ช่อดวงใจไสวพราวราวรวงเพชร..!

สาวบ้านนา


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song223.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song367.html
............


สาวนา...
ตื่นมาตอนตีห้า
เดือนแจ่มดวง ยังลอยเด่นคว้าง..
ค้างฟ้า*สีน้ำเงิน งามแปลกมาก*
เสียงเจ้าสายน้ำครางอยู่ในคอก
ราวมีเหลือบยุงริ้นไรไชชอน
 ร้องอ้อนรอเวลาให้สาวนา
พาลงไปอาบน้ำในคลองบึง...


สาวนาหลับตาซึ้งๆลง
พร้อมเพ้อพะวงหลงฝันหลงคิดถึงอ้าย
และ...
ราวกับ
จะให้ดาวประจำเมืองประดับฟ้า
ปลอบประโลมใจ...


ให้ใจดวงนี้
ที่แสนเหน็บหนาวร้าวร่าง
ด้วยละออละอองหยาดน้ำค้างน้ำฝน
ที่หล่นลาผ่านหลังคาจาก
ที่พากันพรายพร่างเต้นระบำบนลานดิน
ที่ระเริงระรินระริกราวดอกไม้ฟ้า...


ใจดวงเศร้าของสาวนา...
จึงเหว่ว้ามิรู้สิ้น
เมื่อแสนถวิลคิดถึงคะนึงครวญหวนหา
เมื่อคิดว่า...
ในยามนี้ หากมีอ้ายอยู่ 
หน้าที่ของอ้ายคือ
พาเจ้าสายน้ำออกจากคอก
เพื่อออกไปขัดสีฉวีวรรณให้มัน
เพราะ..
ทั้งคืนปล่อยให้นอนในปลักพักกันยุงจนรุ่งแจ้ง
 แล้วถึงจะพาไปลงทุ่ง
ให้จรุงหัวใจควายหนุ่มวัยกำดัดในยามเช้า


และ....
บางค่ำคืน..ในฤดูหนาว
ทั้งสาวนาและอ้าย
จะพากันไปจุดไฟไล่ยุงสุมคอกด้วยฟาง
ให้เจ้าลูกควายสายน้ำนอน
และ
รวมทั้งสองร่างที่ไม่มีผ้าห่มหนาพอ
จะมีก็..เพียงอ้อมอกอุ่น..ที่จะพลีให้แก่กันและกัน


ถึงกระนั้น...
 สำหรับสาวนา...โลกยากไร้ก็ราวสวรรค์สรวง
เมื่อย้อนดวงใจคิดไป
ในคืนฟ้าแจ่ม...
 ที่กองไฟ..ลุกโชนโหมให้มิสิ้นไร้ไฟรักไฟเสน่หา


ท่ามดาวเดือนทอทอดลอดไล้อาบสายหวาน
หว่านหยาดน้ำผึ้งจันทร์
เล้าโลมไปตามทุ่งหญ้าเรียวรวง
จนพาพวงพรายพร่างเป็นสีทองอะร้าอร่าม
งามมลังเมลืองเหลืองปลั่งไปหมด


และ...
ท่ามลอมฟาง..
ที่หอมข้าวใหม่อันแสนเคยคุ้นอุ่นไอ
กับ..อกละมุนกรุ่นละไมจากใจอ้าย
ที่ตระกองกอดสาวนาไว้อย่างแสนรักนักรักหนา


กับฟ้าสวยลมระรวยระริน
กับปวงกลิ่นดวงดอกไม้ป่า
กับน้ำค้างฟ้าพร่างพราวในยามดึก
ให้สองดวงใจ...
ตกอยู่หอมห้วงแห่งภวังค์ฝันอันดื่มด่ำล้ำลึก
ยามอ้ายเป่าขลุ่ยเพลง
*เดือนเพ็ญ*และ*ขวัญเรียม*
ให้โหยไห้โหยหา แสนหวานรานร้าวใจ
ไปทั้งบึ้งใจบึงนา ให้ทั้งโลกหล้าพากันคอยเงี่ยหูฟัง


และ...
อ้ายคนดี
จะพลีนิ้วพลิ้วพรายเล่นเพลงนี้แด่สาวนาเป็นพิเศษ
*ขวัญ เรียม*


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song223.html
ขวัญ เรียม..ชรินทร์ นันทนาคร
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ ของเรียม
หวนคิดผิดแล้วขมขื่น ฝืน ใจเจียม 
เคยโลมเรียม เลียบฝั่ง มาแต่หลัง ยังจำ
คำ ที่ขวัญเคยพรอดเคยพร่ำ
ถ้วนทุกคำยังเรียกยังร่ำเร่าร้องก้องอยู่
แว่ว แว่ว แจ้ว หู ว่าขวัญชู้ เจ้ายังคอย
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ คงหงอย
หวนคิดคิดแล้วยิ่งเศร้า เหงา ใจคอย
อกเรียมพลอย นึกหน่าย คิดถึงสาย น้ำนอง
คลอง ที่เรียมเคยเที่ยวเคยท่อง 
เมื่อเราสองต่างว่ายต่างว่องล่องไล่ไม่เว้น
เช้า สาย บ่าย เย็น ขวัญลงเล่น กับเรียม
เรียมเหลือทนแล้วนั่น ขวัญ คงหงอย
หวนคิดคิดแล้วยิ่งเศร้า เหงา ใจคอย
อกเรียมพลอย นึกหน่าย คิดถึงสาย น้ำนอง
คลอง ที่เรียมเคยเที่ยวเคยท่อง 
เมื่อเราสองต่างว่ายต่างว่องล่องไล่ไม่เว้น
เช้า สาย บ่าย เย็น ขวัญลงเล่น กับเรียม.
...................


บางทีสาวนา..ก็น้ำตาซึมแสนซึ้งใจ
เมื่ออ้ายค่อยๆแกะมันเทศ
ที่เผาไฟหอมกรุ่นละมุนลิ้นยามลิ้มลอง
ให้
สาวนาได้กินแบบอุ่นอิ่มในท้อง
ได้สัมผัสรสอันแสนหวานหอมธรรมชาติ
แม้นจะเป็นเพียงอาหารดาดๆมิใช่ดีดี
แล้ว...
ไหนจะยังมีเม็ดมะขามคั่วตามมีตามยาก
ที่ฝังฝากความทรงจำ
อันแสนวิจิตรล้ำในวิถีคนยากคนลำบาก
หากทว่าแสนให้ความสุขสงบใจ


ไหนจะ...
ยามฝนหลั่งสะพรั่งเม็ดพราวราวช่อน้ำฟ้า
ที่รอร่วงลงมาหยาดหล้าประโลมดิน
ที่สมัยนั้น
สาวนาและอ้ายยังไม่ได้ทำนาปรัง
มีแต่ทำนาปี...ที่ปีนึงทำได้แค่ครั้งเดียว


อ้ายคนดีจะชอบหาปลา
ทั้งๆที่กลัวบาปนักหนา
แต่ก็จำเป็น..เพื่อแค่ยังชีพชอบ
มาประกอบการกินให้มิสิ้นแรง
ได้ไปหว่านข้าวรอคมเคียวเกี่ยวเก็บ
พาให้คนไทยอิ่มท้อง...มิต้องอดอยากทุกข์ทน


ปลา..
จะลอยล่องท่องสายน้ำมามากมายมาว่ายวน
ปลาหมอ...ปลาช่อน...ปลาดุก
และ...
ปลาตะเพียน
ที่ซุกซนมารอยามข้าวแตกกอ
มารอว่ายเวียนวน
มากินข้าวพราวหล่นร่วงจากรวงพราว


และ....
ก่อนไปปักเบ็ด
อ้ายจะจำวิธีที่พ่อคนดีพลีสอนให้
รู้จักการสานตะข้อง
และ..
ทำคันเบ็ด เหลา ผูกเอง
ที่อ้ายเรียนรู้แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน
ในทุกวิถีทางแห่งความเรียบง่าย
และ...
ได้ยังประโยชน์ให้เกิดโภคผลสืบทอดมา


และ...
ไหนจะมีประเพณีนานาของชาวนา
อย่างยามเวลา...
ข้าวตั้งท้อง..
ก็จักต้องจะเอาชะลอมเล็กๆมาทำ*ขวัญข้าว*
ข้างใน...
มี กล้วย อ้อย ส้ม
มีหวี  น้ำมันใส่ผม ให้แม่โพสพ
พิธีกรรมแสนศักดิ์สิทธิ์ ที่บอกวิถีชีวิตวิถีวัฒนธรรม
วิถีชนบทอันแสนงดงาม
อย่างช่างแสนน่าภาคภูมิปิติใจ...


หลายเรื่องราว..
ที่ผ่านมากับกาลเวลา
แห่งความรักแบบอดออมทะนุถนอมใจร่าง..พลีสู้ทน
ของ..*คนหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน*
จะเหนื่อยมิสิ้นเพียงไหน...ก็มิเคยปริปากบ่น..


ที่คิดคราใด
กมลละไมหัวใจสาวนา...ก็แสนเหว่ว้าละมุน
จนน้ำตาจะหยาดริน..มิสิ้นสาย..


ยามที่ไม่มีเงิน..
จะแลกซื้อของกินของใช้จำเป็น
แม้เพียงนิดหน่อยบางชนิด
สาวนาและอ้าย
ต้องหันมาปลูกผักพื้นบ้านและหาปลาเอาเอง


และหากวันไหนโชคดี...
อ้ายจะลงลุยน้ำลึกไปหาไข่เป็ดในคลอง
เพราะ...
เป็ดจะไข่ตามกอหญ้าแฝกให้แหวกกอรอพบ
ก่อนวันจบจะได้มาเป็นสิบใบบางวันก็อด
 เมื่อเพื่อนบ้านเอาไปกินเสียก่อน


และ..
แสนมีกติกาว่า
ห้ามบอกว่าไปได้ไข่ที่ไหนมา
เพราะแต่ละบ้านจะเลี้ยงบ้านละ ห้า ถึงสิบตัว
ไม่รู้ของใครเป็นของใคร 
หากหัวใจยังมีจิตใสใจเอื้อเฟื้ออารี
พลีแบ่งปันกันตามประสายาก


สิ่งที่...ทำให้น้ำตาสาวนาไหลพรากเมื่อ
วันหนึ่ง...
อ้ายลงบึงลงท้องร่องหาผักแต่เช้า
เฝ้าตัดและติดต่อร้านในตลาด
ว่าจะเอาผักไปส่ง...
ผัก ชะอม มะเขือเทศ  ถั่วฝักยาว
ฟักแฟงแตงร้าน แตงไทย 
เพราะ..
เหตุอะไรนะหรือ
เพราะอ้ายคนซื่อ..
หวังอยากให้สาวนามีผ้าถุงนุ่งสวยผืนใหม่
ใส่ไปวัดในวันปีใหม่สงกรานต์  งานบุญใหญ่


และ...
น่าสงสารเมื่อ อ้ายกลับกระท่อมมา
พร้อมกับตะกร้าที่ยังเต็มไปด้วยผักๆๆๆ
เพราะ...แม่ค้าไม่รับซื้อ


และ...
นั่นคือน้ำใจอ้ายคนดี
ที่สาวนาต้องพลีหยาดน้ำตาผวาไปรับขวัญ
พร้อมกระซิบรำพัน..
ย้ำคำว่าสาวนานั้น...ไม่เป็นไร
ในเมื่อจะนุ่งอะไร ...หัวใจและร่างสาวนาก็ยังงาม
ยังรักอ้ายเหมือนเดิมและจะยิ่งเพิ่มรักตามกาลเวลา
หาเกี่ยวกับผ้าฤาว่าวัตถุภายนอกไม่...ที่ไม่เห็นจำเป็นเลย


ขอ..เพียงเราสอง..ครองรักด้วยความเข้าใจอภัยเมตตา
ชวนกันอธิษฐานภาวนาแตกช่อกอบุญ
สร้างกุศลจิต 
ให้หอมกรุ่นหอมงามด้วยยอดพระรัตนตรัย
นำทางชีวิต 
ไปพบน้ำพระทัยจากหยาดน้ำพระธรรม
อันคือน้ำอมฤตอันล้ำเลอค่า
ที่จะหยาดเย็น ดับกิเลส..ได้
ให้กลายเป็นนิรันดร์ว่างนิรันดร์รัก


บางครา...
สาวนา...ต้องหลั่งน้ำตาซ้ำแล้วเล่า
เมื่อเฝ้าฟังชีวิตหนหลังของอ้าย
ที่ไร้พ่อ มีเพียงแม่และคุณตาคุณยาย
เพราะ...
พ่อออกจากบ้านไปแปดปี
ด้วยเหตุที่คุณตาไม่ยอมให้เข้าบ้าน
จึงไปพลีชีพเป็นพระภิกษุสงฆ์
ในร่มเงางามแห่งพระพุทธศาสนา
และ...
ภายหลังได้เป็นเจ้าอาวาส..


และ..
ด้วยเพราะเหตุนี้
ด้วยความไม่มีพ่อ
อ้าย...จึงก่อเกิดมาด้วยความเข้มแข็งอดทน
หนักเอาเบาสู้...
รู้แม้ทำกับข้าวเพราะความเป็น ชาวไร่ชาวนา
รู้ทำอาหารแบบไม่ต้องวิลิศมาหราแบบบ้านนอกๆ


เช่น...
ปล้าร้าสับกับหัวปลี  แกงส้ม ตำน้ำพริกสด ..ต้มยำ...
ที่ยามอ้ายลงครัวกระท่อม  จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
และ
ให้สาวนานี้คอยเป็นลูกมือ
สาวนาเห็นอ้ายแค่หยิบๆๆใส่
แสนแซ่บส์อร่อยล้ำ...จนกระทั่งแม้เชส์ลไม่ต้องมาชิมเลย
ไม่ว่า...
ชะอมชุบไข่
ผักบุ้งผัดน้ำมัน ดอกสลิดดอกโสน


และ..
ด้วยความยากลำบาก
ผลไม้ก็เก็บกินตามมีตามยาก
ฝากท้องไว้กับผลไม้ป่า 
ลูกหว้า ..เล็บเหยี่ยว..พุดทราน้อยหน่าดง
ที่อ้ายเคยเล่าให้สาวนา...ฟังว่ามีที่มาที่ไป
ที่...ยายคนดีจะเก็บพุดทรา
มาตากแห้งเอามาเชื่อมน้ำตาล เก็บไว้


ไหนจะมะม่วงป่าลูกเล็กๆ
ที่เช้าๆเด็กๆจะรีบไปแย่งกันเก็บ
เอามาฝานแช่เกลือเอาไปตากแดดจนแห้งเก็บในไห
ยายคนใจงามก็จะทำไว้ให้...


และ..ยัง
มากมีมากมายเรื่องราว
ที่คิดทุกครา...พาให้สาวนาคนดีจำต้องน้ำตาซึม
เมื่อคะนึงถึงคำอ้าย...


คล้าย...อ่อนโยนหวานแว่วแผ่วมากับฟ้ากว้าง
สอนให้จิตใสใจสาวนา
มิทิ้งร้างห่างวัดห่างบุญ
ให้หัวใจสาวนาได้หอมกรุ่น
ด้วยกลิ่นกรุ่นแห่งธรรม...มาอบร่ำดวงใจ
ให้สวยใสพิไลพิลาสแสนสว่างสะอาดบริสุทธิ์ประดุจดังบัวในบึง


และมีตอนหนึ่ง..
อ้ายเล่าว่า...
เพราะคุณตายกที่ให้สร้างวัด
และ
เพราะ...
พระนิยมบวชกันมากในสมัยก่อน
ตอนอ้ายอายุราวสักเจ็ดแปดขวบ
อ้ายต้องไปช่วยพระหาบสำรับก็คือกับข้าว
หากทว่าอ้ายคนดีคนนี้แสนกลัวผีมาก
ไม่กล้าไปนอนวัด
จน...
พระต้องมาตามทุกเช้าจนคุ้นเคยกับวัดมาก


และ..
ตอนนั้น ไม่รู้ว่าที่ไหนคือบ้านคือวัด
เพราะอยู่ติดกับกุฏิพระ
จนกระทั่ง....
หัวใจอ้ายนั้นได้รับอิทธิพลใสงาม
อย่างพุทธศาสนิกชนที่ดีที่แสนมีศรัทธาปสาทะ 
ที่จะไม่ยอมหลงในวังวนแห่งอบายมุขเลย


จึงยามนี้...ในทุกครา
ที่สาวนามองเรียวรวงในนา
อันเหลืองพราวพรายในท่ามทุ่งงาม


*คำมั่นสัญญา..แห่งหน้าฝน*ก็พลันมาเตือน
ให้หัวใจสาวนา...
พลันผ่องผุดพิสุทธิ์ใส
ราวรวงทองคอยครองความดีพลีรออ้าย
ให้คืนหลังกลับมา กลับนา....!


ฟ้ายังคงเป็นเช่นสีฟ้า
หากทว่าใจสาวนา
บางเวลา..ไย...!
ฟ้าถึงเป็นสีโศก...ราวโลกดายเดียว
เมื่อเหลียวไปไม่พบอ้ายอย่างเช่นเคย...!!!
...........................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song367.html
เดือนเพ็ญ คาราบาว
เดือนเพ็ญ สวยเย็นเห็นอร่าม
นภาแจ่มนวลดูงาม เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา
แสงจันทร์นวล ชวนใจข้า คิดถึงถิ่นที่จากมา
คิดถึงท้องนา บ้านเรือนที่เคยเนาว์
กองไฟ สุมควายตามคอก
คงยังไม่มอดดับดอก จันทร์เอยช่วยบอก
ให้ลมช่วยเป่า
สุมไฟให้แรงเข้า พัดไล่ความเยือกเย็นหนาว
ให้พี่น้องเรา นอนหลับอุ่นสบาย
เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย
เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย...
				
comments powered by Disqus
  • idaho

    20 กันยายน 2548 17:52 น. - comment id 466920

    แวะมาทักทายพี่พุดสุดหัวใจ...!...!...!...!
  • กอกก

    20 กันยายน 2548 19:23 น. - comment id 517030

    สวัสดีค่ะคุณพี่พุดเจ้าขา...
    
    อ่านงานของคุณพี่พุดครั้งใด เหมือนมองเห็นภาพที่พี่พุดเขียนเป็นช็อตๆ ช่างอ่อนโยนและงดงามเหลือเกิน...
    ไม่เคยได้ยินเรื่องเก็บไข่เป็ดในในคลองมาก่อนเลย ครั้งแรกที่ได้ยินจริงๆ ...
    
    อึ้ง..กับตอนที่อ้ายต้องหอบบผักกลับบ้าน ไม่สามารถหาเงินมาซื้อผ้านุ่งผืนใหม่ได้...
    ในความโชคร้าย...สาวนามีความโชคดีที่มีคนรักมากๆ ได้เช่นนี้...
    
    41.gif ชื่นชมจากใจ...
    
    สวัสดีค่ะ
    36.gif
  • น้ำตานาง

    20 กันยายน 2548 19:31 น. - comment id 517032

    งานของคุณพุดอ่อนโยนดีจัง อาจทำให้หัวใจกระด้างๆ ของนางอ่อนโยนได้บ้าง
    มาแนะนำตัวในนามสมาชิกใหม่ด้วย 29.gif
    
    โปรดจงช่วยแนะนำ
  • พี่ดอกแก้ว

    20 กันยายน 2548 20:58 น. - comment id 517062

    สาวนาผู้อ่อนโยน..ขับลำนำแห่งท้องทุ่งได้หวานซึ้งและอบอวลด้วยกลิ่นไอรักเสมอ..
    
    มาเยี่ยมดวงใจสวยๆด้วยรักค่ะ36.gif
  • ชัยชนะ

    20 กันยายน 2548 21:47 น. - comment id 517103

    อ้ายไปใส่เบ็ดพึ่งจะแวะมาถึงดึกหน่อย
     นอนหลับแล้วหรือยังจ๊ะสาวนาคนดี
    
    ก็พึ่งมีโอกาสแวะเข้ามา นาน ๆ มาที แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้มาจริงไหมครับ
    
    อ่านสาวนากับบรรยากาศธรรมชาติสวรรค์บ้านนา
    ได้บรรยากาศดีมากครับ
    เสียแต่ว่าช่วงนี้ฟ้าค่อนข้างปิดซักหน่อย เพราะพายุเข้า
    จึงไม่เข้ากับเพลงประกอบสักเท่าไหร่
    
    เดือนเพ็ญ เพลงอมตะอีกเพลงที่ผมชอบร้องเล่นเป็นประจำ
    
    36.gif36.gif36.gif
  • ไรไก่

    20 กันยายน 2548 22:33 น. - comment id 517146

    แวะติดตามอ่านผลงานเขียนที่อักษรสวย
    ร้อยเรียงผสมผสานอย่างยอดเยี่ยม
    ได้ทั้งภาพแห่งจินตนาการ
    ชื่นชมพี่พุดมากๆค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน