ป ร ะ ดุ จ ดั่ ง ด า ว รุ่ ง อ รุ โณ ทั ย ....!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song78.html
(หนาวตัก)


ฟ้ากระจ่างแจ่ม เมฆแตะแต้มเต็มราวฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
สไบแพร ค่อยๆลืมตาบนเตียงโบราณ
มองลอดผ่านม่านใบไม้ลายดอกแก้ว แล้วต้องอมยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
นั่น....
กระรอกหางฟู กำลังไต่ตามต้นมะม่วง
ที่มียวงใบของพลูด่างเลื้อยพันพร่างราวพัดแผ่
โน่น....
แก้วพร่างดอกหยอกสายลมเย็นอ่อนละมุน
พาให้ใจดวงละมุนละไมของเธอคิดถึง 
ใครบางคน ที่งดงามราวบัวบานในบึงใจ..
ที่ทุกความทรงจำช่างสดใสสว่าง....
เต็มอ้อมใจ ในอ้อมขวัญ ฝัน ตราบชั่วนิจนิรันดร
นะคนดี ที่แสนภักดิ์..แสนรักเอยแสนรักในกมล...


และ...กับ...
ฟ้าวันนี้ดูงามจรัสจรุงมาก
หลังเมื่อคืน ยามใกล้รุ่งที่เธอมองเห็นดาวประกายพฤกษ์
กระจ่างนวล พร้อมมวลดวงดาราที่กระพริบพราว
บนฟากฟ้าราวเฝ้าคอยอิจฉาเธอ..
เสียงบทเพลงหวานแว่วแผ่วมารับอรุณรุ่งอุษาแสนงาม....
...............


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5867.html
LOVE WILL KEEP US ALIVE ....The Eagles 
I was standing
All alone against 
the world outside
You were searching
For a place to hide
Lost and lonely
Now you've given me 
the will to survive
When we're hungry
love will keep us alive
Don't you worry
Sometimes you've just
gotta let it ride
The world is changing
Right before your eyes
Now I've found you
There's no more 
emptiness inside
When we're hungry
love will keep us alive
I would die for you
Climb the highest
mountain
Baby, there's nothing I
wouldn't do
Now I've found you
There's no more 
emptiness inside
When we're hungry
love will keep us alive
  
I would die for you
Climb the highest
mountain
Baby, there's nothing I
wouldn't do
I was standing
All alone against 
the world outside
You were searching
For a place to hide
Lost and lonely
Now you've given me
the will to survive
When we're hungry
love will keep us alive
When we're hungry
love will keep us alive
When we're hungry
love will keep us alive... 
 


ใจดวงนวลซึ้งซึ้ง จึงหลับตาลงอีกครา
พร้อมกับเห็น...*สกุณาในดวงใจ*ค่อยๆเหินบินไป
เหนือโลกย์อย่างสิ้นโศก แสนอิสรา
ในท่ามฟ้าสีคราม เพื่อเริ่มวันงามวันใหม่แห่งชีวิต..!
.........................


พร้อม...
พลีกำนัลอีกเรื่องรักรจนา*รับขวัญ..วันสวยฟ้าใส*ค่ะ
ทุกคนดีในดวงใจของ..แม่นวลสไบแพร....
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5867.html
(หนาวตัก)
กระท่อมรจนากลางป่าฝนป่าฝัน

ในสายลมฉ่ำเช้าแห่งปลายฝนต้นหนาว
กับอาทิตย์พราวแสงตะวันแรกรับอรุณ
นกสีเงิน..จอดนิ่งสงบกลางลานบิน..
ลำตัวถูกเพ้นท์งาม..
มีมวลหมู่มัจฉาแหวกว่ายระเริงคลื่นชื่นฉ่ำใจ
กับทิวมะพร้าวไสวระบัดลมเคียงกัน..


ให้ใจดวงฝันฝันทุกดวง
ได้แย้มยินยินดีมีความสุข
รอซุกซบกับอ้อมกอดของหาดทรายสายลมแสงแดด
และทะเลเงียบงาม..สีมรกต..สดชื่นสดใสบานเบิกใจ
กับฟ้ากว้างกับร่างใจพ้นพันธนา
ให้นกอิสราพาเหินฟ้าหนีจากกรุงกรง..
ลงสู่เกาะ..มนต์รักแห่งทะเลใต้..


ผม..แทบเผลอใจส่งจูบลา..
เมืองหลวงเมืองลวงเมืองเรืองรุ่งไม่ประทับใจ..
แม้นจะพรากลาไกล..ไปไม่กี่วัน..
ก็แสนดีแสนอิ่มเอม..ใจ..เสียไม่มี


แนบหน้ากับหน้าต่างมองลงสู่เบื้องล่าง
ที่เต็มไปด้วยตึกรามราวเมืองเนรมิตรเมืองตุ๊กตาที่วายวุ่น
ใจดวงงามราวติดปีกลอยเหนือโลก..แลละลิบ ..
ผมแอบคิด..
หากยามนี้ดวงชีวีผมต้องแตกดับลาลับไป
ผมก็คงเตรียมใจพรากลา
ด้วยจิตวิญญาณฉ่ำเย็นจนนาทีสุดท้าย
ให้มโนนึกราวลอยล่องท่องแดนสุขาวดีมิเปรียบปาน..


ทัศนียภาพเบื้องล่างผ่านม่านเมฆช่อชั้นที่แลเห็น.....
คือโลกสีคราม...กว้าง...ไกล....สุดตา.....
เวิ้งทะเล..สีน้ำเงิน...เขียวมรกต.....
และโทนสีทะเลที่ค่อยๆไล่สีอ่อนจางลงมาตามลำดับ....
แทรกด้วยฟองคลื่นสีขาว.....เป็นระลอกงาม......
เรือลำน้อย...ค่อยๆวิ่งฝ่ากระแสชลแตกฟองขาวนวล......
มองลงไปเบื้องล่างทิวมะพร้าวนับแสนไร่
แน่นขนัดเรียงรายแลละลิบ
โค้งอ่าวเห็นเนินทรายขาวละเอียดค่อยๆเป็นแนวชัดขึ้นๆ


นักบินค่อยๆร่อนโฉบนกน้อย
ให้ผกโผให้โฉบชมวิวทิวคลื่น
และเกาะแก่งราวไข่มุกเม็ดงาม
ในท่ามกลางทะลแพรไหมมรกตผืนงาม
เกาะแก่งมากมายหลายเกาะงดงาม
ในท่ามท้องทะลสีเขียวใส
ไล่โทนสีไปตามความลึกล้ำ 


นั่นเกาะพะงันเกาะแตนอกแตใน โน่นลิบๆ
กระจายกระจายจัดคือมวลหมู่เกาะนางยวน
และหมู่เกาะอ่างทอง
บ้านเรือนซ่อนตัวอยู่ในดงไม้..ดงมะพร้าวเงียบสงบ....
มีก็แต่ควันไฟลอยอ้อยอิ่ง ขับฟ้างามอย่างช้าๆ.............. 


เครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์
ค่อยๆแตะรันเวย์อย่างช้าๆ
นะสนามบินเกาะสมุย
น้ำตาผมซึมซึ้ง...
หลายสิ่งหนักอึ้งในดวงใจถูกปลดปล่อย
ให้ลอยคว้างวางไว้นะกลางกรุงกรง
หลงเหลือเพียงหัวใจอิสราที่ราวมีปีกจริงๆกำลังโผผิน
ทะยานผ่านหน้าต่างเมฆ 
ลงสู่แดนฟ้า..เกาะสวาทหาดสวรรค์...พลันนะบัดนี้


ผมค่อยๆหายใจลดความตื่นเต้นปิติใจ
ที่กำลังก่อตัวนะกลางใจ
ดวงใสดวงเศร้าดายเดียวมานานวัน
เมื่อเครื่องบินจอดนิ่งสนิทในท่าอากาศยานท้องถิ่น
ที่ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงามกลมกลืน
ไปกับทัศนียภาพรายรอบ


ผมสะพายกระเป๋าใบเดียว
เดินตามผู้โดยสารคนอื่นๆออกมา
ขึ้นรถรับส่งที่เทียบถึงบันไดเครื่อง
นำผู้โดยสารทั้งไทยเทศไปส่งยังอาคารที่พัก
ให้อวลกลิ่นทะเลรินร่ำรับขวัญ
ที่หาใช่สำคัญเท่ากับภาพนี้ไม่..


เธอ..คนดีที่ชื่อรจนานารี
สตรีในฝันนางแก้วในใจผมมานานปี
ที่ผมนี้หลงนับวันเฝ้ารอคอยที่จะมีวันนี้
วันที่
จะได้เห็นเธอคนดี รอผมอยู่ณ.ที่นั่น
ในท่ามกลางผู้คน
ที่เธอคนดีของผมดูโดดเด่น
ในลีลาบุคลิกน่าติดตรึงต้องใจแสนงามอย่างเป็นธรรมชาติ 


ผมเห็นผ้าผูกผมสีส้มแสดลวดลายราวดวงดอกไม้เมืองร้อน
เกาะเกี่ยวพันพัดปลิวไสวล้อมกรอบหน้านวลเด่น
ในคลองตาคลองใจ
ในเรียวตาแสนไกล
และ
ทันใดที่เธอโอบอ้อมแขนกอดรับขวัญผม
ผมพลันได้พินิจเห็นดอกชบาฮาวายแดงเด่น
ทัดแซมริมเรียวแก้มหอมหวานละมุน


เธอ..นุ่งผ้าถุงลายดอกไม้สีชมพูพันผูกปมทิ้งชาย
และใส่เสื้อผ้าไหมสีดำ
ที่ยิ่งขับวงหน้านวลนั้นให้ยิ่งงามเข้ม
รับกับระยับผมมันขลับ
ราวแพรไหมที่ปลิวไสวไปกับสายลมแรง


เธอหันมาคลี่ยิ้มอ่อนหวาน
รับขวัญนัยน์ตาผมที่แสนคลั่งใคล้
ส่งยิ้มที่ราวยิ้มให้โลกทั้งโลก
ได้พลอยชื่นบานไปด้วยกัน
ราวดวงดอกไม้หวานตระการบานสะพรั่งพรึบ
ในทันที่นะบัดนี้นาทีนี้ ตรงหน้าผม
ให้ละลานตาละลานใจ
ให้ไหวหวามและแสนอิ่มสุข


*เป็นไงบ้างคะ สิงคโปร์เที่ยวนี้..
ผมได้แต่โอบไปรอบเอวบาง
และตอบไม่ตรงคำถาม
ผมคิดถึงคุณ..มากกก..ครับคนดี
มีของฝากมาให้คุณมากมาย
พวกเครื่องหอมและผลไม้ทั้งสดแห้ง


ค่ะขอบคุณ
*เป็นไงค่ะ เที่ยวนี้จะหนีเมืองกรุงยุ่งเหยิงมาได้กี่วันคะนี่*
ไม่น่าถามนะครับ หากเจ้าของอนุญาต
ผมตั้งใจจะอยู่ที่นี่ตราบชั่วนิจนิรันดรเลยคุณก็รู้ดีนี่นา*
*
อ้าวแล้วธุรกิจพันร้อยกว่าล้านของคุณละคะ จะให้ใครดูแล*
เธอเย้าแล้วหัวเราะแบบรู้ใจอยู่ในที..


ไหนจะธุรกิจสวนไม้ดอกที่กำลังทำกำไรงามวันงามคืน
ไหนจะสำนักงานสถาปนิก
ไหนจะร้านของเก่า ลูกค้าจะเหงาเงียบตาย
ลูกค้าที่สิงคโปร์มิต้องบินมาตามดอกเหรอคะ
ว่าคนดีหนีหายไปไหนแล้ว


*มาค่ะ..ฉันจะพาคุณไปทานอาหารอร่อยๆรับขวัญ
ที่ยังอุตส่าห์ปันแบ่งร่างมาถึงนี่ได้
แล้วเดี๋ยวจะเป็นไกด์พานำเที่ยว
*จะเที่ยวแบบไหนดีคะ


ทะเลหรือหมู่เกาะไปเกาะแตนมั้ยคะ
ดูป่าระบบนิเวศป่าชายเลน
หรือดำน้ำชมปะการังที่หมู่เกาะนางยวน
ดูวิวที่สวยสุดใจในหมู่เกาะอ่างทอง
หรือเที่ยวน้ำตกธารหน้าเมือง 
น้ำตกแพงและน้ำตกธารเสด็จที่เกาะพะงัน
แล้วไปฟูลมูนปาร์ตี้


อีกหลายที่ค่ะ
เที่ยววัดหรือพิพิธภัณฑ์
หอวัฒนธรรมบ้านละไมก็งามดีนะคะ
รวบรวมของใช้พื้นบ้านโบราณไว้คุณน่าจะสนใจ
อีกหลายที่เลยค่ะ


ดูชนควายมั้ยคะ
อันนี้ทราบเลยคุณไม่ชอบบอกทารุณสัตว์
งั้นก็ชมสวนผืเสื้อ สวนสัตว์
หรือ ขับรถหาของอร่อยๆทานของพื้นบ้าน
แล้วไปดูสภาพเรือนโบราณที่คุณสนใจ
ที่ยังมุงด้วยกระเบื้องว่าว
เป็นเรือนภาคใต้ที่ยังมีลายฉลุงาม
ไปไหนดี


คนดี..ครับ
คุณก็รู้นี่นาผมมาพักผ่อนครับไม่ได้มาเที่ยวท่อง
ผมจะมาฝากทุกห้องหอมห้วงใจในกระท่อมรจนา
กลางป่าฝนป่าฝันครับผม
คุณรู้ไหมไม่มีที่ไหนในโลกนี้
ที่จะทำให้ผมโหยหาห่วงหา
ราวบ้านวิมานดินเท่ากับที่นี่ 


ที่ผมอยากกลับมานอนทอดใจดวงเหงาๆดายเดียว
ดูดวงดอกฝนพราวพร่าง
กระทบใบมะพร้าวใบไม้ราวดนตรีไพร
ฟังเงียบงามของเสียงดนตรีไพร
แล้วหลับตาฝันฝันฝัน
ว่าราวนอนในสวรรค์วิมานบนผืนหล้า
ที่แสนอบอุ่นเสียไม่มี
*คุณคงลืมแล้วผมมาที่นี่หลายสิบเที่ยวแล้ว
ผมแค่อยากสัมผัสทุกสิ่งอันหลอมรวมกัน
แล้วมีคุณใกล้ๆแค่นั้นก็พอ*


เธอ..หัวเราะ ค่ะ..อยากมากจัง หยุดก่อนดีกว่า
ค่อยไประบายใจระบายฝันคืนนี้ดีไหมนะคะ
ฉันยินดีฟังความอยากอยาก อยาก
อันแสนมากมายที่ซุกซ่อนไว้ในใจคุณค่ะ
หากแต่ว่าตอนนี้หาอะไรมาเติมท้องดีกว่านะคะ 
อย่าอยู่อย่างอดอยากปากแห้งเลยค่ะ
เสียชื่อเจ้าถิ่นหมดเลย..


ไปค่ะ นาขอเหยียบคันเร่งเท่าแรงหิวแรงอยากนะคะ
รัดเข็มขัดให้ดีดีนะ
จะพาเหาะข้ามขึ้นเขาใหญ่แล้วค่ะ
ทางชันอันตราย เพราะรถเราเปิดประทุน
สักพักจะได้ทานข้าวแกล้ม
กับบรรยากาศทะเลๆที่โหยหามานานแล้วค่ะ


เธอ..คนดี จอดรถริมทะเล 
นำทางผมเดินลิ่วผ่านร้านอาหารเปิดโล่ง
เปิดโปร่งรับลมทะลพรู 
ไปหยุดนั่งเคียงทะเลผืนงามงามกว้างไกล
ที่ในยามนี้เห็นเพียงน้ำจรดฟ้า
งามเกินกว่าจะบรรยาย
และ
ตะวันดวงโตกำลังสาดแสงอำลาทะเลอ้อยอิ่ง
ทิ้งแสงสวยไว้เบื้องล่างผืนน้ำ
ลมทะเลพัดพร่างพรมอวลกลิ่นไอเค็ม
หากในมโนผมกลับหอมหวานปานน้ำผึ้งเจือ


เธอ..นั่งตรงหน้าผมนี้แล้วกับแก้วไวน์ขาวตรงหน้า
เธอ..กระซิบยิ้มๆว่าค่ำนี้ต้องขอฉลอง
เป็นเมรีขี้เมานิดหน่อยพอครึ้มๆ
ให้สมกับที่ปลื้มปิติที่เพื่อนเก่ากลับมาเยือนถึงถิ่นที่
มาให้รับขวัญปันหอมงามใจ


ผม..อิ่มเอม
จนไม่อยากแม้จะแตะต้องอาหารทะเลสดรสดีตรงหน้า 
ราวกับว่าคืนวันที่ผมรอคอยมาแสนนานนั้นราวฝันไป
นะบัดนี้ ที่ผมได้นั่งเคียงชิดคนดีในคะนึงหามายาวนานนัก
ทั้งยามหลับและยามตื่น ในชื่นคะนึงนิจ
ผมอิ่มสุขกับทุกรสเร้ารัก 
จน แทบอยากหยุดหายใจหยุดหนาวใจ
อย่างที่เคยเป็นมา 
อย่างที่อยากให้โลกเมตตาหยุดหมุนไปชั่วกาลนานนิรันดร์


เธอ..ปรนนิบัติผมเหมือนเด็กๆ
ที่ท่าที่ละเมียดละไม
ค่อยๆแกะเนื้อปลาและวางลงในจาน
ให้ผมลองลิ้มชิมรสนั้น
พลันพาให้น้ำตาผมอยากจะหลั่งรินจนปริ่มตา
ขอเอาใจหน่อยนะคะ ในฐานะเจ้าของบ้าน
ว่าพลางเธอก็ยิ้มหวาน
ให้ผม..ย้อนกลับ 
แค่นั้นเหรอครับ..สงสัยจะรับแขกบ่อยนะครับ
ผมอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีหวงแหนให้เธอแย้มยิ้มเอ็นดู


ผม..อยากกระซิบพร่ำคำรักในใจดวงนี้
ว่า..คนดี
ผมมิได้หิวอาหาร 
หากหิวโหยร่างงามตรงหน้าในทุกอณูเนื้อ 
ผมทราบซึ้งดี..ระหว่างเราระหว่างใจระหว่างจิต
ที่เคยแลกเปลี่ยนความคิดอันแสนลึกล้ำมายาวนาน
อย่างถอดใจอย่างเททุ่มใจ
ว่าจะมีและเพียรรักษาขอบเขตแห่งหัวใจ
หอมห้วงใจหอมหวามไหวได้ในระดับหนึ่ง


มิใช่เนื้อหนังเสน่หา
ที่จะพาให้ยิ่งอาวรณ์ถอนใจมิพ้นพันธนารัก
ที่เรานี้ต่างตระหนักดีว่า
เมื่อมนุษย์มาถึงจุดนี้นั้น
ก็พลันจะตกบ่วงกรรมว่ายวนรักเป็นวงวน
มิพ้นการคะนึงหา


ที่จะยิ่งพาจิตให้ยิ่งสถิตทอดทับ
ดับบ่วงกามได้อย่างยากเย็นเข้าทุกทีๆ
เพราะขนาดแค่นี้ แค่นี้ ผมยังแค่นี้ ยังต้องเพียรบังคับจิต
ให้ไม่ไปติดต้องใจในนวลเนื้อหนั่นแน่นแสนงามของคุณ
.

เรารู้ดี ถ้าจิตมาถึงระดับนั้นแล้วนี้ 
อย่าหวังเลยว่าชาตินี้จะได้มีสมาธิพาเพียรภาวนา
เพื่อพบทางแห่งความรักความว่างงามอันจักเป็นนิรันดร์
ที่มนุษย์ในโลกนี้ต้องยอมพ่ายแพ้ฝันตกทะเลโลกย์โลกีย์
หนีไม่พ้นมานักต่อนักแล้ว


คนดี..ผมมีสิทธิรักคุณ ใช่ไหมเล่าคนดี
รักความดี รักความงาม 
รักทุกนิยามแห่งความเป็นมิ่งมิตร
ผู้มีน้ำจิตน้ำใจสวยใสหยาดเย็นงาม
ราวนางฟ้านางแก้วนางในฝันนางสวรรค์สวาท
หากก็มิเคยคิดมากเกินแลยรู้หักห้ามใจรำงับใจ
จนล่วงเลยมาเข้านี้แล้วเกินสิบปีที่รอคอยและ


ทุกหอมงามที่พึงมีพึงได้พึงให้พึงปรารถนา
ผมต้องเพียรผ่านการทดสอบจิต
ให้ไร้สิ้นซึ่งความหวั่นไหว
และเราทั้งคู่มิใช่ละหรือยอดดวงใจ
ที่เคยฝากคำมั่นสัญญาว่าจะ
ช่วยกันประคองจิตพายพาสู่ฝั่งฝัน 
มิทิ้งกันและกันมิยอมพ่ายแพ้แก่เกมกาม


คนดี..นาทีนี้ผมจักรำงับดับทุกข์รัก
จากจิตผมเองที่ยังคงเป็นปุถุชน
และผมรู้ดีว่าสำหรับคุณแล้วนั้น
แค่มองตาผม
คุณก็เข้าใจซึ้งไปถึงก้นบึ้ง
แห่งดวงใจอันแสนสวยใส
งดงามแสนมั่นคงหนักแน่น
ที่เราทั้งคู่ต่างมีเป้าหมายเดียว
ตรงไปในทิศทางเดียวกัน
ราวคู่ธรรมคู่ทอง
ที่จะชวนกันพาลอยล่องข้ามทะลโลกย์
ไปสู่อีกที่หนึ่ง  
อย่างพึงหวังตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะนานสักปานใด


อภัยผมเถอะนะคนดี 
ที่นาทีแรกๆนั้น
กว่าผมจะหยุดยั้ง
ความรักความเสน่หาปรารถนาได้นั้น
ช่างแสนยากเย็น
ผมถึงซึ้งเมื่อรำลึกนึกถึง
พระบรมศาสดาของเราชาวพุทธ
ที่กว่าจะเพียรพาหลุดพ้นจากบ่วงกรรมบ่วงกาม
หนีโซ่กรรมโซ่รัก ตัดทุกข์รักทุกข์ทุกบ่วงนั้นได้
ต้องใช้ความเพียรแสนยาวนานมาก..
และหากมิพากเพียรอย่างตั้งใจ
ไฉนเล่าจะค้นหาทางสว่างไว้รอรับ
ให้เราเดินลัดตัดตรงไปแบบไม่ต้องพะวงหลงทางมัวเสียเวลา


คนดี..ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจ
กับสายลมเย็นย่ำ
กับความฉ่ำเย็นในเรียวตางาม
ที่ราวมีหยาดน้ำละอองค้างคลอตลอดเวลา
ให้งามจรัสให้ทอรัศมีอันแสนอบอุ่นอ่อนหวานอ่อนโยน
แสนสุกสดใสสกาว
ราวดวงดาวพราวพร่างฟ้าในยามคืนเดือนมืด
ที่ส่องนำทางจิตผมให้หลุดพ้นพงหนามแห่งชีวีชีวิตนี้
มายาวนานนักโดยมิพักอธิบายคำ..


กับทะเลงาม ยามนี้
ผมจึงครวญเพลงรักเบาๆให้คุณรับฟัง
ไปกับฟ้ากว้าง
ที่ดาวดวงเริ่มระดะเต็มราวฟ้าราวมือนางฟ้า
มาหว่านโปรยให้มนุษย์
ได้พบฝันหวังหวานในยามราตรี 
ได้มีจินตนาการงามสร้าสรรโลกลบเร่าร้อน


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song78.html
หนาวตัก
ทะเล งาม ยามดึกดื่น
ฮึมเหมือนคลื่น หลับ
แสงเดือน จับ เจิดนภา เวหา หาว
นั่งเรือ น้อย เคลื่อนคล้อย ใต้แสงดาว
พร่าง น้ำพราว ผ่องเพชรเกล็ด นที
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน
ดู ซิดู ใคร สอน ให้นอนหนุน ตัก
ซุก ซนนัก ไม่ กลัวน้อง จะหมองศรี
หนาว ตัก หนัก จิต ดรร-ชนี
หาก นาวี อรุโณทัย ไม่กลับคืน...
......................


คุณค่อยๆขับรถพาผมลัดเลาะ
เข้ามายังกลางป่าฝนป่าฝัน
ในกลางหุบไพรนะใจกลางเกาะ
ที่ซ่อนเร้น*อัญมณีไพร*เอาไว้
จากสายตาโลกและคนภายนอก
พาผมกลับมายังสถานที่
ที่ผมรอคอยมาแสนนานราวชั่วกาลกัปป์กัลป์


*กระท่อมรจนา*
 ที่ต้องจอดรถเอาไว้ด้านล่าง
แล้วค่อยๆเดินปีนแนวเนินโขดหิน
ที่มีเส้นทางสายงามสายเสน่ห์
ให้ได้ร้อยรัดสัมผัสความลำบาก
หากทว่าแทรกความละมุนหอมหวาน
ยามได้ได้ทอดทัศนาเส้นทางธรรมชาติ
ที่ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้เมืองร้อน
นานาชนิดสูงใหญ่ เป็นช่อชั้น
ราวป่าดงดิบสลับสล้าง..
ใบไม้เขียวพร่างระยิบระยับ..ไปทั้งราวป่า


และ...
ทางขึ้นกระท่อมนั้น..
ดังพรมสวรรค์สีเขียว..ของหญ้ามอสส์สอดแทรก
ตามปุ่มปมหินแง่งาม 
ที่เกาะเกี่ยวให้ไต่ตาม ค่อยๆเลี้ยวเลาะ..
ให้สงบ..ให้ผ่อนคลาย ..

.
ราวเส้นทางทอดสู่สวรรค์หล้ากลางป่าไพรพงพฤกษ์
งามลึกล้ำด้วยทิวมะพร้าวและสวนผลไม้เมืองร้อน
กลายเป็นป่าที่มีสวนผสมหลากพันธุ์
ทั้งแปลงผักไร้สารพิษที่ปลูกไว้เอง
และใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานธรรมชาติ
ที่มาจากแผงโซล่าร์เซลล์ 


กระท่อมรจนา..
งามง่าย เป็นเรือนไม้สักเก่า
หลังคามุงด้วยกระเบื้องว่าวโบราณ 
โครงเคร่าและพื้นใช้ไม้แดง
ใช้มะพร้าวที่หักโค่น..มาตกแต่งราวระเบียง
หน้าจั่วทำเป็นช่องให้ตะวันยอแสง
แยงยอนลงมาพรายพร่างกระจ่างงาม


มีลายฉลุงามตกแต่งด้านในห้องนอน
พื้นไม้ละเมียดละไมบุทับด้วย
เสื่อจูดสานสวย
ไม่มีโต๊ะ มีเพียงตั่งเ ตี้ยๆไว้วาง
หนังสือธรรมแสนรัก
มีเพียงฟูก
ที่นอนขาว กับหมอนนุ่มนุ่ม
มีมุ้งที่บัดนี้หอบขึ้นไปผูกไว้ 
ยามมิได้ใช้งาน..ก่อนนอน..


หัวนอน..
มีเฟอร์นิเจอร์อีกอย่างอีกสิ่งที่แสนดิบเดิม
ที่ใช้ลำต้นมะพร้าว..เจาะช่อง
ไว้วางของจุกจิกไม่กี่ชิ้นจำเป็น
มีเชิงเทียนดินเผา
ที่เหลือเทียนครึ่งเล่ม..เพียงนั้น
กับขันทองเหลืองที่เจ้าของกระท่อมทับ
ใช้จัดใส่ดอกไม้ไทยรายรอบนานาพรรณ 
ที่บัดนี้พลันพากันมาหอมอวลคละคลุ้ง จรุงไปทั่วทั้งกระท่อม


กับสายลมเย็นยามค่ำ
กับยามที่พรายวสันต์เพิ่งราเม็ดพร่างพรม
ห่มไปทั่วทั้งราวไพร..ให้ฉ่ำเย็น..
ให้งามจับตายามถึงคราฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...
ที่มีเสียงจิ้งหรีด เรไร
ดนตรีไพรดนตรีธรรมชาติ
และสายลมอันอ่อนโยนละมุน
หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพร..อวลไกล..ในยามค่ำ..


ไพรกว้างเงียบงาม....
ซ้องผสาน..เสียงเพลงไพรเสียงสัตว์ไพร ขับขาน
ทั้งดุร้ายและหวานเศร้า
คละเคล้าดำดิ่งลึกล้ำงามเงียบไห้ไหยหวน.
สู่ห้วงหฤทัยผู้รักไพรพงเป็นชิวิตจิตใจ..


ธรรมชาติ..เปิดม่าน..
หวานหวานหว่านมนตรา
เริ่มตั้งแต่ยามทิวา อรุณรุ่งมุ่งสู่ราตรี
ที่ฟ้ากว้างประดับด้วยทางช้างเผือก..
ระดะดาวพราวพร่าง
เต็มอ้อมฟ้าเต็มอ้อมฝัน..พริบพราวเคล้า
นวลจันทร์กระจ่างฟ้า..เล้าโลมหล้าโลก
ให้มวลมนุษย์คลายโศกหรือยิ่งเศร้าหม่น 
สุดแต่คน..แต่ใจใคร..จะไขว่คว้า


ผมทิ้งตัวนอนเหยียดยาวนอกชานริมผาหิน
และ
หลับตาราวไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาอีกเลย
ผมได้กลิ่นดอกไม้แบบบุหงาส่าหรี
ที่มากมีมากมายนานาพรรณ
นำมาประดับรวมกันในขันทองเหลืองวะวาววับ
กลิ่นลั่นทมมะลิเสียบแซมก้านมะพร้าว
ปีบดอกพราวมัดซ่อนแสนอ่อนหวาน
เคลียพุดซ้อนชบาอ้อนดวงดอกแดงแฝงกลิ่นจำปีจำปารินร่ำ
กล้วยไม้ไพรในคาคบริมเรือน
ที่พากันชูช่อไสวรอสายวสันต์จะพลันพร่างมาลาลีมาลีลา


เทียนหอมถูกจุดมาในลูกมะพร้าวที่ขัดเงางาม
แล้วเจาะรูร้อยให้สายแสงพร้อยพราวพร่างออกมา
งดงามจับตาจับใจ
ไหววะวูบวับรับลมละอองฝนที่พรมพร่าง
ที่หนาวชำแรกผ่านมา
จากเทือกภูด้านหลังที่ดั่งฉากหิมพานต์


ผมนอนหลับตานิ่งนาน
จนกระทั่งได้กลิ่นหวานกว่าหวาน
จากร่างหนึ่งมานอนนิ่งอิงซบในอ้อมอกอุ่น
ผมลูบไล้เรือนผมแล้วหลั่งน้ำตารินเงียบๆ
ผมเฝ้าละเมียดจูบแก้มคิ้วคาง 
และพลางหยุดไล้โลม
ด้วยรำลึกรู้ ว่าร่างเธอนั้นหนาวสั่นราวลูกนก
ที่อยากได้เพียงให้อ้อมอกผม
ให้ไออุ่นหนาวคลายเพียงนั้น


เรากอดกายกันแนบแน่นเท่าแรงรักแรงคิดถึง
หากเป็นเพียงแค่ฝากซึ้งคลายเศร้า
ให้คลายรานร้าวด้วยความคิดถึงคะนึงหา
และ
ราวฟ้าดินจะเป็นใจรับรู้
พะยอมไพรไหวกิ่งปลิดปลิว
พลิ้วพร่างพรูโปรยพร
ให้กับสองดวงใจพิสุทธิใสในรักนี้ที่ใครใครยากจะหยั่งถึง


หยาดน้ำค้างจากตา..พร่างริน..
เมื่อเราสองนอน..นิ่งดูงาม*ดาวประจำเมืองประจำใจ*
และ
ราวกับว่าดาวในดวงใจแห่งรัก..
กำลังกระพริบพราว
ราวกับจะกระซิบฝากคำอ้อน..วอน..


ว่า..
ทุกนาทีที่อุทัยโลกหมุน..
กรุ่นแห่งรักหนักแน่นภักดีจักดำรง..
เป็นนิรันดร์..ระหว่างเรา..
แม้นจะเหงางามตามลำพัง..รู้หวังรู้รอคอย
ด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณรักภักดิ์พลี 
จะมิมีวันมอดดับ..ลาลับเลือนไปกับกาลเวลา


หากเราซึ้งค่ารักแบบ..คนเหนือโลกโศกสุข..
รู้หยุดรู้รำงับรู้รักเย็น..รักเป็น..
รักให้งดงาม จักเป็นนิยามแห่งความสุขแท้..ชั่วนิจนิรันดร.


ดาวประจำเมืองเรืองพราวบนราวฟ้า
ราวดวงตาสวรรค์เฝ้าฝันถึง
คือห่วงใยอบอุ่นใจในคะนึง
แทนความซึ้งตรึงใจอย่างคืนนี้...
ใจดวงร้าวเหินหาวราวนกน้อย
นับวันคอยนับคืนรอมิท้อหนี
แม้นหลงคอยใจดายเดียวมานานปี
รอราตรีที่ยาวนานหวานอกเธอ
ฟ้าเมตตาให้มาเพียงแค่นี้
รับเสียทีที่ได้มาเกินพ้อเพ้อ
ถึงร่างห่างใจเดียวกันใช่ละเมอ
เป็นความเก้อความฝันมหัศจรรย์รัก
.......................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song12.html
ชั่วฟ้าดินสลาย 
ชั่วดินฟ้า รัก เธอ เสมอ ใจ
ที่ ฉัน รำ พัน ทุก วัน ฝันไปถึงเธอ
อยากให้เธอ หวาน ใจ อยู่ ใกล้
พรอด รัก ร้อย เรียง ร่วมเคล้าเคียง
ฉันและเธอ
ก่อนเข้านอน ฉัน วอน ฝัน ไป
เพ้อ ครวญ ภาพเธอหลอน ให้ชวน ละเมอ
อยากให้เป็น ของ เธอ ชั่ว ฟ้า
ดิน ได้ อย่า มี อันใดพรากไป ไกลกัน
ก่อนเข้านอน ฉัน วอน ฝัน ไป
เพ้อ ครวญ ภาพเธอหลอน ให้ชวน
ละเมอ
อยากให้เป็น ของ เธอ ชั่ว ฟ้า
ดิน ได้ อย่า มี อันใดพรากไป
ไกลกัน... 
				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    12 ตุลาคม 2549 12:40 น. - comment id 614164

    เธอ..นุ่งผ้าถุงลายดอกไม้สีชมพูพันผูกปมทิ้งชาย
    และใส่เสื้อผ้าไหมสีดำ
    ที่ยิ่งขับวงหน้านวลนั้นให้ยิ่งงามเข้ม
    รับกับระยับผมมันขลับ
    ราวแพรไหมที่ปลิวไสวไปกับสายลมแรง
    
    เรื่องนี้กานต์ได้เป็นนางเอก อิอิ
    เคยมีใครคนหนึ่งถามกานต์ว่าถ้าผมกลับมาคุณจะไปรับผมไหม
    ไม่กล้าตอบเลยค่ะพี่พุด
    
    ขอบคุณพี่พุดนะคะที่ให้กานต์เป็นนางเอก อิอิ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ดอกบัว

    12 ตุลาคม 2549 13:11 น. - comment id 614184

    จงหยุดยั้งช่างใจให้รู้คิด
    แค่ให้จิตผูกพันที่ฝันถึง
    ใจใกล้ใจฝันใฝ่ห้วงคะนึง
    ต้องหยุดยั้งลึกซึ้งตราตรึงใจ
    
    สวัสดีค่ะพี่พุดบัวอ่านงานของพี่แล้ว
    ขนาดบัวว่าตัวบัวเองไม่ใส่ใจแล้วนะค่ะ
    แต่งานพี่อ่อนหวานจริงๆค่ะ
    แล้วบัวก็คิดว่านะค่ะน้อยมากค่ะที่จะมีใครๆ
    หยุดได้ อิ อิ อิ
    พี่พุดรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ 
    บัวคิดถึงพี่พุดเสมอค่ะ
    16.gif46.gif36.gif
  • Garfield Cat

    12 ตุลาคม 2549 23:47 น. - comment id 614428

    12.gif16.gif36.gif15.gifณ จุดสิ้นสุดแห่งรักร้อน ก้าวสู่รักเหนือโลกแห่งการรอคอยที่เย็นสงบ เข้าใจและเข้าถึงกลางดวงใจเธอผู้โอบอ้อม ภารกิจมากมายรอคอยการสะสาง ช่างกล้าหาญเหนือหญิงใดในยุคนี้ ช่างสมกับการมอบดวงใจทั้งดวง ทั้งจิตวิญญาณทั้งชีพพลี  จำรอรีสงบโศกโลกย์นพยาน 12.gif15.gif16.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน