ดวงดอกไม้ป่านะลานดุสิตาราวลานสรวง!

สาวบ้านนา


urlhttp://thaipoem.com/web/songshow.php?id=392
(ดอกไม้ใกล้มือ)
********************
คืนนี้จันทร์วันออกพรรษา
ยังแจ่มดวง
สาวนา..ตื่นมากับเสียงไก่ขัน..กระชั้นทุ่ง
รับอุษาวดี
ที่บนฟากฟ้ายังประดับด้วยนวลดาวดวงจันทร์


สาวนา..หุงข้าวหอมข้าวใหม่
แล้วเจียนใบตองรองขันข้าว
พร้อมใส่บาตร
พร้อมกับเก็บมะลิขาวสะอาดริมสวนมาโรยพราว
ให้ข้าวยิ่งหอมหอมหอม
พอกับใจแม่ดวงดอกพะยอมป่าพะยอมไพรดอกนี้


ฝนทิ้งช่วง
จนสาวนาห่วงว่ารวงข้าวจะลีบ..เล็กลงๆ
อ้ายพรากไปอีกคราแล้ว
ให้หัวใจสาวนา..ชาชินรู้รำงับดับคิดถึงคะนึงหา
ให้ใจดวงดายเดียวเหว่ว้า ยอมรับความจริง


นิ่งสงบทบทวนจิต ชีวิตสาวนา
ว่า..ชะตากรรมของคนเรานั้น
ยากจะหนีพ้น
ไม่มีอะไรจะคงที่คงทน
ตราบที่เรายังมิหลุดพ้นบ่วงกรรม


สาวนา จึงชาเฉย 
ราวไร้ร่างในบางเวลาบางหน
ราวกมลภายในนั้นว่างเปล่า สิ้นไร้หวังสิ้นไร้ใคร
ไม่ไยดี ไม่มีตัวตน ไม่มีตัวเรา...


และ
ราวกับจิตดิ่งด่ำ
กับความเป็นปัจจุบันมากขึ้น
ตามคำหลวงพ่อ
ที่เทศนาพานำทางสว่างให้กระจ่าง..จิต
ไม่ให้หลงยึดติดยึดมั่น
ไม่หลงละห้อยคอยหาใครนาน
ไม่หวานหวัง..เฝ้ารอใคร..


ที่เราก็รู้ดีว่าต่างจิตต่างใจ
ต่างกรรมต่างกาล
ต่างห่างต่างแยก.
และ
บางทีอ้ายคนดีอาจจะได้พบใครบางคน
ที่ดีกว่า.ควรให้โอกาสแด่ผู้ที่เรารัก
อย่านำมาแบกไว้ให้หนักแอกใจเลยจะดีกว่า


สาวนา..
จึงพร่ำสวดมนต์ภาวนานานขึ้นนานเข้า
ให้พลังแห่งกระแสเมตตานั้นได้หลั่งรินไหล
ให้บทพระคาถาชินบัญชร
พระพุทธมนต์อันวิเศษแต่ละสูตรมารวมกัน
สอดคล้องเป็นกำแพงแก้วคุ้มกันผองภัย..


ตั้งแต่กระหม่อมจอมขวัญ
ของสาวนาผู้เพียรภาวนาพระคาถา
ให้พระคาถาลงมาจนล้อมรอบตัว
ให้หัวใจไร้หมองมัวมีแต่เบิกบาน
พ้นภัยพาลภยันตรายใดใด
ที่จะหมายมากรายกล้ำ
เพราะหาช่องโหว่มิได้ 


วันนี้..วันออกพรรษา
สาวนาจึงตั้งใจไปบำเพ็ญบุญ
หนุนเนื่อง..น้อมนำมงคลมาสู่ชีวีชีวิต..
...........


สาวนา จึงลงสวน
มิใช่จะไปเด็ดดอกลำดวน
หากไปเด็ดพริกขี้หนูมา
เพราะ
ตั้งใจว่าจะตำน้ำพริกรสดี
พร้อมกับขูดมะพร้าว
คั้นกะทิลวกยอดผักบุ้งอวบตึง
คลึงคลอแนมด้วยผักสดนานา
มีแตงกวาถั่วพู มะเขือเปาะ มะเขือพวง
ถั่วฝักยาวงามพราวเขียวแน่น


และ
แถม
มีผักตำลึงผักหวานยอดสล้าง
เป็นแกงจืดหวานธรรมชาติ
มีปลาสลิดทอดแดดเดียวแกะไร้ก้าง
วางไว้ใกล้กันกับน้ำพริก
มียำมะม่วงสับกับกุ้งสดรสโอชา
ที่สาวนามีสูตรเด็ดเคล็ดลับ
ว่าสาวนาต้องทำทุกอย่างสดใหม่
หากเป็นสูตรโบราณ..


เสร็จแล้ว
สาวนาจึงจัดสำรับ
ใส่ตะกร้าลายดอกพิกุลงามที่ถักสานละเมียดสวย
และ
สาวนาไม่ลืมลงบึงไปดึงเด็ดสายบัว
และแม่ดอกบัวตูมบัวบาน
ที่พร่างไสวชูช่อละออมาเต็มกำมือ..
ไว้มาจัดพับกลีบไปกราบกรานถวายหน้าพระพักตร์พระพุทธ..


สาวนา.อาบน้ำนะกลางบึง
แอบดูมวลหมู่ภู่ผึ้งคลึงเคล้าเกสรบัว
แล้ว..พลางก็..
คิดบางสิ่งบางอย่างได้
แล้วเลยฮัมเพลงออกมาจากก้นบึ้งแห่งดวงใจ
ให้เสียงหวานใสหวานเศร้าเคล้ากอบัว
ลอยละล่องไปทั่วทั้งท้องทุ่งคุ้งโค้งน้ำ..นา
.................


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=347
บัวกลางบึง   
สุนทราภรณ์ : : Key Eb  
อนาถเหลือล้ำ บัวบานเหนือน้ำ 
อยู่ห่าง คน
ลับตาอยู่จน กลางบึง
ได้แต่ชะเง้อ ละเมอ รำพึง
เจ้าอยู่ถึงกลางบึง ปล่อย ให้ผึ้ง เชยชม
แดดส่องผิวน้ำ บัวพลอยหมองคล้ำ
ด้วยแดด เผา
สีเจ้าก็เศร้า ด้วย ลม
ตกดึก น้ำน้อย นอนคอยคนชม
เจ้าต้องคลุกโคลนตมกลีบ ที่บ่ม โรย รา
บัว น้อย ลอยอยู่กลาง บึง
ครั้นคนเอื้อมไม่ถึง มีฝูงผึ้งบินมา
อยากพักพิงบนหิ้งบูชา
เขาไม่ปรารถนา แล้วจะว่าเขาแกล้ง
โธ่ อยู่ไกล หนักหนา
ดั่งซ่อนหลบตา แอบแฝง
หากปล่อยทิ้งไว้พอใจแมลง
สิ้นกลิ่นสีโรยแรง
แล้วคงเหี่ยวแห้ง คา บึง...
........


บัว น้อย ลอยอยู่กลาง บึง
ครั้นคนเอื้อมไม่ถึง มีฝูงผึ้งบินมา
อยากพักพิงบนหิ้งบูชา
เขาไม่ปรารถนา แล้วจะว่าเขาแกล้ง
..........


และพอถึงตอนนี้
สาวนาก็น้ำตาซึมซึ้ง
อยากร้องไห้..
อย่างมิอายฟ้าดิน
สิ้นแล้วความหวังใดใด
ด้วยน้อยใจ
ไม่อยากรอใครไม่อยากรักใคร
ไม่ว่าแบบไหนก็ตาม
ให้จิตวิญญาณห่วงหา
มีพันธนาไปอีกไม่รู้จักจบสิ้น
และไม่อยากถวิลวาดฝันละเมอ
ที่พอเผลอบางทีคำมั่นสัญญานั้น
อาจจะกลายพลันปันอื่นเป็นอื่น


สาวนา..หยุดหลั่งรินน้ำตา
และแหงยเงยหน้าให้แสงตะวันสีทอง
อันอ่อนอุ่นโลมลูบไล้ใบหน้าเนียนแดดละมุน
ให้หยาดน้ำตาระเหยหายวับ
พอกันกับหยาดน้ำค้างกลางใบบัวยามแดดทอ


สาวนา..
ตัดใจเหมือนถอนสายใยบัวเช่นเฉกกัน
พร้อมหันหลังลาบึง
แล้วพาร่างบึ่งไปวัด
ไปทำจิตสงบสวยใสจะดีกว่า
ไปฟังธรรมะ 
ฟังหลวงพ่อเทศน์
ให้จิตพร่างปิติเกษมสงบ
พบสุขใสจีรัง
เย็นว่างราวได้ละอองน้ำค้างพร่างงามหอมห่มใจ..


สาวนา..
สวดมนต์เช้าและเฝ้าอธิษฐานจิตแผ่เมตตา
ให้แด่ทุกสรรพสัตว์
แล้วกรวดน้ำตาม..
ให้งามจิตงามใจแผ่ไพศาล
ไปลบเร่าร้อนในโลกแห่งวิโยคโศกเศร้านี้


หลังจากกลับจากวัด
ด้วยดวงใจงามพิสุทธิใสสว่าง
สาวนา..
รีบพาตัวเองเข้าป่าเข้าไพร
หวังใจไปดูดวงดอกดุสิตานะลานหิน
ก่อนที่จะสิ้นสายแสงสุริยา
ก่อนที่ตะวันจะลาลับฟ้า


ป่าที่แสนงาม
มีเส้นทางเล็กๆ คดเคี้ยว
พาเลี้ยวขึ้นเนินผา
มีต้นไม้เพิ่งจะแตกใบสาวยังเยาว์ราวดรุณเคียงข้าง
เป็นป่าทดแทนต้นไม้ใหญ่ที่โดนโค่นตัดออกไป 
แผ่ไสวต้นสูง
ออกอวดดอกสีชมพูสดสะพรั่งไปทั้งราวป่าราวไพร


เห็นผ้ายตาเสือที่มีดอกสีเหลืองนวลละออ
 ดอกดินแดงแทงรากไม้อื่นขึ้นเป็นดง 
 
หญ้าหนวดเสือและดอกกระดุมเงิน
จะพรายพร่างไปตามพื้นที่ชื้นแฉะ


สาวนานั่งแวะพักที่ต้นไทร
ไหวเอนที่มีหินก้อนใหญ่
ให้แอบหลบฟ้าฝนได้
 
ต้นไทรเอ๋ยไทรงาม
 มีร่องรอยการมาตั้งแคมป์ไฟ
ของพวกผจญไพร..ท่องไพรแสวงหาธรรมชาติชีวิต


เหนือเนินผากว้าง
ข่อยดาน ดอกหวานเศร้าขาวนวลพร่างกลิ่นหอมเย็นๆ
ต้นมะค่าสูงใหญ่ขึ้นหนาแน่นที่มีฝักสีดำป้อมๆ 
สาวนาเห็น ลูกกระบก ที่วัว ขย้อนออกมากองไว้ 
เนื้อในของลูกกระบกสีขาวได้รสหวานมันปะแล่ม 
แต่ถ้ากินมากเกิน ก็จะ เลี่ยน


และโน่น..!
ป่า เต็งรัง มีหญ้าสีทองขึ้นเต็ม 
ดวง อาทิตย์ใกล้ลาลับฟ้า
กับหวานหอมของมวล
ดวงดอกไม้ป่า
นานาพรรณ
ที่ได้นามพระราชทานแสนไพเราะ
บนลานผาหินกำลังบานสะพรั่งพรึบ
มีดงดอกสีชมพูเข้มคล้ายดอกชบา


ดอกหญ้าป่าที่เพิ่งเริ่มคลี่ผลิบาน 
ดอกสร้อยสุวรรณาสีเหลือง
อวลอบกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนหยาดน้ำผึ้ง 
กระดุมเงิน ดอก กลมๆ สีขาวขึ้นเป็นกระจุก 
หญ้าหนวดเสือมีลำต้นบอบบาง
ดอกสีม่วงที่มีกลีบดอก 
เชื่อมกันสามกลีบแสนบอบบาง


ขณะที่
จอกบ่วาย ....
หรือหยาดน้ำค้างแนบติดอยู่กับพื้นดิน 
ที่สาวนานำมาเป็นยารักษาโรคหัวใจไว้แจก
เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน
และมาทา หน้าแก้ฝ้าได้อีกด้วย 
จอกบ่วาย นี้มีมากมายคลอหนามเดือนห้า 
ซึ่งเป็นพืชกินแมลงเหมือนกัน 


ลำต้นสีแดงเล็กๆ 
กิ่งก้านคล้าย หนวดปลาหมึก 
ปลายใบม้วนงอ ขนเล็กๆ 
ที่ปกคลุมทั่วใบมีน้ำใสๆ เหนียวๆ 
ติดอยู่ตลอดเวลา 
เพื่อล่อแมลงให้เข้ามาไต่ตอม
ก่อนจะปล่อยน้ำย่อยอกมาละลายเป็นอาหาร 
 

เห็ดหอมสีขาวพราวแน่น
ขึ้นเต็มอยู่ใต้ซากใบไม้ร่วงทับถม
สาวนาตั้งใจ จะเก็บกลับเอาไป
เป็นอาหารได้อีกหลายมื้อ
และฝากเพื่อนบ้าน


ที่ฤดูนี้
ปลายฝนต้นหนาว
จะมากมายมากมี
ให้สาวนาเก็บไม่หวาดไม่ไหว


สาวนาค่อยๆพาตัวเองขึ้นไปถึง *ภูผาหอม *
และ
นอนรอชมดวงอาทิตย์ตก
นอนดูมวลหมู่นกไพรบินฉวัดเฉวียนไปมา 
บางทีโฉบมาใกล้
จนได้ยินเสียงปีกที่แทรกผ่านอากาศ 


สาวนานอนนิ่งเงียบๆ ริมหน้าผา
ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีทอง
เบื้องล่างเป็นป่าทึบ
อัดแน่นไปด้วยต้นไม้ รายรอบ
สลับสล้างเขียวขจี
สีไพลสีทองแซมซ้อนสลับน้ำตาลทองผ่องผุดพิลาสไพร


สาวนานอนคิดน้ำตาซึมซึ้ง
คิดถึงอ้าย..สุดหัวใจ
ที่เคยทำมงกุฎดอกไม้ไพรดอกไม้ป่ามอบให้
ด้วยหัวใจแสนใสแสนรักแสนพิสุทธิ์
และสาวนา
แสนดีใจ
ที่มาตรแม้นในวันนี้
ไม่มีอ้ายคนดีมานอนเคียงข้างเชยชมร่าง
ชี้ชวนนับดาวพราวพร่างฟ้า
ที่ระยิบระยับแสนสุกใส
ราวกับจะเอื้อมมือคว้าไขว่มาแนบใจประดับใจได้


ที่อ้ายเคยฝันเคยเพ้อว่า
หากมีปีกบินได้เหมือนนกก็จะผกโผผินบินไปโฉบ
สอยลงมาจากราวฟ้าราวสรวง
มาถักร้อยดั่งสร้อยสรวงรวงดาว
มอบกำนัลให้สาวนาด้วยรักมั่นแทนคำสัญญา
เป็นสายสร้อยร้อยใจร้อยใยสวาท
ไปตราบชั่วฟ้าดินสิ้นกาล...กัปป์กัลป์..
ชั่วนิจนิรันดร...


ที่วันนี้แม้นไม่มีอ้าย
ให้หัวใจสาวนาแสนดายเดียวเหว่ว้า
หากทว่าลึกลึกสาวนาก็รู้สึกดีใจและอิ่มใจ
ที่สาวนาได้เห็นความงามอันยิ่งใหญ่
หากดิบดินเคียงหล้านะ  *ลานดุสิตา*
ลานผาหินที่มากมายมากมี
ดอกไม้ป่าดอกไม้ไพร
ดอกไม้แห่งความงามบริสุทธิ์ใส
ในท่ามกลางความแล้งไร้


หากยังคงอวดดอกงามให้ งามสอนใจ
ว่าดอกไม้ไม่ว่านะที่แห่งไหนในพสุธานี้
จะดอกในเมือง
ในบึง ในป่า 
ในพงไพรลึกพนา
แบบแม่ดวงดอกไม้ป่ากล้วยไม้ไพร 
ก็ยังคงบานงามไสวมิยอมระย่อท้อแดดลม


และยังคงประดับใจให้ทุกดวงใจในโลกนี้ได้เห็นงาม..
ดับความเร่าร้อนให้โลกยังคงแสนเงียบงามสงบสุขไปชั่วนิจนิรันดร..!
*******************


urlhttp://thaipoem.com/web/songshow.php?id=392
ดอกไม้ใกล้มือ   
มัณฑนา โมรากุล : : Key Ab  
มวล เหล่าดอกไม้ใกล้มือ
เป็น สื่อ ให้คนเด็ดถือชมเชย
เจ้า อยู่ในที่เปิดเผย
เขา ใคร่ เชย เห็นเจ้าก็เลยเด็ดมา
คน เด็ดก็เพราะมันใกล้
ใคร ใกล้ เด็ดไปได้สมอุรา
บานล่อใจใครจะรู้ ค่า
ต่างปรารถนาจะได้ชม
ทิ้งไว้หมองไหม้เสียเปล่า
ขืนปล่อยเจ้าผึ้งไม่เคล้าก็เฉาด้วยลม
ทิ้งไยให้ตรม เหยื่อผึ้ง เหยื่อลม
ให้คนเขาชมดีกว่า
ดีกว่าจะทิ้งคาต้น
โรย หล่น ผู้คนไม่เห็นราคา
เจ้าใกล้มือเจ้าต้องถือ ว่า
ไม่ใช่ดอกฟ้าที่ห่างไกล
ดีกว่าจะทิ้งคาต้น
โรย หล่น ผู้คนไม่เห็นราคา
เจ้าใกล้มือเจ้าต้องถือ ว่า
ไม่ใช่ดอกฟ้าที่ห่างไกล...
 
  
				
comments powered by Disqus
  • สาวบ้านนา

    1 พฤศจิกายน 2547 11:25 น. - comment id 361440

    
    http://www.postjung.com/music-play.php?id=1780
    
    อีกฝั่งของท้องฟ้า
    อัลบัม : รักคนมีเจ้าของ
    ศิลปิน : ไอน้ำ
    
    
    
    
    
    เธออยู่ไหน รู้มั๊ยฉันคิดถึง 
    ยังจำวันซึ้งๆ ของเราได้ไหม 
    อยู่ไกลกันอย่างนี้ ฉันใจคอไม่ดีเท่าไหร่ 
    กลัวอะไรเปลี่ยนไปในทางไม่ดี 
    
    ดึกมากแล้ว ท้องฟ้ายังหลับไหล 
    มีแค่เพียงใบไม้ ที่ยังล้อเล่นกับลม 
    เป็นเพื่อนฉันอย่างนี้ ทุกค่ำคืนที่ขื่นขม 
    กับคำถามในใจที่อยากถามเธอ 
    
    * 
    ข้างๆ เธอตอนนี้มีใครรึเปล่า 
    เงียบเหงาเหมือนกับชั้นบ้างไหม 
    ข้างๆ ฉันตอนนี้ไม่มี ไม่มีใคร 
    มีเธอคนเดียวในหัวใจทุกเวลา 
    
    ** 
    ฝากความรักไปพร้อมความคิดถึง 
    กับคืนวันซึ้งๆ ที่เคยผ่านมา 
    ให้ช่วยเตือน ช่วยย้ำ ให้เธอได้รู้ว่า 
    อีกฝั่งของท้องฟ้า มีคนเฝ้าคอย 
    
    ( ซ้ำ *,** )
    
    ร้องเพลงเล่นดีจัว  ไม่มีไรให้อ่าน 
    อิอิ  โชคดีครับ ท่านเจ้าของบ้าน  บะบาย 
    
    
    
    +-*-+  +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+
     
     จาก : รหัสสมาชิก : 7555 - เมกกะ  
    >
    
    
  • สาวบ้านนา

    1 พฤศจิกายน 2547 11:26 น. - comment id 361441

    
    : มาฟังเพลงนะค่ะ คิดถึงเจ้าของบ้านด้วยค่ะ  
     จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา  
     รหัส - วัน เวลา : 368566 - 01 พ.ย. 47 - 10:54  
    
    
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    1 พฤศจิกายน 2547 11:34 น. - comment id 361445

    สวัสดีอีกครั้งค่ะพี่พุดพัดชา  ออกพรรษาปีนี้ผู้หญิงไร้เงาไม่ได้ไปทำบุญเหมือนปีก่อน ๆ ด้วยติดงาน แต่เมื่ออ่านงานนี้ ก็เหมือนพี่ทำเผื่อด้วยแล้ว อิอิ   คิดถึงเสมอนะค่ะ
  • ผีขี้เมา

    1 พฤศจิกายน 2547 12:00 น. - comment id 361455

    ..หิวข้าวมากครับผม
    
    
  • ยามเย็น

    1 พฤศจิกายน 2547 12:18 น. - comment id 361465

    ดีครับ
  • ผลิใบสู่วัยกล้า

    1 พฤศจิกายน 2547 16:17 น. - comment id 361688

    มาเป็นกำลังใจ....................จ้า
    
    
  • ชัยชนะ

    1 พฤศจิกายน 2547 19:38 น. - comment id 361814

    สาวบ้านนามาช่วงแรก อ่านได้อารมณ์สนุกสนานเพลิดเพลิน
    แถมเนื้อเรื่องก็เดินไปตามทำนองคลองธรรม
    
    แต่มาตอนปลาย ขายความเศร้าเจ้าประจำ
    
    ดีครับ ได้รับทุกอารมณ์
    
  • วิจิตร หนุ่มบ้านนา

    1 พฤศจิกายน 2547 20:16 น. - comment id 361851

    พี่พุดใช่ป่าวครับ
    
    ...........
  • พี่พุด..สาวบ้านนา

    1 พฤศจิกายน 2547 20:48 น. - comment id 361872

    ใช่ค่ะวิจิตร
    
  • รัถยา

    1 พฤศจิกายน 2547 23:22 น. - comment id 362007

    ......สาวบ้านนา คือ คุณพุดหรือนี่
  • พุด..ภาคสาวนาสาวไพรค่ะ

    2 พฤศจิกายน 2547 10:47 น. - comment id 362168

    รัถยาคะ
    งานสาวนาค่ะหรือพุดค่ะ
    .........
    
    ดวงดอกไม้ป่านะลานดุสิตาราวลานสรวง! 
    เลือนรอยลารวง
    หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน 
    กระท่อมลั่นทม!
    ตะวันลับฟ้าสาวนาหลงคอย!
    สาวนาเก็บเห็ด! 
    ช่อดอกข้าว! 
    สาวชาวสวน! 
    นวลเนื้องามพราวราวดวงดอกการะเกด!
     สาวนาลาไพรในท่ามกลางแสงใจอันรุบหรู่
    น้อยใจรัก 
    ท่ามกลางแสงตะเกียงอันริบหรี่!! 
    จำปีลืมต้น
    คลี่รวง..รอรัก! 
    ขวัญหล้า! 
    หนุ่มนาข้าว..สาวบ้านทุ่ง
    ทุ่งทองปองขวัญ! 
     มนต์รักริมทุ่ง
     เหล็กขูดวัดกับพร้าวเน่าราวร้าวรัก
    ริมลำธาร บ้านไร่แสนรัก 
    ในลมหอม..ม..
    รื่นรมย์ใต้ร่มไม้.. 
    ลำนำรักลำนำเมืองลำน้ำน่าน
    สาวน้อยนางแบบ 
     ดอกจานบานรอใจ 
    บ้านไร่ปลายนา
    หัวใจสะออนอ้อนหารัก 
    ใจจรดใจ!
    จิตกระจ่าง 
    รอยไถ!ไม่แปร!
    วันคอย
    ไผ่พลิ้วใบไหววิญญาณตะวันออก ! 
    ฤดูกาลฤดีระกำ! 
    ซ้อนอ้อนโอบพี่ขี่วัวไปทั่วทุ่ง! 
    ลำธารหอม 
    จันทร์เสี้ยวเกี่ยวใจ! 
    กระท่อมไพร 
    
    ด้วยยินดีนำเสนอค่ะ
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน