ป่านนี้..!

พุด

3194_b1_060508064534.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song54.html
(คอย)


ราตรีนี้ฟ้าหมอง 
เดือนดาวเหมือนจะพากันร้องไห้อย่างโศกสะเทือน
ไปกับภัยน้ำธรรมชาติ ที่ยังพิโรธมิรู้สิ้นไปทั่วทั้งผืนพสุธา
เทวดาอยากปลอบประโลมใจนางฟ้า ว่า
จงหยุดร้องไห้เสียเถอะนะ
อย่าได้ก่นเศร้าเสียใจไปนานเลย
เพราะว่า...
มวลมนุษย์ต่างรู้สึกถึงบาปบุญคุณโทษ
คงจะไม่โหดร้าย ทำลายธรรมชาติอีกแล้ว...


และ
ในท่ามเทียนทองที่จุดทอขึ้นเพื่อสวดมนต์ภาวนา
พุดไพรแทบรินหลั่งน้ำตา เมื่อนึกถึงใครบางคน
ที่เพิ่งวางหูลงหลังจากโทรมาจากลอนดอน
ใจดวงจึงรอน รอน ด้วยรักคิดถึง
และ
ให้คำนึงไปถึงบทเพลง
ป่านนี้ของคุณนันทิดา...


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2299.html
มอง-เห็น ดวงดาว
ส่องอยู่เต็ม ฟ้า
ลม-หนาว โชยมา จากที่แสน-ไกล
อยู่-ไกลกันเหลือ-เกิน
คิดถึง จะขาดใจ
ไม่รู้ นานเท่าไร ถึงจะพบ-กัน
ความเหงา มักทำ ให้ต้องชอก-ช้ำ
ลมหนาว ยิ่งทำ ให้ยิ่งร้าว-ราน
เคย ใกล้-ชิด-อยู่
ทั้งรัก ทั้งผูกพัน
จากกัน นานนาน จะเป็น ยังไง
ป่านนี้ เธอจะอยู่ ไหน
ป่านนี้ เธอเป็นอย่าง-ไร
จะมีใคร ดูแล หรือเปล่า
ป่านนี้ คงจะนอน-หนาว
ป่านนี้ คงจะเงียบ-เหงา
ฝากเดือนและดาว ช่วย-ปลอบ-ที
ตรงนี้ มีคน ที่ยังคอย-หา
คอยหา ทุกเว-ลา เมื่อเธอร้าง-ไกล
ยัง-คอย และ ยังรู้สึก
คิดถึง และห่วงใย
จะทำ ยังไง ให้เธอ รับรู้
ป่านนี้ เธอจะอยู่ ไหน
ป่านนี้ เธอเป็นอย่าง-ไร
จะมีใคร ดูแล หรือเปล่า
ป่านนี้ คงจะนอน-หนาว
ป่านนี้ คงจะเงียบ-เหงา
ฝากเดือนและดาว ช่วย-ปลอบ-ที
ป่านนี้ เธอจะอยู่ ไหน
ป่านนี้ เธอเป็นอย่าง-ไร
จะมีใคร ดูแล หรือเปล่า
ป่านนี้ คงจะนอน-หนาว
ป่านนี้ คงจะเงียบ-เหงา
ฝากเดือนและดาว 
บอก ว่าฉัน ยัง-ห่วง-เธอ... 
.........................


และ..
พาให้คิดถึง รำลึกถึงบทกวีจากมิ่งมิตรคนดี
ที่ชื่อ*ติตรากร*ที่เขาพรากลาร่มรักเรือนไทยแห่งนี้
ไปนานมากแล้วและรจนาบทสุดท้ายชื่อว่า
*ป่านนี้*ฝากลาเอาไว้...
พุดไพรเลยไปค้นหาคำ
ที่เขาเคยฝากความทรงจำ
อันแสนงดงามเอาไว้ให้ในงาน


และ..ในฐานะมิ่งมิตร
ที่เราเคยเดินมาพบกัน
บน*ถนนสายฝันสายดอกไม้สายบรรณพิภพ*
และ
ไม่ว่าจะจบจากพรากลากันไปแสนไกลขนาดไหน
ณ..ภายในดวงใจนี้และทุกดวง
ก็จัก...
ตราจำรอยบันทึกรจนา
ที่พลี..
น้ำคำน้ำใจฝากไว้ให้กับเราไปตราบชั่วกาลค่ะ..!


และ..ด้วยคำถามสุดท้าย
*ป่านนี้* คุณอยู่ที่ไหนคะ
แล้ว..
เมื่อไรจะคืนเรือนมาให้รับขวัญคะ
....................


*จะบอกกับพุดว่า ....
ในช่วงคืนหนึ่งที่รอแสงรุ่งอรุณ...ในยามเช้าให้ทอแสง 
ดวงตาที่เปิดกว้างทั้งที่อยากจะข่มให้หลับ 
ถ้วยกาแฟถ้วยนั้นคงไม่จำเป็นในยามนี้ 
ก็กาแฟดำขมจนกลืนไม่เข้า 
จะทำไงดีกับกาแฟถ้วยนั้น 
แทนที่จะเททิ้งเพราะความชืด 
หยิบพู่กันขึ้นมาจุ่มกาแฟ 
แล้ว...
ก็ระบายภาพฝันไว้บนแผ่นกระดาษสา 
จากกาแฟชืดๆ กระดาษสาเปลี่ยวดาย 
พบว่า...
ความงดงามที่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งทีแปรงอันนิ่งงัน 
แต่..
ทรงคุณค่าทุกครั้งที่จ้องมองดู 
กับ
กลิ่นกาแฟอันหอมกรุ่น 
ที่ติดตรึงไว้ในภาพฝันนั้น ตราบนานเท่านาน 
มอบภาพนี้ไว้ให้พุด ในยามนี้ 
ด้วยเสน่ห์แห่งภาพลายเส้น
ที่พริ้วจากปลายพู่กันด้วยกาแฟถ้วยนี้..*
ติตรากร 


ฝากเพลงให้พุด
ดวงตะวันลับไป
ดวงฤทัยให้หวน
ยามสายัณห์รัญจวน
ปั่นป่วนอุรา
ค่ำลง ค่ำลง
ค่ำลงพะวงไม่วาย
อยู่เดียวเปลี่ยวกาย
มิคลายระทมตรมเศร้า
มืดมนหม่นหมอง
เหม่อมองหาคนคู่เคล้า
อกเอ๋ย เงียบเหงา
โถเราระกำคร่ำครวญ
อยู่ไหน อยู่ไหน
ขวัญใจไม่มา
เลื่อนลอยคอยหา
น้ำตาระทมท่วมใจ
อกเอ๋ยเงียบเหงา
โถเราระกำคร่ำครวญ 
ติตรากร 
...................


ค่ำคืนนี้..
ท่ามกลางราตรีนิ่งงัน..อบอ้าว
ฉันจุดไฟพราว..แขวนใต้ราวก้านกิ่งแก้ว..
ที่ดอก..พราวขาวนวลไปทั่วทั้งราวกิ่ง
ด้วย....
ได้หยาดฝนพรมพรำพร่างพรายให้ชุ่มฉ่ำฉ่ำชื่น..


และ...
มิระทมพร้อมไปกับลั่นทมขาว
ที่ยังอวดดอกพราวหวานเศร้าละมุนชูช่อ
ที่นับวันรอ..ใครบางคน
ที่จากไปไกลสุดหล้าให้คืนหลังกลับมา..มิช้านาน!
มะม่วงมัน..
บัดนี้บางลูกร่วงหล่นสู่พื้นพลัน 
เพราะ...มัวซ่อนลูกบังใบ..
เข็มขาว ข้างครัว กำลังชูช่อ..อีกคราครั้ง
ทุกก้านกิ่ง..ที่ฉันทิ้งไว้ไม่หักรานให้บานคาต้น..คาใจ..


เล็บมือนาง..ยามนี้
เคลียรั้วเลื้อยพันล้อเล่นกับจำปี
ที่ฤดูนี้ดอกยังละออพราว
หอมอวลไปไกล 
และ..
ไม่ว่าใครเดินผ่านมา..ทนเสน่หาของดอกดวงแทบไม่ได้
ต้องแอบเหลียวหา เแอบอิ่มอกอิ่มใจถวิลในงามนั้น.....
ฉันเดินลอดซุ้มการะเวก
ราวถูกเสกด้วยมนต์หอม
ให้เอื้อมเด็ดดอมเบามือมาอิงใจ


ในกอบกำ..นั้นฉันจะวางไว้ตามมุมต่างๆ..
โต๊ะเขียนหนังสือที่วันนี้มีดอกหน้าวัว
หลากสีในโถแก้วทรงสูง 
เหนือขึ้นไปเป็นเฟิร์นกระดาษ 
ที่แผ่ใบเขียวสวยระบัดใบให้เขียวเกิดกลางใจ 
กลางนัยน์ตา กลางบ้าน..


นอกนั้นจะแบ่งปันวางไว้..ริมหมอน
ให้เคียงข้างละมุนฝัน 
ในคืนค่ำที่หลับไหล
ด้วยคิดถึงใครบางคนสุดหัวใจ..
ในห้องน้ำที่ทุกยามเช้าจะหลงเหลือกลิ่นหวานเศร้า
ขับกลิ่นอบอ้าวให้อวลด้วยอารมณ์ดีเอิบอาบไปตลอดวัน..
เพื่อสู้ฝัน สู้โลก..มิพักลงทุน..


เพิ่งได้..พุดเวียตนามมา..
สาวกลีบบางแต่งามดอกดกมากกว่าพุดซ้อนแม่สาวอรชร
ซ่อนกลีบเป็นชั้นช่อละออหนากว่า..
ที่ฉันนี้รักนักรักหนา 
และ
แทบขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารยามเช้า..
ให้บรรยากาศเขียวใสให้ใจงามไปทั้งวันเฉกเช่นกัน


ยามนี้..
ฉันชงกาแฟ..มานั่งนิ่งๆจิบแกล้มไปกับใจนิ่งงาม..
กับแสงเทียนวะวับแวม
กับ...
ฟ้ากว้าง กับดาวพร่างสุกใส 
และ...
กับดวงใจนี้ที่สุดลึกหวานเศร้าร้าวๆยังไงไม่รู้!
บางที..ด้วยเหตุแห่งใจดวงนี้ที่คิดถึงยอดดวงใจของฉัน
ที่อยู่ไกลกันคนละซีกโลก
ที่เล่ามาว่า..
อากาศที่นั่นหนาวตับหด..
และคงผิดกับที่นี่ที่บ้านเราที่ยามนี้คงร้อนจนตับแลบ..
อากาศหนาวที่ชวนเศร้าร้าวไหวให้ใจโหยหา..
บ้าน..ของเรา..เมืองไทย..วิมานดิน..


โลกเรานี้หนอ..
มักจะมีอะไรแตกต่างตราบเท่ายังหมุนวน 
ไม่ว่าอากาศหรือชีวิตผู้คน
บนผืนโลกนับพันๆล้าน
ที่...
จะต้องพานพบทั้งเศร้า..สุข ..ดีร้าย มืดแล้วสว่าง..
คนละด้านคนละสิ่งไป
จนกว่า.....
ชีวิตจะสิ้นจะลาลับดับไป
ไม่..รู้ร้อนหนาว..ราวร้าง..ใจอีกต่อไป


ฉันเปิดเพลง..พี่แจ้..กำลังครวญคร่ำ..
เริ่มจาก..อย่าไปเลยบางกอก..
เพลงนี้ฟังแล้ว..เพราะไม่เชื่อจึงเหมือนเรือเกยตื้น
เหมือนปลาผิดน้ำยังไงยังงั้นเลยกับชีวิตชาวกรงในวันนี้..


ตามมาด้วย..ฝนเดือนหก..
รอและคิดถึงฝนหลงฤดู.
.คิดถึงคุณม้าก้านกล้วยพิลึกยามนี้ 
อยากอ่านกลอนดีดี..ที่แทงทะลุใจ..
ใสใสงามๆของกวีที่เขียนถึงชีวิตพื้นบ้าน 
ได้บานเบิกใจและเข้าถึงหัวใจเสียไม่มี..
ที่...
เพ้อบอกมาว่าพอหน้าฝนกมลนักกลอนจะบรรเจิดจ้า
ราวรอท่าหยาดฝนชะโลมใจ..
ให้อาวรณ์อาลัยถึงใครบางคน
ที่...
ลาจากไปท่ามกลางสายฝนพรำ..
กับหยาดน้ำตาที่คงให้อารมณ์ถวิลหาถึงใจกว่ากัน..ใช่ไหมเอ่ย...
เศรษฐีน้ำตา..เพลงนี้ขอมอบให้ตัวเอง..ละกันนะ..
อยากรู้ว่ารวยน้ำตายังไงไปหามาฟังเอง..


และ...
*คนหลายใจ*...ที่ฟังทีไร..อยากร้องไห้นะ...
เลยคาให้ฟังให้คลอเคล้าใจรานร้าวไปด้วยกัน
กับ...
สายลมอ่อนอุ่น 
ราวฝันฝากใจที่อยากกระซิบปลอบประโลมใจทุกดวง 
ในไทยโพเอมนี้
ที่ผิดหวังช้ำตรม..กับโลกกับคนที่หลายรัก!.หลายใจ..


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song120.html
ใต้ฟากฟ้า..สุราลัย 
เหนือหัวใจปรารถนา
อิ่มความรักแล้วเอย กลับเมินเลยลับตา
ไม่นำพาก็คงสาหัวใจ..
เพิ่งจะรู้คู่เธอมี เหมือนธุลีขาดลอยไป
เลือกปองมาหลายคน
เจอะแต่คนหลายใจ
ช่างกระไรเจ็บจำน้ำจิตคน
เธอมีคู่ครองมองเห็นอยู่กับตา
บาดอุราเหลือทน
คิดดูรึเปล่าอกเขาก็คนจะทนอย่างไร
เกิดมาแล้วเพื่อจะรัก
หลงภักดีจะมีไหน
เจ็บระกำช้ำตรม สุดจะทนแล้วใจ
จะโทษใครก็ใครใช้เล่าเอย...
..................


ตามมาด้วยเพลงนี้...อีกเพลงนะคนดี..ที่โดนใจ..
*ลม..หวล..*
ชวนให้คิด..ถึงความหลัง
พะวัง..จิตคิดขื่นขมระทมใจ..
ตัวใครเป็นคนผิด..อยากถามนัก..
รักไยใจจึงกลับ ดั่งลมหวล
ใกล้เรา..กล่าวถ้อย ในที่รัก
เจ็บนัก..พอถึงอื่นก็คืนคำ
มาทำชิดสนิทใหม่ ใครจะเชื่อ
เบื่อแล้วไยจัก มารับกลับคืน!..
..................


เสียงเพลงหวานเศร้า หวานแว่วนี้
พ้อเพ้อไปกับ....
ฟ้ากว้างกับสายลมระริน..
ด้วย...
มนต์ขลังแห่งความถวิลหาอาวรณ์อาลัย..
ของใจผู้พ่ายรักมากมายในโลกนี้
ที่...
ยังคงมากมีทุกข์ระทม ขมขื่นใจ 


ตราบเท่าที่โลกยังหมุนวนหมุนไป..มิมีวันสิ้นสุดหยุดรัก..
ทุกสรรพสิ่ง..ราวหยุดนิ่งเงี่ยหูฟังและเอาใจช่วย
กับยามนี้...
ที่ดวงใจของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหลอมละลายนิ่งงัน
นิ่งเงียบกับฟ้างาม..
และ.....
กับเสียงเพลงจากใจของตัวเองนี้ที่กำลังสะอื้นไห้!
...................................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song54.html
คอย
ป่านนี้ดวงใจคงทุกข์โศกตรม
เฝ้าระทมซบหมอนสะอื้น กล้ำกลืนสุดทรมาน
ป่านนี้คงร่ำแต่น้ำตานอง
ป่านนี้คงมองจะคอยพบพาน
ป่านนี้ซมซานแทบจะขาดใจ
ป่านนี้คงคอยนานแสนจะนาน
เหตุเพราะมารมาขวางกางกั้น
จากกันเป็นรอยอาลัย
ป่านนี้คงเพียงแต่หวังรอคอย
แต่นี้เป็นรอยติดตรึงฝังใจ
เหมือนตกอยู่ในอเวจี
 โอ้ ดวง ใจ เอ๋ย เคยชื่นฉ่ำ
ลิขิตขีดนำเพียงนี้
ซากรักเตือนใจตราบจนชีวัน
ไม่ขอลืมกันจวบจนชีวี
ฝากเพียงคำนี้ไปตามสายลม
ป่านนี้ดวงใจคอยเหมือนพี่คอย
จะฝังรอยจารึกไว้มั่น ไม่มีวันแปรยอมตรม
ชาตินี้มีกรรมกั้นรักเราไกล
จะขอครองใจให้เพียงชู้ชม
จะสุดระทมจะขอรอคอย...
				

comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    20 ตุลาคม 2549 21:58 น. - comment id 617561

    ค่ะ คิดถึงเขาเหมือนกัน
  • พุด

    20 ตุลาคม 2549 22:35 น. - comment id 617579

    s06_T8802.jpg
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song101.html
               หยาดเพชร
    
    เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
    หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า
    หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า
    ร่วง มา จากฟ้า หรือไร
    หยาด มาแล้วอย่าช้ำโศก
    ปล่อย คนทั้งโลกร้องไห้
    หยาด เพชร เกล็ด แก้ว ผ่อง ใส
    นั้นอยู่ไกล เกิน ผูก พัน
    แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
    ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหว หวั่น
    ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
    มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
    เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
    เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
    หยาด เพชร หยาดละออง ผ่องใส
    แม้นอยู่ใน ความ มืด มน
    
    แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
    ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหวหวั่น
    ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
    มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
    เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
    เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
    หยาด เพชร หยาดละออง ผ่อง ใส
    แม้นอยู่ใน ความ มืด มน...36.gif
    
    แด่..คุณอิม..
    โอบกอดนวลจันทรา
    
    ด้วยรักแสนรักค่ะ
    
    36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    21 ตุลาคม 2549 08:17 น. - comment id 617624

    น้องกานต์ก็คอยค่ะพี่พุด
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ติตรากร

    14 กุมภาพันธ์ 2550 15:01 น. - comment id 657048

    36.gif
    
    ณ บรรณภพเรือนรักเรือนใจที่แห่งนี้ อันเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำจิตน้ำใจที่ชโลมไหลให้บรรณกรได้ชุ่มชื่นหัวจิตหัวใจจนล้นปลี่ ไมตรีมิเคยเหือดหายไปจากสายธารใจ พลันอัศจรรย์ใจ ที่ไม่เคยกลับบ้านเพราะกุญแจดาวตกหล่น ทว่าวันหนึ่งมาถึง กุญแจดาวคล้องอยู่ที่ใจ เปิดเข้าไปที่บ้านดาว ยังคงสดใสในสายมนต์ธาร ที่ไหลผ่านมาให้ได้ชุ่มชื่นในสายกานท์ที่เคยฝากไว้เมื่อปีมะโว้ "ป่านนี้" ขอบคุณปิยะมิตรที่แสนดี ได้ชุบชีวิตให้ลำธารสายนั้นได้ไหลรินอีกครั้ง ขอบคุณพุด... 
    36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน