แสนเสียดายดาวรุ่งแห่งทุ่งข้าว..!

สาวบ้านนา


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song30.html
(ทุ่งรวงทอง..บ้านเรา)


อ้าย..คนดี...
กลับมาหาสาวนาในราตรี
ราตรีที่..
สายฝนกำลังกระหน่ำหนัก
พายุ..
กำลังพัดจัด
จนต้นไม้รายรอบกระท่อมแทบโค่นหักไปตามๆกัน...!


เสียงลมแรง... ฟ้าครวญ ..ราวฟ้าดินรับรู้
กับค่ำคืนนี้..ที่ฟ้ากำลังรอเวลาพลีร่ำไห้
คืนที่..
นกไพรพเนจรดายเดียว
ผู้ได้รอนแรมร้างไร้จากรังรักในรวงใจของสาวนา
ได้คืนหลังกลับมา..หา
ดาวรุ่งแห่งทุ่งข้าว..!

หลังจาก..ที่เต็มใจ
ต้องจากต้องพรากลา 
ไปทำหน้าที่ทหารพรานอาสาสมัคร
ผู้พิทักษ์ปกบ้านป้องเมือง
ทางชายแดนภาคใต้มานานเกือบปี..


คนดี..
ที่กลับมา...
กับดวงตาสีสนิมโศก
ที่โศกยิ่งกว่าโศก..เศร้าเกินกว่าเศร้า..
ราวกับว่า...
*โลกแสนงามในดวงใจ*กำลังจะลาลับดับสูญสิ้น...
พร้อมผิวดำกร้าน... 
อย่างผู้ผ่านสมรภูมิแห่ง
*โศกนาฏกรรมไทยฆ่าไทยกันเอง*
ที่ทำกันอย่างไม่ยำเกรงกฏหมาย
มีเพียงกฎหมู่ ...
ที่แสนโหดร้ายทารุณ
จนยาก..
ที่จะหาคำใดมาบรรยายถึง...
ความน่าสะพรึงกลัวได้เทียมเท่า..!


และ...
ผู้ที่เป็น..*สุภาพบุรุษชายชาตินักรบ*..จริงๆ
กลับต้องมา...
เสียสละ..
ทั้งร่างแลดวงจิตวิญญาณ..อันแสนหาญกล้า
ไว้ให้...
*ผู้เป็นที่รัก*เบื้องหลัง
ได้พลีหลั่งรินน้ำตาด้วยความทุกข์เวทนา
อย่างแสนอาลัยอาวรณ์..เทวษถวิลมิรู้สิ้น
และ...
ด้วยคำถามแห่งความไม่เข้าใจจากไทยทุกทุกข์ผู้คน
บนผืนดิน..แม่มาตุภูมิ..
ที่ปนปลื้มด้วยความภาคภูมิหากแสนโศกสะเทือน
ด้วยหยาดน้ำตา


เมื่อ..เหลียวไป..
พบผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจนั้น
กลับมาด้วยธงไตรรงค์คลุมหน้าคลุมร่าง..
อย่าง..ทรนงองอาจ อย่าง..มิเสียชาติเกิด..
อย่างที่..
คนทั้งผืนแผ่นดินจักเทิดพลีคารวะ..
และ..
กับทุกดวงตาดวงใจไทยที่มีคำถามตามมาว่า..
ทำไม..ทำไม..และทำไม...และเพราะเหตุใดอย่างไม่มีวันสิ้นสุด....?


อ้าย..หลับตา...
ราวทารกน้อย..ในอ้อมกอดอ้อมตักของสาวนา
ที่กำลัง..
ไล้ลูบใบหน้าอย่างแสนรักบูชา..
ในท่ามกลางแสงตะเกียงระริบหรี่  ระรุบหรู่..
สาวนา...ค่อยค่อยพลีจุมพิต..ที่เปลือกตาอ้ายอย่างละมุนละเมียด


ก่อนที่..
จะเบียดซุกตัวในอ้อมกอดอันอวลกรุ่น
ด้วยไออุ่นแห่งรักของกันและกัน
พร้อม...
ขับลำนำเห่กล่อม..*เจ้าจอมใจเจ้าดวงใจ*ของสาวนา
ด้วยบทโศลกแสนซึ้ง ..ที่ท่องไว้จนจำขึ้นใจ
ด้วยน้ำเสียงแสนเศร้าสะเทือน
เสมือน...
กับกำลังจะวอนไหว้..ด้วยหยาดน้ำตา
ให้เทพยดาฟ้าดิน..สิ้นอินทร์พรหมได้รับรู้...รับทราบ..ทั่วกัน...
.......................................................................


นิราศจักรวาล..ของคุณชัยพร ศรีโบราณ
กวีนิพนธ์ยอดเยี่ยมประจำปี 2548 นายอินทร์อะวอร์ด
........................................................................

ตอนที่11
สองราแรมรอนอ่อนล้า
ขอขมาเจ้าของครองหน
เรณูธุลีลอยวน
ลงบนใบข้าวเนาพัก
ทางไกลเนิ่นช้าคลาคล้อย
ร่อยหรอแรงเฉื่อยเหนื่อยหนัก
รวงข้าวกล่าวความถามทัก
ท่านเป็นที่รักของเรา
สองท่านฝันถึงถิ่นไหน
เหตุใดดูขรึมซึมเหงา
คงเหนื่อยเหลือเกินเชิญเนา
ไม่เก็บค่าเช่าค่าชม
เรณูว่าเราเฝ้าหวัง
ยังลานบุษบาวนาศรม
พบมิตรสุวมาลย์เกลียวกลม
รื่นรินกลิ่นฉมรมณีย์
ร่วมก่อช่อดอกออกผล
หลากล้นลวดลายหลากสี
ประดับดวงใจไมตรี
คลี่บานความหวังยั่งยืน
ธุลีว่าเราเฝ้าหวัง
ยังแดนอุดมร่มรื่น
ร่วมมิตรเม็ดดินกลมกลืน
เป็นผืนผไทไศลา
ขอเป็นธุลีน้อยต้อยต่ำ
คอยค้ำลำต้นบุปผา
เพื่อให้ดอกไม้นานา
บานแย้มแต้มค่าฟ้าดิน
รวงข้าวว่าน่าเศร้าเพราะดาวนี้
สุมาลีหอมละมุนได้สูญสิ้น
นับพันปีผ่านไปเกินใฝ่จินต์
นิราถิ่นอุทยานนิรันดร
ฉันเกิดเวียนดับกับดาเรศ
เคยเห็นเหตุนานาอุทาหรณ์
ยังเหลือเธอเท่านั้นท่องสัญจร
เป็นเกสรสุดท้ายที่ทนทาน
อยากให้ฝันของเธออันเลอเลิศ
ปรากฏเกิดสวนศรีที่ไพศาล
หนึ่งเรณูธุลีลอยจักรวาล
ร่วมกันสร้างอุทยานให้ยืนยง
เสียดายแต่ดาวรุ่งของทุ่งข้าว
สูญสุมามาลย์รานร้าวไม่เหลือหลง
ร้างละอองเรณูอยู่ดำรง
เพื่อสืบพงศ์บุปผาไปช้านาน
กาละหนึ่งนกดำทรงอำนาจ
ใจอุบาทว์หยาบกระด้างมุ่งล้างผลาญ
หลงกากเดนเหม็นเน่าเป็นเผ่าพาล
ละโมบบ้าสามานย์ก่อการร้าย
มันเกลียดชังบุปผชาติสะอาดหอม
จึงพ่นไฟไหม้หลอมลาญสลาย
รากแก้วของผองผกาละลายวาย
พลันเสื่อมคลายสุคนธาจากฟ้าดิน
ความหอมหวานอ่อนไหวได้สูญเปล่า
เหลือแต่ข้าวรุกขาชลาสินธุ์
พอให้มันอาศัยได้ดื่มกิน
ดับแสงจินตนาการจากลานใจ
ทั้งธุลีเรณูหดหู่ยิ่ง
ความเป็นจริงไกลกันกับฝันใฝ่
เราจะต้องท่องดาวนานเท่าใด
จึงดอกไม้บานสะพรั่งอีกครั้งคราว....
...............


เสียงอันหวานเศร้ารานร้าวนั้น
พลันก้องหวานสะท้านสะท้อนสะเทือน
ไปทั้งหุบไพร ฟ้ากว้าง
กับเดือนร้างแรมลา
กับ....
หยาดน้ำตานางฟ้าที่กำลังพร่างพรม
ห่มท้องนาอย่างหน่วงหนัก ราวรับรู้ รับฟัง


รวงข้าวกระซิกกระซิกร่ำไห้..ค้อมพวงพรายพราวทองลงพลีดิน
ก่อน..จะสิ้นเสียงไห้โหยแหบพร่าไปกับน้ำตาแห่งฟ้าดิน
กับกลิ่นอวลแห่งพวงพะยอมป่าปวง
ที่พากันปลิดกลีบโรยร่วงทิ้งก้านกอ
พ้อพลีดวงดอกร่วงพราว
กราวลงพร่างพื้นพสุธา...ราวสิ้นแล้วซึ่งหวังใด..!!!!
.............


สาวนาพึมพำ..ทิ้งท้าย
พร้อมกับ
ดอมดมพรมจูบ
ลูบไล้แผ่วละมุนไปตามใบหน้า
ริมคางสากกร้านของอ้ายอย่างรักแสนรัก..
*  หลับให้สบายนะคนดี*
ไม่มีอะไรจะหมายมากรายกล้ำ
มาให้ฝันร้ายได้อีก...*


*ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น...
ด้วยพลังอำนาจ
แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
คู่ฟ้าดิน...
ด้วยบุญญาบารมีแห่งองค์พระสยามเทวาธิราช
และ...
ด้วย..
หยาดน้ำพระราชหฤทัยของพระพ่อขวัญแม่เมือง
ที่..
คอยพร่างหยาดสาย...ให้ทุกราวเรื่องร้ายได้กลายดี
ให้ทุกคน..ที่คิดผิด..ได้สำนึกตัว
ได้ตระหนักรู้ว่า..*


*ในหล้าโลกนี้นั้น...
 ผืนแผ่นดินไทยนั้นแสนอุดมดั่งผืนทอง
แล้ว...
ไยต้องมาห้ำหั่นปันแบ่งกัน
ไยไม่สมานฉันท์
รู้รักสามัคคี 
รู้กตเวทิตาต่อผืนดินที่ให้ข้าวให้น้ำ
ให้.มาอย่างยาวนาน ...นับไม่รู้กี่ชั่วอายุคน..แล้ว..*


และ...
อ้ายรู้ไหม..เมื่อไม่กี่วันก่อน
องค์*สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินินาถฯ*
ได้เสด็จแปรพระราชฐาน
ไปทรง ประทับ ณ..พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
เพื่อทรงเป็นมิ่งขวัญกำลังใจแด่คนไทย ทุกหมู่เหล่า


ทั้งยังทรงได้เสด็จฯพระราชดำเนิน
ไปยัง..*จังหวัดพัทลุง..*
เพื่อ..
ทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกร
ได้พระราชทาน
คำแนะนำเกี่ยวกับการทดลองเพาะปลูกผักผลไม้
ที่เหมาะกับสภาพดินฟ้าอากาศ
และ...
แวะดูแปลงทดลองข้าว*พันธุ์สังข์หยด*
และ..
พันธุ์ต่างๆที่เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่มีรสชาติดี..


ทั้งยังทรงมีพระราชดำริ
ให้มีการปลูกเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ข้าวอีกหลายพันธุ์
ที่เหมาะกับดินที่นั่น
 
ที่คือดินงามอุดมแห่งแดนทองด้ามขวานไทย


และ..
มาตรแม้นผู้คนจะจนยากกว่าคนในจังหวัดใดของประเทศ
หาก..
คือแหล่งเพาะบ่มตำนานแห่งความเป็นคนไทย
ที่..
ยังมีประเพณีวิถีไทยวิถีทุ่งวิถีทอง
อันเปรียบประดุจ
*ธารธาราทองแห่งวัฒนธรรมผืนดินภาคใต้*


คนดี...และ
ทุกครั้งคราที่สาวนาฟัง
บทเพลงนี้...ที่ชื่อ*สายฝน*
หัวใจดวงดีดวงทอง
พลันจะ..นองเนืองได้หยาดน้ำตา
ด้วย..
ตระหนักซึ้งค่า
ในหยาดน้ำพระทัยแห่งทั้งสองพระองค์ฯล้นเกล้าล้นกระหม่อม
ที่ทรงบุกป่าฝ่าดง
ทรงเพียร
ที่จะให้คนไทยทั้งชาติ ได้อยู่ดิกินดีมีสุข
สมถะรู้ใช้ชีวิตอย่างพอดีพอเพียง..


จนพระวรกาย
ต้องทรงพบแต่ความลำบากตรากตรำ
ก็มิเคยทรงสิ้นหวังและท้อแท้..
ที่จะกอบกู้ต่อสู้
เพื่อให้แผ่นดินธรรม ผืนดินทอง ได้คงอยู่
เพื่อลูกหลานเหลนโหลนไทย...ที่จะเติบใหญ่ในภายหน้า..
....................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6197.html
สายฝน ....เพลงพระราชนิพนธ์ 
*เมื่อลมฝน บนฟ้ามาลิ่ว
ต้นไม้พลิ้ว ลู่กิ่งใบ
เหมือนจะเอน รากคลอนถอนไป
แต่เหล่าไม้ ยิ่งกลับงาม
พระพรหมท่าน บันดาลให้ฝนหลั่ง
เพื่อประทัง ชีวิตมิทราม
น้ำทิพย์สาด
เป็นสาย พรายพลิ้วทิวงาม
ทั่วเขตคาม ชื่นธารา
สาดเป็นสาย
พรายพลิ้วทิวทุ่ง
แดดทอรุ้ง อร่ามตา
รุ้งเลื่อมลาย พร่างพรายนภา
ยาม เมื่อฝนมาแต่ไกล
พระพรหมช่วย อำนวยให้ชื่นฉ่ำ
เพื่อจะนำ ดับความร้อนใจ
น้ำฝนหลั่ง ลงมาจากฟ้าแดนไกล
พืชพันธุ์ไม้ ชื่นยืนยง...
.............

กล่าวมาถึงตรงนี้
พลัน...
หยาดน้ำตา
สาวนาก็พราวพร่าซึมลงบนใบหน้าอ้าย
อย่างไร้หยุดยั้ง...
ที่รอจะละหลั่งรินมิสิ้นสาย
มาแสนนาน 
ด้วย..
รานร้าวใจ
กับคนไทย..ไทยมุสลิมบางคน
 
ที่ไยไม่ซึ้งค่ารู้รักเทิดบูชาแผ่นดิน
ที่ให้ข้าวให้น้ำมานาน..แสนนานนะ


คนดี...แต่
สำหรับเราสองนั้น
เหนือดวงชีวาคือรู้ค่ารู้คุณ
 และ..
ครองงามครองดีครองกตเวทิตาต่อแผ่นดินนี้..


และ...
ที่สาวนาแสนปิติภาคภูมิใจนัก
ก็คือโชคดี
ได้เกิดมาเป็นเมียรักเมียขวัญของอ้าย
ลูกผู้ชายที่ภักดิ์แผ่นดิน
 รู้หน้าที่...
รู้ว่าชีวีคนเรานั้นแสนสั้นนัก
ควรพลีร่าง
และ..
ทุกหยดหยาดเลือดรักแลลมหายใจ
ดั่ง..
*ชายชาติเกียรติศักดิ์ทหารเสือ*
ยามเมื่อชาติบ้านเมืองต้องการ..ใช่ไหมเล่า..อ้ายคนดี..
...........


อ้าย..ลืมตา..อย่างช้าช้า
*ตาสบตา..*.
ที่อาบไปด้วยหยาดน้ำตา
แห่งความโศกสะเทือนทับทั้งคู่
พร้อมกับ...
ที่เขาคนดี...ค่อยๆ..ใช้มือหยาบกร้าน
มือที่จับด้ามปืนมานานวัน..
มือที่พลีกำนัล
ให้สาวนาได้ไล้จูบทุกนิ้วนับอย่างรักใคร่
ประคอง..
ไล้ลูบหน้าสาวนา..อย่างแผ่วเบา..

แทนค่าคำ..รัก...
 แทน..ดวงใจ..
แทนทุกข์เทวษถึงทุกข์ไทไทย
แทนน้ำตาจากใจลูกผู้ชาย..
ที่กำลังระรินไหล
ด้วยโศกสะเทือนใจ..เสียยิ่งกว่าฟ้าร้องไห้....!!!
...........................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song30.html
ทุ่งรวงทอง ....ชรินทร์ นันทนาคร 
ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
เห็นข้าวออกรวงน่ามอง
ดุจแสงทองสีแห่งศรัทธา
พี่มาได้ยล นฤมลนวลน้องบ้านนา
ถึงจะสวยตามประสา
ก็โสภาเหนือกว่านางใด
ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
น้ำเปี่ยมอยู่ริมฝั่งคลอง
เช่นพี่รัก น้องเปี่ยมฤทัย
สะพานเชื่อมคลอง เหมือนพี่กับน้องเชื่อมใจ
ถึงอยู่แสนไกลแค่ไหน เชื่อมหัวใจให้สมปอง
พี่ เยือน ถึงถิ่น น้องเอยอย่าหมิ่น
น้ำใจเพื่อนใหม่ จะหมอง
ขออยู่ ขอตายจนวันสุดท้ายกับน้อง
ให้ทุ่ง รวงทองนี้เป็นเจ้าของ เรือน ตาย
ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
แม้นหากขาดพี่ ขาดน้อง
ทุ่งรวงทองก็หมดความหมาย
พี่มาจากกรุง หมายมุ่งมาหาเพื่อนตาย
รับปากรักพี่ได้ไหม
โอ้ขวัญใจ ทุ่งรวงทอง
ทุ่ง เอ๋ย ทุ่งรวงทอง
แม้นหากขาดพี่ขาดน้อง
ทุ่งรวงทองก็หมดความหมาย
พี่มาจากกรุงหมายมุ่งมาหาเพื่อนตาย
รับปากรักพี่ได้ไหม
โอ้ขวัญใจทุ่งรวงทอง... 
...............
 
  

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song314.html
บ้านเรา ...สุเทพ วงศ์กำแหง 
บ้าน เรา แสน สุขใจ
แม้จะอยู่ ที่ไหน
ไม่สุขใจ เหมือนบ้านเรา
คำ ว่าไท ซึ้งใจ เพราะใช่ ทาสเขา
ด้วยพระบารมีล้นเกล้า
คุ้มเรา ร่มเย็น สุขสันต์
รุ่ง ทิพย์ ฟ้า ขลิบทอง
พริ้วแดดส่อง สดใส
งามจับใจ มิใช่ฝัน
ปวง สตรี สมเป็นศรีชาติ เฉิดฉัน
ดอก ไม้ชาติไทยยึดมั่น
หอมทุกวัน ระบือ ไกล
บุญ นำพา กลับมาถึงถิ่น
ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร
หัว ใจฉัน ใครรับฝาก เอาไว้
จาก กัน แสน ไกล ยังเก็บไว้ หรือเปล่า
เมฆ จ๋า ฉัน ว้า เหว่ ใจ
ขอวานหน่อยได้ไหม
ลอยล่องไป ยังบ้านเขา
จง หยุดพัก แล้วครวญรับฝาก กับสาว
ว่าฉันคืนมาบ้านเก่า
ขอยึดเอา ไว้เป็น เรือน ตาย... 
 
  
				
comments powered by Disqus
  • ธรรม ทัพบูรพา

    7 ตุลาคม 2548 14:25 น. - comment id 524596

    ได้เป็นอ้าย..คนดี
    ถึงตายก็คุ้มค่านะ36.gif
  • กอกก

    7 ตุลาคม 2548 15:38 น. - comment id 524628

    กำสรด รัญทดท้อ ..
    และหวงแหนในแผ่นดิน...
    อาลัยในชายอันเป็นที่รัก...
    
    ขอบคุณนิราศจักรวาลที่นำมาสู่สายตา...
    
    สวัสดีคุณสาวบ้านนา...คุณพี่พุด...
    
    46.gif36.gif
  • สาวบ้านนา

    7 ตุลาคม 2548 15:42 น. - comment id 524632

    จากบทความในหนังสือพิมพ์16.gif10.gif
    ตัวเลขสรุป...คดีสำคัญ ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2548 (ม.ค.-ก.ย.) 
    มีทั้งหมด 3,300 คดี 
    เฉพาะจังหวัดนราธิวาส 1,164 คดี
     แยกเป็นคดีความมั่นคง 1,017 คดี 
    ตัวเลขน่าตกใจ.....16.gif10.gif
    
    ทหาร ตำรวจ ครู ฝ่ายปกครอง ผู้นำศาสนา 
    ตลอดจนชาวบ้านทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม 
    ตกเป็นเหยื่อสังเวยความรุนแรง บาดเจ็บล้มตายแล้วเกือบ 1,000 คน 16.gif10.gif
    
    ในจำนวนนี้มีพระสงฆ์ผู้ทรงศีลด้วยหลายรูป 
    แม้พุทธศาสนาจะมีคำสอน 
    พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะเพื่อ รักษาชีวิต พึงสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม
    แต่ข่าวฆ่าตัดคอพระขณะบิณฑบาต บึมรับอรุณพระมรณภาพคาที่
     ดูจะเป็นความจริงที่พระและชาวพุทธทั่วไปจะทำใจยอมรับได้ 16.gif10.gif
    
    นี่คือทุกข์ของแผ่นดิน ทุกข์กันถ้วนหน้าไม่ว่าไทยพุทธ ไทยมุสลิม
    หลายปัญหาขัดแย้งถึงขั้นนองเลือด 
    ในขณะที่มีเสียงจากพี่น้องมุสลิม 
    รัฐบาลใส่ใจประชากรส่วนใหญ่ในสามจังหวัดใต้น้อยไป 16.gif10.gif
    
    ในภาพรวมของประเทศ ไทยมุสลิมเป็นชนกลุ่มน้อย
     แต่ในสามจังหวัดภาคใต้ 
    ไทยพุทธเป็นชนกลุ่มน้อย ในชนกลุ่มน้อย 
    ไม่มีปากมีเสียงจะ ตอบโต้ 
    จะให้ละทิ้งแผ่นดินเกิด ก็ไม่รู้จะไปทางไหน 
    จะหันหน้าพึ่งใครก็ดูจะมืดมนเต็มที 16.gif10.gif
    
    แต่ประเด็นการฆ่า ไม่ได้มาจากความขัดแย้งทางศาสนา 
    คนในพื้นที่รู้ดี ต่อให้นับถือศาสนาไหน 
    ถ้ามันจะฆ่า...มันก็ฆ่า
    หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ สำหรับทุกฝ่าย ดีที่สุดคือ กำลังใจ16.gif10.gif
    
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 
    ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้มหาเถรสมาคม 
    คัดเลือกพระสงฆ์จากวัดต่างๆทั่วประเทศ 
    มาจำพรรษาและปฏิบัติศาสนกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 16.gif10.gif
    
    พระองค์ท่านทรงเป็นห่วงวัด ห่วงพระ 
    ทางมหาเถรสมาคมจึงสนองพระราชเสาวนีย์ จัดคณะเดินทางไปเยี่ยม 
    วนไปเรื่อยทั้ง 3 จังหวัด
     เฉพาะที่ จ.นราธิวาส มีอยู่ 19 วัด 
    มีพระสงฆ์จำพรรษาทั้งหมด 53 รูป 16.gif10.gif
    
    เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2548 ผู้แทนกรรมการมหาเถรสมาคม 
    นำโดยพระพรหมเมธี วัดเทพศิรินทราวาส 
    พระธรรมวรเมธี วัดราชบพิธฯ พระเทพภาวนาวิกรม วัดไตรมิตร 
    พระราชรัตนาภรณ์ วัดพนัญเชิง อยุธยา 
    
    พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 
    นายมนตรี บำรุง ผอ.ส่วนกิจการสงฆ์ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม 
    ได้เดินทางไป จ.นราธิวาส 16.gif10.gif
    
    การมาเยี่ยมวัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 
    จุดหมายของคณะ เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของ 
    รวมทั้งปัจจัย ให้วัด พระสงฆ์ และสามเณร 
    ตลอดจนพุทธศาสนิกชน และทหาร ตำรวจในพื้นที่ 16.gif10.gif
    
    บรรยากาศการเดินทางปกติธรรมดา เรื่อยๆเรียงๆ 
    จนออกจากสนามบินหาดใหญ่ 
    ขึ้นรถตู้มุ่งหน้าสู่ จ.นราธิวาส ผ่านพื้นที่มีปัญหาขัดแย้ง 
    หลายอำเภอในจังหวัดสงขลา ผ่านปัตตานี ระยะทางราว 240 กิโลเมตร 16.gif10.gif
    
    ผู้ร่วมคณะเดินทาง เริ่มเข้าใจความรู้สึกรักตัวกลัวภัย...
    ที่มองไม่เห็น ว่าเป็นอย่างไร
    หัวขบวน มีรถตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว 
    
    ถัดมาเป็นรถคอมมานโด กองปราบฯ 
    รถตู้พระเถระชั้นผู้ใหญ่ รถตู้เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน 
    รถขนสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค 
    รถเจ้าหน้าที่ผู้ติดตาม ตามด้วยรถคอมมานโด 
    รถตำรวจท้องที่ และรถตำรวจทางหลวงปิดท้ายอีกชั้น รวมแล้วเกือบ 20 คัน 16.gif10.gif
    
    จากขบวนของพระ ที่คาดว่าจะเล็กๆ ก็กลายเป็นขบวนเจ้าใหญ่นายโตไป...โดยปริยาย 
    โดยคณะเดินทางไม่ได้คาดหมาย
    คุมเข้มกันถึงขั้นนี้แล้วก็มีคำสั่งจากผู้ใหญ่...ดูแลพระให้ถึงพื้นที่...16.gif10.gif
    
    
    หลายจุดเป็นพื้นที่สีแดง ดูแลเวลาให้ดี ก่อนบ่ายสามโมง ต้องกลับ 
    รถขบวนใหญ่ ใช้ความเร็วระดับที่กำกับเวลา 
    ตลอดสองข้างทาง ชาวบ้านมองด้วยสายตาสงสัยปนหมั่นไส้ 
    จะยกขบวนไปไหนกันนักหนา16.gif10.gif
    
    ผ่านจุดตรวจ จุดแล้วจุดเล่า สิ่งกีดขวางเต็มถนน 
    ใครไม่ไป ก็ได้ข้อสังเกต ด่านเยอะขนาดนี้ คนร้ายก่อเหตุแล้วหลบหนีไปได้ยังไง.....? 16.gif10.gif
    
    แวะเข้าวัดแรก วัดพรหมนิวาส อ.เมืองนราธิวาส 
    วัดในตัวเมือง ยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ไม่วายมีกำลังทหารมาตั้งค่ายย่อยๆ 
    พี่น้องชาวไทยพุทธหลายสิบคนมานั่งรอใจจดใจจ่อ ถามว่ารออะไร 
    คำตอบ รอขอของดีไว้คุ้มครอง ฟังแล้วก็ใจหาย 16.gif10.gif
    
    ในบรรยากาศคล้ายสงครามย่อยๆยามนี้ 
    พระเครื่ององค์เล็กๆ ดูจะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นกำลังใจที่ดีกว่า
    บางคนเปรยว่า แจกเงินไม่เอา แต่แจกพระเอา 
    
    ออกจากตัวเมืองมุ่งหน้าวัดเขากง 
    วัดที่มีพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล องค์ใหญ่สีทองอร่ามเป็นสง่า 16.gif10.gif
    
    วัดนี้เคยถูกลอบวางระเบิดมาแล้ว 
    จึงไม่แปลก ที่เห็นทหารนับสิบนายตรึงกำลังขึงขัง 
    ออกจากวัดเขากง มุ่งหน้าหาวัดพิกุลทอง ยังอยู่ในเขต อ.เมืองนราธิวาส
     แต่ก็ถือว่าไกลปืนเที่ยง 16.gif10.gif
    
    ก่อนเข้าวัดต้องขับรถซิกแซ็กผ่านเครื่องกีดขวางสารพัด
    ท่าทีของพระและชาวบ้าน 
    ยังอยู่ดีมีสุขก็อุ่นใจ แต่ความสุขใจ 
    อาจได้มาจากกำลังทหารมารักษาการณ์แน่นขนัด 
    ใครมาเห็นสภาพของวัดอย่างนี้ อาจไม่แน่ใจ ที่นี่เมืองไทยหรือเปล่า 16.gif10.gif
    
    เป้าหมายของคณะ ต่อที่วัดปิบผลิวัน 
    และวัดโคกมะเฟือง ใน อ.ตากใบ สองวัดเก่าแก่ อายุนับร้อยปี 
    สภาพวัดทรุดโทรม ชาวบ้านไร้กำลังทุนทรัพย์จะทำนุบำรุง อยู่กันตามมีตามเกิด 16.gif10.gif
    
    ถามพระ พระท่านก็วิสัชนาว่า
    กลัวไปก็เท่านั้น ถ้าพระหนี ชาวบ้านก็อยู่ไม่ได้ โชคดีที่ทหารเข้ามาอยู่เป็นเพื่อน 
    พระในวัดเหล่านี้ หลายท่านธุดงค์มาจากหลายจังหวัดทั้งภาคกลาง เหนือ และอีสาน 
    
    บ่ายคล้อยต้องเร่งทำเวลา ไปต่อ
    ที่วัดลอยประดิษฐ์ ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี 
    พื้นที่สีแดงเข้ม เห็นแล้วงง รอบบริเวณวัดเต็มไปด้วยเครื่องกีดขวางสารพัดชนิด 
    ทั้งลวดหนาม ไม้ขวาก 16.gif10.gif
    
    ทหารตั้งป้อมบังเกอร์ติดปืนกล 
    พร้อมรถฮัมวีเต็มอัตราศึก 
    นี่ถ้าไม่บอกก่อนว่าจะไปวัด สภาพแวดล้อมฟ้องว่า กำลังอยู่ในสนามรบ!
    ถามทหาร ทำไมต้องเตรียมพร้อมขนาดนี้ 
    
    ที่เห็นนี่ยังน้อย กลางคืนต้องเสริมกำลังอีกเท่าตัว
     คำตอบจากทหารนายหนึ่ง คนที่นี่เครียด ไม่รู้จะโดนโจมตีเมื่อไหร่... 16.gif10.gif
    
    แต่ความเครียดที่ว่า ดูเหมือนจะเกิดกับผู้ใหญ่ 
    ลองถามเด็กๆ มีทั้งเด็กไทยพุทธ ไทยมุสลิม ที่กำลังวิ่งเล่นกันด้วยความไร้เดียงสา
    ไม่เห็นมีอะไร พ่อแม่ไม่ได้ห้าม 16.gif10.gif
    
    วัดสุดท้าย วัดประชุมชลธารา 
    สุดเขต อ.สุไหงปาดี เห็นชาวบ้านช่วยกันปรับปรุง 
    ภูมิทัศน์รอบๆบริเวณวัดสวยงามแล้ว 
    ความสลดหดหู่ก็หายไป รู้สึกยังมีความหวัง 
    ที่วัดนี้ดีกว่าวัดอื่น เป็นวัดของเจ้าคณะจังหวัด ไทยพุทธ ไทยมุสลิมรักกันดี 
    ช่วยเหลือเผื่อแผ่กันเหมือนญาติ แต่ก็วางใจไม่ได้ ไม่รู้คนร้ายมันจะมาไม้ไหน16.gif10.gif
    
    ลุงประยูร วัย 62 ปี คนเก่าแก่ในพื้นที่ บอก
    ถึงอย่างไร ก็ต้องอยู่กันไป ทิ้งไปไม่ได้ ห่วงวัดห่วงพระ 
    
    อีกอย่าง ถ้าคิดจะไป ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำมาหากินอะไรที่ไหน อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด
    ลุงประยูรระบายความในใจ
    
     รู้สึกน้อยใจ รัฐไม่ค่อยเหลียวแล เหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง
    ได้มาเห็นกับตา อาตมารู้สึกหดหู่16.gif10.gif
    
    พระเทพภาวนาวิกรม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 กล่าว
    พระที่นี่ทุกรูปเสียสละอย่างมาก ยอมละความสะดวกสบาย 
    มาอยู่เป็นขวัญกำลังใจ ให้ชาวไทยพุทธในพื้นที่เสี่ยงภัย 16.gif10.gif
    
    เพื่อสืบทอด พระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่สืบไป สมกับเป็นศิษย์พระพุทธองค์ โดยแท้ 
    อยากให้พี่น้องชาวไทยช่วยกันสวดมนต์ ส่งแรงใจ เพื่อให้สันติภาพกลับคืนสู่พื้นที่โดยเร็ว.
    16.gif10.gif
  • ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก

    7 ตุลาคม 2548 19:18 น. - comment id 524752

    หลากอารมณ์นะครับ
    หักมุมนิด ๆ  แบบสบายตา
    งานต่อไปขอเพลงน้ำกรดแช่เย็น  ของรังษี เสรีชัย  นะ  นะ 
    รอฟังครับ
    
    42.gif
  • พุด

    7 ตุลาคม 2548 19:22 น. - comment id 524754

    10.gif16.gif
    
    เพลงระบำโมบายพรายแผ่วหวาน
    ดอกรักบานแจ่มจิตยามคิดถึง
    ดอกเสน่หาพร่างลากับฟ้าซึ้ง
    ดอกโศกจึงคลี่แย้มแต้มกลางใจ
    
    ดอกคิดถึงยังตรึงตราลีลาวสันต์
    จะกี่วันจะกี่คืนยังหวามไหว
    ดอกฤดีบานเศร้านะดวงใจ
    ดอกลาไกลคอยผลิแย้มแกล้มน้ำตา
    
    ดอกตัดสินสิ้นสวาทนิราศร้าง
    ดอกอ้างว้างเลือกดายเดียวมิเหลียวหา
    ดอกยอมรับกับใจเราเขลานานมา
    ดอกร้างลาจึงแย้มบานบนลานใจ
    
    ดอกพุดซ้อนเลิกซ่อนรักสลักจิต
    ดอกชีวิตเหลือเพียงว่างกระจ่างใส
    ดอกธรรมะผุดพร่างณ..กลางใจ
    ดอกไม่รักใครจึงชูช่อรอพ้นน้ำ..!!!
    ...........16.gif
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song526.html
    พี่ ระทมอยู่เดียวดาย
    ความ สุขที่หมายคลายคืน
    เจ้า ลืมรักเคยภิรมณ์ ชมชื่น
    เพียงฟังน้ำคำคนอื่น
    เจ้าคืนสัญญาแห่งใจ
    อันคำคน เวียนวนลอย ลม
    ควรหรือเจ้ามาเศร้าตรม
    เอาอารมณ์ของตัวเป็นใหญ่
    เก็บมาวู่วาม
    หลงลืมแม้ความยับยั้งชั่งใจ
    ตัดเยื่อ ตัดใย
    ทอดทิ้งให้พี่ อกตรม
    เจ้า คิดเอาแต่ใจ ตน
    ลืม เหตุลืมผลงายงม
    แต่เพียงน้ำคำวาจา ปรารมภ์
    ควรหรือยึดเอามาตรม
    ระทมแล้วเลยเปลี่ยนไป
    อันอารมณ์ หากเหนือเหตุผล
    ความแค้นก็แน่นกมล
    กลายเป็นคนคิดสั้นไปได้
    หักความระทม
    ยกเอาอารมณ์ทิ้งให้ห่างไกล
    จะเห็น หัวใจ
    แล้วจะรักใคร เจ้าเอย
    
    อันอารมณ์ หากเหนือเหตุผล
    ความแค้นก็แน่นกมล
    กลายเป็นคนคิดสั้นไปได้
    หักความระทม
    ยกเอาอารมณ์ทิ้งให้ห่างไกล
    จะเห็น หัวใจ
    แล้วจะรักใคร เจ้าเอย...
    
    10.gif16.gif
  • สาวนา

    7 ตุลาคม 2548 20:28 น. - comment id 524778

    10.gif16.gif
    ครูใหญ่คะ
    เพลงนี้เคยมีคนโทรมาร้องให้ฟังค่ะ
    และ
    ด้วยภูมิใจยินดีพลีพร้อมบรรณาการให้
    ในวันหน้าค่ะ..
    
    ด้วยรักนะคะ
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4718.html
    น้ำกรดแช่เย็น รังษี เสรีชัย 
    
    
    หัวอกระทม ซานซมมาถึงที่นี่
    ได้ฟังวจี แจ่มใสไพเราะชวนฟัง
    ฝ่าแดดร้อน มาพบร่มไม้ใบบัง
    เริ่มมีความหวังเริ่มมีชีวิต ชีวา
    หวานชื่นน้ำคำ ยังจำประทับดวงจิต
    เรื่องเบื่อชีวิต เลิกคิดมาหลายเวลา
    ปล่อยเรื่องช้ำ ปล่อยทิ้งแม่น้ำคงคา
    สองเราสัญญา ร่วมชีวาก่อร่างสร้างตัว
    ที่แท้ ไม่มีแค่เพียงเราสอง
    ยังมีหุ้นใหญ่หุ้นรอง
    หลายสาขาเสียจนน่ากลัว
    รักแสนรัก สุดหักใจจะถอนตัว
    ใจร้าวระรัว สุดรักสุดหักให้หาย
    น้องยื่นน้ำเย็น พี่เห็นก็คว้ามาดื่ม
    ด้วยจิตใจปลื้ม ว่าร้อนคงถอนคงคา
    กว่าจะรู้ ว่าน้องให้ของกินตาย
    ทุรนทุราย ด้วยพิษร้าย \"น้ำกรดแช่เย็น\"
    
    ที่แท้ ไม่มีแค่เพียงเราสอง
    ยังมีหุ้นใหญ่หุ้นรอง
    หลายสาขาเสียจนน่ากลัว
    รักแสนรัก สุดหักใจจะถอนตัว
    ใจร้าวระรัว สุดรักสุดหักให้หาย
    น้องยื่นน้ำเย็น พี่เห็นก็คว้ามาดื่ม
    ด้วยจิตใจปลื้ม ว่าร้อนคงถอนคงคา
    กว่าจะรู้ ว่าน้องให้ของกินตาย
    ทุรนทุราย ด้วยพิษร้าย \"น้ำกรดแช่เย็น\"...
  • ท่องเมฆา

    8 ตุลาคม 2548 00:48 น. - comment id 524848

    36.gif
    
    แสน..เหน็บหนาวร้าวใจไทยทั้งชาติ
    เสียดาย..ราษฎร์ห้ำหั่นอย่างขวัญหนี
    ดาวรุ่ง..อาจ กลายร่วงซบพบปฐพี
    แห่งทุ่งข้าว..เขียวขจี ที่รอใคร
    
    มาชื่นชมงานงามของ...สาวบ้านนา..ครับ
    
    36.gif62.gif
  • ยังเยาว์

    8 ตุลาคม 2548 13:42 น. - comment id 525009

    ขอธารรักหลั่งรินทาทั่วผืนดินไทย
    55.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน