กระท่อมปลายนา!

สาวบ้านนา


Urlhttp://thaipoem.com/web/songshow.php?id=234
**************
ปลายฝนแล้ว...
ไม่มีสายวสันต์โปรยปรายลงมาพร่างพรมพรำ
ให้สาวนานอนฟังเสียงพร่างพราว
ราวดนตรีไพรดนตรีฝันดนตรีธรรมชาติอีกต่อไป


หมอกบางๆ
ยังเรี่ยรายพรายพลิ้วโอบตระกองกอดยอดภูและทิวไผ่
ยังห่มคลุมไปทั่วทั้งผืนนา..สีไพล
รอสลายลาไปกับสายแสงแรกแห่งอรุณรุ่ง


กบเขียดในนาพากันเลิกร้องระงมแล้ว
เฝ้าจำศีล..ในรูมิสู้แล้ง
ลำห้วยสายเล็กๆเริ่มแล้งแห้งน้ำ
มีเพียงดอกไม้ป่าเริ่มบานสะพรั่งรับลมร้อน..ระริน

ใบไม้พากันปลิดปลิวลิ่วร่อนว่อน เกลื่อนกล่นไปทั้งราวไพรราวป่า
พาให้ทุกสัมผัสคราย่างเหยียบเกิดเสียงดังกรอบแกรบๆ


วันนี้
สาวนาตั้งใจเข้าป่าเข้าไพรมาว่ายน้ำระเริงร่างใจ
ในลำห้วยสวยใสสั่งลา อำลา
ก่อนที่จะแห้งขอด
ที่นะบัดนี้
ลำห้วยสายที่สาวนาเลือกนี้ยังมีน้ำเนืองนองสองฟากฝั่ง
ไม่เหมือนลำห้วยบางลำเล็กๆ
ที่เห็นแต่กรวดหินโผล่ระดะแล้ว


สาวนาวักน้ำในลำห้วยใส่ปาก
น้ำอันแสนหวานหอมด้วยรสธรรมชาติ
ให้อาบเอิบในหอมห้วงหัวใจ
รินไหลเข้าไปในดวงจิตดวงใจ
วิญญาณดวงไพรอันแสนสงบงาม


ให้รู้ค่าน้ำค่าดิน..นานเนา..
ที่ยามได้ดื่มกินจะชื่นจะอิ่มงาม
ยิ่งกว่าการดื่มน้ำแร่แสนแพง
ที่พากันเข่งโหมโฆษณาตามทีวี ที่สาวนาเคยเห็น
เพราะน้ำที่นี่ดื่มฟรี
และ
ยังมีธรรมชาติรายรอบให้ยิ่งใสเย็นเป็นของแถม
แกมด้วยความหอมแห่งมวลดอกไม้ป่า
ที่กำลังพากันบานสะพรั่งรินโชยกลิ่นหอมหวานมาตามสายลมเย็น
ที่ยิ่งเน้นให้หัวใจบรรเจิดบรรจง..เป็นยิ่งนักยามที่ได้พักตาพักใจ


สาวนา ค่อยๆถอดเสื้อออกช้าช้า
และนุ่งผ้ากระโจมอก
โน่นดวงดอกข่าสีแดง
บานแรงบานแฉ่งแข่งขับสีเขียวไพลเขียวตอง
ลอดร่องเรียวไม้มาทายทักสาวนา


และนั่น
ชบาไพรดอกใหญ่สีส้มจัดจ้า
ที่สาวนาอดใจไม่ได้ต้องขอเด็ดมาทัดแก้มแซมผม
ก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนตัวลง
แหวกว่ายในสายน้ำอันแสนฉ่ำเย็น


สาวนาดำผุดดำว่าย 
จนเข้าไปใกล้รากไทรเอน
ที่มีเถาวัลย์พันห้อยระย้าย้อย
ให้เหนี่ยวตัวเล่นราวชิงช้าไพร 
แล้วค่อยๆปล่อยตัวหล่นโครมคราม
ในท่ามสายธารอันงามใสงามสวย


ซึ่งเป็นฉากงามเคียงลำห้วย
ด้วยดวงดอกจิกสีชมพูหวาน
ที่กำลังหว่านโปรยปลิดปลิวพลิ้วพรายพรม
ห่มหอมหวานไปทั่วทั้งธารน้ำรัก


มีเพียงเสียงกู่ก้องของสรรพสัตว์
เสียงนกไพรแว่วมาตามสายลมพรมไหวไปกับยอดไม้ไหวเอนอ่อน
สาวนานอนหลับตานิ่ง
ให้จิกน้ำ..ดอกงามดอกชมพูร่วงพรูพราวใส่ร่าง
ที่ยามนี้ทำตัวเบาแสนเบาให้ลอยเหนือน้ำ
และราวไร้ร่างไร้จิต
ฝึกสนิทผสานร่างไปกับธรรมชาติงามแห่งสายน้ำ


ที่เบื้องล่างใสแสนใส
จนเห็นกรวดเม็ดกระจ่างพร่างระยิบระยับวะวิบวับวะวับวาว
รับสายแสงละออของดวงดอกแดด
ที่ทอทอดลอดโลมไล้
ให้ลำห้วยนั้นยิ่งงามล้ำราวอัญมณีไพร
มณีใจอันแสนล้ำเลอค่า...อย่างยากยิ่งหาคำใดมาอธิบาย..


สาวนา..มองฉากป่า
ที่นะบัดนี้ราวเวทีฝัน
ที่ถูกเติมแต่งแต้มด้วยฝีมือธรรมชาติ
อย่างไม่กลัวเปลืองสี
ที่ดาระดาดเต็มไปด้วยดวงดอกไม้ป่านานาพันธุ์
มีทั้งหางนกยูงฝรั่ง สร้อยอินทะนิล
คูนเหลืองพราว 
ตะแบกพราวกลีบบางบางม่วงละมุน
หอมกรุ่นด้วยดวงดอกกล้วยไม้ไพรตามคาคบ


บ้างก็ผลิช่อตูมตั้ง
บ้างก็กำลังชูช่อไสวแย้มบานประดับไพรพนา
ที่สาวนา ไม่เคยอยากเด็ดกลับบ้าน 
เพราะกล้วยไม้ไพรนั้นจะงามเมื่ออยู่ตามคาคบไม้
ที่ราวสวรรค์จะชลอไว้ให้สาวนา
มาเสพสุนทรีย์เพียงลำพังในยามนี้ในฤดูนี้
ที่ฤดีสาวนาเพียงผู้เดียวจะรู้เวลาบาน


สาวนา..เพลินไพร.
กับน้ำในลำห้วยใส
จนเกือบสายัณห์ตะวันรอน
ที่เริ่มอ่อนแสงจะอัสดง


สาวนา..ค่อยๆคุ้ยหาเห็ด
เห็ดหมู เห็ดหล่ม เห็ดโคน เห็ดขิง เห็ดข่า
เห็ดถอบ เห็ดไข่ห่านเหลือง..
หากทว่าหายากยิ่งนักแล้วในฤดูกาลนี้
*ไม่เป็นไรสาวนาคิด*..ด้อมๆมองหาผักกูดผักหวาน
แค่นี้ก็บานเบิกใจแล้ว


ก่อนที่จะมาถึงกระท่อมไพร
สาวนาตรงไปแวะเด็ดยอดกระถินริมรั้ว
และตำลึงที่เลื้อยพัน
นั่นชะอมอิ่มงามยอดเขียวใส..
สาวนาจะไปเก็บไข่ในเล้ามาคลุกเคล้าทอดแนมน้ำพริกก็คงอร่อยดี


มีถั่วฝักยาวผักขิงกับพริกขี้หนูสวน
และเติมใบกะเพราให้หอมหวลหอมอวลน่ากิน
สาวนา อดใจไม่ได้คิดถึงเพลงสาวชาวสวนขึ้นมา
จึงร้องฮัมเพลงเบาๆคลอเคล้าผลไม้ผักหญ้าริมรั้วบ้าน
ที่งามวันงามคืน ให้สาวนากินไม่หมด


ไหนจะกล้วยสวนกอยักษ์ที่ห้อยหวีหนักหวีไหว
จนในวันนี้สาวนาต้องตัดมาห่มหอมรอง
ด้วยใบตองอันงามราวสไบไพรสไบนางไม้
ไว้ใส่ตะกร้าคอยแจกญาติธรรมมิ่งขวัญกัลยาณมิตรวันไปวัด..
ที่ทุกคนราวนัดกันกินอาหารพิ้นบ้าน
แบบชีวจิตที่เพิ่งฮิตตามไม่กี่ปีนี่เอง


สาวนา..แสนมีความสุขสงบใจ
ตั้งใจว่าคืนนี้จะทำกล้วยบวชชีและ
เอาไปให้เพื่อนบ้านแถวนี้
ดีกว่านอนเปล่าให้เหงาเงียบใจ
สาวนา..ค่อยๆไล้ตะเกียงในครัว
และจุดไฟในเตาพร่างให้หอมกลิ่นไม้ปะทุ
จนคุโชนแล้ว
สาวนา ค่อยๆจัดแจงขูดมะพร้าว
กับกระต่ายอย่างเร็วหากเบามือ
และ
ท่ามกลางแสงจันทร์เสี้ยวที่ทอทอดลอดไล้
ผ่านครัวโปร่ง
โล่งแลด้วยไม้ไผ่สาน
หากจะเห็นงามง่าย
ของชีวิตสาวนาในท่ามกลางงามเหงื่อ
ที่อวลอบไปด้วยรสมือ
ที่คือชีวีชีวิตดิบเดิม
งามเพิ่มค่าคำกุลสตรีไทย
ที่งานครัวนั้นไซร้คือความละไมละมุน
ให้ทุกคนอิ่มอุ่นท้อง..ครองรักยาวยืน..


และหลังเสร็จงานครัว
ราตรีนี้ก่อนที่จะนิทรา
สาวนาตั้งใจร้อยมาลัยมะลิ 
มะลิซ้อนมะลิลามะลิฉัตรอันแสนหอมกรุ่น
ไว้พลีบูชาพระพุทธ
กราบสวดมนต์ก่อนนอน 


เพี่ออธิษฐานจิตขอพร
ให้พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์จงคุ้มครองป้องปักอ้าย
คนดีที่แสนรักเอยแสนรักในกมล  
ในยามนี้ที่ไกลกัน


ให้อ้ายนั้นปลอดภัย
และมีแต่ความงามสงบในจิตใจดวงใสดวงดี
มีแต่ความอิ่มในรสบุญการุณย์ธรรม 
มาน้อมนำห่มหอมใจ


ไม่ว่าร่างใจจะอยู่ณ.แห่งหนไหน
ให้มีพลังจิตติดต่อกันได้ 
ให้รู้ว่ายังมีสาวนารอคอยด้วยรักภักดี


ยังมีจิตดวงดีดวงสวยดวงหอมงาม
ด้วยความหนักแน่นมั่นคงซื่อตรงกับคำมั่นสัญญา
มิลาเลือน จนกว่าเรือนกายจะแตกดับ 
หาก
ทว่าเรือนจิตนั้น
ก็ยังตามติดหลอมรวมผนึกแน่นเป็นหนึ่ง
ในรักภักดิ์พลีมิมีวันสิ้นสลาย


สาวนา..
จึงมีจิตเอิบงามนอนหลับตาสยายผมดอมดมดวงดอกไม้
ใกล้ชายคากระท่อมปลายนา
ในท่ามแสงตะเกียงริบหรี่ไหวในม่านมุ้งสีขาว
แม้นหนาวใจลำพัง
ในกระท่อมแห่งรักแห่งหวังใกล้ลานฝันลานลั่นทม
ใกล้ผืนนาอันอุดม
ด้วยรวงเรียวระย้าย้อย
ที่รอคอยเคียวเกี่ยวเก็บไม่ช้านาน


กับดอกดวงจิตตระการราวอัญมณี
ที่มิมีวันมอดแสงด้วยแรงแห่งปาฎิหารย์รัก
อันจักโชนแสงสวยจรัสโชติช่วงชัชวาลไปตราบนานเนานิรันดร์..!


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=234
กระท่อมไพรวัลย์ 
แดน นี้มี กระท่อมไพร 
สุข กว่า แดน ไหน ในพนาป่านี้ปานว่า
ดังจะเป็น กระท่อม รา ชา
ดี กว่าแดนไหนในหล้า ป่าเขาลำเนา ไพร
ฟัง เสียงพิณกอไผ่สี ดังหนึ่งมโหรี
เป็นดนตรีขับขานมาให้
เวียงวังทอง ก็รองกระท่อม ไพร
มี ป่าเป็นรั้วกว้างใหญ่ 
แดนไพรนี้เป็นประหนึ่งธานี
มี แต่เราเหงาใจดังว่า 
ชวน ฉัน น่า อนาถใจแสนทวี
ยัง ขาดนางเป็นราชินี 
ถ้า หาก แม้น มีกระท่อมไพรนี้สุขสมปอง
ทิว เขาปานดังม่าน บัง 
หริ่ง ต่าง แตร สังข์ 
ดังเวียงวังสวรรค์หอห้อง 
วังเวงพา ปักษา แว่ว ร้อง 
ชะนีกู่ เรียกหาคู่ครอง
ชวนให้ฉันปองกระท่อมไพรวัลย์...
*************


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=4086
กระท่อมปลายนา   
กระท่อมปลายนา หลังนี้
ไงล่ะเจ้า คือเหย้าเรือนหอ
ที่สร้างไว้รอ คอยนางนอ้ง
แม้นไม่ ใหญ่โต โอฬาร
ใช่ตึกสถาน วังทอง แต่ถัา
เจ้าครอง จะยิ่ง สวรรค์
กระท่อมปลายนา หลังน้อย
นี้ละเจ้า เทียบเท่า เมืองฟ้า
ถ้าได้แก้วตา มาเคียงขวัญ
น้องครองเป็นรา ชีนี ส่วนพี่
จะเป็น ราชันย์ร่วมกัน
สร้างสรรค์ วิมาน ปลายนา
จากแรงงาน หยาดเหงื่อ
พี่สร้างขึ้นเพื่อ นางน้อง
เพื่อเราทั้งสอง ร่วมครอง
วิวาห์ โปรดเห็นใจพี่ มาเป็น
เทพี กระท่อมปลายนา พี่รัก
แก้วตา ยิ่งกว่า ดวงใจ
กระท่อม ปลายนา หลังน้อย
ยังคอยเจ้า ยังเฝ้า คอยน้อง
เป็นผู้ครอบครอง กระท่อมไม้
แม้ย่าง เดือนออก พรรษา
เก็บเกี่ยวในนา เมื่อไร
จะไป สู่ขอ ตาม ประเพณี
กระท่อม ปลายนา หลังน้อย
ยังคอยเจ้า ยังเฝ้า คอยน้อง
เป็นผู้ครอบครอง กระท่อมไม้
แม้ย่าง เดือนออก พรรษา
เก็บเกี่ยวในนา เมื่อไร
จะไปสู่ขอ ตาม ประเพณี...
				
comments powered by Disqus
  • สาวนา

    13 พฤศจิกายน 2547 23:44 น. - comment id 369699

    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=634
     สาวชาวสวน   
    ลัดดาวัลย์ ประวัติวงค์ : : Key C  
    โอ้ อก สาวชาวสวน
    นอน หนาวใจรัญจวน
    อยู่บ้านกลางสวน ทุเรียน
    ลม หนาว พาพัดอยู่
    ฤดูผลัดหมุนแปรเปลี่ยน
    วัย สาวหมุนเวียน
    มา สิบแปดหน้า ฝน
    โอ้ อก สาวชาวสวน
    ฟังเสียงเรไรครวญ
    โศรกเศร้ากำศวร
    เหลือ ทน
    ยามแสงจันทร์นวลส่อง
    ฉันตรอง ครุ่นคิดหมองหมุ่น
    หากมี คู่รัก สักคน
    คงจะพ้น หนาว ใจ
    มองทุ่งมะลิวัลย์
    เถาทอดเลื้อยพัน
    รอบรั้วกระถิน
    กลิ่นหอม ไกล
    มะลิยังพรอด
    กอดกระถินด้วยเหตุใด
    แมลงแกล้งจูบดอกไม้
    เหมือนมีใครแอบ จูบแก้มฉัน
    โอ้ ดึก ดื่นคืนนี้
    ในสวนยามราตรี
    แจ่มจ้าด้วยสี แสงจันทร์
    ยาม ฉันมีชายคู่
    คิดดูวาบหวิวใจหวั่น
    อยากให้เถา มะลิวัลย์
    เป็นอ้อมแขนของ เธอ
      
    โอ้ ดึก ดื่นคืนนี้
    ในสวนยามราตรี
    แจ่มจ้าด้วยสี แสงจันทร์
    ยาม ฉันมีชายคู่
    คิดดูวาบหวิวใจหวั่น
    อยากให้เถา มะลิวัลย์
    เป็นอ้อมแขนของ เธอ...
    
     
    
  • เพราะรัก

    14 พฤศจิกายน 2547 00:16 น. - comment id 369709

    เพราะเหมือนเคยรูปก็สวยมากๆๆเลยค่ะ
    ชอบมากค่ะคืนนี้ฝันดีนะคะ
    คิดถึงเสมอค่ะพี่พุด
  • ลำน้ำน่าน

    14 พฤศจิกายน 2547 02:14 น. - comment id 369732

    มนต์รักข้าวรอเคียว    
    
    
    พอสิ้นสายสร้อยฝนพรมทุ่งท่า
    ลมเหมันต์เร่ฟ้ามาอีกหน
    ห่มท้องทุ่งสีทองของคนจน
    เจิมตำบลข้าวนาก่อนลารวง
    
    แล้วเพลงเกี่ยวป่าวร้องจึงก้องไป
    สู่ทิวตึกศิวิไลซ์ในเมืองหลวง
    บอกข่าวนาไม้ดอกออกพุ่มพวง
    ว่าตะแบกหม่นม่วงจะร่วงลา
    
    เรียกหนุ่มสาวชาวทุ่งมุ่งกลับถิ่น
    สู่แผ่นดินเถียงน้อยคล้อยพรรษา
    คืนมาเกี่ยวรวงทองของท้องนา
    คืนมาสู่วิญญาญ์ชาวป่าพฤกษ์
    
    สู่วิมานฟางข้าวเมื่อหนาวเยือน
    ฟังพ่อแม่สอนเตือนจนเดือนดึก
    ตราบน้ำค้างหยดยวงในห้วงนึก
    ร่วมรำลึกเพลงเกี้ยวเกี่ยวอุรา
    
    แหล่ะเมื่อคลายวังเวงบทเพลงไพร
    สิ้นเสียงหริ่งเรไรใกล้อุษา
    กล่อมอรุณด้วยโนรีสาริกา
    ยามฝั่งฟ้าแสงทองเรืองรองรับ
    
    แม่ดอกกระถินริมรั้วทั่วท้องทุ่ง
    บานจรุงอีกคราวเกร็ดหนาวจับ
    ไกลออกไปโพ้นคุ้งรุ่งระยับ
    ปวงไก่ป่าแซ่ศัพท์เสียงลับลอย
    
    ข้าวอ่อนโยนโอนช่อพ้อหมอกหนาว
    ระบัดโศกทิ้งเศร้าร้าวร่วงผล็อย
    โน้มรวงรอคล้องเกี่ยวคมเคียวคอย
    จากมือน้อยสาวบ้านนามิช้านาน
    
    สิ้นเพลงข้าวอกหนุ่มก็รุ่มร้อน
    เมื่อกระโดนแดงดอนซ้อนสีหวาน
    บานสาดทุ่งหนุ่มคอยรอยกันดาร
    จะลาลานลิ่วลับไปกับลม
    
    ดอกโสนเริ่มแย้มแต้มมนต์รัก
    พยานภักดิ์สองใจได้สุขสม
    เพลงสงฟางกลางนายังน่าชม
    เคียวลับคมเหน็บฝาสัญญาไว้
    
    นี่ก็หนาวอีกแล้วแก้วกานดา
    เสียงนกร้องปร่าปร่าว่าหวั่นไหว
    น้ำในคลองแห้งเหือดเดือดเป็นไอ
    ราวหัวใจพี่แห้งแล้งหน้านาง
    
    ข้าวรอยุ้งของน้องก็อ้อนโหย
    กลัวร่วงโรยไร้ใครเกี่ยวใส่ฉาง
    จะเรี่ยราดหล่นดินสิ้นหนทาง
    หากไร้คู่เคียงข้างช่วยงานนา
    
    ช่อรวงทองเหลืองสุกทุกท้องทุ่ง
    เถิดหมายมุ่งคืนถิ่นทิ้งยศฐา
    พี่ลับเคียวคมแวววับกับน้ำตา
    รอสาวนาคืนมาเกี้ยวเกี่ยวรวงโอน
    
    ----------------------------------------
    
    มนต์เสน่ห์แห่งบ้านนานั้นงดงามเป็นอมตะ
    ฤดูเก็บเกี่ยวก่อตำนานรักระหว่างสาวหนุ่มบ้านนา
    เมื่อเพลงเกี่ยวข้าวดังขึ้น  บทเพลงแห่งท้องทุ่งก็เริ่มบรรเลง
    หลังจากที่จากบ้านนาหลังฤดูปักดำเสร็จ ข้าวก็แตกกอรอรวง
    จนกระทั่งบัดนี้ ข้าวในนาเหลืองสุกอร่ามทาบทาไปทั้งทุ่งแล้ว
    หนุ่มสาวชาวนาที่ทิ้งถิ่นไปทำมาหากินในเมืองหลวง
    ก็ได้เวลากลับมาจับเคียวเกี่ยวรวงโอน ความรักในฤดูนี้ก็งอกงาม
    ด้วยหนุ่มสาวมีโอกาสใกล้ชิดกันในงานนา
    
    ผู้คนมากมายที่กินข้าวเลี้ยงชีวิตอยุ่ทุกเมื่อเชื่อวันในโลกนี้
    น่าเสียดายที่บางคนไม่มีโอกาสซาบซึ้งกับความงดงามเบื้องหลังเมล็ดข้าว
    ตำนานความลำบาก การเสียสละ ตำนานแห่งกระดูกสันหลังของชาติ
    และที่สำคัญตำนานแห่งความรักอมตะท่ามกลางความยากไร้
    แต่ทว่างดงามงามและงอกเงยขึ้นด้วยความสามัญและความรักเที่ยงแท้
    เฉกเช่นนวนิยายอมตะ อย่าง *ขวัญเรียม* หรือ *มนต์รักลูกทุ่ง*
    ที่ได้รับการกล่าวขวัญอย่างไม่มีวันตายไปกับกระแสวัฒนา
    
    หากกำลังท้อใจ ลองใช้เวลาว่างออกไปมองท้องทุ่ง มองวิถีชีวิตชนบท
    ออกไปมองธรรมชาติรายรอบตัวที่หนีออกไปจากกรงกรุง
    บางที่เราอาจจะพบทางออกและคำตอบบางอย่างให้กับชีวิต
    พบความสุขในมิติใหม่ที่หาไม่ได้ในเมืองหลวง
    มิติที่เรียบง่าย สามัญ และงดงามตามธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง
    แล้วโน้มความสุขที่ได้นั้นมาเป็นกำลังใจในยามที่ท้อแท้
    ด้วยคิดว่า โลกนี้ยังมีธรรมชาติที่มีค่าคู่ควรแก่การดำรงอยู่
    เยี่ยงผู้ให้และผู้รับ เป็นความรักที่บริสุทธิ์และยั่งยืนนิรันดร์
    
     
    
  • ลูกกวาดสีฟ้า

    14 พฤศจิกายน 2547 07:58 น. - comment id 369747

    งดงามมากเลยคะ
    
    ----แวะมาชื่นชมผลงานจ้า-----
  • สาวนา

    14 พฤศจิกายน 2547 09:37 น. - comment id 369771

    
    กำลังฟังเพลงพงษ์สิทธิ คัมภีร์แกล้มค่ะ
    *ชุด15ปีคัมภีร์เพลงชีวิตชุดที่หนึ่ง*
    ซึ้งใจเพลงตลอดเวลา
    และถึงเพื่อน
    มาตามสัญญา
    สุดใจ(เพลงนี้ชอบเป็นพิเศษค่ะ)
    ***********
    
    สร้อยฝนสร้อยฝันสวรรค์ไพร
    สร้อยเกี่ยวใจเคียวเกี่ยวรวงห่วงหอมหา
    มนต์เพลงทุ่งรุ้งรวงเรียวเกี่ยวข้าวนา
    เพลงเหว่ว้ายามดายเดียวเคียวรอใคร
    
    อ้ายสัญญาคืนถิ่นทุ่งมุ่งกระท่อม
    จะมาหอมแก้มสาวนาเนียนแดดใส
    จนวันนี้ข้าวเหลือซังหวังซมซานรอเคียวใจ
    คมบาดใจไหวบาดซ้ำย้ำระทม
    
    ตะแบกแบกรักหนักรอกี่ปีแล้ว
    ดงดอกแก้วตระการหวานหอมห่ม
    หล่นเลือนลาพร่างพื้นหอมพร่างพรม
    เหมือนคำลมคำมั่นคำสัญญา..
    
    เพียงคิดถึงแค่นั้นใช่หันกลับ
    ลอมฟางรับรู้ใจใครห่วงหา
    สาวนาเอ๋ยนอนนิ่งเฉยมองเพียงฟ้า
    อ้ายลับลารวงระย้าย้อยเฝ้าน้อยใจ
    
    ไม่เป็นไรใจสาวนาชินชาเฉย
    อ้ายอย่าเอ่ยคำหวานให้หวามไหว
    ลั่นทมริมกระท่อมยังหวานเศร้าเฝ้าปลอบใจ
    เหมือนดวงใจสาวนาล้าแรมรัก
    
    สวดมนต์ทำบุญหมุนวงล้อ
    ข้าวกี่กอใจกี่เจ็บเหน็บหนาวหนัก
    ไม่เป็นไรใจสาวนายังแน่นหนัก
    ยังพลีภักดิ์ยังเฝ้ารอกับกอรวง
    
    หากรักจริงไยอ้ายไม่คืนกลับ
    กี่วันนับกี่เดือนรอพ้อห่วงหวง
    อ้ายมีเพียงลมลิ้นวิ่นวาดสวาทลวง
    ว่ารักรวงรักสาวนาน่าน้อยใจ
    
    สี่ในสี่ห้องหัวใจให้อ้ายหมด
    เป็นงามงดรักบริสุทธิ์ดุจน้ำใส
    เป็นน้ำค้างกลางป่าพงนะดวงใจ
    คือสาวไพรคือสาวนา..อย่าลืมเลือน!อย่าลารวง!.ให้ห่วงรอให้พ้อรัก!
    
    
    
  • รวงรอทุย

    14 พฤศจิกายน 2547 09:47 น. - comment id 369773

    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=94
    ขวัญใจเจ้าทุย   
    รวงทอง ทองลั่นทม : : Key C  
    เจ้าทุยอยู่ไหน ได้ยินไหมใครมากู่ กู่
    เรียก หาเจ้าอยู่ อยู่ หนใดรีบมา
    เจ้าทุยเพื่อนฉัน ออกมาหากันดีกว่า อย่า 
    เฉยเลยอย่าอย่า มะมา เร็วไว
    เกิด มามีแต่ทุย เป็นเพื่อนกัน
    ค่ำเช้า ทำงาน ไม่ทิ้งกัน ไม่หายไป
    ข้า มีข้าวและน้ำ นำมาให้
    อีกทั้ง ฟางกองใหญ่ อย่าช้าไย อย่าช้าไย
    เจ้าทุยเพื่อนจ๋า ออกไปไถนาคงเหนื่อย อ่อน
    เหนื่อย นักพักผ่อนก่อน หนาวจนอ่อนใจ
    ข้าจะอาบน้ำ ป้อนฟางทั้งกำคำใหญ่ ใหญ่
    จะสุมไฟกองใหม่ ใหม่ ไว้กันยุงมา
    เจ้ามีคุณแก่เรามามาก มาย  
    ถึงแม้ เป็นควาย เจ้าเหนือกว่า ดีเสียกว่า
    ผู้ คน ที่เกียจคร้าน ไม่เข้าท่า
    ทุยเอ๋ยเจ้าดีกว่า ช่วยไถนา ได้ทุกวัน
    
    เจ้าทุยนี่เอ๋ย ข้าเคยเลี้ยงดูมาก่อน เก่า
    เมื่อ ครั้งยังเยาว์เยาว์ ทั้งทุยและฉัน
    ข้าเคยขี่หลัง นั่งไปไหนไป ไม่หวาด หวั่น
    จะสุขทุกข์เคยบุก บั่น รู้กันด้วยใจ
    เติบ โตมาด้วยกันในไร่ นา เคยหา กินมา 
    ข้าเห็นใจ ข้าเห็นใจ 
    เจ้า ทุย ยากจะหา ใครเทียมได้
    ข้ารักดัง ดวงใจ ไม่รักใคร ข้ารักทุย...
    
    
    
      
    
    
    
    
  • สาวนา..

    14 พฤศจิกายน 2547 09:49 น. - comment id 369774

    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4446
    ตลอดเวลา [ LIVE ]   
    พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ : : Key A  
    
    พักสายตา เถอะนะคนดี
    หลับลง ตรงนี้
    ที่ที่มี แต่เราสองคน
    ผ่านเรื่องราว
    ผ่านงาน ผ่านคน
    สับสน หลายความ
    บางเวลา ต้องการสักคน
    ไว้คอย ปลอบใจ
    เข้าใจ พูดคุย
      
    ความรักเอย
    งดงาม อย่างนี้
    จนชั่ว ชีวี
    โหยหาความ รักไม่เคย พอ
    อยาก ให้เธอ
    เคียงข้าง อย่างนี้
    บอกรัก อีกที
    อยู่ใกล้กัน ตลอดเวลา
    พัก กาย พัก ใจ
    หลับตา ฝัน ดี
    รัก เอย รัก ที่
    เข้าใจ ถึง กัน
    พัก กาย พัก ใจ
    หลับตา ฝัน ดี
    รัก เอย รัก ที่
    เข้าใจ ถึง กัน
      
    ความรักเอย
    งดงาม อย่างนี้
    จนชั่ว ชีวี
    โหยหาความ รักไม่เคย พอ
    จะอยู่ ที่ใด หนใด ก็ดี
    ขอให้ มี เธอ
    สุขเสมอ ไม่มีใด เทียม
    พัก กาย พัก ใจ
    หลับตา ฝัน ดี
    รัก เอย รัก ที่
    เข้าใจ ถึง กัน
    พัก กาย พัก ใจ
    หลับตา ฝัน ดี
    รัก เอย รัก ที่
    เข้าใจ ถึง กัน...
    
    
      
    
    
    
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    14 พฤศจิกายน 2547 12:34 น. - comment id 369834

    อ่านกระท่อมปลายนาของ สาวบ้านนา และก็ มนต์รักข้าวรอเคียว ของ ลำน้ำน่านแล้ว นึกถึงบ้าน เลยเขียนลุยทุ่ง- กลับบ้าน บ้าง แต่ไม่เข้าแก๊ปเลย อิอิ
  • ราชิกา

    14 พฤศจิกายน 2547 15:14 น. - comment id 369900

    อ่านงานพี่พุดแล้ว...ได้แรงบันดาลใจ...อาจจะมาแนวของสาวบ้านนา..สไตล์ราชิกา..ก็เป็นได้...ลองดูดีมั้ย..พี่พุด..แล้วอย่าลืมติชมด้วยนะคะ..คิดถึงค่ะ...
    
    
  • วิจิตร ภู่เงิน

    14 พฤศจิกายน 2547 15:27 น. - comment id 369917

    วิจิตรเอางานมาให้พี่พุดตรวจด้วยครับ
    
    .....
    
    วันนี้พาพี่พุดลงทุ่ง ต่อไปคงพาเข้าเมืองบ้างครับ ถ้าเขียนได้นะครับ
    
    รักษาสุขภาพนะครับ...
    รักพี่ จากน้องชาย
  • เมกกะ

    14 พฤศจิกายน 2547 15:56 น. - comment id 369949

    อร่ามเหลืองเรืองรองทั่วท้องทุ่ง
    เมื่อแดดส่องจากฟ้าสูงยามรุ่งสาง
    ผลิบานรับอรุณยามรุ่งราง
    คลี่กลีบบางอาบแสงแห่งตะวัน
    
    รับไอกรุ่นอุ่นไอในลำแสง
    อย่างทายท้ากล้าแกร่งตามแรงฝัน
    เพื่อสืบสานความงามแห่งพฤกษ์พรรณ
    ประดับเด่นเป็นสีสันบนผืนดิน
    
    ราวกับดวงตะวันนับพันหมื่น
    ที่ดาษดื่นเรียงรายไม่สุดสิ้น
    ดารดาษเป็นพรมพื้นทั่วผืนดิน
    เรืองรองทั่วท้องถิ่นแผ่นดินไกล
     
    ดังดวงตะวันอันเปี่ยมหวัง
    ที่เปี่ยมด้วยมนต์ขลังอันยิ่งใหญ่
    เป็นความหวังกลางฝันอันสุขใจ
    ของผู้คนบนผืนไร่ทานตะวัน 
    
    
    อิอิ  พี่พุดเหรอครับ  นึกว่าใคร  เลยไม่ได้เข้ามาเยี่ยม จิ๊จิ๊
    
    +-*-+  +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+
    
  • ชัยชนะ

    14 พฤศจิกายน 2547 18:00 น. - comment id 370076

    สาวนากับผ้ากระโจมอก
    ขายเห็ดได้หาซื้อเสื้อมาใส่บ้างนะครับอากาศจะหนาวแล้ว
    
    ประสานเสียงร้องเพลงแต่งแข่งกับกบ
    หาไต้คบจุดยามค่ำเพื่อนำแสง
    ผักกระถินริมรั้วทั้งถั่วแตง
    ถึงแห้งแล้งแต่นำใจไม่แล้งตาม
    
  • แมงกุ๊ดจี่

    15 พฤศจิกายน 2547 12:54 น. - comment id 370584

    สวัสดีค่ะ...สาวบ้านนา
    
    มะกรูดก็เป็นสาวบ้านนาล่ะ
    
    ู^__^
    
  • สาวนา

    16 พฤศจิกายน 2547 16:32 น. - comment id 371389

    สาวนามาขอบคุณนะจ๊ะทุกดวงใจ
    ที่สงสารสาวนาจ๊ะ
    *****
    น้องเพราะรัก
    
    มาเพราะรักสาวนาใช่ไหมจ๊ะ
    ซึ้งใจคนบ้านนอกบ้านนาจังเลยจ๊ะ
    
    *********
    ลำน้ำน่าน..
    งานงามจังจ๊ะ ใครนะจะโชคดี
    ได้รับความรักจากหนุ่มหัวใจไพรแบบนี้
    
    ภาพบ้านนานี้บรรเจิดมากนะครับ  ผมยิ้มได้เวลาที่เห็นภาพแบบนี้  ตั้งใจจะมีเรือนแบบนี้สักหลังหนึ่งในชีวิตนี้ อยากใช้ชีวิตเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณด้านใน
    
    น้องหุงข้าวหนาวนี้ที่เพิ่งเยือน
    อย่าแชเชือนน้ำข้าวซาวให้พี่
    เหยาะเกลือแกงข้าวหอมย้อมฤดี
    ความสุขมีในสามัญธรรมดา
    
    ดอกมะลิหอมอุ่นกลิ่นกรุ่นแล้ว
    ข้าวสารแก้วหอมพร่างกลางพรรษา
    หอมอรุณธรรมทองของท้องนา
    สาวบ้านป่าหอมแก้ม...เอียงแก้มให้
    
    ปลุกตื่นแล้วดวงใจในหน้าหนาว
    ปลุกมาสู่แดดเช้าของวันใหม่
    บุพเพสันนิวาส...สะอาดไพร
    ร่วมกราบไหว้ถวายข้าวอย่างชาวพุทธ
    
    เตรียมแบกไถไปนาเมื่อฟ้าเรือง
    สว่างเหลืองจีวรพรพิสุทธิ์
    พระธรรมทองสัมมาฯ มายื้อยุด
    สองเราหลุดพ้นจิต....สู่นิพพาน
    
    
    จาก : รหัสสมาชิก : 4309 - ลำน้ำน่าน  
    
    ***********
    น้องลูกกวาดสีฟ้า
    
    นามปากกาสวยใสแสนน่ารักนักค่ะ
    สาวนารักจัง
    ขอบคุณที่มาเป็นกำลังใจจ๊ะ
    ***********
    
    ฤกษ์..
    น่ารักจังจ๊ะ
    ซึ้งใจสาวนาตลอดเลย
    ที่ไม่เคยลืมทุ่งรวงทอง
    ไปเมืองนอกเมืองนา
    ก็ไม่เคยลืมนาเดิมดิบดินเลยนะจ๊ะ 
    หัวใจทองของคนดีช่างติดดินจังเลยจ๊ะ
    
    ********
    ราชิกา..
    ลองรจนาดูแล้วใช่ไหมงามใจจังเลยจ๊ะ
    เป็นเกียรติมากที่บันดาลใจจากหญิงชาวนาชาวไพรจ๊ะ
    ********
    วิจิตร
    ไปฝากคำไว้นะจ๊ะในงานรูรั่วที่ท้องเรือ
    วิจิตรน้องรักยิ่งกว่ารัก
    
    พี่พุดค่ะ
    เคเบิลโทรศัพท์
    เสียไปสองสามวันเลยเข้าไม่ได้ค่ะ
    
    มาวันนี้
    มาอ่านงานวิจิตรเป็นรอบที่สี่ค่ะ
    อ่านจนซึ้งเลยค่ะ
    เพราะ
    พี่พุดรักงานวิจิตรมาก
    
    พี่พุด..รักงานแบบนี้
    ภาษาแบบนี้
    เรื่องเล่าใสซื่อแบบนี้
    มันโดนต่อมใจสาวนามากค่ะคนดี
    
    พี่พุด เคยรักงานคุณยงส์ ยโสธร
    เรื่อง*คำอ้าย*
    ไม่รุวิจิตรเคยอ่านมั้ย
    เป็นหนังสือให้เด็กมัธยมอ่าน
    
    คุณยงศ์ ก็คนอิสานแสนใจดีแสนจิตงาม
    แบบวิจิตรนี่แหละค่ะ
    
    พี่พุดเพียรพยายามหาเบอร์
    ถึงกับหมุนไปหา
    
    คือคนไหนพี่พุดรักงาน
    จะพยายามให้ได้ยินเสียงมากค่ะ
    และ
    แค่ขอฝากคำรักศรัทธาชื่นชมไว้ด้วยคารวะ
    
    พี่พุดเคยโทรหาคุณ วิมล ไทรนิ่มนวล
    
    ตามหาคุณโกศล กลมกล่อม
    และน้ำตาท่วมใจ
    เมื่อทราบว่าสายไป
    คุณโกศลเสียชีวิตไป
    ด้วยอุบัติเหตุ
    กลับมาจากวัดสวนโมกข์ค่ะ
    ก่อนที่จะได้คุยและฝากความรักความซึ้งใจ
    และ
    พี่พุดอยากรจนาเล่าถึงเบื้องหลังที่พี่พุดเพียร
    ตามหาเค้านะคะ 
    และวันนั้นวันที่จบด้วยน้ำตา
    เมื่อได้คุยกับคุณรักษ์ มนัญญา
    และทราบข่าวสะเทือนใจเป็นยิ่งนัก
    
    และ
    ไม่กี่เดือนก่อน
    คุยกับคุณกานติ ศรัทธาค่ะ
    กวีที่เข้ารอบสุดท้ายซีไรท์
    
    หวัง
    ไม่ช้า
    คงได้คุยกับ
    นักเขียนแนวลุกทุ่งระดับชาติในอนาคต
    *หนึ่งในแดนทองถิ่นที่ราบสูงของเรานะคะ*
    พี่พุดแสนมั่นใจ
    ในถนนยาวไกลแห่งโลกบรรณพิภพ
    โลกแห่งธรรมชาติสายฝันสายดอกไม้งาม
    หากเขาคนนั้นไม่ล้าถอย
    เขาคนนั้นคือวิจิตรค่ะ*
    ได้ยินไหมคะ
    ********
    ที่พี่พุดจะคอยตามติดงานไม่มีวันคลาดคลา
    หากดวงตาพี่พุดยังไม่มืดบอดนะคะคนดีในดวงใจของพี่พุด
    
    แต่
    หากตาบอดพี่พุดหวังคนมีใครสักคน
    ที่รักวิจิตรพอกับพี่พุด
    ที่เราคุยถึง
    ด้วยความซาบซึ้งเสมอลับหลังวิจิตร
    หากเขายังรักพี่พุดคงจะอ่านให้พี่พุดฟังค่ะ
    แต่หวัง
    *ชีวิตนักอยากจะเขียน*
    อย่างพี่พุดพัดชาและสาวบ้านนา
    คงไม่เศร้ายังงั้นนะคะ..ภาวนา..
    
    วิจิตร 
    อย่าท้อนะคะ อนาคตไกลมาก
    เขียนมาเลยค่ะงานแนวนี้ที่ถนัด
    ที่นีบวันหาคนรจนายากมาก
    เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ
    เหลือนักเขียนพันธุ์ดิบดินถวิลไพร
    ชักน้อยลงทุกวันค่ะ
    
    งานวิจิตรงามมากๆๆๆค่ะ
    จนนาทีนี้
    สาวนาต้องยกให้งานดิบแบบนี้ค่ะ
    ที่จริงยิ่งกว่าจริง
    งามยิ่งกว่าจินตนาการแบบของสาวนานะคะ
    
    คนดี
    พี่พุด..อยากให้วิจิตรทราบว่า
    พี่พุด 
    จะเคียงข้างไม่ร้างไกล
    คนมีหัวใจพันธุ์เดียวกันค่ะ
    เหมือนกับที่
    คุณชลธี ธารทอง
    *นักแต่งเพลงศิลปินพื้นบ้าน*
    ที่พี่พุดได้รับเกียรติจากท่าน
    ให้พบและสนทนาถึงบ้าน
    และ
    ท่านยังได้กรุณาให้เกียรติพี่พุด
    มอบลายเซนต์ล้ำค่าคำล้ำความรู้สึก
    ประทับในดวงจิตดวงใจพี่พุด
    จนหาคำมาบอกความในใจยากจังค่ะ
    
    ท่านเซนต์ไว้ว่า
    *ดีใจที่ได้รู้จักคนในมิติเดียวกัน*
    
    ท่านบอกว่าชวิตท่านนั้น
    แม้นผ้าอ้อมพันกายแทบไม่มี*
    และ
    วิจิตรคิดดูซี
    ท่านยังได้เป็นถึงศิลปินแห่งชาตินะคะน้องชายคนดีของพีพุด
    
    พี่พุดรักงานน้อง
    รักวิถีงามแห่งน้อง
    ที่ได้เกิดมากับดิน
    ที่จะหล่อหลอมให้เป็นสุภาพบุรุษหัวใจไพรใจเกินร้อยค่ะ
    พีพุดรักเกินจะกล่าวแล้ว
    
    จาก้นบึ้งแห่งความจริงใจค่ะน้องชาย
    
    จาก : พี่พุด สาวนา  
    
    ********
    เมกกะ..
    ซึ้งใจที่ไม่เคยลืมสาวนาเลยจ๊ะ
    มากๆๆๆ
    
    *********
    เช่นเดียวกับเมกกะจ๊ะ
    ชัยชนะ
    มีตังค์ไว้กินดีกว่าจ๊ะ
    เสื้อมีสองสามตัวพอใส่แล้ว
    *******
    แมงกุ๊ดจี่...
    ฝากคำไว้แล้วที่งานงามน้อง
    ลองรจนาแบบวิจิตรดูนะ
    มีธรรมชาติชิดใกล้แล้วได้เปรียบจังเลยจ๊ะ
    *********
    
    และ
    ลงท้ายด้วยกวีดีไรท์ได้แน่แล้วในใจสาวนาจ๊ะ
    ที่เขาไปฝากไว้ในงานลุยทุ่งของฤกษ์รัก
    สาวนาชอบเลยนำมาแปะไว้จ๊ะ
    .......
    จากลำน้ำน่าน
    ฤดีทองฤดูทุ่ง..สาวนาตั้งชื่อให้จ๊ะ
    
    กลับมาเถิดมาสู่ฤดูทุ่ง
    มาหมายมุ่งถางทางที่ร้างเรื้อ
    หอบเอาฝันไออุ่นมาจุนเจือ
    มากอดเนื้อกอดน้องร้องรอบกาย
    
    เก็บเกี่ยวแล้วพี่เอ๋ยเลยลงแขก
    พลังแรกสามัคคีมีความหมาย
    ความสัมพันธ์บ้านเราหรือเฉาตาย
    แม้นข่าวร้ายราคาข้าวยังร้าวราน
    
    เราอาจอยู่เพียงพอไม่ง้อใคร
    รู้พอใช้รู้เก็บเม็ดข้าวสาร
    ตื่นเช้ามาจับไถไปลุยงาน
    ไม่เกียจคร้านให้ใครได้นินทา
    
    กลับมาซิ..มาสู่ฤดูเกี่ยว
    มาจับฟางจับเคียวเหนี่ยวเหน็บฝา
    ลับคมงามล้างรอยคราบน้ำตา
    อิ่มสุขอยู่ใต้ฟ้า..ผืนนาเนาว์
    
     จาก : รหัสสมาชิก : 4309 - ลำน้ำน่าน 
    ********
    
    และด้วยน้ำตาแห่งปิติใจ
    ที่งานกระท่อมปลายนา
    ได้ก่อเกิดแรงบันดาลใจ
    ให้แด่
    ลำน้ำน่าน
    ฤกษ์
    ราชิกา
    และแค่นี้ก็แสนดีแล้วจ๊ะทุกดวงใจ
    
    ด้วยซึ้งใจ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน