เรือนริมคลอง..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song354.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5.html
(เรือนแพ เงาไม้)
...............................

กับฟ้าโพล้เพล้
ผมกำลังเหว่ว้าดวงใจสุดทน
เหน็บหนาวกมลด้วยหลายข่าวสารที่ประดังมา
พาให้หัวใจผมแสนปวดปร่าปวดร้าว...


ผม....จึงพาตัวเองมานอนเดียวดาย
 ณ...ริมชายชล...ณ..เรือนริมคลอง... 
ให้สายนทีทองโอบหอมอบร่ำให้ดวงกมล
ของผมนั้นได้พบฉ่ำเย็น...
เรือนริมคลอง...ที่ชะตาพาต้อง...
พามาให้ผมได้เป็นเจ้าของอย่างบังเอิญ


เมื่อวันหนึ่ง...
ผมขับรถเพลินเดินหลงเข้ามา 
ริมแม่น้ำนครไชยศรี
เพื่อทอดทัศนียภาพดู ต้นลำพูคู่ใจ 
หากใช่รอใคร
แบบในหนังเรื่อง*คู่กรรม*ก็หาไม่


ผม..
ชอบมานั่งทอดตา
ดูลีลาสายน้ำไหลเอื่อยๆระเรื่อยระริน
ที่ทอดโอบมิรู้สิ้น...ไปตามสองข้างลำประโดง 
ที่มี...บ้านเรือนเรือกสวนริมฝั่ง
อย่างงามเงียบสมถะน่านั่งนอน
 
มีศาลาท่าน้ำ ..อันทรุดตัวอ่อนยวบโย้เย้
หากทว่านั่นคือ...
ท่าเทียบเรือเผื่อคนมาเยือนเรือนริมฝั่ง
 อาจจะเป็นทั้งเรือโดยสาร...เรือมาดลำเล็กก็ได้


หรือ..
เรือที่
พระภิกษุวาดพายมา..ในยามแรกอุษาฟ้าสาง
ในท่ามควันไฟจากทุกหลังคาเรือนครัว
ที่กำลังลอยฟ่องเหนือปลายไผ่..
เป็นริ้วรายพรายพลิ้ว
ปลิวไปกับสายลมแห่งอรุณ
ที่ทุกดวงใจกำลังตระเตรียมสำรับกับข้าวหอมกรุ่น 
เพื่อเฝ้ารอใส่บาตร....


ให้หัวใจดวงทอง
ผ่องพิลาสแบบพุทธศาสนิกชน
ได้สะอาดสวยใสพอกันกับศรัทธาปสาทะ
และกับกลิ่นข้าวมะลิใหม่จากนาหอมๆ


แล้วจึง...
น้อมดวงใจ...
อธิษฐานภาวนา 
ถวายบัวบูชา ฤาว่ามาลัยมะลิ
ที่รัดร้อยเอง
ฤาไม่ก็...
ดวงดอกไม้พื้นบ้านนานาพรรณ
ดาวเรืองบานไม่รู้โรย
แซมโดยดวงดอกบานชื่น
แทน..
ความชื่นบานหวานฉ่ำใสแห่งดวงชีวาชีวิต
และ
แสนละมุนกลิ่นพอกัน...
แล้ว..
ขอตั้งจิตมั่น ให้ชาติหน้าชาติไหน
ได้เกิดมาทันศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรย์
ให้ดวงใจใสสะอาดสว่างสงบ 
พบพระนิพพานด้วยเทอญ...


ผม...นั่งเพลินจนใกล้ค่ำ
จนตะวันรอนรอนอ่อนแสงสวย
ลงโลมไล้เรียวไผ่ ใบไม้ ทายทักดอกผักบุ้งริมบึง
อย่างอ้อยอิ่งออดอ้อนอำลา


จนกระทั่ง ....
คุณลุงเจ้าของร้านเล็กๆริมคลอง..
ต้องมาเตือนให้ผมออกจากภวังค์ฝัน
มหัศจรรย์รัก อันแสนดำดื่มลืมตนนั้น
พลันตื่น..เสียที


คุณลุง...ที่จดจำผมได้ดี
ไม่ว่าจะมากี่ที ๆ
เพราะ...
คุณลุงคนดีคนใจดี...
ต้องมีหน้าที่ช้ำๆ...
คือต้องคอยย้ำคอยเตือนให้ผม
คืนหลังกลับรังนอนของตัวเองได้แล้ว..เสมอมา


และ...
ด้วยความเกรงใจ 
หากไม่เชิญให้นั่งโอภาปราศัย
คุณลุง...จะไม่เคยถือวิสาสะเข้ามาชวนคุย..
ปล่อยให้...
หัวใจผมติดปีกฝันกระจายกระจุยไปกับเวิ้งน้ำ
กับฟ้ากว้างแสนกว้าง....
ที่เล่นแสงแปลงสีสวยในยามค่ำ
จนกว่า...ตะวันจะพลบจะลับฟ้า
จนกว่านกกาจะพากันผกโผผินบินกลับรัง...


และ..
ที่ผมประทับใจนักประทับใจหนา
กับร้านแสนน่ารัก...ที่สงัดสงบสมถะนี้
คือ...
วิถีความเอื้อโอบอ่อนโยน 
มากล้นน้ำใจไมตรีแบบคนไทยโบราณ
ที่ยังยึดถือประเพณี ว่า.
*ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ*


และ...
อีกทั้งคุณลุงยังทำกับข้าวอร่อยอีกต่างหาก
ร้าน...
ที่มีหญิงชราคือคุณลุงและคุณป้า
ทำทุกอย่างเอง  บริการเอง และอย่างเป็นกันเอง


และ....
บางทีอิ่มท้องแล้ว
ยังยินดี ให้นอนเขลง...ตรงชานท่าน้ำ
ที่มีชายคาบัง...
ทั้งยังมีทั้งหมอนขวานให้นอนนั่งตามใจนึกชอบ..
จนกว่า..
จะอยากกลับรังตัว...
กลัวมืดค่ำ
ราวนกน้อยนั่นแหละถึงค่อยลากัน..และกัน


วันนั้น..
หลัง..
อิ่มหนำสำราญ
กับเมนูแกงส้มปลาช่อนกับผักชะอม
และผมสั่งไก่บ้านคั่วแห้งกรอบแกมมาแนมเพิ่มแล้ว
ผมก็เลย..
นั่งจนนาน...จนพาลจะง่วงนอน
จนตะวันใกล้ลับลา
จนฟ้า..รอนอ่อนแสงสาดสายเรี่ยปลายไม้นั่นแหละ
และ...
เหมือนเคย
ที่คุณลุงต้องมาแวะเตือนตามธรรมเนียม
ให้เตรียมตัวกลับเสียที....


แต่..
คงเป็นนาทีทอง ..สำหรับผม
ฤาว่าพระพรหมท่านสรร
สวรรค์ช่วยพา..ให้ผมได้พบโชคก็ว่าได้
เมื่อคุณลุงเอ่ยขึ้นมา...แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า..
*สนใจจะซื้อเรือนริมคลองมั้ย*
 
มีเจ้าของเขาเบื่อเรือกสวนไร่นา
จะย้ายชีวาชีวิตไปสถิตเเป็นคนเมือง
อยู่ในตึกให้ระทึกฤาว่าระทมก็ยังไม่รู้
อย่างคนผู้ที่...
อยากแปรเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน
แบบเบื่อความจำเจซ้ำชาก...เสียบ้าง


และ
เพราะ..จากคำถามนั่นเอง..
ที่คือวิบาก...
ให้ผมได้มี...
เรือนแสนสุขเรือนใจเรือนในฝัน
เรือนสวรรค์ริมคลอง
อย่างบทเพลง ที่คุณลุงชอบเปิดให้แขกฟัง
*เรือนแพ...*
เรือนที่ผมไม่มีแม่ย่านางมาคอยเคียง 


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5.html
เรือนแพ ชรินทร์ นันทนาคร 
เรือน แพ
สุขจริง อิงกระแสธารา
หริ่งระงม ลมพริ้วมา
กล่อมพฤกษา
ดังว่า ดนตรี
หลับอยู่ใน ความรัก
และความชื่น
ชั่ววัน และคืนเช่นนี้
กลิ่นดอกไม้ รัญจวน
ยังอบอวน ยวนยี
สุดที่จะ พรรณา
เรือน แพ
ล่องลอย คอยความรักนานมา
คอยน้ำค้าง กรุณา
หยาดมา จากธารา
แหล่งสวรรค์
วิมานน้อย ลอยริมฝั่ง
ถึงอ้างว้าง เหลือใจรำพัน
หิวหรืออิ่ม ก็ยิ้มพอกัน
ชีวิต กลางน้ำสุขสันต์
โอ้สวรรค์ ใน เรือน แพ.


และ...แถม..
ต้องให้..เงิน
จากความยากลำบากตรากตรำ
ที่จำทนอดออมมานานปี
ย้ายที่....ไปตุง
อยู่ในกระเป๋าเจ้าของเรือนคนเก่าแทน..


ที่..
เขา...อยากแขวนเรือนชีวิต
ขอไปสถิตใช้ชีวิต
แบบคนเมืองกรุงเมืองรุ่งเรืองรุ่งริ่งรุงรัง
เมืองในฝันศิวิไลซ์..
ที่..
เช้าต้องตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันจะโห่
ต้อง...
พาร่างสะโหลสะเหลไปสะลึมสะลือแทบมิรู้ฟื้น
เพื่อไปนั่งสัปหงกบนถนนที่รถราติดยาวเป็นพืด
ค่อยๆกระดื๊บๆกระดิ๊บๆไปได้ที่ละนิดทีละหน่อย....
ให้..หายอยาก  ...
ที่อยากทดลองพรากจากวิมานคนยาก 
ไปเป็นคนลำบากกว่าเสียอีก...


แต่....
ก็ช่างเถอะนะดวงใครก็ดวงคนนั้น..
เพราะ...
พระพรหมจัดสรร
*สวรรค์ริมคลองเรือนริมคลอง*
มาให้ ..
ผมได้ครอบครองเป็นจ้าของแล้ว


ดวงชะตาที่หนีไม่พ้น
ต้องชักนำโชคมาให้ผมจนได้..
เพราะ...
ผมนั้นฝันใฝ่ มานานแสนนานนัก
ปานเกือบตลอดทั้งชีวิตเลยที่เดียว


เป็นฝันแปลก
ที่ราวอยากแลกฝันกับเจ้าของเรือนคนเก่า
ที่..
ผม...อยากกลับมาใช้ชีวิตแร้นแค้นแบบวัยเยาว์ 
ที่นานเนาในทรงจำ..ให้ผมฝันหา มานานปี


และ
นี่คือ.....
พรหมลิขิตชะตาแห่งฟ้าดิน...
ที่ทำให้ผมมานอนหายใจระรินระริน
ด้วยความรู้สึกล้ำลึกดำดื่มอย่างแสนสงบสุข....


ชีวิต......
ที่คือ ผม..
มิใช่ร่างคนร่างใครในคราบคนทำงานแบบคนเมือง
ที่ไม่ประเทืองประทับใจ เอาเสียเลย
ที่จำใจทนทำทนอยู่ไปวันๆ แบบหาเช้ากินค่ำ
แบบเหนื่อยหนักเสียเป็นนักหนา
จน...
ไม่มีเวลานอนนับดาว
หรือมานอนฟัง
เสียงเคล้าคลอกระซิบของสายน้ำรักนิรันดร์


มิได้ฝันฤามาปันพลี ดวงชีวี
กับเสียงปลาฮุบเหยื่อเหนือสายน้ำแห่งรัก
มิได้นอนพักใจ....ได้ยินเสียงใบไม้ไหวระบัด
กับลมพัดคราง
ท่ามกลาง
เสียงสายฝนหล่นลา
ลงในบึงบัวตระการแสนหวานหอมให้ห้วงอารมณ์


ฤา...มานอนมอง
ฟากฟ้ากว้าง...ที่พร่างพราย
ไปด้วยดวงจันทราดาราราย
ที่
กำลังกระพริบพราวหว่านสายแสง
สะท้อนกระทบลง ในดงผักตบชวา 


กับ..
ฟ้าโพล้เพล้ 
ที่ได้เดินเหว่ว้า ไปตามคันนา คูคลอง
ดูควายนอนคว่ำหงายใช้ชีวิตในปลัก
ได้ทายทัก...
ดวงดอกโสนสีเหลืองทองสะพรั่งพราว


ได้เฝ้าแหงนเงย
ดูตาลเดี่ยวเกี่ยวกรีดกรายใบ..ไหวเปลี่ยว
ยามต้องลมพรมพราย
คล้ายลมไล่ท้องช้างพัดข้าวให้วาบวับปราดปราย
คล้าย
ลอนคลื่นไหวระริก...พลิ้กพลิ้วเป็นระลอก ระลอกลอน
จนใจดวงสะออนบรรยายบอกงามไม่ถูก...
จะปลูกในจิตใคร..
ให้เอมอิ่มซึ้งซ่านซึ้งซาบใจ
ก็ยากเหลือใจจะรำพึงรำพันให้ฝันตรึงตรา
ให้ถึงบึ้งนวลใน ใจดวงรักเหว่ว้า
ดวงละไมละม่อมละเมียดแบบนี้ได้..


ผม..จึงแสนสุขกมล 
แม้นจะแสนจน จนกระเป๋าแบน 
แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่กลัวแฟนจะทิ้งจะทอดไป
ในเมื่อ....
หัวใจดวงดินดวงเดิมดวงรักดายเดียว 
มิเคยหวัง
ใช้ชีวิตติดข้องเกี่ยวพันธนารัก.. 
อยากร่วมหอลงโรงกับใคร


ที่...
ผมคงค้นพบอิสรา...
จนยากที่จะ...
อยากก้าวขาลงไป
ในบ่วงล่วงล้ำให้ร้อยรัดมัดตรึงขึงแน่น 
จนยากจะถอนออกได้ ตราบจนวันตาย
ที่เกิดมาเป็นลูกผู้ชายที่ดี
หากรักจะมีครอบครัวต้องสละทั้งร่างตัวรู้รับผิดชอบ


ผม..คนร่างแลหัวใจแสนเสรี
จึงมีความสงบสุขเช่นฉะนี้ 
ได้มีเวลามานอนลอยล่องท่องธรรมชาติ
ให้ดวงใจผมได้รับสวยใสพิไลพิลาสในทุกวันหยุด...
มา...
พบทุกสิ่งที่แสนดีให้ดวงชีวาชีวี....
ได้ค้นพบ..*อัญมณีจิตใสสว่าง*..ณ..กลางใจ
ในท่ามเรือนไทยริมคลอง...


ที่...
ผมคอยจ้องรอ...ให้ถึงวันเสาร์อาทิตย์
 จะได้มาสถิตนอน...อย่างสมถะ
มาชิดใกล้สายน้ำ...
มาต่อตามเติมใจไฟฝันให้พลันพร่าง 
ให้...
ได้พบกระจ่างงาม
แห่งความสงบสงัดอันแสนวิเวก
ราวเสกโลกภายใน
ให้หัวใจผม..
แสนบรรเจิดเพริศพริ้งเสียยิ่งกว่าใด..ในหล้าแล้ว..


และ....
นี่คือ ที่มาที่ไป
ว่าทำไม..ผมถึงมีเรือนใจ
 เรือนริมคลองวิมานที่สอง
นอกจากคอนโด..ที่ผมเช่านอน
เพียงเพื่อใช้ชีวิตทำงานในเมือง
........


ผม..ขับรถมาเมื่อฟ้าโพล้เพล้ใกล้ค่ำแล้ว
เรือแจวยังเทียบท่าน้ำ 
ฟ้า....กำลังเรื่อรางด้วยสายแสงสีส้มอมชมพู
ต้นลำพู...ยังคงรอหิ่งห้อยนับพัน
มาพลันพร่างพริบพร้อย
มาคอยรักมาทายทัก...ราว..*คำมั่นสัญญา*
ระหว่างโกโบริกับอังศุมาลิน


ที่...
จำสิ้นชีวีร้างลาแบบ..*คู่กรรม *
นวนิยามอมตะงามล้ำ
ที่ให้แง่คิดถึงรักนี้ที่หนีลิขิตชะตาไม่พ้น
และ..
ทิฐิใดไหนเลย จะพาคนสองคน
ให้รอดพ้นจากหอมห้วงแห่งรัก...
จักจนได้ประจักษ์แจ้งแก่ใจ..*ยามสายเกิน*
............


ผม...จุดตะเกียงเคียงหัวนอน
วาง...
ดวงดอกพุดซ้อนอรชร
แสนหอมหวานไว้ริมหมอน
เห่กล่อมริมแก้มให้นอนหลับฝันดี
หัวใจ...ดวงใสใส
พราวไสว
ราวนางฟ้าเทวดามาใส่พรให้
อันแสนอบอุ่นอ่อนหวานอ่อนโยน...
ผมอ่านบทกลอน...รจนาบทกวี
ในท่ามแสงดาวเดือนในยามราตรี
ที่พลีทอดหวานหว่านสายน้ำผึ้ง
อัน...
แสนซึ้งเศร้ามาโลมไล้ปลอบประโลม


เสียงสายน้ำ...
กำลังออดอ้อนกระซิบรัก...
เซาะไซ้ซุกปลุกฝัน...
ให้แสนรัญจวนใจเป็นยิ่งนัก
เสียงสายลมทายทักยอดไผ่ไหวระริกๆ
กระซิกๆกระซี้...เสียดสี ซัดส่ายร่ายมนต์เสน่หา
พาให้ราวสายเสียงแห่งท่วงทำนองดนตรีสวรรค์


เสียงใบไม้....
คล้ายรำพันฝันหา
สายฝนและหยาดน้ำค้างแห่งรักละมุน
รอผลิช่อ...จากกอกรุ่น
แย้มกลีบกลางเกสรรอมวลหมู่ภมร
ให้...
ร่อนถลามาลองลิ้มชิมรสหวาน
แห่งปวงสุมามาลย์สุมาลี
ที่พลีพร้อม
ยอมแย้มเผยอเผยกลีบตระการ
อย่างมิกลัวรานด้วยรัก...


ผม..หลับตา...
ผสานใจไปกับธรรมชาติเงียบงาม
หากในท่ามความนิ่งสงัดสงบนั้น...
ผม....
กลับดำดิ่ง...ลงสู่ความจริง ...
สามารถทิ้งบางสิ่งบางอย่างและวางว่างได้


ผม...
ค้นพบความกระจ่างแจ้ง 
แฝงด้วยความมหัศจรรย์ใจ
ที่มี...
เพียงดวงใจและ จิตวิญญาณบ้านภายใน
ของผมแต่เพียงผู้เดียวได้รับรู้...


แล้ว...
จู่จู่...พลันพา....
ให้หยาดน้ำตาจากพลังปิติเกษมภายใน
จากใจลูกผู้ชาย
ได้ไหลถั่งละหลั่งรินอย่างมิสิ้นสาย
ไปกับสายฝน.....
ที่กำลัง...
เริ่มพร่างพรมพรมพรำ
ลงกระทบผืนน้ำ..อย่างงามเงียบ......
.......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song354.html
เงาไม้ นภา หวังในธรรม
แสง จันทร์วันนี้นวล ใครชวนให้น้อง เที่ยว
จะให้ เหลียวไป แห่ง ไหน
ชล ใสดูในน้ำ เงาดำนั้นเงา ใด
อ๋อ ไม้ ริม ฝั่ง ชล
สวยแจ่ม แสง เดือน
หมู่ ปลา เกลื่อนดู เป็น ทิว
ฉันชม ลม ริ้ว
จอด เรือ อาศัย เงา ไม้ ฝั่ง ชล
สวย แจ่ม แสง เดือน
หมู่ ปลา เกลื่อนดู เป็น ทิว
ฉันชม ลม ริ้ว
จอด เรือ อาศัย เงา ไม้ ฝั่ง ชล...
				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    22 กันยายน 2548 22:21 น. - comment id 517984

    อัลมิตรานึกถึงเรือนแพ .. บ้านบนแพ
    :) นึกตามคำบอกเล่าของเพื่อน
    เวลาที่เขามีเวลาว่าง ๆ เขาชอบที่จะอยู่ที่นั่น
    อัลมิตราคิดว่า เขามีความสุขนะ ณ ตรงนั้น
    
    น้ำใส ๆ ต้นไม้เขียว ๆ เบาะเอนสีสด หนังสือสักเล่ม 
    สุขแท้ แค่ได้คิด ..
  • ท่องเมฆา

    22 กันยายน 2548 22:56 น. - comment id 517997

    36.gif
    
    ณ ที่นี้ ริมฝั่งฝันนิรันดร์รัก
    มีเรือนพักริมลำคลองปองในฝัน
    พรหมลิขิตขีดชะตามาพบกัน
    ลำพูนั้นมีหิ่งห้อยคอยเป็นพยาน
    
    บ้านริมแควแพริมน้ำชื่นฉ่ำนัก
    เป็นเรือนพักร่มใจในวันหวาน
    ยามราตรีชมแสงเดือนนอกเรือนชาน
    ดาวตระการกระพริบแสงแข่งฤทธี
    
    สายน้ำไหลเอื่อยเอื่อยเรื่อยละลิ่ว
    สายลมปลิวทักยอดไผ่ไหวเสียดสี
    เสียงใบไม้ทายทักฝนบ่นวจี
    สุมาลีส่งกลิ่นหอมให้ดอมดม
    
    จึงหลับตาทำจิตนิ่งอิงธรรมชาติ
    ความประหลาดมหัศจรรย์พลันสั่งสม
    สงบนิ่ง...แสงสว่าง..ดั่งโพยม
    น้ำตาพรมรินหลั่งรู้...อยู่ผู้เดียว
    
    36.gif62.gif46.gif
  • แดดเช้า

    22 กันยายน 2548 22:56 น. - comment id 517998

    พี่พุดไพรคนดี
    เข้ามาในนี้แล้วเหมือนได้ทะลุไปชมโลกในอีกมิติหนึ่งจริงๆ ค่ะ
    
    ละเมียด ละเอียด ละมุน ละไม 
    
    สวัสดีค่ะ : )
  • ไรไก่

    23 กันยายน 2548 05:56 น. - comment id 518036

    เรือนริมคลอง
    น่านอนนั่นเล่น
    ลมพัดระรินอ่อนเย็น
    อยากเห็นจังบ้านริมคลอง
    แวะมาอ่านงานเขียนของพี่พุดค่ะ
    ได้รับความรู้สิ่งต่างและเย็นสบายใจด้วย
    ประกายธรรมสอดแทรกของอนูอักษรด้วยค่ะ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    23 กันยายน 2548 09:37 น. - comment id 518085

    เมื่อเด็ก ๆ เล่นน้ำเกาะเรือโยง ไปเที่ยวไกล ๆเข้าคลองบางหลวงผ่านตลาดพลูมองเห็นเรือนริมคลองสวย ๆ นึกในใจว่า โตเป็นผู้ใหญ่จะมีเรือนอย่างนี้บ้าง จนป่านนี้ อย่าว่าแต่เรือนเลย ที่ดินสักกะแบะมือที่จะฝังตัวเองยังไม่มีเลย อิอิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน