบกโลก ทั้งโลกไว้ ให้โศกหนัก
ไม่อยากให้ โลกนี้ มีความรัก
แต่ฉัน สมัคร แบกรักไว้
ไม่หนักเลย...				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    11 พฤษภาคม 2547 23:34 น. - comment id 266114

    บางครั้งก็อยากให้เป็นเช่นนั้นค่ะ ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก .. เพราะรักจึงทุกข์เช่นนี้
    
    แต่ถ้าคิดกลับกัน 
    รักจะไม่ทำให้เกิดทุกข์เช่นนี้ เพราะความลวงต่างหาก ที่ทำให้ทุกข์
  • พุดพัดชา

    11 พฤษภาคม 2547 23:43 น. - comment id 266117

    พุดพัดชา
    รจนาเรื่องนี้มิใช่จะให้ทุกคนหนีรักนะคะ
    เพียงอยากฝากใจในงานฝันว่า
    ความรักสมหวังจะสรรสร้างโลกค่ะและ
    หากรักไม่สมหวัง
    ก็จงอย่าหมดพลังใจ
    ให้คิดใหม่ในแนวรักเย็นเห็นงาม
    เพียรพยายามใช้ธรรมะ
    มาปลอบประโลมใจ
    ทำใจให้รู้หยุดทุกข์นะคะ
    และไม่มีอะไรดีกว่า
    หยุดคิด..ค่ะ
    หยุดคิดได้ก็วางได้ 
    คล้ายนิพพานก็อยู่ที่ใจเรานี่เอง
    ไม่ต้องหาคำมาลำบาก..ฟังค่ะ
    
    ด้วยรักล้นใจ
  • เบนนี่

    12 พฤษภาคม 2547 00:15 น. - comment id 266130

    โห. . . กว่าเราจะอ่านจบเมื่อยเลย อ่ะ....
    ที่ใดมีรัก ที่มีทุกข์
    แต่การทุกข์เพราะรักดีกว่าทุกข์เพราะเกลียดนะจ้ะ..........
  • ***กฤษณะ***

    12 พฤษภาคม 2547 08:52 น. - comment id 266176

    ^J^    ..................
    
      .......รัก..เป็นเรื่องแปลก สร้างสรรก็ได้ ทำลายก็ได้......
    
    
  • พุด..พัดช้า

    12 พฤษภาคม 2547 09:06 น. - comment id 266178

    นิยามรักฉันหรือคือจุดจบ! 
    
    นิยามรักของฉันหรือคือจุดจบ
    คือการลบจากใจไม่ใฝ่หา
    หากไม่รักไม่ทุกข์ท้อทรมา
    กับคำว่าพลัดพรากต้องจากไกล...
    
    รักคือนิยามความทุกข์ใช่ไหมเล่า
    คือห้วงหาวห้วงเหวให้หวั่นไหว
    รักคือนิยามมายาลวงหลอนใจ
    ให้ดวงใจคนในโลกโศกระทม..
    
    นิยามรักของฉันหรือคือจุดจบ
    มิใช่การค้นพบให้ขื่นขม
    รักของฉันรอเวลาลบช้ำตรม
    เลิกระทม..รอเงียบงาม ว่างเปล่ามาแทนใจ!
    
    
  • พุด..พัดชา..

    12 พฤษภาคม 2547 09:11 น. - comment id 266180

    
    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_33235.php
     
    หยุดคิด เสียทีดีไหมเธอ    
    
    
    ค่ำคืนนี้ จันทร์ครึ่งดวง ลอยเอียง เคียงคู่ฟ้า ยามราตรี 
    แสงจันทรา นวลละออ ทอแสง ขับความมืดหม่น บนผืนฟ้า 
    อากาศ....ร้อน...อบอ้าว ไร้ลมรำเพย 
    แต่...ใจดวง..กลับสงบงาม นิ่งฉ่ำเย็น อย่างน่าแปลก 
    จันทร์ครึ่งซีก กำลังสอนใจ ใครบ้างล่ะหนอ.....ที่กำลังอยากแบ่งปันฝันฝากใจไปกับ 
    มวลหมู่ดาราบนฟ้ากว้าง......... 
    
    จันทร์ครึ่งซีก รอวัน....บานเต็มดวง......เหมือนทุกดวงใจ รอบานเบิก ดังบัวในบึงกว้าง 
    ที่รอบาน..หวานแย้ม...รับแสงอาทิตย์อุทัย และ ดังใจเราที่รอแสงธรรม แสงทอง ส่องใจ 
    ให้หยดน้ำค้างบนใบบัวและหยดน้ำตาในใจเรา มลายหายไปกับแสงอรุณรุ่ง...เพื่อชีวิตนี้ 
    ที่มิมีวันมอดสิ้นหวัง ขอแค่เพียงเติมต่อ คิดดี ทำดี มีรัก ใช่ไหมเล่าเธอ....... 
    
    จันทร์กระจ่างฟ้า กระจ่างใจ สว่างไสว เปรียบดังยามใจเราเป็นสุข ยามเราทุกข์ ดังจันทร์แรม 
    รักก็แรมร้างลา พาใจให้มืดหมองหม่น..... 
    ธรรมชาติของจันทรา และดารางาม หมุนเวียนเปลี่ยนผัน กำลังสอนใจเรา ให้ยอมรับความจริงแท้ 
    แน่นอน....นะดวงใจ 
    
    ดวง....หยิบหนังสือ บนหัวนอน เพื่อนคู่ยากหลากหลายเล่ม
    ก้าวรักในรอยจำ..A  WALK TO REMEMBER
    หอมกลิ่นภูเขา..ของสร้อยแก้ว คำมาลา
    ไร้พรมแดน...ของลาวคำหอม
    และโลกสีน้ำเงิน ของอัศศิริ มาประโลมใจไปกับคืนค่ำนี้ ที่จันทราท้าแสงนวล 
    โลมไล้หมองหม่น บนฟากฟ้า..... 
    แลลอดผ่านหน้าต่างบานกว้าง ผ่านใบจำปี กวัดไกว ไหวลม แสงทองอาบส่องยอดไม้มา 
    เยือนแย้มยิ้มอยู่ ภายในใจ ดวงงามยามนี้ ให้ใสงาม ฉ่ำเย็น.... 
    แสงจันทร์อาบกายให้แสนหวานละมุน และดวงกำลังหยิบ หนังสือของ..หลวงพ่อเทียน... 
    ที่ดังแสงเทียน แสงทอง ส่องสว่าง อาบเส้นทางใจ ให้แสนสงบงาม ไปตามกัน..... 
    แสงจันทร์...แสงธรรม..แสงเทียน กำลังหลอมละลายให้ดวงนอนหลับฝันดี ในราตรีนี้ 
    ที่เราทุกคนมีสิทธิ์ เลือกอบร่ำ พร่ำบ่มใจ เพื่อเอิบงาม ได้เท่าเทียมกัน..... 
    
    คิด.....ไปทำไมเล่า..คนเรานั้นคิดอยู่เสมอ เหมือนดังกระแสน้ำ การหลงติดกับความคิด ก็เหมือนกับ 
    การตักน้ำมาเก็บไว้ แต่ถ้ามีสติรู้เท่าทันความคิดนั้นๆ ก็เหมือนน้ำไหลมา แล้วก็ผ่านไป... 
    การหลงติดในความคิด ทำให้เกิดทุกข์......... 
    หยุด... ให้เป็น..ทันที ที่คิด จับดวงจิตที่คิดเพ้อให้หยุด..ให้ทัน..ท่วงที มีมีสานต่อ ก่อตรมระทมทุกข์ 
    โอ้ดวงใจ.....คนดี...ไม่ว่ายามนี้ อยู่หนใด คิดดี คิดร้าย คิดหมาย คิดมั่น คิดฝัน คิดปอง คิดอยากลอง 
    คิดอยากเล่น คิด......คิด....คิด....จะตาย จะเป็น ใครเล่ารู้.....นอกจากใจเราดวงนี้ที่ทุกข์ทน...เกินทาน. 
    ดวง....ขอวอน...ด้วยใจดวงนี้ ที่พลีให้ เพื่อนร่วมโลก ลดโศกเศร้า รานร้าวฤดี 
    ด้วยค่ำคืนนี้ ที่แสนงาม ผ่านจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า ทุกคราครั้งที่นั่งมองนะคนดี ที่แสนรัก.......
     
     
     
     >
    
  • รัก

    12 พฤษภาคม 2547 12:08 น. - comment id 266249

    ตอนเด็ก ๆ เคยคิดว่า ...ทำไมคนเราจึงมีความรัก  ..ทำไมคนเราถึงมีครอบครัว แต่งงาน มีลูกหลานเป็นขบวน.....
    พออายุย่างเข้าสู่วัยฝัน สิบห้าสิบหกปี...ก็ให้เคลิบเคลิ้มกับความรักอันงดงามในนวนิยายโรแมนติก...คิดว่า มันช่างหวาน..อะไรประมาณนั้น ความรักเป็นแบบไหนหนอ..ความรักแบบในนิยายมีไหมหนอ...สงสัยเหลือเกิน  รักนิรันดร์ที่เขาพูดกันมันเป็นยังไง
    
    ..จนเวลาผ่านไปเกือบหกปี...ก็ได้สัมผัสกับความรักแบบที่คิดว่า  มันคงงดงามดีเนาะ....
    แต่พอไปๆมามา กลับรู้สึกว่า ทำไมเมื่อมีความรัก มันไม่ยักจะปลอดโปร่งเบาสบาย ทำไมต้องมีห่วง มีกังวล มีอะไรมากมาย เดี๋ยวเสียใจ  เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวหัวเราะ  เหมือนกับคนเสียจริตเลยทีเดียว....ก็เลยตัดสินใจเดินออกมาดีกว่า....เพราะนี่ไม่ใช่สุขที่เราแสวงหา  เราอยากหาสุขที่มันถาวร ไม่ใช่เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์แบบนั้น....
    
    มาวันนี้มีความสุขที่สุด  ที่มีความรัก แต่ไม่ใช่ความรักในรูปนั้น ไม่ใช่ความรักที่เคยเป็น เคยมี  แต่เป็นความรักที่มีต่อสรรพชีวิตเสมอกับรักตัวเรา  แล้วเราก็รู้ว่า ความรักเช่นนี้มันช่างวิเศษเกินบรรยายจริง ๆ 
    ตอนที่อ่านประวัตฺพระพุทธเจ้า เรานึกว่า   พระพุทธเจ้าตอนที่ท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์ ท่านสละลูกเมีย อวัยวะ เพื่อบำเพ็ญบารมี พระเมตตาท่านมหาศาลจริงๆ  ความรักแบบนั้น เป็นความรักแบบไหนกัน  คงเป็นความรักแบบพรหมวิหาร 4...  แม้แต่เพียงเศษเสี้ยวที่ได้สัมผัส ...สุดจะพรรณนา ...หลังจากนั้นเราก็บอกกับตัวเองว่า...ใครจะมาชักจูงเราไปรักอย่างอื่นเราไม่ขอละ เราจะมีความรักแบบนี้ไปจนตายเลย....
    
    ......ชอบที่พุดเขียนมาก เพราะพุดกำลังบอกถึงความรักแบบพรหมวิหาร 4  ที่ใจพุดกำลังสัมผัสอยู่^___^
    
  • อัณณพ

    12 พฤษภาคม 2547 13:02 น. - comment id 266284

    มีความหมายดีมากค่ะ แวะมาทักทาย
    
    กลอนไพเราะมาก
  • พุด..พัดช้า

    12 พฤษภาคม 2547 15:29 น. - comment id 266330

    ขอบคุณและซึ้งใจในทุกความเห็นนะคะ
    เริ่มจาก..
    อิมคะ..
    ใช่แล้วมนุษย์ในโลกนี้นับพันล้าน
    มีรักหลายหลากรสค่ะหลายรูปแบบ
    แต่จะลงเอยจริงๆคือรักแท้และรักเทียม
    และทุกรักทุกข์รักค่ะ..เพียงนั้น
    พี่พุด...
    จริงใจใจจริงเป็นคนค่อนข้างโรแมนติก
    ช่างฝัน และบูชาความรักและมีความสุข
    ในทุกข์..รักค่ะ
    แต่..เมื่อร้าวใจมากเข้ามากขึ้น
    ทุกทีๆ..ทั้งๆที่ไม่เข็ดขยาด
    ก็จำต้อง..
    หันหลังชนฝาพาตัวเอง
    ให้เพียรค้นหาทางออก ด้วยตัวเอง 
    ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดี
    ที่ยังคิดจะหาทางหลุดพ้นค่ะ
    เพราะ..
    พี่พุด..อยากพบเจอความรักที่จริงแท้สักครั้ง
    ที่จะทำให้พุดรู้ว่ามันเป็นเช่นไร
    แบบทั้งใจและร่างมาเสมอกันนะคะ
    สอดประสานกันได้ลงตัวแบบพอดิบพอดี
    แต่...
    ไม่มีวันพบเจอเลยค่ะ
    เพราะพี่พุดคิดว่า
    สำหรับพี่พุด
    หากมีความรักแท้ประดับใจ
    คงมีพลังใจที่จะทำอะไรที่สรรสร้าง
    ได้ยิ่งใหญ่อีกเยอะเลยค่ะ
    ด้วยจริงใจนะคะ
    
    เบนนี่..ที่รัก
    ดีใจจังค่ะ
    ที่ยังเข้ามาให้น้ำใจรักพี่พุด
    พยายามอ่านงานยาวย้วยจนจบนะคะ
    ซึ้งใจที่สุดค่ะ..
    
    กฤษณะ..
    พุด..ดีใจที่คุณไม่หายไป
    แปลกดีนะที่พุดอบอุ่นใจจังเมื่อเห็นคุณ
    อยู่กับเราที่นี่..ร่มรักเรือนไทย
    ไม่หายไปไหน..นาน..อีกค่ะ
    
    รัก...
    ยังเด็กนักนะคะ
    ทำไมบรรลุเร็วดีจัง
    พุดพัดชายังไม่ถึงไหนค่ะ
    จริงๆ
    ดีใจที่..หยุดรักได้..ค่ะ
    
    อัณณพ..
    พุดจะตามอ่านงานนะคะคนดี
    รักและขอบคุณที่ตามงานมาตลอดนะคะ
    และเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงใจดวงร้าว
    ได้มีแรงระบายรจนา
    ที่ชักล้าและอ่อนแรงลงทุกทีทุกวันแล้วค่ะ
    คงไม่นานวันที่พุดพัดชาจะอิ่มเต็มและลาจอค่ะ
    รีบๆรักพุดนะคะ
    จริงค่ะ
  • แก้วประเสริฐ รหัส 6104

    12 พฤษภาคม 2547 15:39 น. - comment id 266345

    รักแล้วคือทุกข์
    ละทุกข์ก็เกิดรัก
    รักนั้นซ่าส์มากนัก
    หนักรักจึงมักทุกข์
                            
                            แก้วประเสริฐ.
    
  • ปลาวาฬสีน้ำเงิน

    12 พฤษภาคม 2547 15:40 น. - comment id 266350

    ปลาวาฬว่างดงาม และความหมายดีมากมายค่ะ
  • ผู้หญิงไร้เงา

    12 พฤษภาคม 2547 17:35 น. - comment id 266481

    เห็นด้วยกับคุณกฤษณะค่ะ  รักเป็นเรื่องแปลก  สร้างสรรค์ก็ได้ทำลายก็ได้ แถมความรักยังไม่มีตัวตน แต่คนก็ต้องการสัมผัสกันทุกคนอีกตั้งหากค่ะ  เขียนได้ดีนะค่ะ
  • อาภาภัส

    12 พฤษภาคม 2547 18:01 น. - comment id 266522

    คุณพุด เขียนได้ยาวดืค่ะ
    เวลา กับความรัก  จะช่วยสร้างสิ่งดีค่ะ
  • ชัยชนะ

    12 พฤษภาคม 2547 19:18 น. - comment id 266547

    ปากกับใจ ตรงกันหรือเปล่า ชื่อหัวข้อทะแม่ง ๆอย่างไรชอบกลครับ
    
    ผมอ่านดูก็เห็นพระเอกในเรื่องคร่ำครวญถึงหญิงอันเป็นที่รักไปตลอดทาง
    
    หรือว่ามีรักแล้วต้องเศร้าจึงไม่อยากให้โลกนี้มีรัก
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน