นวลนาง..นางนวล..!

พุด

003_primary.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3213.html
บทเพลง*นางนวล*


ท่ามเสียงคลื่นซัดฝั่งดั่งครวญคร่ำ
น้ำตาหลั่งเดียวดายหมายเพียงฝัน
เพียงเงาใจหลอมจิตภักดิ์รักนิรันดร์
หลงหมายมั่นเพียงมายาราวฟ้าลวง
นั่นจันทร์เสี้ยวดวงเศร้าหนาวลึกลึก
ในรู้สึกเงียบงันฝันลาล่วง
ไร้น้ำผึ้งเสน่หาหยาดสู่ดวง
ปีลาล่วงเดือนลาลับนับโศกรอ...!
.......................


ตะวันเดือนธันวา..
กำลังลอยเรี่ยฟ้าแผ่รัศมีสีส้มอมชมพูแสนหวาน
รอทิ้งดวงลงสู่ทะเลบางปู
เมืองตากอากาศโบราณที่ผู้คนยังคงให้ความสำคัญ
ต่างจูงลูกจูงหลาน
มาพบกับ....ความบานเบิกใจไปกับฟ้าจรัสจรุง
และ
กับฝูงนกนางนวลนับร้อยนับพัน
ที่กำลังโบกบินถลาเหลิงลอยเล่นลมอย่างงดงาม
ท่ามฟ้าสีนวลนวลนิ่มพอกัน
เธอยืนนิ่งงันกับภาพฝันงามเงียบ
ราวกับตกอยู่ในม่านมนต์แห่งความฝันฝันฝัน
อันแสนหวานเกินจักจารจด


ก่อนที่*เขาคนดี*
จะค่อยๆโอบเธอมาจากทางเบื้องหลัง
ด้วยพลังแห่งรักภักดี
ให้ร่างสองร่างในอ้อมกอดสอดประสานกัน
อย่างแนบแน่นแสนอบอุ่น
เธอหันหน้านวล
มาให้เขาตระกองด้วยสองมืออันแสนอ่อนโยน
ก่อนไล้รอยจูบนิ่งนานไปตามเรียวแก้ม..ริมหู


ร่างสองร่างราวหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียว
ท่ามเรียวเมฆสายรุ้งใกล้สนธยาจะลาลับฟ้า
และ..
ท่ามจิตแจ่มจ้าดั่งอัญมณีเพชรพร่างพราว...
เกินจักบอกเล่าให้ผู้ใดรับรู้......!!!!!
....................


นางนวลนวลนางปีกหักรักแมกไม้รักสายชล!
ทะยานสู่โค้งฟ้าถลาร่อน
ทะยอยย้อนทวนท่องล่องเวหา
ทะเลเรืองเบื้องล่างกระจ่างตา
ทะนงกว่าปักษีที่แห่งไหน
จ้าวถิ่นจ้าวเที่ยวท่องเหนือท้องน้ำ
บ้างบินต่ำเรี่ยผืนคลื่นลมไล่
หากเจ้าอยากเหิรหาฟ้าไสว
เจ้าก็โผขึ้นไปดั่งใจฝัน
ประกาศอิสระภาพ ระนาบฟ้า
ผงาดกล้า กางปีก ฉีกกรงกั้น
ทลายขอบเขตขวางอย่างเหนือชั้น
จนหนึ่งวันผันพ้นจนมืดลง
มิยึดหลักแหล่งใดให้มีห่วง
เจ้าพ้นห้วงพันธนากว่าแรงหลง
อย่างปลอดปล่อยและเปล่าเปลี่ยวเที่ยวปลดปลง
แต่ยังคงมิขอใครให้เมตตา
เจ้าคือนางนวลนายแห่งสายชล
ผู้ดั้นด้นผู้ หลุดพ้น ผู้ค้นหา
ผู้วาดแววแจ่มใสให้โค้งฟ้า
ประกาศกล้ากลางคลื่นลมที่โถมพัด
ม้าก้านกล้วย..
..................


นางนวลใจนวลนางพร่างสายฝัน
ทิวาวันทิวาวารผ่านมาสอน
ปีกเจ้างามยามเจ้าโผบินร่อน
แตะผืนน้ำก่อนสายันห์ตะวันลา
ในดงไม้พรานใจร้ายหมายจ้องอยู่
เจ้าร้องกู่หาคู่ใจจนอ่อนล้า
เพื่อซุกฝันวันปีกหักแม้นรักฟ้า
หวังรอท่าอ้อมตักได้พักใจ
แต่ยิ่งค่ำยิ่งดำมืดใจหมองหม่น
สายเสียจนหมดเลือดรักที่รินไหล
กับสายน้ำเย็นฉ่ำเหน็บหนาวใจ
นางนวลไพรฝากใจร่างกลางสายชล..พ้นมือมาร! 
พุดพัดชา..
อยากเขียนบทกวีงดงามท่ามโลกแล้ง
ฟ้าดินแกล้งเทพดลมนต์เสน่หา
อาจจะเป็นคนนี้ที่รอแสนนานกัปป์กาลเวลา
เติมเหว่ว้าดายเดียวเลิกหนาวใจ
ฤายังคงเป็นเพียงเช่นความฝัน
ให้หลงหวั่นหลงรอหลงหวามไหว
หลงพิสวาทบาดจิตพลีกายใจ
ปีผ่านไปใจดวงรักภักดิ์กว่าเดิม
........................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3213.html
นางนวล ธงไชย แมคอินไตย์ 
นางนวลเจ้าเอยทะเลกว้างใหญ่
เห็นเพียงแต่ขอบฟ้าไกล
ตัวเจ้าก็ยังคงบินมุ่งไป
อาจจะเหนื่อยแต่ความหวังก็ยังมี
นางนวลเจ้าเอย เจ้าบินเรื่อยไป
เหมือนดังว่าใจรู้ดี
จุดหมายในใจเจ้าคงต้องมี
ห่างจากตรงนี้ไปอีกไกล
หากวันไหนคลื่นลมกระหน่ำ
เจ้าคงช้ำเมื่อมองไม่เห็นใคร
แต่นางนวลเอย เจ้าไม่เคยท้อใจ
กลับยังบินตรงไปเหมือนเช่นเคย
นางนวลเจ้าเอยเจ้าคงมั่นใจ
แม้มันจะไกลลับตา
คงพบอะไรที่ดีสักครา
อยู่ที่ขอบฟ้าอันห่างไกล
ดนตรี
หากวันไหนคลื่นลมกระหน่ำ
เจ้าคงช้ำเมื่อมองไม่เห็นใคร
แต่นางนวลเอย เจ้าไม่เคยท้อใจ
กลับยังบินตรงไปเหมือนเช่นเคย
นางนวลเจ้าเอยเจ้าคงมั่นใจ
แม้มันจะไกลลับตา
คงพบอะไรที่ดีสักครา
อยู่ที่ขอบฟ้าอันห่างไกล
อยู่ที่ใจเจ้านางนวลเอย... 
 
...........................
thumb1.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem37403.html

 หาดทราย สายลม ไม่มีสองเรา
.................

ทะเล...เขียนเรื่องนี้
ใต้ต้นหางนกยูงที่ดวงดอกแดงเจิดจ้าพราวไปทั้งต้น 


ตรงหน้า..คือทะเลสีน้ำเงินแกมมรกตสวยใส
เวิ้งว้าง กว้างไกลสุดตา 
มองเห็นฟองคลื่นขาวนวลม้วนตัว..
เคลียเคล้าแตะแต้ม พลิ้วพราย 
พาทะเลนวลละมุนไปด้วยริ้วราย
ราวเรียวเมฆโลมไล้ไล่ระริกระริ้วไหว ไปตามแรงลม...
กระทบฝั่งเสียงซ่าซ่า.......  
ทะเลเดินไปหยุดยืนเหนือเนินทราย..
ที่ร้างไร้ผู้คน มีเพียงหาดทราย..กว้างสุดตา..
และทะลตรงหน้าที่แสนสวยใส แต่ทว่าคงกว้างสุดใจ..
จนยากจะหยั่งถึง .......
ดงดอกหญ้ารายรอบพลิ้วไหวเอน... 
สายลมบางเบาพัดแผ่วผ่าน 
ทิวสนซัดส่าย ซู่ซ่า 
สอดสลับรับเสียงเกลียวคลื่นที่ซัดสาด เซาะทราย 
กระซิบกระซาบวอนเว้า ราวดนตรีเห่กล่อม..  
ลมทะเลปะทะใบหน้า..
เส้นผมปลิวสยายไปเบื้องหลัง 
ทะเลยืนนิ่งงัน ต้านลมพายุไหว 
ที่พัดไกวผ่านร่างของผู้หญิงช่างฝันคนนี้ราวโลมเล้าละมุน 
ใจดวงเงียบงาม หวามไหว
ราวต้องมนต์ขลังให้ฝันควะคว้าง ปลิดปลิวไปตามแรงลม..  
ใจดวงงาม.... ในยามนี้
กับเรื่องราวมากมีที่รายเรียงมาท้าทาย 
ให้หัวใจบอบบาง รานร้าวไหว..
กับฟ้ากว้างสีส้มอมชมพูปนเทา
โศกสะเทือนทาทาบ บางเบา..นุ่มนวล ชวนฝัน 
ราวสายไหมหลากสีสันสล้างเลื่อมพรายพราว
ราวประภัสสรเฉิดฉันท์ แจ่มจ้า 
ราวสรวงสวรรค์นฤมิต..
หรือไม่ก็คงเป็นลิขิตฝีมือของศิลปินช่างฝันสาดสีทิ้งทีแปรง.. 
แต้มแต่งกลมกลืน..ดั่งภาพฝัน แสนงาม 
ให้ดวงใจดื่มด่ำ อิ่มฝัน อิ่มใจ จนเต็มตื้น..  

แค่เพียงหลับตา..พริบวิบเดียว..
ที่รัก..คุณตามติดมาในฝัน สล้าง 
ให้อิงไหล่กว้างเคียงข้างชมทะเล 
ในภาพฝันเคียงใจนั้น ทะเลอ้อยอิ่งพิงไหล่ดอมดมพรมจูบคุณ
ด้วยรักภักดี มิรู้เบื่อ..  
ช่างน่าขันนัก..
ใจหนอใจที่ไร้พ้อไร้เพ้อ เพียงแค่ละเมอ หวั่นไหว..
ว่ามีคนดีเสมอมา ในทุกนาทีคะนึง.. 

ทะเลเอนร่างลงนอนช้าช้า..
พลางหรี่ตาดูสรรพสิ่งแสนงามของธรรมชาติรายรอบในโลกจริง.. 
มองผ่านหางนกยูงดวงดอกแดงเจิดจ้าอีกคราครั้ง 
ที่ตัดฉับกับตะแบกม่วงพราวหวานเศร้าเต็มต้น เคียงกัน..
ราวสุขเศร้า..กับฟ้ากว้างงามเข้มที่สวยใส 
ไม่ไยดีรับรู้กับหมองหม่น ของคนนับพันล้านบนผืนโลกนี้
ที่วนเวียนเวียนวนมิสิ้นสุด 
ตราบใดที่ยังไม่ยอมหยุดหัวใจรัก  หัวใจฝัน...  
ทะเล..ติดปีกให้หัวใจรัก ปล่อยใจฝัน แสนงาม
ให้โบยบิน ข้ามฟ้ากว้าง ข้ามทะเลไกล 
มาซุกกายซุกใจอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของคุณแล้วนะ..
ในนาทีนี้นะดวงใจ.. 
คิดถึงบทเพลง เพลงนี้ที่ทำให้ใจทะเลเลิกหนาวร้าวไหว..
ไปกับลมทะเลที่พัดตึง! .......... 


ถึงฟ้าจะกั้น ให้ฉันและเธอไกลกันสุดตา 
หรือว่าภูผาทอดยาวขวางหน้าบังตาแค่ไหน 
แม้นมีทะเลเหลือหยั่งคะเนมากั้นเราไว้ 
อย่าได้ตกใจ..ถึงห่างแค่ไหนก็ไม่สำคัญ..
 อำนาจใดใดที่ในโลกนี้ไม่มีความหมาย 
แม้แต่ภูผาก็อาจทะลายมิอาจขวางกั้น
 รักเรามีปีกบินหลีกข้ามฟ้าไปมาหากัน 
ขอให้รักฉันแน่นอนเท่านั้น..ฟ้าดินเกรงกลัว... 
.............
  เงาไม้   
แสง จันทร์วันนี้นวล ใครชวนให้น้อง เที่ยว
จะให้ เหลียวไป แห่ง ไหน
ชล ใสดูในน้ำ เงาดำนั้นเงา ใด
อ๋อ ไม้ ริม ฝั่ง ชล
สวยแจ่ม แสง เดือน
หมู่ ปลา เกลื่อนดู เป็น ทิว
ฉันชม ลม ริ้ว
จอด เรือ อาศัย เงา ไม้ ฝั่ง ชล
สวย แจ่ม แสง เดือน
หมู่ ปลา เกลื่อนดู เป็น ทิว
ฉันชม ลม ริ้ว
จอด เรือ อาศัย เงา ไม้ ฝั่ง ชล... 

thumb3.jpg				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    3 มกราคม 2550 15:46 น. - comment id 642908

    กานต์รู้แล้วทะเลบางปูสวยตอนเดือนธันวานี่เองค่ะ
    
    กานต์ไปทีไร ลมแรงน้ำขุ่นเลยค่ะพี่พุด
    
    สวัสดีปีใหม่นะคะ
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • sirin

    3 มกราคม 2550 15:57 น. - comment id 642915

    6.gif6.gif6.gif
    
    แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • พุด

    3 มกราคม 2550 16:09 น. - comment id 642921

    007_primary.jpg36.gifรักนักร้องคนดีที่ชื่อดั่งนกนางนวล
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3213.html
    บทเพลงนางนวล36.gif
    
    
    ไพลเขียนเรื่องนี้ ตอนตีห้าค่ะ 
    กับแสงเทียนจากตะเกียงโบราณ 
    ซึ่งไพล ชอบใช้จุดเวลาเขียนหนังสือ.... 
    เพื่อสร้างบรรยากาศ.... 
    
    
    
    เสียงนกร้อง.... ตู้วู้.... ตู้วู้.... จุ้บจิ้บๆ.... 
    รายรอบ บ้านไพล ซึ่งมีแต่ต้นไม้.... 
    นกคงเริ่มบินออกจากรัง.... 
    ออกล่าหาเหยื่อ.... เหมือนคนใน (กรง) กรุงเทพ
    ที่คงต้องเริ่มแยกย้าย ออกจาก รวงรังของตัวเอง 
    เพื่อออกทำมาหากิน หาเลี้ยงชีวิตชอบเช่นกัน.... 
    
    
    อากาศหนาวนิดๆ.... 
    ไพลหยิบเสื้อหนาว สาวแม้วมาใส่.... 
    
    มองออกไปจากระเบียง.... ผ่านดงไม้....
    เห็นชาวสวนหลังบ้าน.... 
    ก่อฟืนหุงข้าว แสงไฟลุกโพลง อยู่ในเตา....
    ทำให้ใจไพลลุกโพลงเช่นกัน.... 
    
    ไพลชอบไฟจากเตาถ่าน.... มากกว่าเตาแก๊ส.... 
    บอกไม่ถูกนะคะว่าเพราะอะไร 
    อาจจะเป็นเพราะชีวิตไพลคงโต.... 
    มากับสิ่งที่เป็นธรรมชาติเหล่านี้ก็ได้.... 
    
    
    
    ไพลยังเคยคิดว่า.... 
    บ้านชนบทของไพล.... ในอนาคตอันใกล้นี้.... 
    ไพลจะทำห้องครัว.... โดยไม่เทพื้น ปูกระเบื้องสวย.... 
    
    แต่จะบอกให้สถาปนิก ... 
    ว่าไพลจะใช้ทรายธรรมชาติสะอาดๆเป็นพื้นแทน.... 
    คงเป็นครัวที่ไพล รักที่สุด.... 
    
    
    
    และเมื่อเวลาไพลปรุงอาหาร คงเป็นอาหาร.... จานอร่อย 
    เมื่อไพลมองออกไปเห็นทะเล 
    เห็นพระอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นทิว มะพร้าว 
    จากเหลี่ยมเขาด้านหลังในยามเช้าที่แสนสดชื่น.... 
    
    และค่อยๆตกแตะ
    พื้นน้ำในยามเย็น.... ทิ้งแสงสวยไว้ให้ไพล....
    ใจเบิกบานที่จะปรุงอาหารจานอร่อย
    ให้คนที่ไพลรักได้ลิ้มชิมรส.... 
    
    ไพลกำลังได้ยิน เสียงเพลงแสนหวาน 
    ที่ไพลเปิดคลอใจในยามเช้านี้.... 
    มาฟังด้วยกันสิคะ.... 
    
    ***********
    
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3700
    
    ลืม.... 
    ลืมหมดแล้วหรือไร
    แสงจันทร์ที่เคยเป็นใจ 
    หลบบังร่มไทรย้อยกิ่ง
    กระซิบรำพัน แสงจันทร์เคยแอบเอนอิง
    หนาวลมแนบอกเธอผิง สุขซึ้งใจจริงหาใดปาน.... 
    
    ลืม.... ลืมหมดแล้วน้ำคำ
    ซึ้งจำติดรอยใจพิมพ์ เคยชิมว่าเป็นน้ำตาล
    ยังหวานตรึงใจ รสใดจะเปรียบประมาณ
    แท้จริงลมปากเธอหวาน หลอกฉันมานานร้อยหมื่นอย่าง.... 
    
    กิ่งไทรย้อยร้อยรักไว้
    ร่มไหวไทรเอน ใจเต้นคล้ายลาง
    แอบยอดชู้ ชูกิ่งพลาง
    ไทรเจ้ากางใบบัง งามเหมือนดังม่านทอง.... 
    
    ลืม....
     ลืมหมดแล้วสายลม
    แม้ไทรที่เคยชื่นชม 
    รื่นรมย์แทนเรือนหอห้อง
    ไทรเอ๋ยเคยเอน พักเป็นแดนสุขเคียงครอง
    เย้ายวนกันอยู่เพียงสอง ขาดรักไทรมอง หมองวิญญา.... 
    
    *************
    
    
    
    ไพลซื้อ.... ซี ดี.... ชุดนี้ของคุณเบิร์ด มาฟัง
    
     เพราะได้อ่านบทสัมภาษณ์จากใจของ คุณเบิร์ด แล้ว
    อยากชูนิ้วโป้ง สองโป้งให้
    และคงรวมกับหลายนิ้วโป้งของคน หลายล้านทั้งประเทศ 
    รวมทั้งเทใจ.... เทคะแนนรัก 
    ให้ด้วยใจทั้งดวงเลยค่ะ....
    
     ซุปเปอร์สตาร์คนนี้ ใจกายแสนจะติดดินมากเลย....
     และที่สำคัญรักคุณแม่ เป็นที่สุด.... 
    คนอะไร.... เกิดมา.... หล่อ.... 
    เสียงดี คิดดี.... แล้วยังเข้าใจอ้อนมิตรรักนักเพลง 
    มีทัศนคติที่เลิศล้ำ.... 
    
    
    
    ไพลจึงคิดว่า ทุกสิ่งที่หล่อหลอม.... 
    ให้คนๆหนึ่งประสบความสำเร็จถึงจุดสูงสุด นั้น....
     ต้องมีหลายองค์ประกอบ.... 
    
    ความอดทน.... ทุ่มเท.... ฝ่าฟัน 
    ความเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต.... 
    
    การเริ่มจากดิน.... ถึงดาว ยาวระยะทางนั้น 
    มากล้นคุณค่าพอที่จะ สะสมให้เข้าซึ้งถึงความจริงของชีวิต.... 
    และทำให้มิลอยเหลิงลมดั่งว่าว คราวชีวิตเป็นดั่งฝัน.... 
    
    
    
    เพลงเก่าทุกเพลงที่คุณเบิร์ดนำมาร้อง.... 
    จะเป็นเพลงรักที่นำความชุ่มชื่น มารินรดใจ.... 
    ให้หวนทวนคิดถึง.... ความหลังที่งามงดฝังใจ.... 
    
    เหมือนดังเราย้อนกลับ ไปดูอัลบั้มเก่าของครอบครัว.... 
    แล้วแย้มยิ้มชื่นใจ กับอดีตแสนหวานของคืนวัน
    ที่ ผันผ่านมานานเนาเหล่านั้น.... 
    ให้สดใสสว่างกลางใจ.... ทุกโมงยาม ที่รำลึกถึง.... 
    ไพลชอบคำพูดของคุณเบิร์ด.... 
    ที่ว่าด้วยเพลงรักสมัยก่อน.... 
    
    
    
     ความรักสมัยก่อน.... 
    เป็นความรักที่สวยงาม 
    เพราะกว่าเขาจะคิดว่า.... รักกันนี่....
     เขาต้องเขียน ความเป็นมาต่างๆอย่างละเอียด....
     แม้แต่จะเลิกกัน เขาก็พร่ำพรรณนา 
    ถึงความเศร้าเสียใจต่างๆนานา.... 
    ถึงคนฟัง ฟังแล้วแทบไม่อยากเลิกกับใคร
    
     ต่างกับสมัยนี้ บทจะเลิกก็พูดไปเลยตรงๆ.... 
    ก็เลิกกันแล้ว ไม่มีอารมณ์ อาลัย อาวรณ์ อะไรทั้งสิ้น.... 
    
    
    
    ไพลคิดว่า.... ใช่เลยค่ะ.... 
    ไพลถึงพยายามเขียนถึงความสวยงาม
    ของเพลงเก่าเสมอ ฝากไว้ ในงานของไพล....
     ด้วยหวังกล่อมจิต.... กล่อมใจ
    ให้ผู้อ่านที่รักของไพล.... ได้รัก.... และรู้จัก.... 
    ภาษาอันละเมียด ละมุน.... 
    
    กล่อมใจทั้งดวงให้มองโลกอย่างแสนหวาน แสนงาม.... 
    ไปตามบทเพลงไงคะ.... 
    
    
    
    ไพลรักคุณ มิใช่ตรงที ่รูปหล่อ 
    หรือร้องเพลงไพเราะ เพียงอย่างเดียวนะคะ....
     
    แต่ไพลแสนรักนกนางนวล.... 
    ผู้มีใจอิสระ เริงร่า ทางความคิด 
    มีรักที่สวยงามจากใจบริสุทธิ์ 
    นำมาจ่ายแจกให้กับชีวิตผู้คน.... อย่างเข้าถึง....
     
    
    
    และทำให้ โลกนี้ที่เร่าร้อน.... เยือกเย็น.... 
    ด้วยเสียงกล่อมประโลมใจทุกดวง.... 
    ให้ฝันถึงสิ่งดีๆ.... ฝันแสนดี.... แสนหวาน...
    
    
    
    เพื่อให้มีพลังสู้กับโลก.... กับชีวิต.... 
    ที่บางครั้งแสนทดท้อ.... รอคนเคียงข้าง.... 
    ปลอบใจให้หยัดยืน.... 
    อยู่อย่าง ไม่เดียวดายไร้หวังจนเกินทน.... 
    
    
    36.gif16.gif007_sec04.jpg007_sec03.jpg36.gif
  • เฌอมาลย์

    3 มกราคม 2550 17:12 น. - comment id 642962

    สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่พุด36.gif
    
    ชอบดูนกนางนวลค่ะ
    ดูอิสระเสรีดี  คิดถึงอาหารแถวๆบางปูซะแล้วววว71.gif
  • ราชิกา

    3 มกราคม 2550 18:45 น. - comment id 642992

    ...เป็นบรรยากาศที่สวยงามมากค่ะ...
    
    ...ขอให้...พี่พุดพัดชา..มีความสุขมากๆนะคะ..
    
    ...สวัสดีปีใหม่ค่ะ...36.gif57.gif36.gif
  • White roses

    3 มกราคม 2550 19:56 น. - comment id 643007

    มาปากน้ำ..ฉ่ำใจที่..ได้เห็น
    เอกลักษณ์เด่น.."เมืองโบราณ"..สุดขานไข
    "ฟาร์มจรเข้"..เลื่องชื่อ..ระบือไกล
    "ช้างเอราวัญ"..สูงใหญ่..ตระหง่านตา
    
    มาเที่ยวชม.."บางปู"..ดูสดชื่น
    ปูวิ่งตื่น..หนีลงรู..ไม่สู้หน้า
    ทั้งตัวเล็ก..ตัวใหญ..่ไม่โผล่มา
    ต่างซ่อนหน้า..หลบเร้น..ไม่เห็นกาย
    
    นกนางนวล..ฝูงใหญ่..บินลัดเลาะ
    ลงมาเกาะ..กิ่งไม้อยู่..ไหวไหว
    ฉันจึงโปรย..อาหาร..ลงน้ำไป
    ต่างดีใจ..โผผิน..บินลงมา
    
    ลมพัดแรง..แสงแดดอ่อน..ในยามเช้า
    นั่งกินข้าว..พร้อมชมนก..สุขนักหนา
    แต่เสียดาย.."อยู่เดี่ยว"..เปลี่ยวอุรา
    ชมนกกา.. คลายเหงา.. คลายเศร้าใจ....
  • แก้วประเสริฐ

    3 มกราคม 2550 21:11 น. - comment id 643027

    36.gif16.gif36.gif
    
          เมื่อก่อนนั้นสถานที่ท่องเที่ยวหนุ่มสาวนั้นมีที่
    ไปชายทะเลที่เดียวคือบางปู ผมเคยไปมาหลายๆครั้ง
    มักจะไปดูฝูงนกนางนวลที่ล่องลอยในทะเลและบิน
    เสมอๆสวยงามมากครับ  เป็นสถานร่มรื่นมาก มี
    สพานไม้ยื่นออกไปในทะเลมีร้านอาหารสำหรับ
    นักท่องเที่ยว สถานที่ลีลาสบันเทิง  แต่สมัยนี้มีอยู่
    หรือเปล่าผมไม่รู้เพราะไม่ได้ไปหลายๆนับสิบๆปีได้
    แล้วครับ  อ่านเรื่องราวฟังเพลงคุณไปให้ใจละล่อง
    ย้อนอดีตเสียจริงๆครับ ขอบคุณที่นำของดีๆมา
    เล่าสู่กันฟังเด็กๆสมัยนี้ไม่มีใครรู้จักกันแล้วล่ะ
    ครับ จำได้ครั้งสุดท้ายนั้นทะเลไม่น่าท่องเที่ยว
    แล้วแต่สะพานยังอยู่ครับ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    3 มกราคม 2550 21:30 น. - comment id 643029

    ไม่เคยไปทะเลบางปูสักครั้ง  พี่พุด  คงจะสวยมาก    อ่านแล้วอยากจะไปสักครั้งคงสวยมากๆ  นกนางนวล    ทำให้อยากเห็นจริงๆ
    
    สวัสดีปีใหม่น่ะค่ะ   พี่พุดของน้อง   ขอบคุณในทุกอย่างที่พี่พุด  มอบกระต่ายเสมอมา  กำลังใจ  ในยามที่เหนื่อยล้า   ขอให้พี่สาวคนดี  มีแต่ความสุข   พบเจอและพบพาน  สิ่งที่ดีตลอดปีและตลอดไปค่ะ 
                                           ด้วยรักและเคารพเสมอ 
                                               กระต่ายใต้เงาจันทร์
  • พุด

    3 มกราคม 2550 21:47 น. - comment id 643034

    16.gif36.gifbohemian.jpg
    พุดพัดชาเดินเดียวดายกลับบ้าน
    พร้อมกับ..
    หยาดพรายสายหวาน
    *แห่งพระจันทร์เดือนธันวา*
    ที่แสนงดงามจนเกินจักหาคำรำพันรำพึง
    นอกจากอยากแชร์ความสุขโศกซึ้งตรึงตา
    ตรึงใจนี้ ในนาทีนั้นกับใครสักคน
    หาก..
    หันไปหามีใครไม่..นอกจากเรา
    จึงได้แต่..
    โอบกอดดวงจันทราด้วยใจดวงเหว่ว้า..
    หาก..ทว่าด้วยดวงจิตพร่างพราว
    อย่างพึงเข้าใจในสัจจธรรม..
    แห่งชีวีชีวีตนิดน้อยหนึ่งนี้ 
    ที่แท้เที่ยงแล้วไซร้คือมาลำพังไปลำพัง..ค่ะ
    
    ขอฝากเรื่องรักรจนา แด่ทุกดวงใจ
    ที่มาพร่างหอมงามใจ
    ให้ดวงใจพุดแสนซาบซึ้งค่ะ
    36.gifน้องเพียงพลิ้ว36.gif36.gifคุณ sirin   36.gif36.gifน้องเฌอมาลย์36.gif36.gifคุณราชิกา36.gif36.gifน้องWhite rose36.gif
    
    ด้วยรักล้นใจนะคะ
    
    54033DSCF0859.jpg
    พระจันทร์เดือนธันวา!
    
    ดวงนั่งดายเดียวมองเดือนดวงงาม 
    พระจันทร์งามพราวราวส้มสุกสีทอง
    นวลผ่องยองใยอร่ามเรืองอย่างรัญจวนใจ..
    กลางชานไม้ริมระเบียงเคียงชายคา
    กระท่อมไม้สนที่หอมอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟหลากรส...
    หอมตระลบไปทั้วทั้งร้านแสนงาม..
    *******
    
    
    
    ดอกพุดพิชญา ดวงดอกน้อยๆนวลนวลพราวกิ่ง
    โมกห้อยกิ่งชูดอกหอมอวลแกล้มแถมมากับกลิ่นกาแฟ
    กับสายลมค่ำแล้วในฤดูหนาว..
    
    ดอกพุดพิชญา..มิใช่พุดพัดชา 
    ที่เคยมีคนถามว่านามปากกา
    นั้นดวงได้จากแรงฝันบันดาลใจได้แต่ใดมา
    ก็ขอชี้แจงแถลงใจไว้ณ.ตรงนี้เสียเลยนะคะว่า
    
    
    
    ดอกพุด เป็นดอกไม้งาม
    พันธุ์ไม้ไทย ที่มีกลิ่นหอมละมุน 
    ดอกสวยสะอาดตา ดูบอบบาง 
    แต่อ่อนหวาน และอ่อนโยน.......... 
    
    ในขณะเดียวกัน
    มีเสียงคล้องเปรียบประดุจ....
    พุทธะ..ประจำใจ
    ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน 
    ที่จะบานไสวอยู่ในใจของตัวเอง
    เพื่อนำทางชีวิตให้สว่างไสว ตลอดไป...
    
    และ....
    จริงๆอยากใช้นามปากกาว่าพุดซ้อน
    เพราะชอบดอกหอมแผก
    ดอกนวลขาวพราวละมุนกรุ่นกลิ่นกลางกลีบ
    บานหวานซ้อนซ่อนสุขซึ้งงามเป็นชั้นๆ
    ที่ใครๆได้หอมได้เห็นงามแล้วคงอยากจะ
    นำไปประดับใจประดับหวานให้หอมงามชั่วกาลเลยเชียว!
    
    
    
    
    แต่คำว่าพุดซ้อน
    ดูราวชีวิตต้องซ่อนซึ้งสุขซุกเศร้ายาวนานตลอดกัลลปาวสานต์
    
    พุดพัดชาจึงได้มาโดยการหาคำมาเติมเต็มให้พุด..นั้น
    ผันคำให้นิ่มลงไปเป็นอื่นที่หวานแหววแต๋วจ๋า
    ฟังดูน่าจะเข้าท่าเข้าทีกว่า..ก็แค่นั้น..
    
    
    จริงๆพุดพัดชาก็พัดช้าคิดช้า..
    ก็เคยคิดอยากจะหานามปากกาใหม่
    ที่เข้าทีดีกว่ากันเยอะๆเลย
    มาตั้งใหม่ให้เป็นสิริมงคลนามแบบชั่วกาลนานนิรันดร 
    
    
    แต่คิดไปคิดมา
    ไม่ว่านามปากกาอะไรหากหัวใจไม่มีไฟฝัน
    มีแรงบันดาลใจไม่มีกำลังใจจากท่านผู้อ่านแล้ว
    
    ต่อให้นามปากกามลังเมลือง
    วิจิตรตระการใจประเทืองใจยังไง
    ก็คงไปไม่ถึงไหน
    ไม่ถึงดวงดาวพราวรุ้ง
    ที่อยากจะเอื้อมไขว่คว้ามาสู่อุ้งมืออ้อมใจเรา สักดวง!
    
    ให้มีพลังสรรสร้างสิ่งแสนดีคำแสนสวย..
    กำนัลทุกดวงใจให้ใสเย็นแสนหวานชุ่มฉ่ำรักตามๆกัน
    
    และอีกเรื่อง
    
    
    
    ก็คือเกรงใจปีกฟ้า..
    ว่าจะหาเรื่องยากมากเรื่องมาให้ปวดศรีษะเพิ่มขึ้น
    
    เพราะว่าแค่บรรดาปัญหามวลสมาชิกมากมายราวล้านกว่า
    ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเพิ่มเฟรนส์ไชส์
    อาจจะต้องขยายสาขาเวบไซต์เป็นไทยโพเอม1 2 3...
    เติบโตต่อไปแบบมิหยุดยั้งมิยั้งหยุด..
    ก็ทำให้ปีกฟ้าหายหน้าไปเลย
    ด้วยมากมีมากมายความวายวุ่นที่ต้องจัดการ
    
    
    
    เหลือก็แต่ความหวังจาก*นักอยากจะเขียน*นักฝันค้าง
    ต่างละเมอรอท่าว่าเมื่อไรละหนอละนี่
    ที่ปีกฟ้าหรือว่ามีแมวมอง
    มาจ้องขอลิขสิทธิ์งานเราไปตีพิมพ์รวมเล่ม 
    อวดบนแผงสวย
    ให้เราทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทย
    พากันไปแห่อุดหนุนกันเอง
    แบบอัฐยายซื้อขนมยาย 
    ให้ขายให้เกลี้ยงแผงชั่วพริบตาเดียวเลยค่ะ
    ****
    
    
    
    อ้าว..นี่ย้วยยานจากเรื่องพระจันทร์
    มาร้านกาแฟแห่มาถึงนามปากกาได้ไงนี้ 
    เอาใหม่นะคะคนดี 
    นั่นคิดว่าเป็นบทแทรกเรื่องรักหวานเศร้า
    ตามประสาพุดพัดชาก็แล้วกัน
    นะคะนะ
    มาเว้ากันใหม่เลยดีกว่านะ
    ***
    
    
    
    ดอกพุดพิชญา ดวงดอกน้อยๆนวลนวลพราวกิ่ง
    โมกห้อยกิ่งกอหอมอวลแกล้มแถมมากับกลิ่นกาแฟ
    กับสายลมค่ำแล้วในฤดูหนาว..
    ที่หนุ่มสาวต่างพากันหาเนื้อนุ่ม
    มาห่มแทนผ้าห่มให้หายหนาวกายใจ
    ได้เรื่องใหม่มาแทนคือชุลมุนวุ่นรักหักอกแหกใจ.
    ตามมาตามกติการักกติกาโลกโศกสุข
    คลุกเคล้าให้ร้าวรวดและสมหวัง
    
    
    
    ประกายดาวพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าสีกำมะหยี่
    กลับพากันหรี่แสง...
    
    มิบังอาจแข่งกับแสงนวลพราวเหนือดาวทุกดวง
    .*.เทพีจันทร์ เทพีใจ*แทนใจคนในปฐพี
    ที่ได้มีโอกาสฝากใจกับจันทร์ฝากฝันกับดาว
    
    และทุกคราครั้ง..
    
    
    
    ที่ดวงเต้นออกกำลังกาย 
    ก่อนจะปิดท้ายด้วยจังหวะลีลาศ
    ให้วาดลวดลายสวิงสวายเนิบช้า
    และเร่าร้อนผ่อนหนักเบาไปตามจังหวะเพลง
    มีทั้งตะลุง รุมบ้า ชะชะช่า แบบสามช่าสามโทน
    ให้ได้สะบัดสะบิ้ง
    ทิ้งเท้าทิ้งทวนแบบไฟแลบแปลบปลาบเลยทีเดียว
    
    
    
    ดวง..จะมีความสุขมาก
    ดวงใจจะชุ่มฉ่ำ
    รับพลังหยาดหวานพรายจากสายน้ำผึ้งพระจันทร์
    และ
    
    
    ดวงตาผู้หญิงช่างฝันพลันก็จะมีน้ำรื้นเรียวตาในทุกครา
    ที่แหงนเงยเห็นจันทร์เพ็ญเด่นดวงงาม
    ที่คอยวิ่งตามแย้มยิ้มพริ้มเพรา
    
    ราวหยอกล้อให้พะนอรักพะนอใจ อย่างเข้าใจอย่างรู้ใจ
    เป็นการเต้นรำท่ามกลางแสงจันทร์โลมไล้ร่าง
    ให้สล้างฝันสว่างไปถึงกลางดวงใจ
    ให้สวยใสงามรับน้ำใจหวานๆๆๆจากจันทร์
    ให้หลับฝันดีตลอดราตรียาวนานเลยทีเดียว
    ***
    
    
    
    ดวงจะมานั่งพักเหนื่อยตรงริมชายคาแห่งนี้ 
    ที่เจ้าของร้านใจดีแสนสวย
    เธอให้เกียรติดวงให้ช่วยตั้งสะโลแกนร้านใหม่ของเธอ..
    ที่ดวงแสนยินดีและเต็มใจจะคิดจะทำให้..
    ***
    
    
    ณ..ชายคาแห่งนี้ที่พักใจ ทุกคาคบของพญาสัตตบรรณ 
    ที่เริ่มสูงขึ้นเป็นช่อชั้นแฉล้มแต้มใจให้ร่มเงานั้น
    จะงามบรรเจิดด้วยกอกล้วยไม้หลากสีสันชูช่อล้อลมไสว
    เย้ยจันทร์ท้าใจอยู่ในนาทีนี้ที่ดวงรจนางาน..
    และที่แสนน่ารักนัก..
    
    
    จนดวงต้องทายทักตั้งชื่อ
    คือบานหน้าต่างกระจกกว้างตลอดแนว
    ให้ใหม่ว่า.*.หน้าต่างโมก*หยุดโลกหมุน....
    
    ที่ทุกราวกิ่งดอกดก..
    พราวนวลขาวหอมคอยหลอมละลายใจแขก
    คอยกวักมือเรียกแขกผู้มีหัวใจยังใฝ่
    ยังฝันยังอยากหามุมสวรรค์บนดินนั่งจิบกาแฟละมุนลิ้น
    ท่ามกลางกลิ่นดวงดอกไม้ไทยหอมพร่างเคล้าราตรี
    ที่มีพรายพระจันทร์อมยิ้มมาทายทักให้พักใจอยู่บนฟ้า
    ***
    
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2438
    กล้วยไม้ 
     กล้วย ไม้ ของเราแต่เก่า ก่อน
    อยู่ในดง ใน ดอน เจ้าซ่อนช่อ ซ่อน ใบ
    ไกล ภู่ ไกล ผึ้ง
    เจ้าอยู่ถึง ไหนไหน
    ใครจะเด็ด จะดม ได้ เราไม่เห็น เลย
    ใครจะเด็ด จะดม ได้ เราไม่เห็น เลย
    โอ้ กล้วย ไม้ เอย
    น่า ชื่น น่า เชย เจ้าไม่เคยชอก ช้ำ
    เช้า สาย บ่าย ค่ำ
    ชื่นบ่ช้ำ ชอก เลย
    
    เดี๋ยว นี้ ดูรึ กล้วย ไม้
    มาชูช่อ ชู ใบ บานอยู่ใน กระเช้า
    ลืม ดง ลืม ดอน
    ที่เคยอยู่ก่อน อยู่เก่า
    ภู่จะคลึง ผึ้งจะเคล้า ให้เจ้าเฉา ลง
    ภู่จะคลึง ผึ้งจะเคล้า ให้เจ้าเฉา ลง
    โอ้ กล้วย ไม้ เอย
    เจ้า ไม่น่า เลย ที่จะมาไหล หลง
    เจ้าลืมสุมทุม พุ่ม พง
    ลืม ดง ดอย เอย...
    **************
    
    
    
    และ..
    ใจดวงหวนกลับไปถึง....
    
    คืนหนึ่ง..ที่ยังซึ้ง  ตราตรึงอยู่ในใจดวงมานานเนิ่น..
    ยามที่ดวงตื่นขึ้นมาในยามดึก 
    ใต้ชายคากระท่อมไม้มะพร้าว
    เคล้าเสียงคลื่นลมริมทะเลฝัน
    ยามที่ดวงต้องรีบตื่นมาดูโลก
    
    ที่ดูราวฝันไป...
    ราวสวรรค์หวานที่มีจริงบนโลกจริง..
    ที่มีพระจันทร์ดวงโตมายิ้มเผล่
    จ๊ะเอ๋กับดวง..ตรงหน้ากลางทะเลกว้าง..
    
    
    และ
    สว่างพร่างแสงสีเงินยวง
    ร่วงรายพรายพรมห่มผืนน้ำทะเล
    ให้งามระยิบระยับ
    ราวกับประดับด้วยประกายเพชรเก็จแก้วก่ำจรดฟ้าไกล...
    ไม่สิ้นสุดในเรียวตา งามเย้ยหล้าสวยบาดใจ
    พาใหลหลง หลงใหล 
    ดั่งต้องมนตรานางพญาพรายน้ำกระพริบวิบวับใต้สมุทร
    ******
    
    
    
    ดวงจะเดินเหว่ว้า เดียวดาย ร้างไร้ใครในยามดึกสงัด
    มีเพียงเสียงลมคลอคลื่นพัดวู่หวิว
    พลิ้วใบมะพร้าวซัดส่ายเสียดสีซอกแซกๆ
    เสียงคลื่นคลอทราย ราวพ้อเพ้อตามลมละเมอ
    *****
    
    
    
    เป็นความสุขสงบงามเงียบ
    แม้นจะเฉียบเย็นในดวงใจเป็นยิ่งนัก
    แม้นจะดูราวสาวเจ้าจะอกหัก
    หรือกลับกัน..หักอกใครไม่ไยดี
    ยอมหนีหน้ามาเดินดายเดียวเปลี่ยวเหงา
    ในเกาะร้างห่างไกลเพียงลำพัง..
    ******
    
    
    นวลจันทร์เดือนธันวา ..
    ทอทอดลอดลวดลายเมฆลงมา
    ส่องกระทบหาดทรายขาวยาวเหยียดสุดตา
    ให้เกิดประกายจรัสจ้าเรืองแสงเงินพร่างสว่างโพลนรำไรๆ
    ใต้เงาดาวพราวนวลจันทร์...
    
    
    
    ยามนั้น..
    จะมีเพียงดวง...และ..รอยเท้าที่เหยี่ยบย่ำไปบนผืนทราย
    ให้สายน้ำจากทะลผืนงาม..แผ่กว้างแตกฟองกระจาย กวาดรอย.!.
    
    ไม่อาวรณ์อาลัยไม่ไยดี..
    ให้มลายหายวับไป..
    
    
    
    เหลือดวง..กับใจดวงเดิมดวงดีดวงเดียวกัน
    ที่ยังช่างฝันยังดายเดียวเดียวดาย
    คล้ายเดินโดยลำพังอยู่บนปลายโลกร้างกลางโลกสิ้นไร้รัก..
    
    
    
    เป็นสุขล้ำ..สงบลึก  ทุกยามนึกถึงคะนึงครวญ
    หวนหัวใจไปถึงคืนนั้นที่สวรรค์ล่ม
    ที่อกดวงตรมกลัดหนองนานมา.
    ทว่ากลับได้บางสิ่งมาแทน
    ธรรมชาติแสนงามไงและธรรมดาใจผู้รู้ตน..
    ********
    
    
    
    นั่นคือ..
    คืนฝันวันพระจันทร์หวานผ่านเดือนธันวา
    ที่ดวงจำแม่นยำทุกครา..
    เพราะว่ามีพายุจริงแถมมากับพายุใจ
    ให้ทะเลปั่นป่วนเป็นระลอก กระฉอกซัดฝั่งมิรั้งรอ.รีรอ.
    
    
    หากทว่า...
    พยับโพยมบนท้องนภาเวหาหนนั้น
    ทะเลเมฆงามเกินกว่าจะหาค่าคำงามล้ำ
    มาพรรรนามารจนาให้เทียมเท่าเล่าได้
    
    ขอแค่ให้ลองติดปีกให้หัวใจบินไปตามใจฝันใจจินตนา
    คิดถึงแค่คำว่าทะเลเมฆทะเลรุ้ง
    ยามที่เราพุ่งร่างโผบินไปได้ราวกับนกก็แล้วกัน
    นะทุกดวงใจในฝัน...
    ***********
    
    
    ดวงขอกลับมา..
    สู่งามจันทร์งามจริงในค่ำคืนนี้ในราตรีนี้อีกครั้ง
    
    ที่เปรียบดั่ง..ดวงจันทร์คือ..เทพีนภา..!
    เป็นพลังที่ฟ้าหยิบยื่นประทานให้โลกหล้ายามราตรี
    มิต้องหม่นมัวหมองครองใจไปทุกค่ำคืน
    
    ให้มวลหมู่มนุษยชาติใช้ใจดวงฉลาดแสนงามแสนดี
    วาดหวังใช้พลังจันทร์เติมพลังใจในทุกยาม
    ให้กับดวงชีวีอันแสนสั้นฝันมิยาวยืน...
    
    
    
    ให้เราสร้างพลังบวกมิมอดสิ้น
    
    จะพ่ายกี่ครั้งจะพลั้งจะแพ้กี่หน
    เราทุกคน...ทุกคน..
    ก็ยังมี....
    ดวงตะวันในตอนเช้าเฝ้าหมุนมาใหม่ให้เริ่มต้น
    มี
    พระจันทร์เบื้องบนท้องนภาในยามราตรี
    คอยโปรยหวานหยาดสายให้
    ขอแค่ใช้ดวงตาดวงใจแหงนเงยฝากฝันฝากใจ...
    เพียงนั้นเท่านั้น..
    
    
    
    ธรรมชาติจันทร์..ธรรมดาใจ 
    ที่โลกมอบให้มนุษย์ทุกส่วนเสี้ยวทุกซีกโลก
    อย่างเท่าเทียมกัน..
    
    
    สุดแต่ใจใคร...
    จะใฝ่..จะฝัน...จะคว้าจันทร์..จะปองใจ
    ได้ครอบครองดวงใจ
    ได้จิตวิญญาณใครจิตวิญญาณคนนั้นคู่กัน
    
    ตามกุศลผลบุญหนุนนำ
    ที่ได้สร้างได้ตักบาตรร่วมกัน
    ได้ฝันรวมใจกันมาแต่ชาติปางก่อน....
    
    
    
    เสมือนดวงตาสวรรค์ 
    ดวงดาราที่จะจรัสจ้า
    ที่จะเป็นพลังใจเคียงข้าง...
    มิให้อ้างว้าง..ว้าเหว่ใจ..ไม่ดายเดียวเดียวดาย..ลำพัง.
    ตราบชั่วกาลนานชั่วนิจนิรันดร...
    36.gif
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song973.html
    ดวงใจในฝัน 
    
    รำพึงรำพัน ฝันรัก รักเอยใฝ่หา
    ยังจำติดตาชวนปลื้ม ฉันลืมไม่ลง
    เป็นรอยพิศวาส ปักใจมั่นคง
    ฝังใจพะวง หลงรอคอย
    อาวรณ์ใจครวญ หวนคิด คิดจนพร่ำเพ้อ
    พาใจละเมอหมองหม่น คิดจนเลื่อนลอย
    ยามนอน ถอนสะอื้น ตื่นตาแลคอย
    คิดจนดาวลอย คล้อยเมฆา
    ฝันกอดเชยชม ภิรมย์รื่น พี่ชื่นตื่นผวา
    จนใจ ไม่มีใครเมตตา
    เพียงนิทรา นิจจานึกว่าสุขเอ๋ย
    บางคืนมองจันทร์หรรษา นิจจาอกฉัน
    บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า น้ำตาหลั่งเลย
    ลมเอยพริ้วยังแผ่ว ไม่มีแววเลย
    เหงาใจจริงเอย หลงเชยแต่เงา
    
    บางคืนมองจันทร์หรรษา
    นิจจาอกฉัน
    บางคืนขาดจันทร์เยือนหล้า
    น้ำตาหลั่งเลย
    ลมเอยพริ้วยังแผ่ว
    ไม่มีแววเลย
    เหงาใจจริงเอย
    หลงเชยแต่เงา... ...
     
    36.gif16.gif16.gif16.gif
  • ที่สุดแห่งทางช้างเผือก

    3 มกราคม 2550 22:24 น. - comment id 643040

    16.gif12.gif16.gif36.gif16.gif
    แนวสะพานปูนที่ยื่นไปสุ่ทะเล โดยมีภัตตาคารที่ปีกทั้งสองข้าง ดูสะอาดตา น่านั่งรับบรรยากาศยามเย็น ยลโฉมพระอาทิตย์อัสดง
     เคล้าบรรยากาศ นกนางนวลนับพันๆตัวร่อนหาอาหารที่ผู้ใจบุญเอามาเลี้ยง เป็นภาพที่งดงามดั่งในฝัน และจะงองามหาใดเปรียบได้ หากมีหวานใจโอบกอดด้วยความรักที่นุ่มนวล ลึกซึ้ง จนต้องฝังตราตรึงใจไปตลอดกาล มิอาจลืมเลือน
  • พุดไพร

    3 มกราคม 2550 22:54 น. - comment id 643045

    36.gif16.gif12.gif
    พลีเรื่องรจนาแสนรัก
    ถึง..
    ทุกดวงใจในร่มรัก
    เรือนใจเรือนไทยเรือนทองแห่งผองเรา
    รวมทั้ง..
    แด่*คุณที่สุดแห่งทางช้างเผือกนะคะ*
    และ.....
    พิเศษพิสุทธิ์แด่คนไทยในวันนี้นาทีนี้
    ที่ใจแสนเงียบเหงาวังเวง
    ด้วย..
    *เพรงกรรมแห่งแผ่นดิน*
    ที่เราคนไทยทุกธุลีหล้า
    ใต้ฟ้าไท ฉัตรทอง 
    ได้แต่พร้อมสวดมนต์
    ถวิลหวังให้พลังจิต
    อันแสนเกษมพร่างสว่างไสว 
    ใสสงบสะอาด
    ด้วยพลังบุญกุศลทาน บารมี
    ได้หลอมรวมแผ่รัศมีเมตตา
    ให้คนในชาติทุกศาสนา
    ได้หันหน้ามาสมานฉันท์สามัคคี
    พลีพร้อมคิดดี ทำดี เพื่อมาตุภูมิแม่นี้
    ที่เราได้หยัดยืนร่างอย่างทรนงอิสรา...!
    ................
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem83878.html
    
    พุทธเพชรตะวัน36.gif16.gif
  • ที่สุดแห่งทางช้างเผือก

    4 มกราคม 2550 00:12 น. - comment id 643058

    12.gifhttp://www.nkgen.com/
  • เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

    4 มกราคม 2550 10:04 น. - comment id 643126

    ตกใจหมดเลย นึกว่าหนังสือนางนวล4.gif
    สวัสดีปีใหม่ค่ะ
  • ดอกบัว

    4 มกราคม 2550 11:08 น. - comment id 643146

    พี่พุดค่ะบัวกราบสวัสดีปี 2550 พี่พุด ค่ะ
    
    บัวคิดถึงพี่ค่ะ
    
    บัวขอให้พี่มีความสุขมากๆค่ะ
    
    16.gif36.gif36.gif36.gif
  • ดอกข้าว

    5 มกราคม 2550 00:01 น. - comment id 643361

    สวัสดีปีใหม่พี่พุดนะครับ 36.gif
  • มาโนช

    19 กุมภาพันธ์ 2555 16:53 น. - comment id 1225230

    คิดถึง เพื่อนจัง
    แต่ลืมรหัสผ่าน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน