วิมานไม้ไผ่!

พุด


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=82
...........
คนดีครับ...
ผมตื่นขึ้นมาตอนตีสี่
ในขณะที่..
ราตรียังประดับดาวพราวระยิบ
เต็มอ้อมฟ้าเต็มอ้อมฝันสวรรค์สรวง
ผมค่อยๆเดินออกมารับเหว่ว้า ดายเดียว
ดูจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า
ดูสกาวดาวหยาดนวล หวานพร่าง นอกชานกระท่อม
ดูจันทร์ดวงอ้างว้างวาดเวิ้งโค้งหงายคล้ายรอรับฉ่ำทุกค่ำคืน
ให้เติมเต็มดวง
ให้เติมเต็มฝัน
ให้เติมใจจันทร์
ให้อิ่มงามหวานบานแย้มพอกัน
ไปกับราตรีจันทร์ราตรีใจ
ที่มวลมนุษย์ในหล้าโลกได้ฝากสุขฝากโศก
ฝากใจกับจันทร์ฝากฝันกับดาว
ในทุกคราคราวหากยังมีคะนึงถึงกัน
แม้จะห่างฝันห่างใจไกลกันคนละเกินครึ่งฟ้า...


ผม..เดินตามกลิ่นละมุนสะพรั่งหวานผสานผสม
ของเกสรดอกไม้ป่าดอกไม้ไพรดอกไม้ไทย
ที่กำลังค่อยค่อยผลิดอก
ค่อยค่อยคลี่กลีบบางบางบานแย้ม
อวดอรชรออดอ้อนสายลมสดฉ่ำในยามเช้า
พร่างสายพรมห่มหอมไปทั่วทั้งราวไพรราวป่า
ราวแข่งกันยวนยั่วภมรมากมาย
ที่กรายว่อนร่อนภิรมย์ดมดูดดื่ม..คลึงเคล้า


น้ำตาดาวพราวหยด
เป็นหยาดละออน้ำค้างพร่างระริน
กลางใบไพรพฤกษานานาพรรณ
ระรินฝันราวหยาดฝน
ราวดนตรีธารในงามเงียบเฉียบเย็น


เสียงน้ำตกไหลซู่ซัดเซาะซอกหิน เบื้องล่างหว่างหุบผา
ผ่านไพรรก โตรกธาร 
เป็นละหารห้วยใสฟังราวเสียงดนตรีไพรไพเราะ
เสนาะราวเสียงดนตรีจากหอมห้วงฝันสวรรค์สรวง
ราวเสียงห้องหัวใจกระซิบรัก กระซิบรอ...


ผมคิดถึงคุณ...มิใช่กรุ่นด้วยไฟเสน่หา
หากทุกคราที่ผมพบงามเงียบ 
ตามติดเลาะเลียบซอนเซาะมาซุกไซร้
นะก้นบึ้งซึ้งสุขใจ 
หัวใจผมอดจะหวามไหว ไม่ได้
คล้ายแค่อยากเพียงขอให้คุณมาชิดใกล้
ให้จิตวิญญาณได้รับรินรสงาม
ที่ราวเรามีหัวใจดวงเดียวกัน เป็นนิรันดร์รัก..


คนดี..
ผมถอดรองเท้า
เดินย่ำพราวบนผืนหญ้าหน้ากระท่อมทับ
ลืมไปว่าน้ำค้างแรง 
แฝงมากับสายหมอกที่กำลังพร่างหยอกล้อ
เหลี่ยมเขาลี้ลับสัมผัสทายทักผาสูงแห่งมหัศจรรย์ไพร
ยะเยือกมากับสายลมเย็น
ที่ไหวรินร่ำพร่ำหอมฝันหอมงาม
ราวฉากในจินตนาการ
อันตระการไปด้วยดวงดอกกล้วยไม้ไพร
ที่กำลังระริกไหวไกวเกสร
รับละอองทองอันอ่อนอุ่นของดวงตะวัน
ที่กำลังผันดวง
หมุนคืนกลับมารับขวัญโลกลบรอยโศก
เติมพลังให้มวลมนุษย์เริ่มต้นใหม่อีกคราครั้ง
ที่รอหวังหวาน
และขอพานพบโชคดีอีกวันและอีกวันมิมีวันสิ้นสุด
หยุดหมุนโลกหยุดหมุนใจ..
ดำรงไปตามกฏเกณฑ์ธรรมชาติ


และ
นะบัดนี้
บึงบัว..ด้านขวากระท่อมไพรกระท่อมใบไม้ 
ที่ผมใช้เวลานับปี
ถึงได้บัวหลากสีหลากพรรณดั่งใจ
ให้หอมงามประหลาดใสพิเศษพิสุทธิ์นี้มาบานชูช่อไสว
ในกลางหุบไพรพะงัน


และ
คนดี..
คุณก็รู้นี่นาว่าผมชอบบัว บัวและบัว
ที่ชูช่อรอภมรร่อนภิรมย์โถมถาพากันมา
คลุกเคล้าหยาดหวานผ่านละอองเกสรพร่างงาม
เกสรบัวบาน
ที่ทำให้ประหนึ่งผมรับรสทิพย์ราวสถิตอยู่ในวิมานบัวทุกครา


อุษาราตรีนี้ 
ในยามที่เดือนต่ำดาวตกวิหคไพรพากันร้องก้องกู่
ดุเหว่าร้องหาคู่แว่วหวานรินผ่านมากับฟ้ากว้าง
ผมค่อยๆวาดเรือมาดลำน้อยพายคล้อยมารับตระการดาว
รับพราวหอมเกสรบัวบานกลางบึง


รับอรุณรุ่ง 
ราวรุ้งหลากสีแตกพรายให้มาหมายชม..
ท่ามวิมานบัว พร่าง ลำพัง 
ที่พากันชูช่อชันโผล่พ้นน้ำ
ผมค่อยๆราพาย 
และคล้ายๆได้ยินมนต์เพลงกล่อมทุ่ง
ของนักร้องลูกทุ่งอมตะ..
บทเพลงบัวตูมบัวบาน
หวานวะแว่วแผ่วพลิ้วมา
กับลมไพรลมอรุณอุ่นเบิกฟ้ายามอุษาสาง
ที่ฟ้ากำลังระเรื่อราง
พร่างแสงสีส้มอมทองผ่องพิลาศพิไลรำไรรำไร


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=1504
บัวตูมบัวบาน ไก่แจ้ โต้ง อนุศักดิ์ : : Key Em 
ลงเรือน้อยลอยวน
ในสายชลห้วยละหาน
มีทั้งบัวตูมบัวบาน
ดอกใบไหวก้านงามตา
เมื่อลมพัดมาชื่นใจ
ผึ้งตอมหอมบินดมกลิ่นบัว
ซ่อนตัวรำพันฝันใฝ่
เหมือนดนตรีชะโลมกล่อมใจ
ฟังยิ่งฟังไป รุมเร้าฤทัยลำพอง
ปองจะเด็ดบัวบาน
ครวญคิดนานหวั่นเจ้าของ
ใจหมายดึงโน้มโลมรอง
หากบัวไม่มีเจ้าของ
จะชมทั้งสองปทุม
เอื้อมมือหมายดึงเพียงดอกบาน
ก็เกรงสะท้านถึงก้านดอกตูม
แสนเสียดายเหมือนชายหมดภูมิ
จะเด็ดดอกตูม
ยังนึกเสียดายดอกบาน
เรือเร็วไปหน่อยค่อยค่อยทวน
บัวหอมชวนอกสะท้าน
งามทั้งบัวตูมบัวบาน
เทพไททุกแดนพิมาน
ประทานสมดังตั้งใจ
เอื้อมมือหมายดึงดอกตูมก่อน
ดอกบานก็ค้อนแสนงอนไปใย
จะเด็ดดอกบาน
ดอกตูมก็สั่นแกว่งไกว
จะเด็ดดอกไหน
กันหนอบัวตูมบัวบาน
จะเด็ดทีเดียวเสียทั้งคู่
ครวญคิดดูอยู่ไม่นาน
พอดอกตูมแย้มตระการ
ดอกบานก็คงแห้งโหย
กลีบราร่วงโรยน่าชัง
ต้องลาแล้วหนอบัวช่องาม
บาปเคราะห์และกรรมประดัง
แล้วจ้ำเรือน้อยค่อยเข้าฝั่ง
ไม่ยอมกลับหลัง
หมดหวังทั้งตูมทั้งบาน
จะเด็ดทีเดียวเสียทั้งคู่
ครวญคิดดูอยู่ไม่นาน
พอดอกตูมแย้มตระการ
ดอกบานก็คงแห้งโหย
กลีบราร่วงโรยน่าชัง
ต้องลาแล้วหนอบัวช่องาม
บาปเคราะห์และกรรมประดัง
แล้วจ้ำเรือน้อยค่อยเข้าฝั่ง
ไม่ยอมกลับหลัง
หมดหวังทั้งตูมทั้งบาน...


คนดี..
ผมนอนนิ่ง กลางลำเรือ 
ทิ้งใจในเงาฝันรับซึ้งช่านหวานเศร้ากับนาทีนี้
ที่ใครใครคงพากันอยากจะสัมผัสไขว่คว้า..ให้ได้มาให้ได้มี
และ
นะนาทีนั้น
พลันน้ำตาผมก็ปราดปริ่มเต็มเรียวตา
ผมคิดถึงวงหน้าละอออ่อนของคุณ
และหวานกรุ่นแห่งถ้อยน้ำคำ
ที่รินร่ำฝากรักฝากภักดิ์พลี
ให้ผมพิงพักใจ ยามไหวอ่อนรอนแรงพลังใจ
รินหวานหยาดใสด้วยน้ำใจงามมากเมตตา
หวังหว่านหวังให้พลังกมลผมเสมอมา


คนดี...
ผมอยากกระซิบถึงคุณ 
ผ่านขุนเขา เงาฝนเงาฝันจันทร์สล้าง
ฟากฟ้ากว้าง ทางช้างเผือก ทะเลไกล มาถึงดวงใจคุณ
ให้รับรู้ว่า
วิมานไพร วิมานไม้ไผ่  วิมานใบไม้
ที่คุณวาดฝันไว้ให้ผมสานฝันนั้น
ในวันนี้..นะวันนี้ ฝันทุกสิ่งเป็นจริงแล้ว..

 
ผมจึงได้แต่รอรอและรอคุณด้วยหวัง
ให้คุณกลับมาดูกระท่อมไม้ไผ่วิมานใบไม้
ที่คุณได้ใช้ใจดวงใสแสนงาม
ด้วยจิตวิญญาณแสนรักไพรของคุณออกแบบ

.
ที่คุณกระซิบบอกผม..ให้ใช้ไม้ไผ่ 
เสน่ห์และหัวใจ
ของความเป็นจิตวิญญาณตะวันออก
มาสร้างสานผ่านภูมิปัญญาไทยช่างพื้นถิ่น
สะท้อนบอกถึงความสมถะงามง่ายชิดใกล้ธรรมชาติ


ให้ผมใช้ดินแดงดินภูเขาผสมกับปูนฉาบกลายเป็นผนังหวาน
ชมพูอมส้ม  ที่คงทน และแสนงาม
มีชานรายรอบรับหลังคาคล้ายกระโจมดอกเห็ด
มุงด้วยจากที่เย็บจากทางมะพร้าวฝีมือละเอียดละเมียดละไม
ห้องทั้งห้องโล่งโปร่งสบาย
โครงหลังคามีลักษณะคล้ายรัศมี
แผ่เป็นเส้นสายลีลาทำให้น่าสนใจ
ใช้โต๊ะ เก้าอี้และเตียงไม้ไผ่เสากลมทั้งต้น
หน้าต่างเป็นบานกระทุ้งแบบเก่า
ที่ช่างย้อนเงางามในอดีตเสียนี่กระไร


และ
ผมได้สร้างอ่างอาบน้ำ
แบบก่อโดยผสมปูนกับดินแดงฉาบมัน
แต่ทิ้งทีเกรียงกันไถลลื่น
เพื่อให้พื้นผิวไม่เรียบจนเกินไป
ขอบอ่างใช้ใบไม้จริงกดลงบนผิวปูน


ขณะยังเปียกให้เป็นลวดลายธรรมชาติ
และปล่อยให้กิ่งไม้จริง
ทาบทิ้งลงมาเล่นแสงเงา
ผมเพียรปลูกไม้น้ำไม้ไทยดอกหอม
หวังยามคุณเล่นน้ำ
จะหอมพร่างงามรื่นรมย์
ให้คุณได้ดอมดมพรมจูบไปด้วย
หรือจะเด็ดดวงพวงดอกไม้สยายกลีบ
ให้ล้อสายน้ำเคลียคลอโลมไล้ร่างคุณที่
แสนสล้างท่ามกลางสายแสงจันทร์..

 
คนดี..และ
นี่คือวิมานไม้ไผ่วิมานใบไม้
ที่ผมสร้างไว้อย่างที่คุณได้วาดฝัน
ผมเพียงรอวันให้คุณคืนหลังกลับมา กล้าตัดสินใจ
ทิ้งชีวิตในกรุงกรง ที่คุณหลงอาศัยนานปีราวปลาผิดน้ำ
และพาให้น้ำหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณไพรชักแห้งเหือดเข้าทุกทีๆ


คนดี..
กลับมาเถอะนะ 
กลับมาบ้านวิมานไม้ไผ่ของเรา
ตัดสินใจเถอะนะทิ้งทุกสิ่งทิ้งน้ำคำน้ำใจใคร
น้ำใจคนที่กลมกลิ้งกลอกหลอก
ด้วยลมลวงราวน้ำค้างพร่างพรมใบบัวยามดึกพร่างพฤกษ์ไพร
ที่หลอกให้ดวงใจใสหวานของคุณละเมอเพ้อหา
และพานพบว่า
พอยามสายได้แดดก็มลายสลายลาลับหายวับไป
เหมือนดั่งใจคนที่หมุนวน
ที่ยังสับสน แสวงหาและว้าเหว่
ด้วยความกลัว ด้วยความรักตัวเอง
เกรงจะต้องเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ


คนดี..
ผมจะพาคุณ ไปสู่ฝั่งฝัน นิรันดร์รัก 
ที่สงบงาม นิยามรักแบบเหนือโลก
เหนือร่าง ห่างวกวน กับผู้คนมายา
มิทิ้งคุณให้ลอยคาโศกในทะเลโลกย์เพียงลำพัง 
แล้วหันหลังหนีเอาตัวรอดเพียงผู้เดียว


คนดี..
ผมจะเป็นมิ่งมิตรแนบสนิทใจ
พาคุณท่องล่องไปในสายธารธรรมธารา
ที่ฉ่ำเย็น ดั่งสายน้ำสีทองลอยล่อง
ไปสู่ความว่าง ความงาม ความสะอาดสงบ
มิพบทั้งทุกข์และสุขเศร้าเหงาลำเค็ญ
 เป็นดั่งกัลยาณมิตรมากน้ำจิตน้ำใจนะ
และ


คนดี..
ด้วยใจดวงงามดวงดีของคุณที่เคยบริจาคทาน
แผ้วเส้นทางสู่วัดสำนักวิปัสสนา
นะวันนี้ ผมขอย้ำอีกทีนะคนดี
ว่าเส้นทางธรรมนี้พลีรอร่าง
และจิตวิญญาณคุณให้คืนกลับมา
พาตัวคุณเองไปสู่ทางวิมุติ..
ทางแห่งการหลุดพ้นทุกข์ทุกรัก..


หากเพียงคุณตัดใจ..ลา..ทุกสรรพสิ่ง
วิ่งหนีโลกย์วนวงรอยกรรม..
และเพียรเพียงให้คุณพร่ำภาวนาบอกตัวเองว่า


รักใดในโลกนี้ 
ก็มิมีวันสิ้นสุดหยุดทุกข์ได้
และพานพาให้เกิดบ่วงรัดร้อยเป็นดั่งสร้อยโซ่กรรมซ้ำๆ
ไม่รู้จักสักกี่ภพกี่ชาติกี่พิสวาทวาย
กี่ตายกี่เวียนว่ายทุรนร้อนร่าง
กลางทะเลโลกย์ทะเลโศกทะเลน้ำตา ให้ชดใช้


จนกว่า...
โลกนี้จะดับสลาย มลายหายว่างไปเป็นนิรันดร์
				
comments powered by Disqus
  • เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ

    24 พฤษภาคม 2547 15:31 น. - comment id 273572

    กลอนหวานซะ  น่าอิจฉาจัง
    อยากให้มีคนทำเพื่อเราแบบนี้จังเลย!
    แวะมาเป็นกำลังใจ+ทักทายค่ะ
  • เมกกะ

    24 พฤษภาคม 2547 19:48 น. - comment id 273684

    ในวันที่ฉันมีเธอเคียงข้าง 
    ไม่เคยรู้สึกอ้างว้างอย่างนี้ 
    อบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ทุกนาที 
    แต่วันนี้ไม่มีแม้สิ่งใด 
    เธอจะได้ยินไหมคนดี 
    ว่าคนเหงาคนนี้กำลังหวั่นไหว 
    กลับมาสิก่อนที่น้ำตาจะล้นใจ 
    เพราะรักใช่ไหมจึงทำให้.... 
    ....ไม่อยากขาดเธอ
    
    คิคิ  กว่าจะอ่านจบใช้เวลาตั้ง  5 นาทีแนะ  คิคิ  แต่ก็ไม่
    หวังเลยครับ  เขียนได้ดีจริง ๆ อ่ะ  ยังงี้มีอีกก็อ่านอีกครับ
  • ราชิกา

    24 พฤษภาคม 2547 20:12 น. - comment id 273708

    ความงามเกินจะบรรยาย..คุณพุด..ได้รังสรรค์ออกมาอย่างไม่มีที่ติ...เป็นเอกลักษณ์..ที่เป็นของตัวเอง...งามแบบ...พุดพัดชา.....
    
    ด้วยรักและคิดถึงค่ะ.....
    
  • ***กฤษณะ***

    24 พฤษภาคม 2547 21:02 น. - comment id 273737

    ^J^     ..................
    
    ......เฮ้อ...!!!...คนดีอยู่ไหน...?...............
    รีบ ๆ มาสานฝันวิมานไม้ไผ่ให้พุดคนดี...ที่แสนจะ
    โรแมนติก............ฯ
    
    
  • พันดาว

    24 พฤษภาคม 2547 21:52 น. - comment id 273768

    บัวน้อย ...      ผลิบาน
    กลีบบาง...      อ่อนไหว
    ชูช่อ...            แกว่งไกว
    พริวไหว         ในใจ ใครบางคน
    -------
    บัวงาม ตามความรู้สึกของผู้มอง...
  • พันดาว

    24 พฤษภาคม 2547 22:04 น. - comment id 273777

    งานสุดท้าย  อ่านแล้วใจหายใจเลย ....
    เหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างที่มีค่าไปเลย..
    อยากบอกว่า ไม่อยากให้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่อยากให้อิ่มตัว ... ยังคงอยากให้มี พุดพัดชา ใน ThaiPoem ต่อไป
    
    
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    24 พฤษภาคม 2547 23:47 น. - comment id 273891

    เป็นบรรยากาศที่อยากไปสัมผัสมากๆๆๆๆเลยค่ะ เขียนได้ดีนะค่ะ อ่านแล้วเห็นภาพชัดเจนเลยค่ะ
  • tiki

    25 พฤษภาคม 2547 03:16 น. - comment id 273993

    ,มาอ่านงานงามเสมอพุด อ่อนโยนค่ะ
  • ชัยชนะ

    25 พฤษภาคม 2547 04:59 น. - comment id 274003

    แวะมาเยี่ยมเยียน วิมานไม้ไผ่
    แวะมาอ่านถูกเวลาพอดี
    คงจะไม่พูดอะไรมากมาย
    เพราะเรื่องราวที่เล่าพริ้วไหว สวยสดงดงามในจินตนาการมากครับ
    
  • รพี พรรณราย

    25 พฤษภาคม 2547 05:57 น. - comment id 274010

    พุด พัดชา ไม่ทราบตัวตนเป็นใคร  แต่จินตนาการล้ำเลิศ เสพรับข้อเขียนทีไรสดชื่นต่อความรู้สึกที่คล้ายยืนโดดเดี่ยวอยู่บนยอดเขาสูงลิบ  ทอดตามองไปสู่เบื้องต่ำของโลกา  ธรรมชาติช่างสดใสเสียจริงๆ .
    
  • ดาหลาค่ะ...

    25 พฤษภาคม 2547 09:06 น. - comment id 274055

    สวัสดีค่ะคุณพี่พุด...
    งานงามมากๆเลยค่ะ....ดาหลาขอชื่นชมจากใจนะคะ...
    ขอให้คุณพี่พุดผู้มีหัวใจอันอิ่มงามมีความสุขมากๆนะคะ...
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    26 พฤษภาคม 2547 00:36 น. - comment id 274575

    แวะมาชื่นชมวิมาณของพุดพัดชา เรามีแต่วิมาณในอากาศ จะอยู่ก็ไม่ได้ อิอิ
  • แว่นดอย

    26 พฤษภาคม 2547 19:21 น. - comment id 274944

    มาทักทายพี่พุดค่ะ
    ...งดงามทุกคำถ้อยจริงจริงค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน