รุ่งอรุณแห่งความสุข!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=510
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=359
..................


เจ้านกเหล็กปีกเงินวะวาววับ
กำลังกางปีก
จะพาผมร่อนลงณ.สนามบิน*สุโขทัย*
สนามบินที่...
ผมคิดว่าแสนงามแสนมีมนต์ขลังที่สุดในประเทศไทย


ผมมองเห็นทัศนียภาพเบื้องล่าง 
ราวผมมีปีกเป็นนกไพรเสียเอง
นั่นบึงบัวตระการ 
งามตระการตาอย่างในภาพวาดสระหิมพานต์


บึงบัวหลากสีหลากพันธุ์กำลังชันชูช่อไสว 
ค่อยๆคลี่กลีบแย้มบาน
รอเวลาให้มวลภมรมาว่อนดมเกสรแสนหวาน
มาภิรมย์ฉ่ำเคล้าคลุกสุขไปตามธรรมชาติมหัศจรรย์
สร้าง..*ขุมทรัพย์อนันต์อณูแห่งดวงดอกไม้*
ให้ยังคงได้แพร่พันธุ์ประดับโลกประดับหล้าประดับใจ


และ
สำหรับผม แม้มิใช่ภมร
ก็กำลังได้กลิ่นหวานหอมปานประหนึ่งน้ำผึ้งรวง
ในละออละอองเกสรกรายกลีบ
เฉกเช่นกัน
ราวกำลังดอมดมด้วยจิตนิรมิตเอาเอง


ในยามนี้
ผม..กำลังคิดถึงแดนสวรรค์ชั้นต่างๆ
ที่ผมเคยสร้างภาพและอ่านผ่านตา
ในหลายเรื่องราว
เกี่ยวกับแดนฟ้าเหนือหล้าโลกเหนือโศกสุขนี้
อย่างในเรื่อง*กามนิตวาสิฎฐี*


และ..
ในทุกคราครั้ง
ที่..*ผม*มีโอกาสเดินทางกับเครื่องบิน
ผมมัก..คิดทุกคราจินตนาไปทุกทีว่า
ตัวผมนี้กำลัง
*ลอยล่องท่องนาวาทองนาวาบุญ..*ยานบุญ..หนุนนำ


กำลังพาผมไปสัมผัสเขตสวรรค์
แดนนิพพานอันแสนตระการราวเมืองแก้วแวววะวิบวับ
ที่...
ผมเคยหยิบจับมารจนาฝากพาให้ทุกดวงใจ
ได้สวยใสสร้างภาพงามตามค่าคำน้อมธรรมทาน
จากจิตใสใจดวงหวานของผมเอง


ที่...
ชอบบรรเลงแต่เรื่องธรรม ธรรมชาติ
มิสาดโคลนร้าย
หมายมุ่งพลอยพาให้ใครเจ็บร้าวโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ราวไฟรานมาแผดเผาใจ
ไปกับคำคนคนคนวนวนวนด้วยกิเลสตัณหา
อัตตามากมายที่ช่อนกันไว้มีกันไว้
ให้ชดใช้ไปตามวิบากกรรมวิบากเก่า..ให้ลำบากใจ


กลับมา..นาทีนี้ดีกว่า
ที่..*ยานบุญ*..ของผม..
กำลังไต่ระดับลดเพดานบินลง
เหนือชั้นบรรยากาศ


ที่..
ราววิมานเมฆวิมานรุ้งนวลนุ่มซ้อนสลับสล้าง
ราวสายไหมในท่ามทะเลหมอก
งามตระการตา เป็นช่อชั้น ระยับระย้ายวง
ราวรวงฟ้าที่แสนงาม


ด้วยเจือสีส้มชมพูทอง
อันแสนอ่อนหวานคละเคล้าฉายฉาน
ส่องประกายพรายพราวพร่างระยิบระยับจับนวลใจ
ให้ไหวหวามด้วยมวลเมฆวิเวกสงบงาม
ในท่ามกลางความงามว่าง
งามเงียบยามตะวันรุ่งตะวันรุ้ง


และ
ผมคิด....
*นี่ไงล่ะคือแดนมณีรุ้ง แน่แน่เลย
ดั่งแดนฝันสวรรค์สรวง
ให้หอมห้วงแห่งจินตนาการกวีทุกดวงใจ
และ
พาให้ผมคิดถึงบทกวีอันแสนอลังการยิ่งใหญ่
*ของท่านอังคาร กัลยาณพงษ์*ขึ้นมาณ..บัดนั้น


วิมานน้ำค้าง.... โดยท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ 
วิมานน้ำค้างสร้างด้วยธาตุฝัน 
เอาหอไกวัลเป็นห้องแก้ว 
อัจกลับระยับระย้าอยู่พรายแพรว 
คือแววรุ้งรัตนาดาราราย 
หาดทรายอ่อนฉะอ้อนดั่งบรรจถรณ์ 
หมอนท่อนไม้คือเขนยฟ้าถวาย 
ธาราบ่าเซาะหินดินทราย 
คือนางไม้ขับกล่อมอ้อมใจ
 ละเมอผวาหาเสี้ยวเดือนทอง 
คือน้องนางแก้วแววขวัญสมัย 
อ่อนไท้โลมไล้ทิพย์ละมุนละไม 
แสงเสน่ห์ใสสุดสวาทบ่วาย 
น่านำน้องท่องหล้ามหาสมุทร 
สุดฝั่งฝันกว่าสวรรค์จะหาย 
หมั่นเจ้าด้วยค่าฟ้าพรรณราย 
สุดสายในบุรุษรัตน์รมณีย์ 
นั่นผาชะโงกโตรกชะง่อนง้ำเงื้อม 
อาจเอื้อมเอาดาววาววิเศษศรี 
หรือช่อปาริชาตสุดแสนดี
 หรือวิถีมิติฝันอนันตกาล 
พู้นทางช้างเผือกผุดผ่องสกาว 
บางดวงดาวพุทธเจ้าประดิษฐาน 
บางเอกภพคือทิพยนิรพาน 
คลื่นอดีตผ่านนานนับกัปป์กัลป์
 ปุยเมฆหอมเกสรรังร่วง 
มาทวงมโนคติหล้าอาถรรพณ์ 
ดาวไถไถทุ่งฟ้าวิลาวัณย์ 
จะเกี่ยวข้าวขวัญค่าชีวาใด 
น้ำค้างดงดึกดื่นสะอื้นโศก 
ชลเนตรโลกวิปโยคหรือไฉน 
หมู่มนุษย์น้อยอหังการ์ฆ่าใคร 
ฆ่าพิภพสบสมัยสุดสามานย์ 
ไม่รักทะนุถนอมคุณค่าโลก 
จะทุกข์โศกตราบฟ้าอวสาน 
ยุคมนุษย์จะสุดสิ้นมิช้านาน 
เป็นพยานเถอะสายธารที่จาบัลย์ 
น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง 
ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างฝัน 
ฆ่าชีวาคือพร่าคืนวัน 
จะกำนัลโลกนี้มีงามใด 


ผม..กำลังฝัน... ถึงเมืองแก้วเมืองสวรรค์ในมโนนึก
เมืองที่ผมเพียรฝึกคิดสร้างจิตใส
เนรมิตทิพยไสวพร่างกระจ่างราวอัญมณีเพชรไพร
จากใจดวงงาม..ณ..บ้านภายในของผมเอง


ผม..มิใช่นักบุญนักธรรม 
สารภาพว่า..
เป็นได้แค่เพียงปุถุชนคนธรรมดาเท่านั้น
ที่เพียรไขว่คว้าทำความดี
คิดดี พูดดี คบคนดี  ไปในสถานที่ดี


และ
พลีชีวี
ฝึกสร้างปัญญาจากการรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์
ดิ้นรนให้หลุดพ้นกิเลสตัณหาทุกข์ผัสสะที่มากระทบ
หาหนทางลบแผ้วถาง
ให้จิตกระจ่าง
เพื่อนำทางชีวิตให้จิตใสด้วยพลังใจของตัวผมเอง


ที่..
ผมพยายามศึกษาด้วยการอ่านมากมาย
และ..
ได้พบว่าทุก..ค่าคำสอนนั้นจะไร้สิ้นความหมาย
หากไม่นำมาใช้
หากุศโลบายเรียนลัดตัดตรง


*นิพพานที่นี่เดี๋ยวนี้*มิพักรอวันตายให้เสียเวลาเปล่าเปลือง
อย่างที่ท่านพุทธทาส
ที่ผมเทิดศรัทธาท่านไว้เหนือศีรษะ
ได้ฝากแง่คิดล้ำค่า
ที่แสนศักดิ์สิทธิ์สถิตสถาวร
แค่ว่าให้เราได้ลองคลิ๊กจิตเปลี่ยนชีวิตชีวาดู


เพียงแค่ให้รู้ว่า
ทุกทางธรรม ทุกคำสอนทุกข์ทุกสิ่ง
อยู่ที่.เราจะ.รู้หยุดนิ่ง..ปล่อยวาง ..หยุดคิดได้ เมื่อไร
หากจิตภายในเรา
ปล่อยให้ทุกผัสสะอารมณ์ภายนอกมากระทบจบลงตรงริมหู
มิเปิดประตูรับให้เข้ามาสู่บ้านภายในแล้วไซร้
ก็ไม่มีขยะใจขยะใดจะมาสร้างความปรุงแต่ง
แกล้งลวงหลงวนให้รกรุงรัง..


และ
หากยังเผลอเรอ..
ลืมปิดหูประตูใจก็จงให้ทุกราวเรื่องทุกรักร้อนใจ
ผ่านๆไปดั่งกระแสน้ำไหลไม่กักเก็บไว้นาน
ให้ท่วมท่ามทุกข์ทนทับจับระทมแทบดับดวงชีวีเลยทีเดียว


และนี่คือ
แก่นกระพี้ 
หากเรา...
มีใจดวงธรรมดวงทองดวงผ่องผุดพราวราวบัวพ้นน้ำ
เราก็จะมีดวงตาที่สามเห็นธรรม 


แล้ว...
น้อมนำมาทำตาม
เพื่อเลาะกระเทาะเปลือกอันหนา
ด้วยกิเลสเมือกตมกลกามกรรม
ให้เลิกระทมทดท้อยอมแพ้พ่ายยอมว่ายวนในวิบากกรรม
อย่างหาที่สิ้นสุดหยุดมิได้
ต้องหมายมาชดใช้อีกไม่รู้สักกี่สิบชาติ


หาก...
เราชาญฉลาดหรือวิบากกำลังจะสิ้น
เราจะมองเห็นกุศโลบายง่ายเข้า
ให้เราได้ตรงดิ่ง..ฝึกปฎิบัติธรรมน้อมนำยอดพระรัตนตรัย


อันคือสัจจะใจสัจจะจริง
มาแคะไค้ลอกเปลือกเชือดราคะจริตออก
ค่อยๆบอกตัวเองด้วยตัวเอง
ให้เลิกบรรเลงบทเพลงเศร้าหนาวใจ
วางจิตให้ใสลอยเหนือโศกสุขทุกข์ร้าวราน
ที่พากันดาหน้ามาประหัตประหารมิเว้นวัน
ให้ทุกชีวีชีวันหน่ายเหนื่อยเมื่อยล้า
กับการมีชีวิตอยู่ไปวันวันแบบรอท่าวันตายหายใจไปเปล่าๆ


ผม..เอง..ก็มิใช่จะฉลาดล้ำ
บางครั้งก็ยังย้ำวนยังคงหลงทางไปบ้าง
ตามกิเลสตัณหาตามประสามนุษย์ปุถุชน
ที่ยังคงต้องมีรักโลภโกรธหลงเป็นเรื่องธรรมดาๆ


หากทว่า ผมเริ่มเรียนรู้
ที่จะรู้จักหยุดจิต
และ
ปล่อยวางมากขึ้นๆและมากเข้า
มิให้หนาวใจนาน
มิให้รานร้าว..ด้วยความรำลึกรู้..สู้ยอมรับความจริง


ซึ่งเป็นสิ่งที่คนข้างใจ
*กัลยาณมิตรธรรม*ได้พร่ำบ่นห่มหอมให้ผมเสมอมา
อดทนรอให้ผม..ละเมอ..
มาแสนนาน
มานานแสน
อย่างอ่อนอกอ่อนใจ


ราว...
สายธารธรรมสายธารใจ
ที่คอยระรินใส่ด้วยรักนิรันดร์ฝ่าฟันอดกลั้น
ด้วยเมตตาผมอย่างมิ่งมิตรสนิทในมานานเนา
ในทุกยามที่...ผมเหงาใจไหวหวั่นวาบหวาม


ในท่ามระทมทับ
กับกระแสกิเลสโลกย์โศกสุขนี้
ที่เวียนผันพลันมากระทบทุกวี่วัน
ให้ฝันกระเจิงบ้างก็ระเริงร่ายามมีรัก
หารู้ไม่ว่าทุกข์หนักด้วยบ่วงเสน่หา
ที่รอมัดร่างจิตพันธนาคอยอยู่ไม่ไกล


ผมดีรู้ว่า...ทุกสรรพสิ่งคือมายา 
คือภาพลวงตา
คือสิ่งที่ผ่านมาแล้วจะผ่านไป
ไม่เหลือสิ่งใดให้เราจับต้อง
ครอบครองเป็นเจ้าของได้นานชั่วกาลกัลปาวสานต์


แม้แต่..*คำรักนิรันดร์ *
ก็ยังมิอาจพิสูจน์ได้ว่าจะแปรผันไปฤาไม่ 
เมื่อจิตดับไป...ใครเล่าจะหยั่งรู้!


ดังนั้น...จึงจงอยู่กับจิตเป็นปัจจุบัน
ให้น้ำใจรักกันเสียในวันนี้
จะยังดีเสียกว่า
การสร้างผูกพันรัดรึงหึงหวงห่วงหาพามืดบอด
ให้ใจร้อนเร่าด้วยฟอนไฟรักแผดเผาให้ทั้งเขาและเรา
มิพบกระจ่างสว่างสงบ
รู้วางว่างสยบโลกย์ร้อนด้วยรำลึกเห็นเย็นในธรรม
................

ผม..มองทิวทิพย์เมฆ
ที่พราวพร่างราวสวรรค์สรวง
ราวปวงนางฟ้าเทวดากำลังกรายกรมาร่ายร่ำเที่ยวท่อง
ในวิมานแมนวิมานเมฆ
ที่ผม..เห็นความงามวิเวก
ด้วยดวงตาที่สาม...ที่ผมได้รับพรมาจากสวรรค์


ให้ผมคิดฝัน
นิรมิตรู้คิดหยิบจับ...เลือกแต่สิ่งดีมา...
ตามที่อัญมณีใจดวงใสหวานตระการกระจ่างสอนสัจจะจริง
ให้ผมรู้วางนิ่ง...สงบงาม..
รู้ท่ามกลางความเป็นไปในสามโลก
รู้ยอมรับโศกสุข...
รู้หยุด...มองหาข้อบกพร่อง
ยามมีวิบากมาแผ้วพาล


ยามพบคนพาลมารานรุก
มาบุกมาบั่นด้วยน้ำคำคม
ที่สอนให้ผมรู้กลืนกล้ำและ
ตอกย้ำเพียรให้รู้อภัยด้วยน้ำใจมากเมตตาปรารถนาดี


ที่..
หัวใจผมราวมีบทเพลงประจำใจ
คอยสอนให้มองคน
แล้วอภัยรู้ให้น้ำใจรัก 
อย่างมิพักเสแสร้งด้วยความจริงใจ
อย่างไม่มีวันสิ้นสุด...ราวสายธารธาราริน


ให้พร่างพรมห่มหอมมิรู้สิ้นราวหยาดฝนจากฟ้า
ให้ทุกห้วงใจทุกใครคนที่มาชิดใกล้ได้รับฉ่ำเย็น
ได้รับเชื้อรักธรรม..ธรรมชาติอันแสนพิลาสพิไล
ก่อนที่จะรู้ค่ารักใดใดทั้งปวง...


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=72
หนึ่งในร้อย 
พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว
สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม
นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม 
น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี
ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด 
ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง
เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย
รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน
ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
.............


ผม...คิดว่า....
แดนสวรรค์เข้าใกล้ผม..ใกล้เข้ามา..ใกล้เข้ามาทุกขณะ
ในทุกลีลานกไพรผู้มีดวงใจรักอิสรา
พาตัวตนราวไร้ร่างพันธนา
ราวบัวบุศย์พิสุทธิ์พราวโผล่พ้นน้ำรอรับวิมุตติหยุดคิดได้


ให้ดวงจิตสว่างใส
รอรับหนาดน้ำค้างไพรน้ำค้างธรรม จากธรรมชาติ
ที่รอหยาดรินมิรู้สิ้นรู้จบ
เพียงเพียรค้นพบจากจิตใสภายในเราเอง
อย่าหวั่นเกรงที่จะพาเพียรไปพบธรรมอันล้ำเลอค่า
ให้สมกับที่ได้เกิดมาในฟ้าพุทธภูมิ


ได้รับน้ำใจดั่งหยาดฝนจากดวงดอกน้ำพระทัย
อันแสนยิ่งใหญ่เกริกไกรในบุญญาบารมี
หยาดจาก
*พระมหากษัตริย์ไทย*นี้
ที่ทุกดวงใจปวงชนยอมพลีภักดีบูชา
ด้วยจิตร่างอย่างจงรัก
 
ตราบจนกว่าจะฝากร่างจิต
ให้พสุธาไทยผืนดินแม่มาตุภูมิกลบร่าง
มิให้หลง..วนไปมา


ปีกใจปีกไพรของผม
กำลังจะร่อนลงในแดนดินสวรรค์จริง
ในผืนดินตรงหน้า
กับ...
เมืองเก่าที่แสนมลังเมลืองเรืองรุ่งในอดีต
เป็นดั่งยุ้งข้าวยุ้งน้ำ
อันมากมีราวเรื่องเริ่มต้นให้เราเป็นไท ไทย


นามสุโขทัย....
เมืองที่วิไลด้วยข้าวในนาปลาในน้ำอันแสนงามอุดมสมบรูณ์


****เมืองมรดกล้ำเลิศ  กำเนิดลายลือไทย
เล่นไฟลอยกระทง มั่นคงพระพุทธศาสนา
งามตาผ้าตืนจก สังคโลกทองโบราณ
สักการแม่ย่าพ่อขุน รุ่งอรุณแห่งความสุข***


ผมตั้งใจ มาที่นี่
ด้วยคิดถึงดวงใจคนดีของผม
เธอ..เคยเล่าให้ผมฟังถึงความงามของสนามบิน
และ...สภาพเมืองสุโขทัย ในอดีต
ที่เคยเป็นราชธานีแห่งแรกของชาติไทย 
เมื่อ 700 ปีมาแล้ว 
ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนึ่งในเขตภาคเหนือตอนล่าง 
คำว่า สุโขทัย มาจากคำสองคำ
คือ สุข+อุทัย หมายความว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข 


สุโขทัยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ. ศ. 1800 
ที่มีการสถาปนาราชวงศ์พระร่วงขึ้นปกครองสุโขทัย 
โดยมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นปฐมกษัตริย์ 
ตลอดระยะเวลา 120 ปี ราชวงศ์สุโขทัย 
มีกษัตริย์ปกครองหลายพระองค์ 
ที่สำคัญคือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช 
ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรไทย 


และ
วางรากฐานการเมือง การปกครอง ศาสนา 
ตลอดจนขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง 
และด้วยความสำคัญในฐานะ
ที่เป็นเอกลักษณ์ทางศิลปะของไทย
ในสมัยเริ่มสร้างอาณาจักร
ที่ยังหลงเหลืออยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 
ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก 
โดยองค์การ UNESCO เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2534 


ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานไทยได้มาเยือนมาชม
มิระทมหากสุโข
ด้วยภาคภูมิใจปิติใจ
ในเงื้อมเงางามแห่งอดีตอันตราตรึง
ที่ยังคงฝากคะนึงนานแห่งกาลเวลา
ให้ย้อนรอยรอถอยหลังภวังค์ครวญหวนไห้หา
กลับไปสู่ยุคสมัยทอง
แห่งความร่มเย็นเป็นสุขในทุกถิ่นไทย

ไปซาบซึ้งใจกับวิถีทุ่ง
อันมีดงตาลหวานเคียงนา
มีฟ้าที่พราวไสว
ราวสายแสงทองทาบทาอาบหล้านาทอง
ให้ผ่องราวพรมคลี่ฝากให้ทุกชีวีในสมัยนั้น
ได้พันผูกปลูกรักวัฒนธรรมประเพณี


ที่มักมีที่มาตำนานลานทองท้องทุ่งนาป่าเขา
ลานที่สร้างสานความรู้รักสงบ
พบความประณีตละเมียดละไมในทุกวิถีแห่ง
ความเป็นไทยเรานี้ที่มีแผ่นดินราวทองคำ


มีสายน้ำปิงวังยมน่านเจ้าพระยา
พาไหลล่องให้ปองรักมั่น
ได้เพาะพืชพรรณขยันทำกิน


ได้มีชีวินแบบอุดมสมบรูณ์พูนเพิ่ม
เติมต่อด้วยธรรมชาติดาษดา
ที่หางามง่ายแสนใกล้ตัวใกล้ใจ
จนหลอมให้มีชีวิตไพรใสเย็น
รักความเรียบง่ายรักท้องนาท้องไร่
ได้ไปวัดทำบุญเพียรหนุนนำดวงใจให้ใสพราว


และ
ราวบัวตระการ
ให้ลูกหลานไทยยังคงมีใจดวงงาม
ยังเพียรสร้างวัดวาอารามมากมาย
ในสมัยตามมาที่มีชื่อว่าอยุธยา
ที่มีวัดวาจนมีคำกล่าวว่า
*มาตรแม้นนกบินพลัดตกจากฟ้าก็หาถึงพื้นไม่!*


ยังมีวิถีใจชอบชีวิตชิดใกล้ชายชล
ยังมีกมลผ่องผุด..ราวบัวผุดบัวทอง
รู้ค่าความหมายของจิตวิญญาณชาวพุทธ
ผู้รักรักษาจิตให้พิสุทธิ์ใสพอกัน


ผม..
กำลังนั่งรถมุ่งไปสู่..*อุทยานแห่งประวัติศาสตร์*
ไป..*วัดศรีชุม*
ที่ผมหวังวาดในมโนนึกมาแสนนาน
เพียงไปทรุดตัวลงนั่ง
*หน้าพระพักตร์พระอจนะ*..เพียงสักครั้งหนึ่งในชีวิต


รถกำลังพาผมใกล้เข้าไป...ใกล้เข้าไป..
ให้หัวใจผมระทึกพราวภูมิด้วยพลังแห่งความปิติเกษม
สู่..มณฑปขนาดสูงใหญ่หลังคาเปิดโล่ง
และ....
ทันที่...
ที่ผมก้าวเท้าสู่..ภายในพระวิหารน้ำตาผมก็เริ่มซึมซึ้ง
อย่างห้ามไม่อยู่..ด้วยรำลึกรู้ดำดื่มปลื้มปิติใจอย่างมหาศาล
ในท่าม...
วิหารที่ประดิษฐาน
พระพุทธรูปปางมารวิชัยปูนปั้นแกนในเป็นอิฐและศิลาแลง
ซึ่งมีขนาดสูงใหญ่15เมตรและหน้าตักกว้าง11.30เมตร
จึงดูงามสง่าน่าเกรงขาม
เพราะสร้างด้วยพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ของชาวสุโขทัย
จนเต็มมณฑปช่างแสนงดงามนัก


เป็นพระพุทธลักษณะศิลปะสุโขทัย
ที่มีความพิเศษตรงการก่อสร้างที่สร้างให้มีผนัง
สองชั้น มีช่องว่างขนาดพอที่ตัวคนจะสามารถเดินผ่านไปได้
เป็นอุโมงค์ทางเดินสูงขึ้นไปจนถึงเบื้องหลัง
ใกล้พระเศียรขององค์พระพุทธรูป
และส่วนที่เป็นเพดาน..


ในอุโมงค์มีภาพสลักบนแผ่นหินชนวนประดับไว้ห้าสิบกว่าภาพ
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชาดก
ในพระพุทธศาสนาที่น่าเรียนรู้อย่างยิ่ง


และ...
พระอจนะที่วัดศรีชุม
มีประวัติที่มาตามพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
ว่า...ในรัชกาล...
พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
เมื่อทรงนำกองทัพ
ไปทำสงครามปราบปรามกบฎเมืองสวรรคโลกและเมืองพิชัย
ได้ทรงพักกองทัพ ณ ที่วัดแห่งนี้..


และ...
นำไพร่พลทำพิธีบวงสรวง*พระอจนะ*ก่อนเสด็จยกทัพต่อ
ครั้งนั้นกล่าวกันว่า
*มีเสียงพูดออกมา*
จากองค์พระอจนะ สร้างความอัศจรรย์
และสร้างขวัญและกำลังใจ
ให้กับกองทัพกรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างยิ่ง


และ
นี่คือสิ่งที่เป็นแรงฝันพลังศรัทธาของผม
ที่ทำให้ดั้นด้นมาถึงนี่
ให้ผม..มานั่งนิ่งงันกับพลังแห่งความสงบงาม
ที่ช่างแผ่ไพศาลไปรายรอบ
ราวกับจะโอบประคองผมไว้


ด้วยน้ำพระทัยมากล้นพระเมตตาบารมี
พลีให้หัวใจดวงดีดวงทองของผม
กำลังถูกคลี่ห่มด้วยพลังแห่งความขลังศักดิสิทธิ์


ใจดวงนิรมิตของผม...ราวได้ยินเสียงไพร่พล
โห่ร้องก้องกังวานมากับสายลมเย็น
ให้
ผมได้ตระหนักซึ้งค่าว่า ...
ความกล้าหาญ 
ความรักชาติ และความเป็นชายชาตินักรบ
ของลูกผู้ชายชาวไทยหัวใจแกร่งขวัญนั้น 
ได้ถูกปลูกฝังหล่อหลอม
ให้น้อมจิตคารวะ
สร้างพลังศรัทธาจากศาสนามาอย่างยาวนาน
ให้มีจิตวิญญาณถึงพร้อมยอมพลีชีพนี้  
หากจำเป็นเพื่อปกบ้านป้องเมืองจากอริราชศัตรู
ที่จำต้องเสียสละด้วยความจงรักภักดีอย่างสูงสุด!


ผมนั่งนิ่ง..งันเงียบ
ราวโลก...มีเพียงผมลำพังผู้เดียว...
ในท่ามกลางรำไรรำไรแห่งแสงเทียนทอทาบ
ที่อาบไล้ฉาบไปตามผนังโบสถ์คร่ำ


น้ำตาผมกำลังพร่างสายราวสายฝนริน
เต็มสองข้างแก้มลูกผู้ชาย
ที่ร้องไห้เป็น  ในรอบหลายสิบปี
ให้หัวใจดวงนี้ ที่รู้สึกราวมีพลังลึกลับ
คอยเฝ้าเตือนให้กลับมารำลึกรู้ยังสัญญาเดิม


ผม...เริ่มจับสมาธิภาวนา
ไปกับฟ้าใกล้ค่ำ
กับเสียงเรไรร่ำจิ้งหรีดจักจั่น
ร้องแว่วแผ่วมากับสายลมรำเพย...
จิตภายใน..ดวงวางเฉย..เริ่มนิ่งเฉย..
วางว่างราวไร้ร่างไร้ตัวตน....
เริ่มลอยพลัน...
พาผมไปสู่สวรรค์แห่งอดีตแสนงาม...
กับม่านน้ำตาแห่งปิติ
ที่พร่างรินพร่างรินมิสิ้นสาย.....
พร้อมกับได้ยินได้เห็นบางสิ่ง....
ที่กำลังลอยเลื่อนลงมาราวภาพเกิดตรงหน้านะบัดนี้...!!!!!!!
*************

 

รอติดตามภาคสองค่ะที่จะตามมาในไม่ช้า....


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=510
แผ่นดินของเรา   
สันติ ลุนเผ่ : : Key Cm  
แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา ชาติไทย
ใกล้ไกล
ย่อมเป็น ของเรา ชาติไทย
เลือดไทยไหลโลม ลงดิน
ใครหมิ่น ศักดิ์ศรี คนไทย
ย่อมมีวัน สักวัน ให้ไทย
ล้างใจ อัปรีย์
แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา อยู่ดี
ที่ใด ย่อมเป็นของไทย อยู่ดี
หากเชือดเฉือนไป คราใด
ย่อมแสน หวั่นไหว ชีวี
ปฐพี แหลมทอง ช่วยกัน
คุ้มครองป้องกัน
แผ่นดิน ของเรา
ย่อมเป็น ของเรา อยู่ดี
ที่ใด ย่อมเป็นของไทย อยู่ดี
หากเชือดเฉือนไป คราใด
ย่อมแสน หวั่นไหว ชีวี
ปฐพี แหลมทอง ช่วยกัน
คุ้มครองป้องกัน
สัก วันต้องคืนกลับมา
มั่นใจ เถิดหนา
ขอพลี ชีวารักษาชาติไทย
ชาติไทยคู่ฟ้า
เลือดทา แผ่นดิน...
****************


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=359
ไกลบ้าน   
วิปโยคโศกใจ เหมือนเมื่อไกลบ้าน
ไกลสถานพักพิง ยิ่งใจเหงา
ห่างไกลหัวใจจำเศร้า เจ้าอยู่ดีเป็นไฉน
พลัดที่พึ่งที่พิง ทิ้งที่พำนัก
ไกลที่รักพักพา จะอาศัย
เจ้ามีเพื่อนชมคนใหม่ แล้วทิ้งพี่ให้ชอกช้ำชีวี
อันรักกันอยู่ไกล ถึงสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคา เข้ามาเบียด ดูเสียดสี
อันชังกัน นั้นใกล้สักองคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่า มาปิดบัง
เพราะไกลบ้านซ่านมา โถนิจจาเจ้า
จะเงียบเหงาแล้วลืม ซึ่งความหลัง
ฝากเพียงเสียงกระซิบสั่ง
ขอน้องอย่าชัง คนร้างแรมไกล
  
อันรักกันอยู่ไกล ถึงสุดขอบฟ้า
เหมือนชายคา เข้ามาเบียด ดูเสียดสี
อันชังกัน นั้นใกล้สักองคุลี
ก็เหมือนมีแนวป่า มาปิดบัง
เพราะไกลบ้านซ่านมา โถนิจจาเจ้า
จะเงียบเหงาแล้วลืม ซึ่งความหลัง
ฝากเพียงเสียงกระซิบสั่ง
ขอน้องอย่าชัง คนร้างแรมไกล...
 				
comments powered by Disqus
  • พุดไพร

    4 เมษายน 2548 07:52 น. - comment id 448884

    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=314
      บ้านเรา   
    สุเทพ วงศ์กำแหง : : Key Ab  
    บ้าน เรา แสน สุขใจ
    แม้จะอยู่ ที่ไหน
    ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา
    คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา
    ด้วยพระบารมีล้นเกล้า
    คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์
    รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง
    พริ้วแดดส่อง สดใส
    งามจับใจ มิใช่ฝัน
    ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน
    ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น
    หอมทุกวัน ระบือ ไกล
    บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น
    ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร
    หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้
    จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า
    เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ
    ขอวานหน่อยได้ไหม
    ลอยล่องไป ยังบ้านเขา
    จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว
    ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า
    ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย... 
    
    
  • พุด

    4 เมษายน 2548 08:12 น. - comment id 448887

    
    สายฝนสายฝันสวรรค์สรวง
    ร่วงหล่นลาฟ้า
    เมตตามาปลุกให้ทุกชีวิตทุกดวใจ
    ในผืนหล้าฟ้าไท
    ลุกขึ้นมายิ้มรับอรุณรุ่งแห่งความสุขอีกคราแล้ว
    
    หยาดน้ำตานางฟ้า
    โลมหล้าทั่วแดนทองท้องทุ่งนา
    ป่าเขาลำเนาไพร
    อาบเอิบใจให้อิ่มงาม
    พุดไพร
    นอนนิ่งในเตียงโบราณ
    ฟังเสียงฝนครางฟ้าควรญ
    แก้วตระการส่ายไหวรับแรงลม
    พรมพร่างดอกไปทั่วพื้นหญ้า
    
    
    มะม่วงพวงใหญ่ยวงย้อยห้อย
    จนกลัวจะร่วงลาก่อนถึงเวลา
    แปรสีเป็นทอง
    ให้เจ้าของได้ลองลิ้มชิมรส
    อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
    
    จำปีรานราโรย
    โปรยปลิดหอมไปทั่ว
    เรือนจำปีบัดนี้มีมนตราด้วยหอมอวล
    
    ดวงดอกการะเวกซุ้มใหญ่
    ฝากไหวเศร้าดายเดียวด้วยกลิ่นเร้าใจ
    ด้วยคิดถึงใครบางคนที่ไกลแสน
    มาล้อพ้อพันริมหน้าต่างกระจกบานกว้าง
    ยามอาบน้ำในอ่างนอนดู
    คลอคู่เรือนร่างสล้างไหว
    แกล้มให้ดวงใจซึมซึ้ง..ลึกล้ำ
    
    หนาวน้ำหนาว
    กับกราวสายฝนเอื้อกมลดวงงาม
    ในนาทีในยามนี้
    ที่คื่นมารับอุษาวดีคลี่รักทายทักให้
    ดวงใจตระการลุกขึ้นมายิ้มหวาน
    สูโลกลบโศกรอยอีกวัน...แล้ว
    
    
    
  • rain..

    4 เมษายน 2548 08:15 น. - comment id 448888

    ..พี่พุดพัดชา .. ทำให้เรน ..กลับมาสดใส..
     อีกครั้ง ..  หลังจากที่ เรน ..  ได้อ่าน..
       แต่เรน ยังอ่าน ..  ไม่จบเลยคะ ..
    
     ...
                 เรน..  อยากไป.. ที่ที่..อบอุ่น..แบบนั้นจัง
         ที่ที่เรน ..  ปลอดภัย ..  จากใคร.. คนนั้นที่โหดร้าย ..
            เรน ..  ขอบคุณ ..  บทกวี ที่สื่อความอ่อนโยน..  และงดงาม ..ของผู้หญิง..ที่เรนได้รู้จัก..
       ในบ้าน.ไทโพเอ็ม ..  ที่เรนแสนรัก ..
    
  • แทนคุณแทนไท

    4 เมษายน 2548 09:24 น. - comment id 448899

    เหมือนได้น้ำเลี้ยงหล่อใจในยามเช้า
    
    ทั้งธรรมทั้งคำคิดสะดุดความรู้สึกผมยิ่งนัก
    
    แม้แต่..*คำรักนิรันดร์ *
    ก็ยังมิอาจพิสูจน์ได้ว่าจะแปรผันไปฤาไม่ 
    เมื่อจิตดับไป...ใครเล่าจะหยั่งรู้!...
    
    ผมจิตผมยังธรรมดาสามัญนัก แต่ทุกคำคิดในงานพี่เป็นกุศลแก่เนื้อใจนี้ยิ่ง...
    
    หลายปีมานี่ วนเวียนพบหลวงพ่อปัญญาอยู่ตามแต่โอกาสจะมี... คำหนึ่งที่จำขึ้นใจคือ จงคิดดี..
    
    ดั่งที่พี่บอก ...
    
    ขอให้ใจดวงงามสุขล้ำนิรันดร์ครับ...
    
    จากใจคารวะ ในเช้าที่สายฝนพรมใจ
  • แม่ดวงดอกพุดไพร

    4 เมษายน 2548 12:09 น. - comment id 449009

    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_60936.php
    ฝากให้อ่านคำคอมเมนท์เกี่ยวกับสระอโนดาตในหิมพานต์วิมานแมนวิมานเมืองค่ะ
    
    
    ด้วยรักล้นใจจาก
  • แก้วนีดา

    4 เมษายน 2548 12:51 น. - comment id 449029

    แอบมาอ่านและมาชื่นชมจ๊ะ......
    
    
  • tiki_4895 unlogged_in

    4 เมษายน 2548 12:53 น. - comment id 449033

    :)
  • sun strom

    4 เมษายน 2548 13:06 น. - comment id 449049

    พี่พุดคะ
    
    แวะมาอ่านในสิ่งที่ทำให้เกิดความร่มเย็น
    
    อยากฝัน อยากไป ในที่นั้น
    แต่ก็แค่ได้แอบอ่านงานพี่ค่ะ
    
    คิดถึง คิดถึง
    
  • ลำน้ำน่าน

    4 เมษายน 2548 13:30 น. - comment id 449081

    รุ่งอรุณแห่งความสุข อุปมาเหมือนความสุขสงบสมัยสุโขทัย อันในน้ำมีปลาในนามีข้าวครับ เป็นฉากภาพที่ต้องใช้จิตวิญญาณเพ่งมองจึงเห็นได้งาม
    
    แต่งกลอนไม่ออกเลย ฉากภาพหลายภาพมันวนเวียนอยู่ในความรู้สึกเดียวกันนะเวลานี้
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    4 เมษายน 2548 15:26 น. - comment id 449153

    อ่านไม่จบติดไว้ก่อนครับ
  • พุด

    4 เมษายน 2548 17:18 น. - comment id 449206

    น้องเรน..
    
    พี่พุดดีใจค่ะที่น้องยังครองใจครองความสดใสไว้ได้..ขอรักษาไว้นานเนาในใจนะแม่ดวงดอกน้ำค้าง..
    พี่พุดภาวนาให้ดวงใจน้องน้อยมีสร้อยพระรัตนตรัยคอยคุ้มภัยนะคะ
    ด้วยรัก
    *********
    แทน..จ๊ะ
    
    พี่พุดคิดถึงนะ
    และ
    ก็ระหว่างเรานั้น
    มีบางสิ่งผูกพันกันมานาน
    และ
    มีบางอย่าง
    ที่พี่พุดคิดว่าหัวใจพี่พุด
    เข้าใจแทนมากมายเหลือเกิน
    ทำอย่างไรดีนะ
    ให้แทนมีความสุขนิรันดร์
    พบผู้หญิงในฝันในใจมาแสนนานเสียที
    ที่พี่พุดคิดทุกวันคืนเลยค่ะ
    อยากให้แทนมีสุขสมหวัง
    
    รักมาก
    จากดินหอมเดียวเกี่ยวรักร้อยดวงใจน้องพี่ค่ะ
    พี่พุด
    .......
    น้องแก้วนิดา
    
    น้องเก่งมากค่ะ
    ที่รักธรรมและธรรมชาติ
    ที่สำคัญดวงใจน้องแสนสะอาดสว่างสงบค่ะ
    พี่พุด มีซิกเซนส์ที่บอกได้ค่ะ
    พี่พุดพลีพลังใจให้นะคะ
    พี่พุด
    .......
    :)  
     tiki_
    ยิ้มอย่างเดียวเลยจ้า
    ดีใจที่เข้ามาอ่านนะ
    หายไปอยู่บ้านสวนนนท์
    คงบรรยากาศดี
    อวยพรให้มีชีวิตสุขสดใสแสนหวาน
    ราวกำลังดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์รอบใหม่นะจ๊ะ
    
    ดีใจด้วยจ๊ะ
    พุด
    .......
    - sun stromน้องมัดหมี่
    พี่พุดรักน้องนะ
    เวลาอ่านคำคอมเมนท์น้องทีไร
    พี่พุดรู้สึกซึ้งใจจังทุกทีไป
    น้องมีใจสวยใส
    และแสนงามมาก
    อย่าถามเลยว่าทำไมพี่พุดทราบนะคะ
    พี่พุด
    ......
    ลำน้ำน่าน...
    ตำนานใจไปแล้ว
    แฟนตรึมเลยค่ะ
    นี่ขนาดไม่มีอารมณ์รจนานะนี่
    เอ๊ะ..
    แล้วถ้ามีจะสักขนาดไหนอิอิ
    รักดอกจึงหยอกเจ้า
    พี่พุด
    .........
    ฤกษ์...
    พุดเพิ่งสารภาพกับใครบางคน
    ว่าในจอนี้คนที่พุดแสนวซาบซึ้งใจในความ
    ทนอ่านแบบแฟนพันธุ์แท้มิแพ้ย้วยของพุด
    ก็มีฤกษ์และชัยชนะ
    ที่ยาวนานมาก
    ชัยชนะนี่หลังๆ
    ชักหาวหวอดๆแล้วค่ะอิอิ
    
    ไม่เป็นไร
    เวลาอยากง่วงนอนก็มาอ่านนะ
    เผื่อว่าจะได้หลับคาจอคาใจเร็วขึ้น
    (ยามชัอกช้ำใจไม่มีอกใครให้คานะอิอิ
    พุดซึ้งใจนะ
    
    
    
  • plaing_piu

    5 เมษายน 2548 09:41 น. - comment id 449384

    งดงาม หวนละห้อยทำให้หวนคิดสุโขทัยที่เคยไปเห็นและเพลง..ที่ว่า...บ้านพี่อยู่สุโขทัย ....
    
    มนต์ขลังฝังใจเสมอ...........
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    18 กันยายน 2552 09:01 น. - comment id 1039974

    ครับ  พอดีผมไม่สบายอยู่เลย
    
    มาอ่านรุ่งอรุณแห่งความสุขจริงๆ  ครับ  สุขใจที่ได้อ่านภาษาที่ถ่ายทอดอย่างละเมียดละไม และแฝงไปด้วยหลักธรรมหลายประการ
    
    ด้วยรักแลเคารพ พี่สาวแสนสวย น้ำใจงาม-นามพี่พุด ยอดรักแห่งสายน้ำ-พงไพร ที่หนึ่งเสมอ..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน