กระท่อมฝันหวานหวาน!นานเกินรอ!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=973
********

รอคนมารับกลับไปกระท่อมฝัน
เฝ้ารอหวังรอหวานนานแค่ไหน
รอวันนี้รอปีหน้านานเท่าใด
หากหัวใจเจ้าของกระท่อมมิยอมมา
เขาอยู่ไหนน้อยใจรักเสียนักหนา
รู้ไหมว่าใจดวงร้าวหนาวเหว่ว้า
รู้บ้างไหมใครกันเล่าเฝ้าหลงคอยทุกเวลา
จำสัญญาฟ้าขวัญมั่นดวงใจ
เขาสบายดีหรือไม่ดาวใจเอ๋ย
อย่านิ่งเฉยกระซิบคำย้ำหวามไหว
ให้รู้ว่าใครคนนี้ยังมีเยื่อสายใย
รอดวงใจมาตามนิยามภักดิ์
หรือว่ากระท่อมน้อยคอยรักมีคนคู่
ดาวรุบหรู่เดือนริบหรี่มิคลี่รัก
ใครพนอคลอเคล้าเย้าหยอกนัก
เขาสิ้นภักดิ์มิกลับมาสัญญาใจ
กระท่อมฝันขวัญรอขอไปคู่
เธอก็รู้สวนดอกไม้ไร้กิ่งไหว
ไม่มีคนปลูกดอกรักทายทักใจ
กระท่อมไพรกระท่อมฝันจันทร์ใจรอ
ฝากดอกพุดพิสุทธิใสวางแนบอก
จะหยิบยกมาดอมดมหรือขว้างหนอ
ลองคิดดูอีกทีอย่ารีรอ
อย่าให้พ้อจนกระท่อมฝันพังทลาย..เลยสายใจ..เลยดวงใจ!


พรานทะเล! พุดพัดชา 
กระท่อมไพรบนเนินผาท้าสรวงสวรรค์
มีทะเลฝันตรงหน้าให้คว้าไขว่
มีดาวสวยทรายขาวหาดยาวไกล
มีน้ำใจมีความรักมีดวงตะวัน....
ยามเช้านอนดูดวงดอกไม้มาทายทัก
หวังยอดรักคืนอ้อมใจในอ้อมฝัน
ลมทะเลเห่ครวญรำพึงรำพัน
ดุจสวรรค์บนดินถิ่นรักเรา
รอเรือหาปลาลำน้อยค่อยคืนฝั่ง
ฝากใจหวังพรานทะเลคงไม่เหงา
ใครบางคนเฝ้ารอมานานเนา
คืนว่างเปล่าเขากลับมาหาเสียที
ใจดายเดียวดูตะวันผันเรี่ยน้ำ
ฟ้าสีครามงามดั่งทองอาบแสงสี
จุดตะเกียงเขียนกลอนฝันมอบวันดี
กระท่อมไพรนี้มีใจภักดิ์เฝ้ารักรอ
แสงพริบพราวราวไฟในทะเลกว้าง
แสนอ้างว้างห่างแค่ไหนใจไม่ท้อ
กี่คืนฝันกี่วันปีที่รักรอ
กระท่อมซอมซ่อผุพังฝังร่างนี้ที่รอรัก ..รอพรานทะเล!
ท่ามกลางจันทร์ลอยดวง ดึกดื่นดายเดียว..
นะกระท่อมน้อยเชิงผา
ในราตรีหนึ่งที่ระดะดาวพราวพร่างสุกใสแสนใกล้
ราวกับจะเอื้อมคว้าไขว่มาประดับใจได้
พุดพัดชานั่งฟังเสียงคลื่นสะท้อนจากก้อนหินริมฝั่งทะเล
ราวกับเหว่ว้าเสียเต็มประดากับการรอคอย..พรานทะเล..ที่พรากไกล..
ก้อนหินได้ยินได้ฟังก็เพียงแค่รับฟัง ดั่งเพื่อนใจปลอบประโลม..
*******


ดวงจันทร์ในทะเล! พุดพัดชา 
ดวงจันทร์ในทะเล 
คิดถึงเธอเหลือเกิน... 
ในคืนฝันวันพระจันทร์เต็มดวงอย่างนี้.... 
กับยามที่แลไปเห็นแสงจันทร์สกาวสาดส่องแสง
เป็นสายสวยสีทองทาบทา กระทบผืนน้ำทะล 
งามระยับระยิบบนผืนผ้ากำมะหยี่สีเงิน.. 
คืนที่ฟ้า..แตะแต้มแกมเพชร พรายพร่างด้วยดวงดาริกา 
พริบพราวนับร้อยพัน 
ดวงจันทรา..ในทะเล.. ฝัน..... 
ที่งามน่าหลงใหล ในคลองตา ในอ้อมใจละมุน.. 
แต่เหตุใดหนอ..ฉันจึงจับต้องไม่ได้ เล่าดวงใจ... 
ฉันค่อยๆไต่ตาม เลาะลงมาจากกระท่อมบนเชิงผา 
ในราตรีนี้ ที่ตั้งอยู่บนโขดหินสูงชัน 
ที่ดวงใจฉันฝ่าพายุจริง พายุร้าย พายุรักมาพักอยู่ลำพัง..
เพื่อหาทางออกให้หัวใจ..ที่ร้าวระบม หลายแรมคืน..แล้ว.. 
หัวใจชา..เสียจนไร้ความกลัว ไร้หวั่นไหว หวาดเสียว 
ว่าจะลอยละลิ่วลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง อย่างอ้างว้าง ดายเดียว 
สังเวยรัก..นี้ที่หนีไม่พ้น...เสียที.. 
ฉัน..ขอแค่ไต่ตาม ลงไปหาฝัน 
บนหาดทรายขาวยาวเหยียดผืนนวลที่โอบโค้งทะเล อย่างรักใคร่.. 
โลมไล้ด้วยฟองคลื่นละมุน นิ่มนวล อ่อนหวาน อ่อนโยน..ยิ่งนักแล้ว 
ราวเห่กล่อมด้วยทิพยดนตรี 
ฉันหยุดยืน..มองตรงไปยังเกลียวคลื่นสีทอง
เลื่อมวะวับวาวยามกระทบแสงจันทร์นวลละอองผ่องเพ็ญ 
ราตรีมีมนต์ขลัง เห่กล่อมให้ฉันตกอยู่ในภวังค์ฝัน.. 
นั่นไง..ดวงจันทร์ ในทะเล.. 
เงาจันทร์ ในทะเล กับเงาใจดวงนี้ที่ดั่งถูกสวรรค์แกล้งลวง..
ให้พบและได้รักเธอ..ให้ละเมอครวญคร่ำ. ร่ำหา..มายาวนาน..... 
ฉันลุยน้ำทะเล..ลงไป หวังคว้าไขว่สัมผัส ดวงจันทร์งามตา 
ที่ดูราวกับว่าใกล้แสนใกล้ ใกล้แค่เอื้อม 
แต่ไย!..ถึงเอื้อมไม่ถึง..เล่า!
น้ำทะเลขมปร่า ปะทะร่าง ปะทะหน้า 
ให้หนาวรานร้าวราวร่างแยก ไปถึงหัวใจที่กำลังแหลกยับเป็นธุลี 
ดวงใจในฝัน ดั่ง ดวงจันทร์ในทะเล.. 
โอ้ละเห่ ทะเล..เหว่ว้าเอย..ใช่เรื่องจริง.. 
ตื่นเสียทีสิ...มากับพบโลกจริง.
ที่น้ำทะเลที่เค็มขมกำลังเตือนใจ..
ให้ไหวร่างเดินขึ้นฝั่ง หันหลังกลับ 
พร้อมกับพริบพราวราวหยาดน้ำตาจากดาว 
และราวหยาดน้ำตาจากใจและจันทร์ กับฝันค้าง...
กับดวงดาราบนฟ้ากว้าง....ที่ไยร่ำไห้ด้วยเศร้าหม่น 
และกับลมละเมอที่หยุดนิ่งงันสะเทือน.......

********
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_39349.php

http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_54064.php
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_48389.php
กระท่อมใบไม้..
แฝงตัวอยู่บนเนินผา ในหุบเขา..พะงันงาม..
ที่ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้เมืองร้อนนานาชนิดสูงใหญ่ เป็นช่อชั้น
ราวป่าดงดิบสลับสล้าง..ใบไม้เขียวพร่างระยิบระยับ..ไปทั้งราวป่า
และ...
งามจับตายามถึงคราฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...ที่มีเสียงจิ้งหรีด เรไร
ดนตรีไพรดนตรีธรรมชาติและสายลมอันอ่อนโยนละมุน
หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพร..อวลไกล..ในยามค่ำ..
.....
ยามเช้า...
ยามอุษาฟ้ากระจ่าง..
เมื่อดวงตะวันสาดแสงสีทอง อันอ่อนอุ่นมาแตะแต้มทายทักโลก..
มวลหมู่นกกา..พลันพรึบพรูโผผินบินว่อนร่อนจากรวงรังออกหาเหยื่อ..
..
สัตว์ป่านานา..ก็พากันเที่ยวท่อง..
จดจดจ้องจ้องออกล่าเหยื่อ..เฉกเช่นกัน
เป็นวิถีอันเป็นธรรมชาติเพื่อดำรงรอด..
ไพรกว้างเงียบงาม....
ซ้องผสาน..เสียงเพลงไพรเสียงสัตว์ไพร ขับขาน
ทั้งดุร้ายและหวานเศร้าคละเคล้าดำดิ่งลึกล้ำงามเงียบไห้ไหยหวน.
สู่ห้วงหฤทัยผู้รักไพรพงเป็นชิวิตจิตใจ..
ธรรมชาติ..เปิดม่าน..
หวานหวานหว่านมนตราเริ่มตั้งแต่ยามทิวา อรุณรุ่ง
มุ่งสู่ราตรีที่ฟ้ากว้างประดับด้วยทางช้างเผือก..
ระดะดาวพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าเต็มอ้อมฝัน..พริบพราวเคล้า
นวลจันทร์กระจ่างฟ้า..เล้าโลมหล้าโลก
ให้มวลมนุษย์คลายโศกหรือยิ่งเศร้าหม่น 
สุดแต่คน..แต่ใจใคร..จะไขว่คว้า
กระท่อมใบไม้..
งามง่าย หลังคาจาก โครงเคร่าใช้ไม้มะพร้าวที่หักโค่น..
มาเป็นเสาค้ำตั้งรับสอดประสาน...ใช้ทุกส่วนให้งามอย่างคุ้มค่า
ฝา..คือไม้ไผ่ขัดแตะอย่างละเอียด
และยิ่งละเมียดละไมด้วยเสื่อจูดสานสวยซ้อนทับ..อีกชั้น..
กันสายฝนแรงรับลมพายุ..
ไม่มีโต๊ะ ตั่งเ ตียง..มีเพียงเสื่อสานละเอียดปูฟูกที่นอนขาว กับหมอนอีกใบ..
มีมุ้งที่บัดนี้หอบขึ้นไปผูกไว้ ยามมิได้ใช้งาน..ก่อนนอน..
หัวนอน..
มีขอนมะพร้าว..เตี้ยๆไว้วางของจุกจิกไม่กี่ชิ้นจำเป็น
มีตะเกียงเทียนเหลือเทียนครึ่งเล่ม..เพียงนั้น
กับขันทองเหลืองที่เจ้าของกระท่อมทับ
ใช้จัดใส่ดอกไม้ไทยรายรอบนานาพรรณ 
ที่บัดนี้พลันพากันมาหอมอวลคละคลุ้ง จรุงไปทั่วทั้งกระท่อม
กับสายลมเย็นยามค่ำ
กับยามที่พรายวสันต์เพิ่งราเม็ดพร่างพรมห่มไปทั่วทั้งราวไพร..ให้ฉ่ำเย็น..
ทางขึ้นกระท่อมนั้น..
ดังพรมสวรรค์สีเขียว..ของหญ้ามอสส์สอดแทรก
ตามปุ่มปมหินแง่งาม ที่เกาะเกี่ยวให้ไต่ตาม ค่อยๆเลี้ยวเลาะ..
ให้สงบ..ให้ผ่อนคลาย ...
ทุกก้าวย่าง...ในอ้อมเขียวเรียวไพลเรียวใบไม้ไหวระยับ..
ทุกฝีเท้า..ของผู้โชคดี...
ที่ได้ละลดวางและหลีกลี้หนีจากความวายวุ่นจากสังคมเมือง..
เสมอเหมือน
กำลังได้สลัดแอกใจ อันอ่อนล้า 
ที่โหยหา แสวงหาธรรมชาติเย็น..
ชุบชื้นชื่นชีวีต..ชุบดวงจิตดวงใจ 
ชุบจิตวิญญาณ ชุบใสงามดื่มด่ำฉ่ำเย็น
ให้ระรินไหลเข้าเบื้องลึกภายใน 
ให้พลันสดใสตระการราวแก้วงามแก้ววิเศษ
ที่จะพรายพร่างนำทางใจ..สู่ สว่างใส สงบ.พบ.ร่มชีวี..
ที่ดั่งหยาดน้ำทิพย์..ที่ละลายร่าง ไร้ร้างตัวตน 
ให้ห่างจากความยึดมั่นถือมั่น
ในทุกวันทุกสิ่งมากมีที่ไม่จีรังยาวยืน..
ร่างกาย..
ร้อนรน..ได้ผ่อนคลาย
ดวงใจได้นิ่งงันผ่อนพัก พึ่งพิงธรรมชาติไพร
เกิดใสงามสวยสดเป็นธรรมดาใจธรรมชาติงาม..อันมิรู้สิ้นรู้จบ
.........
เส้นทางสายสวย..สู่กระท่อมใบไม้.
ราวเส้นทางสายสวรรค์สรวง
กระท่อมใบไม้ ...ที่ไร้ร้างในสายตาคนเมือง
ผู้นิยมวัตถุมากมี..หามาประดับบารมีให้เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตา.
กระท่อมใบไม้..
ที่ไม่สิ้นเปลืองผลาญพร่าทรัพยากรธรรมชาติ
หากเพียงแค่ได้เอนอิงเอื้อโอบใจไปพร้อมกัน..เป็นหนึ่งเดียว..
ให้นวลเนื้อใจละไมละมุน..ในงามง่ายนั้นมิมีวันสิ้นสุดรัก..สุดงาม!
...........
กลางกระท่อม..
กลางเงาเทียนวูบไหว
ในร่มเงาไม้ให้สงบเงียบ
มีร่างงามเรียบนอนสยายผม
มีดวงดอกไม้แนบนวลแก้ม
มีเรียวรอยยิ้มพริ้มพราย 
คล้ายรอรับจูบละเมียดละไมจากชายในฝันในดวงใจ..
.....................
ตามมาสิทุกดวงใจ..
มาฟังเสียงนกไพร
ฟังเสียงดุเหว่าแว่วหวาน
ดูเงาดาวทอแสงนวลใย
แข่งกับหยาดเพชรพราวในดวงตาดวงใจของนางไพรอันเป็นที่รัก
ยามสะอื้นอ้อนหารักครางครวญ..
พระจันทร์หวานคงอิจฉา..
ราตรีคงเงียบงัน...
ฟากฟ้านั้นเลิกหมองหม่นชั่วครู่
ลมคงหยุดพัดไหว ใบไม้คงปลิดปลิวโปรยพร..เพื่อสองเรา..ตราบชั่วกาล..
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    11 กันยายน 2547 00:22 น. - comment id 328793

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=973
    ดวงใจในฝัน   
    อรวรรณ เย็นพูนสุข : : Key Eb  
    รำพึงรำพัน ฝันรัก รักเอยใฝ่หา
    ยังจำติดตาชวนปลื้ม ฉันลืมไม่ลง
    เป็นรอยพิศวาส ปักใจมั่นคง
    ฝังใจพะวง หลงรอคอย
    อาวรณ์ใจครวญ หวนคิด คิดจนพร่ำเพ้อ
    พาใจละเมอหมองหม่น คิดจนเลื่อนลอย
    ยามนอน ถอนสะอื้น ตื่นตาแลคอย
    คิดจนดาวลอย คล้อยเมฆา
    ฝันกอดเชยชม ภิรมย์รื่น พี่ชื่นตื่นผวา
    จนใจ ไม่มีใครเมตตา
    เพียงนิทรา นิจจานึกว่าสุขเอ๋ย
    บางคืนมองจันทร์หรรษา นิจจาอกฉัน
    บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า น้ำตาหลั่งเลย
    ลมเอยพริ้วยังแผ่ว ไม่มีแววเลย
    เหงาใจจริงเอย หลงเชยแต่เงา
    
    บางคืนมองจันทร์หรรษา
    นิจจาอกฉัน
    บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า
    น้ำตาหลั่งเลย
    ลมเอยพริ้วยังแผ่ว
    ไม่มีแววเลย
    เหงาใจจริงเอย
    หลงเชยแต่เงา...
    
     
      
    
  • พี่ดอกแก้ว

    11 กันยายน 2547 00:27 น. - comment id 328799

    ลมทะเลเห่คลื่น
    ครางครืนทะเลใจ
    น้ำตาค่อยรินไหล
    หล่นไปในทะเล
    
    เห่เอยเห่หัวใจ
    นานเท่าใดจะหันเห
    เดินขึ้นจากทะเล
    ไม่แช่ใจในน้ำตา
    
    สวัสดีค่ะน้องพุด ..สบายดีนะคะ
    ไปเยี่ยมพี่ดอกแก้วหลายคราวแล้ว
    วันนี้ พอมีเรี่ยวแรงมาก ..อยากมาทักทายน้องพุดถึงบ้านบ้าง
    ขอให้มีความสุขกับการเขียนงานสวยๆนะคะ
    
  • อัลมิตรา

    11 กันยายน 2547 00:31 น. - comment id 328801

    เขาอยู่ไหนหนอ สงสัยคงซ่อมหลังคาอยู่ค่ะ 
    จัดเรียงแฝก (แฝกหรือจากคะ อัลมิตราไม่แน่ใจ)
    ซ่อมเสร็จแล้วคงมาหาคุณพุดพัดชา :)
    
    
  • พุด

    11 กันยายน 2547 00:32 น. - comment id 328802

    พี่คนดี..
    พุดรจนาเรื่องธรรมะ แล้วก็ผ่านตาไปแล้วค่ะ
    เลยมาคั่นเอางานรักมาลงค่ะ
    ให้อ่านเอาเล่นในเช้าวันหยุดค่ะ
    พี่คะ
    พุดได้ข่าวว่าพี่ไม่สบาย
    พุดได้แต่ห่วงใย
    รักษากายนะคะให้พี่คนดีหายจากโรคภัย
    พุด..ได้ข่าวเรื่องพี่ไม่สบายทีไรใจก็อ่อนยวบทีนั้นค่ะ
    รักและห่วงใยค่ะ
  • ชมอักษร

    11 กันยายน 2547 00:53 น. - comment id 328814

    สวัสดีค่ะ .. พี่พุด .. คนชอบทะเล ..
    
    ว่าง ๆ ลองนุ่งผ้าถุง .. ลุยทะเลตีโป่งดูมั๊ยคะ ..
    คงจะเซ็กซี่แน่เลยค่ะ .. ยามคลื่นซัดผ้าถุงหลุดหาย ..อิอิ
    
    แวะมาแซวพี่พุดเล่นค่ะ ..แก้ง่วง.. ดึกแล้วนี่คะ ..
    
    คิดถึงนะคะ .. พี่พุดคนงาม .. ^___^ 
    
    .................
    
    
    
  • พุด

    11 กันยายน 2547 01:11 น. - comment id 328816

    เคยแล้วค่ะ
    ตอนนั้นปลาชุมมากอิอิ
    ต้องรับหาผ้าถุงแทบไม่ทันค่ะ
    
    อารมณ์ขันยามดึกนะคะอิอิ
    
  • เมกกะ

    11 กันยายน 2547 05:48 น. - comment id 328848

    จากวันวาน ถึงวันนี้ มีความรัก
    ที่ฟูมฟัก บ่มไว้ ให้หอมหวาน
    จากวันวาน ถึงวันนี้ ที่เนิ่นนาน
    บอกกับกัน และกัน ฉันรักเธอ
    
    บวกความรัก ความเข้าใจไว้ด้วยกัน
    บวกเธอฉัน รวมไว้ ไม่พลั้งเผลอ
    บวกชีวิต สองเรา ที่พบเจอ
    บวกจากเธอ และฉัน นั้นเป็นเรา
    
    +-*-+-*-+  +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี+-*-+-*-+  +-*-+-*-+
    
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    11 กันยายน 2547 12:42 น. - comment id 328979

    แวะมาเยี่ยมกระท่อมรักของพุดพัดชา
    ด้วยคิดถึงมาก ๆ
  • ดาหลา & ปะการัง

    11 กันยายน 2547 12:50 น. - comment id 328984

    เยี่ยม เยียน คนดี ที่หัวใจ ดวงเดียวกัน
    
    
    รักทะเล  ปลายฝันที่ จะบากบั่นไป ให้จงได้ 
    
    
    ชายทะเล บ้านหลังน้อย กับปะการัง  แสนรัก เคียงข้าง ดาหลา แสนงอน
  • Robert TingNongNoi

    11 กันยายน 2547 14:15 น. - comment id 329061

     
    ชอบคำนี้มากจังเลยครับ  ๚ะ๛
    หรือว่ากระท่อมน้อยคอยรักมีคนคู่
        ดาวรุบหรู่เดือนริบหรี่มิคลี่รัก
    ฟังแล้วมันจักกะจี้ใจครับ  ๚ะ๛
    
    size> 

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน