หนาว..หนาว..หนาว...ในนวลคำนึง..

พุด

V259054.jpg
ดอกวาสนาผลิพราวเช้าวันนี้
เหมือนมณีดวงดอกไม้ทายวาสนา
ใครบางคนเคยฝากคำนำชี้เพรงชะตา
หากวาสนาบานคราใดไสวมงคล
ฤาแค่คำทำนายให้ไร้หมอง
ไยจะต้องยึดมั่นฝันสับสน
กี่ฤดูที่วาสนาหวานบานเต็มต้น
ดวงกมลเจ้าของยังครองราน...ยังรับราน..!
...................


กี่ฤดูกาลแล้วที่หนาวกราย
ว่ายเวียนวน...
ใน...
ท่ามโลกสับสน
ด้วยมากมายหลากเรื่องราวรายรอบตัว....
กี่ฤดี..
ที่ได้พานพบ จบด้วยการพรากจากลา..ไกล....
กี่ดวงหทัย...ที่จักรับโศกสุข
ทุกข์ไปกับทุกนาทีแห่งโลกหมุน...
กี่คนคนคน
ที่ยังว่ายวนกับการค้นหาตนเอง
กี่บทพระธรรมที่จักน้อมนำมาระร่ำริน
ดับจิตร้อนให้ผ่อนเพลา
กี่เงียบเหงา ให้จักคลายได้เติมเต็มด้วย
หยาดน้ำอมฤตธรรม
กี่ชีวิต..
ที่จักได้พร่ำบ่มเรียนรู้*คู่มือมนุษย์*
เพื่อพัฒนา
ให้สมค่าที่ได้เกิดมาเป็น*มนุษย์*
ผู้ค้นพบวิมุติให้หลุดพ้นจากทุกข์พันธนา
กี่ดาวดวงในฟากฟ้าจักรวาล
ที่มลายหายดับลับลาไป ในท่ามเวิ้งกาล
ชีวิต..
ยังต้องการอะไรกันอีกเล่า..เจ้ายอดดวงใจ..!

V258260_CROP1.jpgในคำนึง..!

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song401.html
(ฟ้าแดง)
..................


เสียงฝนพรำสายตอนใกล้รุ่ง
ปลุกให้ใจดวงหนึ่ง
ลุกขึ้นมาแหงนเงยมองม่านฟ้ามืดหม่น
ด้วย..
ใจดวงระทมด้วยบาดแผลที่มือระบมยังมิหายดี


ในราตรี
ที่ไร้ดาวเดือน
มีเพียงลมหนาวเคล้ากลิ่นไม้ไทยรายรอบเรือนต้นไม้..
วิมานดินวิมานจำปีเป็นเพียงพื่อนเพียงนั้น..
เสียงโทรมือถือดังเตือนว่ามีข้อความจากโพ้นฟ้าไกล
แดนดินในฝัน*ฟ้าจรดทราย *
ที่กำลังหมายรอให้ไปเยือน


บทกวีแสนงามในจินตนาก็พลันผุดพร่าง...
อย่างเงียบงาม....
ในสงบเงียบแห่งบรรยากาศยามเช้า
เคล้าด้วยกลิ่นกรุ่นละมุนหอมหวานแห่งดวงดอกไม้
ที่....
กำลังสยายกลีบระรินพร่าง
มาโอบเอื้อนวลเนื้อใจที่แสนเหน็บหนาวอ้างว้าง...
มานานเนิ่นเกินนับ..ทุกนึก..ในคำนึง..!
..................


นาฬิกาโลกบอกเวลาว่าเช้าแล้ว
ดวงดอกแก้วร่วงพราวคราวได้ฝน
มะลิลามาลาลีชีวีคน
ดอกจำปีหล่นจำปีผ่านมิหวานลา
มือระบมใจระทมเจ็บแสนเจ็บ
ดวงดอกเล็บมือนางร้างรอท่า
โมกค้อมดอกสะอื้นกลืนน้ำตา
ลั่นทมเหว่ว้าออกพวงพราวหนาวเหน็บใจ
วันเหมือนเดิมเพิ่มมาใจมีแผล
อย่ายอมแพ้เพียรสร้างเส้นทางไสว
ใจดวงเดิมเริ่มต้นใจดวงใหม่
ให้คนใครผ่านไปในวังวน...
ไม่มีแล้วไม่มีวันขวัญสะอื้น
หลับฤาตื่นแค่หมายใจไม่สับสน
ทิวาวันราตรีหวานซ่านกมล
แค่คำคนคำลามาเชือดใจ
แบ่งลั่นทมจากช่อในกอเศร้า
ทัดผมเกล้าแซมริมแก้มแกมหวามไหว
ไร้นำตาไร้อาวรณ์อ้อนอาลัย
มีใจใหม่ใจแกร่งกล้าท้าตะวัน
อีกไม่นานดอกไม้หวานตระการช่อ
ให้เฝ้ารอเชยชมดั่งใจฝัน
มีสายใยสายใจมั่นผูกพัน
คือสายฝันสวรรค์ไพรรอคืนหลัง
ไปสู่...
*แดนดินแห่งฝันสวรรค์วนา*
.........................


ลุกขึ้นตั้งใจจุดเทียนหอมๆให้ไสววับแวม
แกมเสียงสายฝนพร่าง 
พลางต้มน้ำร้อนชงชาหอมๆดื่ม
แล้วทำแซนวิชเแกมกินกับผลไม้หลากพันธุ์ 
ทั้งกล้วยน้ำว้าสวน
ที่เพื่อนนำมามอบให้
เมื่อไม่กี่วันที่กำลังสุกได้ที่...
ทั้งลางสาดแสนดีที่แสนจะหวานหอม จากบันนังสตาร์
ที่....
เพื่อนบอกว่ามาจากสวนเพื่อนเองที่ยกมาฝากเป็นลัง


หากทำไมเล่า....ใจจึงคิด..สิ้นหวังไร้หวาน..
เมื่อคิดถึงสถานการณ์ภาคใต้
คิดถึงสวนผลไม้
ที่เคยกรายพวงระย้าย้อยห้อยนวลไปกับความ..ร่มรื่น
มากลายเป็นสวนเรื้อรก ไร้  แรมร้าง...
มิมีใครกล้าย่างกรายไปใกล้...ด้วยหวาดกลัว


เมื่อวานทั้งวัน..
ที่ฟังการอภิปรายในสภา
ถึงการลงมติที่จะยอมรับพระราชกำหนดหรือไม่
และ
ทำไมหัวใจจึงนิ่งอึ้ง นิ่งอั้น...
ยามได้ฟังคุณโต้งคุณไกรศักดิ์ ชุณหวัณ
กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ที่ตอนนี้
แม้นกระทั่งองค์การสหประชาชาติยังพากันหวั่นวิตก
มิอยากให้เราใช้กฎหมายรุนแรง


เพราะ
โลกนี้จะยิ่งแล้งไร้ และจะทบทวีความแรงร้อน
และอย่าลืมว่า...รายรอบประเทศเรานั้นคือพี่น้องมุสลิมทั้งนั้น
และ
ในโลกนี้มีมากกว่าสองพันล้านคน...จงจำจดไว้ให้ดี
ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร...


ประเทศเล็กๆอย่างเรา
จึงควรคิดถึงการสมานฉันท์อยู่กันแบบพี่น้อง
ในร่มเงาแห่งความเอื้อโอบ
รู้ปันแบ่งรู้รักสามัคคี
ในเงื้อมเงาแห่งผืนดินทองแผ่นดินธรรม
อันแสนอุดมนี้ 
ที่ใครๆต่างพากันจ้องมองด้วยอิจฉา

และ...
ในท่ามสถาบันหลัก
อันคือหลักชัยแลร่มฉัตรแห่งความยุติธรรม
ไม่กีดกันแบ่งแยกแผกผิวผิดพรรณ
ไม่ว่าชนชาติศาสนาใดใดก็ตาม
 และ...
เป็นประเทศเดียวอันแสนงามอุดมด้วยทรัพยากร
ที่มิแร้นแค้น
ทั้งๆที่แผ่นดินอื่นยังมิมากมีผู้คนที่ยังอดหยากหิวโหย..


มินับถึงความโชคดี....
ที่เราทุกผู้มีโอกาส
ได้เลือกนับถือศาสนาอย่างมีอิสรภาพ
ได้พบน้ำพระอมฤตธรรมอันแสนใสเย็นฉ่ำพิลาสพิไล
ให้ได้น้อมนำมาสอนใจ
มานำเส้นทางใจเพื่อมุ่งไปสู่ฝั่งฝันพระนิพพาน


ที่หวังรอให้เราคนไทยทุกพุทธศาสนิกชน
ดั่งบัวบานเหนือน้ำ
และเพียรภาวนาสมาธิอธิษฐาน
หวังหลุดพ้น....
ได้พบสายแสงทองแสงธรรม
มารินร่ำมาอบร่ำพร่ำบ่ม...
จนกลายเป็นคนเต็มคน
เป็นมนุษย์เหนือโลกย์
มิหวังว่ายวนเวียนโศก..ไร้สุข 
เพิ่มทุกข์ให้โลกยิ่งวิโยคสะเทือน..
จนแทบมลายแหลกราญ..
...........


น้ำตาแห่งความรานร้าวระบม
กับมือที่บาดเจ็บ
ในนาทีนี้ยังน้อยไป
เมื่อค้นพบหนาวเหน็บในจิตวิญญาณเสียยิ่งกว่า
กับความห่วงใยชาติ..บ้านเมือง


เมื่อคิดถึงผู้คนในโลกอันแสนกว้างใหญ่ไพศาลนี้
ที่...
นับวันจะสิ้นไร้สามัคคี
ราวไม่เคยมีสติปัญญาพากันเบียดเบียนกันและกัน
เสมือนไม่เคยรู้ค่าคำมรณาณุสติ
 ไม่เคยคิดว่า..แท้แล้วชีวาชีวิตเรานิดหนึ่งน้อยนี้นั้น
*ช่างแสนสั้นนัก*


และ
รู้ไหมว่า กว่า 1400ชีวิตรอเยียวยา
*เด็กกำพร้าจากความพลัดพรากจากความไร้รักสามัคคี*
ในความแตกแยกทางความคิด
และ...
ในแต่ละชีวิตแสนเยาว์วัยไร้เดียงสานั้น 
เคยมีใครหันไปคิดบ้างว่า
ในทุกก้าวย่างแห่งหนทางชีวิตข้างหน้า
จะมี...
รอยแผลร้ายติดไปในใจยาวนานสักแค่ไหน...
ที่จะ...
ไม่มีวันลบลืม...เลือนลาง..จางหาย..ไป...
ตราบจนกว่าลมหายใจจะสิ้น.....


กับ..เช้านี้
ที่ฟ้ายังสลัวเลือนราง
ในม่านหมอกแห่งการเมืองและชีวิตที่กำลังวายวุ่น
กรุ่นด้วยกลิ่นสงคราม
เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่า..


ประวัติศาสตร์
อยุธยาที่ไร้ร้างเกิดจากสิ่งใด...
และ
กับเรื่องราวในวันนี้
ราวรอยไร้รักสามัคคี..
กำลังค่อยๆย่างกรายมาเยือนแผ่นดินอีกคราแล้ว
อย่างช้าช้า..
อย่างที่ประชาชาติไทย
อย่าเมามัวประมาท 
และ
เยาวชนแห่งชาติ
อย่าหลงเพียงวาดหวังรักสนุกสุขเพียงลำพังอยู่เลย...!!
.......................


หัวใจดวงไพร 
ดวงไหวระบม..ระทมจากบาดแผล
จึงพร่างสลัวมัวหม่นราวหมอกเมฆในยามเช้า
กับ...
เศร้าล้ำลึกในทุกข์อณูนึกอรุณอุ่นไอ..ที่มิอิ่มใจเอิบงาม
ในยามกมลร้าว..ด้วยเศร้าแสนเศร้า..ในคำนึง...
...............................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song401.html
ฟ้าแดง.... สุนทราภรณ์... อโศก สุขศิริพรฤทธิ์
สนธยาฟ้าแดง
สุรีย์ร้อนแรงโรยอ่อนรอนแสงหม่นมัว
สกุณาเรียกหารังตัว
ชะนีเรียกผัว รัวเร้าร่ำกำสรวล
โอ้ชีวิตชีวิตจิตใจ มันหนาวเย็นเป็นไข้
พิไลพิลาศครวญ
สิ้นตะวันสรวลสันต์จาบัลย์รัญจวน
เห็นลางพบพรางร่างนวล
ให้โหยหวนชวนเศร้า
สิ้นแสง สิ้นสีโศลกแดงแฝงแทงใจเรา
สายัณห์เงื้อมเงา
ลบล้างสล้างเสลา จางห้วงหาวพราวใจ
ฟ้าแดง ฟ้าแดงผันแปรเปลี่ยนแปลงแผลงไป
ตราบอาสัญฉันยังฝันใฝ่
จูบแดนฟ้าอาลัย ฝังรอยรักใคร่ฝากเธอ
สิ้นแสง สิ้นสีโศลกแดงแฝงแทงใจเรา
สายัณห์เงื้อมเงา
ลบล้างสล้างเสลา จางห้วงหาวพราวใจ
ฟ้าแดง ฟ้าแดงผันแปรเปลี่ยนแปลงแผลงไป
ตราบอาสัญฉันยังฝันใฝ่
จูบแดนฟ้าอาลัย ฝังรอยรักใคร่ฝากเธอ

V225370_099.jpg				
comments powered by Disqus
  • เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

    5 กุมภาพันธ์ 2550 11:03 น. - comment id 652890

    แม้ทุกสิ่ง กำเนิด เพื่อแตกดับ
    ตามลำดับ ห้วงชีวิต ที่ผันเผ
    แม้ต้องเจอ สิ่งใด ที่รวนเร
    อย่าสนเท่ห์ โชตชะตา ลิขิตคน
    
    วัฏจักร เวียนวน อยู่อย่างนี้
    จะเจอดี กี่ครั้ง ชั่วกี่หน
    อาจเปลี่ยนแปลง หัวใจ ให้ทุกข์ตรม
    อย่าขื่นข่ม ร่ำไห้ เพราะชะตา
    
    แม้นรู้ว่า ไร้สิ่งใด จีรังมั่น
    แต่เธอนั้น สามารถทำ ให้ดีหนา
    ทำวันนี้ ให้ดีสุด และศรัทธา
    แม้ต้องลา จากไป ไม่อาวรณ์
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    มนุษย์มักเดินทางลงบนวัฏจักรเป็นวงกลม
    สักวันทุกอย่างในประวัติศาตร์ย่อมเป็นเหมือนเดิม ไม่เคยมีเปลี่ยน 
    หากแต่ช้าหรือเร็วเท่านั้น
    เพราะผลไม้ที่สุกงอมมักเน่าจากข้างใน
    ความรุ่งเริงฟุ้งเฟ้อเป็นสิ่งล่อตาลวงใจให้ใหลหลง
    มื่อใจคนเริ่มเห็นแก่ตัวไม่รู้จักพอ....นั่นคือสิ่งบอนทำลาย10.gif10.gif10.gif10.gif
  • เพียงพลิ้ว

    5 กุมภาพันธ์ 2550 13:53 น. - comment id 652960

    นวลกานต์คำนึงพี่พุดนะคะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • .

    5 กุมภาพันธ์ 2550 15:28 น. - comment id 653009

    
    							
    							
  • แมงกุ๊ดจี่

    5 กุมภาพันธ์ 2550 16:43 น. - comment id 653038

    สวัสดีคะ  พี่พุดสุดรัก...
    
    ในนวลคำนึงลองนึกหวน
    ใจทบทวนสาเหตุและเหตุผล
    เหตุใดหนอชีวิตลิขิตคน
    ให้เวียนวน  วัฏจักร  ที่ผักผัน...
    
    คิดถึงพี่พุดนะคะ...36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน