ที่รัก..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song138.html
(ที่รัก..ที่รัก)

.............

ตะวันชิงพลบ....
ใกล้อำลาฟากฟ้าแล้ว...
เหนือ..ฝั่งฝันริมธารสวรรค์*เจ้าพระยา*
เสียงสายธาราค่อยๆไหลล่อง
เซาะไซร้ชายฝั่ง ร่ำลาราวมโหรีธรรมชาติ
ที่ช่างหมดจดสดชื่น
พาให้แสนระรื่นระร่ำฉ่ำใจเสียไม่มี


หญิงหนึ่งในชุดไทยเรีอนต้นสีชมพูหวานกว่าหวาน
ปานดวงดอกไม้ทั้งหล้าโลก
มาพร่างสีสันให้แสนผ่องพรรณราย
ขับผิวอันงามผุดผาดให้ยิ่งดูพิไลพิลาส
เกินคำรำพึงรำพัน


*เรือนต้นเรือนใจแสนงามงด
เรือนกายปรากฏทุกถิ่นที่
คือเรือนหอมเรือนงามแห่งความดี
เรือนต้นชี้เรือนใจเรือนกายงาม*
............


เธอ..
กำลังนั่งทอดนัยน์ตาลึกล้ำสีอำพัน
อันแสนสงบนิ่ง
ราวทิ้งทุกทุกข์สรรพสิ่งไว้นะภายนอกใจ 
เสมือนเธอกำลังพาจิตใสใจดวงงาม
ลอยล่องท่องไปสู่แดนฟ้าไกล
แดน..ที่มีสวรรค์ปาริชาติ
ในเรือข้ามฟากอย่างดายเดียว..


ฟ้าเริ่มแปรสี
เป็น..
นวลนวลส้มส้มอมชมพูฉ่ำฉ่ำก่ำแกมแดง
แฝงพลังรุ่งโรจน์ราวรัศมีสีรุ้งกำลังพุ่งพรายฉายฉาน
ให้ตระการตาตระการใจไปทั่วทั้งพื้นพสุธา..
แล้ว...
ไม่ทันนานช้า..ฟ้าผืนงามนั้นก็พลันเลือนลา..สลาย
กลายเป็นสีเทาทึม ด้วยเมฆฝน พายุลมแรง
ราวกลับมาแฝงสอนสัจจะธรรม


ให้มวลมนุษย์มนาทั้งผืนหล้า
ได้ตระหนักชัดว่า
ธรรม..คือธรรมชาติ อย่าได้หลงยึดมั่นถือมั่น
ในฝันหวาน..ฝันงาม...ฝันรานใด
เพราะไม่ว่าฟ้าฤาว่าใจ จักจบในที่สุดคือ..
ยากจักคงที่คงทน
ไม่..
แม้นสามารถยื้อกมลแลร่าง
จากท่านพญามัจจุราชได้
หากมาตรแม้นถึงคราคราว
ที่กาลเวลาพร่างพัดพามาถึง*เวลานาทีสุดท้ายแห่งเรา*
ให้..
ลมหายใจแสนสั้นวันแสนเหงา 
ได้ค่อยๆผ่อนเพลาระริบหรี่ระริบหรี่ 
ดั่ง..แสงเทียนแห่งชีพชนม์นี้
ที่จักมอดไส้จำต้องพรายพลัดพราก
จำต้อง...จรจาก
ค่อยๆดับวูบ..ลง..อย่างช้าช้าอย่างเหว่ว้าลำพัง...


กับ..
จิตที่รู้เท่าทัน ไม่ไหวหวั่น
ไม่หลงทาง
ไม่อ้างว้างเหว่ว้า..อาลัยอาวรณ์สรรพสิ่งใด
มีเพียงจิตราวแก้วมณีใสใสประภัสสร
เป็นอาภรณ์เสบียงบุญ
หาก
จำต้องหนุนนำ
ให้กลับมารับวนวงวิบากกรรม
อีกชาติแลอีกชาติ....
ตราบจนกว่า..
สร้อยโซ่กรรมอันแสนร้อยรัดรึง
ดั่งถูกตอกตรึงด้วยพันธนารัก
อันเกินกว่าจักหักห้ามใจได้..
จักขาดผึง..ลง
ด้วย..
ใฝ่บุญ มิมัวหลงทางพาร่างหมุนไปในทะเลโลกย์
พบเพียงโศก สิ้นสุขว่างกระจ่างสว่างสงบสะอาด
ให้เสียชาติเกิด...


หฤทัย..กำลังจะพาร่างใจ
ไปกรานศิระกราบพระพุทธา
วัดใกล้บ้าน ด้วยพลังเคารพศรัทธา
ราวกับว่าไปย้อนรอยถอยหลัง
กลับไป..ในเงาเศร้าแห่งอดีต
วัน..
แห่งมหาวิปโยคโศกทั่วหล้าทั่วฟ้าพุทธชมพูทวีป


วันที่..
พระพุทธองค์กำลังทรงดับขันธ์ปรินิพพาน
วันที่
 ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล 
ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระ
ของพระตถาคตเพื่อบูชาพระตถาคต 
แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์
ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น 
ร่วงหล่น โปรยปราย
ลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชาพระตถาคต 
แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นทิพย์ 
ก็ตกลงจากอากาศ 
จุณแห่งจันทน์ เหล่านั้นร่วงหล่นโปรยปรายลงยัง
พระสรีระของพระตถาคต เพื่อบูชาพระตถาคต 
ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า ก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต 
แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาพระตถาคต 
.................


และ...
ทุกคราที่หฤทัยมาที่นี่
ราว..
กับมีพลังอะไรบางอย่างกระซิบ
ให้..
เธออยากหยิบจับผ้าถุงสีชมพูสวย
พร้อมเสื้อสีเดียวกัน
อันดูงามเรียบง่ายมาสวมใส่
ใจเธอแค่คิดว่านานๆที่ที่ได้แต่งไทยไปกราบพระ
เพราะเธอรักวิถีวัฒนธรรม 
จนอยากธำรงดำรงไทยเอาไว้ทุกวิถีทาง ..


เธอคนดี ...
จึ่งอิ่มเอมนัก ในวันนี้
ที่เป็นวันแสนดีแสนงาม
วันเฉลิมฉลองครองราช60ปีของในหลวง
หลังจากเธอได้ไปร่วมน้อมศิระถวายพระพร
ที่พระที่นั่งอนันต์และ..
พลีพลันหยาดน้ำตาพร่างพรู
พอกับสายฝนพรำด้วยความแสนปิติเกษมใจเอมอิ่มใจ


หลังจากนั้น 
เธอก็กลับเข้าบ้านอาบน้ำคลายร้อน
แล้วพาร่างอรชรในชุดไทย
พร้อม..
พวงมาลัยดวงดอกไม้สด
ที่ร้อยรัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
เพื่อไปตั้งจิตทิพยอธิษฐาน
สวดมนต์ภาวนานั่งสมาธิ 
เพื่อพลีบูชา....
แด่พระพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย
และ
นี่คือที่มาว่าทำไมยามพลบแล้ว
เธอยังมานั่งนิ่งนิ่งทิ้งตาสงบแสนเศร้างาม 
ในท่ามริมสายธารธาราทอง*นามเจ้าพระยา*


หฤทัย..ค่อยๆก้าวขึ้นฝั่ง
พร้อมกับกางกั้นร่มคันงาม
จากสายพระพิรุณ
หาก
ทว่าทันทีนั้น..!
มีเรืออีกลำมาเทียบท่า
พาผู้คนพอประมาณมาลงนะที่นี่
ท่ามกลางเสียงฟ้าครืนคราง
ที่..
กำลังหยาดสายพร่างรินมากับพายุลมแรง
และแล้ว..
ราวสวรรค์แกล้ง..ให้เธอคนดี ลื่นเซถลา
เมื่อมีร่างใครบางคนมาปะทะอย่างบังเอิญ
และ..
พลัน...!
พาให้ร่มเธอคันงาม...
พลัดตกลงไปในเวิ้งน้ำเบื้องล่างอย่างไม่ทันระวังระไว
เธอ...เห็น..ใครบางคนพยายามคว้าร่ม
หาก..
ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
ก่อนที่..
เขาคนนั้น 
*ผู้ชายร่างสูงเพรียว*จะหันมาระล่ำระลักขอโทษเธอ


ตาสบตากัน....
และ..
ราวมีพลังบางสิ่ง..แฝงในนาทีนั้น
ที่ทำให้เธอรู้สึกราวขนลุกซู่ไปทั่วร่าง
เธอ... จึงรีบยิ้มอย่างอ่อนหวานอย่างมีเมตตา
และ..
บอกกับเขาว่า
*อย่ากังวลเลยค่ะ*ดีกว่าคนตกลงไปนะ
ว่าแล้ว..
เธอก็หัวเราะเบาๆเพื่อ..คลี่คลายบรรยากาศ
*ฉันผิดเองค่ะ *


เขา..กล่าวอย่างสุภาพ
ครับ..
หากผมต้องขออภัยจริงๆ..
พร้อม..นิ่งมองเธอ..ด้วยนัยน์ตาที่เป็นดั่งคำถาม
กับ..
ร่างบอบบางในชุดไทยที่ช่างแสนไฉไลงดงามนัก
หาก..
สิ่งที่เขาพูดออกไปทายทัก..
คือ
*ดูสิคุณเปียกไปหมดทั้งตัวแล้ว*
เขารีบล้วงผ้าเช็ดหน้าผืนโตสีขาวสะอาดให้เธอ
ก่อนที่จะกล่าวว่า
เอาไว้เช็ดผมนะครับ*


แล้ว..
ทั้งเขาและเธอก็รีบวิ่งขึ้นมา
ยืนเคียงกันใต้เรือนชานพักที่มีหลังคาคุ้ม
ยืนมองดูดวงดอกพิกุลร่วงพราวเคียงใกล้
และ..
ท่ามกลาง...สายฝน
ที่กำลังพร่างพราว
ราวดอกไม้แสนสวยในผืนน้ำแตกกระจาย


เขาค่อยๆหันมาพินิจมองผู้หญิงที่ยืนชิดเคียงใกล้
แล้วยิ่งหนาวใจ
ผู้หญิงอะไรกันเขานึก 
ยังนุ่งผ้าถุงที่มีเชิงชายลายงามราวสาวโบราณย้อนยุค
ไหนจะยังมีใบหน้างามเศร้าราวรูปสลักเสียอีก


เธอ..หันมามองเขาเช่นกัน
หากด้วยคำถามตามมา
คุณจะไปไหนคะ 
ฉันเองจะไปกราบพระพุทธไสยาสน์ค่ะ
เตรียมมาลัยดอกไม้ที่ร้อยมาเองด้วยค่ะ
ถ้าคุณไปที่นั่น ฉันจะแบ่งให้คุณพวงหนึ่งนะคะ


เขางงงัน...ใช่แล้วเขาตั้งใจไปกราบพระ
และ..ยิ่งอึ้งอั้นมากขึ้น
เมื่อย้อนรำลึกนึกอะไรขึ้นมาได้
คลับคล้าย...ฉากนี้
*ราวฉากอันแสนบรรเจิดใจในฝันเมื่อคืนนี้
ที่เขาฝันไปว่า....


เขาเดินไปที่ไหนสักแห่ง แล้วมีโบสถ์คร่ำ
ระร่ำรินด้วยดวงดอกไม้ไทยรายรอบ
พร้อมกับในฝันท่ามม่านหมอกสลัวราง
พลาง..มีร่างหนึ่งมาเคียงคู่เกาะกุมมือเขาไว้
พาเดินเข้าไปในโบสถ์นั่น


และ
พบพระพุทธรูปสีทองสุกปลั่งในท่านอนสิริไสยาสน์
ท่ามแสงเทียนทองทอทอดอาบไล้ไปทั่วทั้งผนังโบสถ์
จนดูงามขลังมลังเมลืองไปทั่วทั้งบริเวณ


หากทว่า..
ในฝันเขากลับมองไม่เห็นหน้านาง...
นอกจากพอจำอย่างลางเลือนได้ว่า
นางใส่ชุดไทยสีชมพู
ใช่แล้ว..
สีชมพู อย่างนี้..อย่างนี้ที่แสนดูดีเรียบง่าย
หากในฝันนั้นเขาเห็นเพียงเสี้ยวหน้าซูบ
แถมริมเรียวแก้มทัดแซมด้วยดวงดอกจำปาสี


แล้วนี่...
อะไรกันนะ เมื่อเขาตั้งใจว่า
จะต้องมากราบพระพุทธไสยาสน์
สมัยอยุธยาตอนปลาย ในวิหาร
มาดูภาพจิตรกรรมที่เพดานแปลกตากว่าที่อื่น 
เป็นตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ฝีพระหัตถ์หม่อมเจ้าประวิช ชุมสาย 
มาสักการะพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี 
พระนนทมุนินทร์ ที่เป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลาย 
ปางขัดสมาธิเพชร ประดิษฐานอยู่ในบุษบกแบบมอญ(จองพารา) 
สลักโดยฝีมือช่างที่นี่ 
และ..
ไปกราบพระพุทธรูปหินอ่อน 
ซึ่ง ซาง ซิว ซูน ชาวพม่าถวายให้กับรัชกาลที่ 5 
หากทว่า
เขากลับมาพบเธอราวนางใจนางในฝัน
และแสนงามล้ำเสียเป็นยิ่งนักแล้ว


เขา...ผ่อนลมหายใจด้วยความตื่นเต้นอย่างช้าช้า
ก่อนหาคำมากล่าวขอบคุณเธอผู้หญิงในละเมอฝัน
ที่พลันจริงในน้ำใจไมตรี
และ..
ค่อยๆบอกเธอว่า*ใช่ครับ
ผมตั้งใจจะมากราบพระ
เพราะว่าที่นี่ใกล้บ้านที่สุดครับ
ผมมาตามหาฝันนะครับ
แล้วเขาก็ตั้งใจสบตาเธอนิ่งนานด้วยรอยยิ้มปริศนา


เพราะ..
หลังจากผ่านนาที
ที่เขานึกย้อนด้วยยินดีตื่นเต้นเสียเป็นนักหนา
เขาก็..กำลังรู้ดีว่า
*เป็นปรารถนาของพรหมชะตาแลฟ้าดินลิขิต*
นิรมิต...
ส่งเธอมา...เพื่อ
เป็น*นางใจนางในฝันของเขา*
ตราบสวรรค์วาย..ชั่วฟ้าดินสลาย..
ตราบชั่วนิจนิรันดร...............
...................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song138.html
ที่รัก
นานแล้วพี่หลงพะวงมิหน่าย
นานแล้วที่หมาย จะได้ภิรมย์
นานแล้วพี่รักคอยจักชื่นชม
นาน แล้ว รักเพียงลมลม ตรมเช้า ค่ำ
ที่รักนะรักเพราะใจมิกล้า
ที่ช้านะช้า มิกล้าเผยคำ
ที่คิดนะคิด กลัวอกจะช้ำ
เอ่ย คำแล้วเจ้าจะทำให้ช้ำใจ
อย่าเหมือนน้ำค้างพราวพร่างใบพฤกษ์
พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้
พอ รุ่งสางก็จางหายไป 
รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี
ที่รักนะรักเพราะเทพเสริมส่ง
ที่หลงนะหลง เพราะเจ้า แสนดี
ที่หวงนะหวง เพราะสวยอย่างนี้
กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย
อย่าเหมือนน้ำค้าง พราวพร่าง ใบพฤกษ์
พอยามดึกเหมือนดังจะดื่ม กิน ได้
พอ รุ่งสางก็จางหายไป 
รู้แน่แก่ใจ ได้แต่ ระทมชีวี
ที่รักนะรักเพราะเทพ เสริมส่ง
ที่หลงนะหลง เพราะเจ้าแสนดี
ที่หวงนะหวง เพราะสวย อย่างนี้
กลัว ใครเขามาแย่งพี่ ไป เอย
				
comments powered by Disqus
  • ราชิกา

    22 มิถุนายน 2549 18:54 น. - comment id 585466

    ภาพนางในฝัน...สวยมาก...ราชิกา..เหมือนได้พบเหตุการณ์จริง...
    
    ...ทุกสิ่งทุกอย่าง...ย่อมเกิดขึ้นได้..แล้วแต่..พรหมลิขิต....บางครั้ง..นอกเหตุเหนือผล...
    
    ...ความรู้ทางวิทยาศาสตร์..ไม่สามารถที่จะตอบคำถามได้...จิตใจ...เท่านั้นที่สำคัญ...
    
    ..งานงามมากค่ะ..พี่พุด...คิดถึงนะคะ...ขอบคุณที่อวยพรวันเกิด..ราชิกา..ขอให้พี่พุด...มีความสุขมากๆ..นะคะ..36.gif36.gif36.gif
  • ไพร ป่าดง

    22 มิถุนายน 2549 20:09 น. - comment id 585474

    ที่รัก
    
    มีอะไรจซาบซึ้งเท่าที่คนรัก คนหนึ่ง
    จะอยู่เพื่อให้กำลังใจยามเจ็บป่วย
    ปวดใจ เมื่อรู้สึกว่าสังคมนี้โหดร้าย
    แต่กลับหายไปโดยง่าย
    เมื่อได้เจอคนดี ๆ คนนี้
    ที่เป็นนางฟ้า ในพนาดิบ
    
    เธอจ๋า เธอมาจากไหน
    เธอเป็นใคร ถึงได้งดงามอย่างนั้น...
  • `กระต่ายใต้เงาจันทร์

    23 มิถุนายน 2549 08:39 น. - comment id 585523

    เพลงนี้เคยมีใครร้องให้กระต่ายฟังบ่อยๆด้วยค่ะ
    อ่านแล้วคิดถึงจัง11.gif36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    23 มิถุนายน 2549 09:09 น. - comment id 585544

    หญิงหนึ่งในชุดไทยเรีอนต้นสีชมพูหวานกว่าหวาน
    ปานดวงดอกไม้ทั้งหล้าโลก
    มาพร่างสีสันให้แสนผ่องพรรณราย
    ขับผิวอันงามผุดผาดให้ยิ่งดูพิไลพิลาส
    เกินคำรำพึงรำพัน
    
    
    
    โอ๊ย พี่พุดขา เอากานต์มาเขียนเป็ณนางเอกก็ไม่บอกนะคะเนี่ย อิอิ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • พุด

    23 มิถุนายน 2549 09:20 น. - comment id 585546

    36.gif
    คุณราชิกา..
    นางฟ้าปีกขาวในดวงใจ
    ใครกันละหนอ
    ซึ้งใจค่ะ ที่เข้ามาเป็น*ที่รัก ที่รัก*ค่ะ36.gif
    
    คุณไพร...
    พลีสองเพลงอมตะนี้แด่คุณค่ะ
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3337.html
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song304.html36.gif
    
    
    
    น้องกระต่ายคะ..
    ดีใจ ดีจังที่น้องได้รับฟังบทเพลงภักดิ์
    เพลงนี้ค่ะ
    
    ด้วยซึ้งใจนะคะ
    พี่พุดไพร36.gif
  • พุด

    23 มิถุนายน 2549 09:24 น. - comment id 585547

    น้องเพียงพลิ้วคะ...36.gif
    มีคน
    เคยแอบกระซิบบอกพี่พุดค่ะว่า..
    เวลาคิดถึง*ภาพฝัน *
    มักจะเห็น
    *ภาพผู้หญิงในชุดไทยสีชมพู*หวานฉ่ำ
    และกำลังยืนคลี่ยิ้มอย่างมีเมตตา
    เพื่อรอท่าเขาคนดีค่ะ...ที่รักรักรัก36.gif
  • พุด

    23 มิถุนายน 2549 09:33 น. - comment id 585554

    36.gif16.gif
    พลี*คู่ทาษ*อีกคราครั้งค่ะ
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem73602.html
    ................
    .....................
    คืนนี้....
    ไร้จันทร์เพ็ญเด่นดวง...ในท่ามกลางฟ้ามืด
    แม้นจะเป็นคืนข้างขึ้นสิบห้าค่ำก็ตามที
    
    
    ฝนหลงฤดูยังคงรินร่ำร่ายมนตราลีลาวสันต์
    มิสร่างซามิขาดสาย
    ราวนางฟ้ากำลังร่ำไห้ครางครวญ
    กับนวลเมฆเทาทึมทอดทาบไปทั่วทิศทาง
    ทั้งราวไพรราวเมือง
    
    
    สไบนวล...
    นอนนิ่งนิ่งในเตียงโบราณ
    แสงเทียนในโคมแก้วพร่างระยิบ...
    ระบัดไปตามแรงลม
    ลีลาวดี ไหวดวงดอกระทมพวงพราว
    เฝ้าออดอ้อนหยอกล้อพ้อสายฝนริมหน้าต่าง
    
    ให้อวลระคนหวานเศร้า
    มาสัมผัสพร่างมาให้หอมกับร่างงามในท่ามสายลมยามค่ำ
    
    
    ม่านลูกไม้ รายรอบเตียงพลิกพลิ้ว
    เผยให้เห็นร่างอรชร
    
    นอนเหน็บหนาว...
    ราวหัวใจจะปลิดปลิวลิ่วลอย..
    
    สายฝนยังคงพร่างไอเย็นพราว
    ราวมาลูบไล้ร่างซูบซีดบอบบางนั้นให้ชื่นฉ่ำอ่อนโยน
    
    
    เงาในกระจกโค้งมน..ตรงข้าม
    สะท้อนร่างราน
    ที่นอนนิ่งขวางกลางเตียงเพียงลำพัง
    
    
    
    ผมดกดำล้อมรอบกรอบเสี้ยวเรียวหน้ารูปไข่
    แผ่สยายราวสายไหมกระจายบนหมอนนุ่มนวลขาวสะอ้อน
    
    วงหน้าซีดเซียว
    ถูกไล้ด้วยแสงเทียนทอ...ให้ยิ่งงามละออราวรูปสลัก
    หากทว่าวงพักตร์ไยมิแจ่ม 
    แต้มด้วยคราบน้ำตาซึมซึ้ง
    
    
    
    ที่กำลังสะท้อนพราววะวาววับ
    จับแสงเทียนที่ทอทอด
    
    ราวหยาดเพชรเม็ดใส
    ประดุจหยาดน้ำค้างไพรบนใบบัว
    ที่กำลังกลอกลิ้งทิ้งแสงพราย
    ขับวงหน้าให้ยิ่งงามแอร่มหวานเศร้ารานร้าวจับใจ
    ..............
    ............................
    ต่อให้จบนะคะ
    
    36.gif
  • ดอกบัว

    23 มิถุนายน 2549 10:41 น. - comment id 585568

    มาแอบรักค่ะ
    16.gif16.gif4.gif
  • อาร์ม

    23 มิถุนายน 2549 12:13 น. - comment id 585601

    8.gif เพาะมากแต่เราอ่าไม่จบอะ อิ อิ อิ อิ อิ 20.gif20.gif20.gif38.gif38.gif38.gif38.gif38.gif36.gif36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน