22 มกราคม 2551 11:01 น.

นางประ(กระ)แดะ2008

กวี ซีม่า

ห้อยต่างหู รูกลวง พวงระย้า
ย้อมเกศา สีสัน ทันสมัย
ยัดฟองน้ำ เสริมนม สมฤทัย
เนตรนิลใส เปลี่ยนใส่เลนส์ เป็นสีฟ้า

สวมรองเท้า ส้นตึก พิลึกพิลั่น
นุ่งยีนสั้น เผยตะเกียบ เสียบโคนขา
โชว์สายเดี่ยว เด่นดัง อย่างดารา
งามบาดตา หนุ่มนักเต้น ระเด่นลันได				
22 มกราคม 2551 10:50 น.

โลกร้อน

กวี ซีม่า

ธรรมชาติสร้างป่าวนาถิ่น
ให้ชีวินอยู่นิเวศพิเศษสม
คนและสัตว์ทั้งหลายได้รื่นรมย์
โลกเย็นร่มเป็นสุขทุกเวลา 
แต่บัดนี้เกิดวิโยคโลกวิกฤต
ทุกชีวิตหม่นไหม้ไร้หรรษา
โลกร้อนเพราะผู้คนโค่นวนา
ปลูกแต่ป่าคอนกรีตปิดล้อมเมือง				
22 มกราคม 2551 09:27 น.

นิราศกิ๊ก

กวี ซีม่า

 ใจโทรมโทรมช้ำฟกตกสะเก็ด
ก่อนเอ่ยคำอำลาน้ำตาเล็ด
ระเหินระเห็จจากบ้านสะท้านสะทก
        จำใจห่างร้างนุชสุดสวาท
ต้องนิราศแรมไกลไออุ่นอก
ขอเธอมีน้ำใจไม่ซ๊กมก
มิเม้มหมกหลุมเล่ห์เสน่ห์รัก
        จากบ้านอย่างเหงาหงอยเศร้าสร้อยจิต
ไกลมิ่งมิตรชิดชื่นสะอื้นหนัก
ยิ่งเธอจ้องมองหน้ามาทายทัก
เหมือนประตักทิ่มใจให้เจ็บลึก
        ลึกลงไปในกมลคนเปี่ยมรัก
แม้นจมปลักเปลวไฟไม่รู้สึก
รถยนต์แล่นห่างไกลใจระทึก
หวังผลึกแห่งรักจักเลิศรส
        ถึง คู้บอน ซ่อนชู้อยู่กลางจิต
รักสนิททรวงในไร้เกณฑ์กฎ
เป็นความรักศักดิ์สิทธิ์กิตติยศ
ถูกกำหนดด้วยฟ้าชะตาชีวิต
       ชีวิตที่วาดฝันบัลลังก์เมฆ
ฉันปลุกเสกมนต์กลอนมาอ้อนจิต
หวังเวทมนตร์ปีศาจแดงจักแรงฤทธิ์
ดลสะกิดจิตเธอให้เพ้อพก
       ผ่าน คลองห้า ดวงจิตคิดประหวัด
ผูกสัมผัสรัดใจมิให้ตก
ถึงสถานสัมมนาเมืองนายก
ฉันเขียนกลอนเวียนวกตลกเนาะ
       อยากเขียนกลอนคำตายลงท้ายวรรค
เพราะเพลินหลักรสถ้อยอร่อยเหาะ
เขียนให้เธอด้วยคำเน้นจำเพาะ
หากไม่เหมาะขออภัยให้ด้วยนะ
       วิทยากรยอดเก่งเคร่งปฏิบัติ
มอบงานมามากชะมัดอัดจะจะ
ใครทำเป็นนิ่งเฉยแสร้งเลยละ
โดนยำซะระทมตรอมตรมทุกข์
       บางคนที่หงอยเงื่องไม่เปรื่องปราด
ทำผิดพลาดยังทะเล้นหน้าเป็นสุข
แก๊สโซฮอลล์รับกรรมไปตามยุค
บ้างสนุกบ้างก็เศร้ากระเซ้ากระซิก
      เพื่อนผู้ชายหุ่นดีหล่อที่สุด
กลายเป็นตุ๊ดตูดบานมันน่าหยิก
ทำสะบิ้งสะบัดช่อหัวร่อคิก
แอบมีกิ๊กซู่ซ่าคงบ้าเซ็กส์
      สำหรับฉันมั่นคงรักทรงสิทธิ์
ถึงชีวิตจะผ่านไปพ้นวัยเด็ก
ยากมีคนมาแวะเวียนเปลี่ยนสะเป็ก
หัวใจเหล็กยังคงแข็งแกร่งยิ่งนัก
      ความแข็งแกร่งมีพอพอกับทรหด
หยิ่งในยศเพราะเป็นคนล้นศรีศักดิ์
หยิ่งในบทกลอนกานต์ฉันทลักษณ์
หยิ่งในหลักอักษรสุนทรพจน์
      เสร็จอบรมสุขสราญเบิกบานจิต
ฉันลิขิตนิราศไว้หลากหลายบท
ฝากถ้อยรักจากใจไว้แทนทด
เป็นร้อยรสบทกลอน...ก่อนลาลับ
      มาถึงบ้านเวลาเย็นอย่างเป็นสุข
ความสนุกในวันนี้มีพร้อมสรรพ
ประสบการณ์ล้นค่าคนานับ
จะนำกลับมาสร้างสรรค์....รับขวัญกิ๊ก				
21 มกราคม 2551 08:02 น.

ดอกหญ้า : ดอกฟ้า

กวี ซีม่า

เปิดตำนานดอกหญ้าในป่ากว้าง
ทนอยู่อย่างอัตคัดสาหัสแสน
ไม่มีหญ้าดอกใดไม่ขาดแคลน
ทุกข์แร้นแค้นลำเค็ญเป็นสันดาน 

พลิกแผ่นดินพลิกฟ้ามากี่หน
เปลี่ยนผู้คนไปมาล้วนหน้าด้าน
นำดอกหญ้ามาอ้างสร้างตำนาน
แล้วปิดบ้านร่วมวงโกงไพบูลย์

จึงดอกหญ้าทั้งผองต้องอับเฉา
กี่ดอกแล้วดอกเล่าเจ้าเสื่อมสูญ
แม้นร่ำร้องเรียกหาโหยอาดูร
เป็นแค่กูณฑ์ร้อนเร่าเผาไหม้ฟาง

ตำนานของดอกหญ้าว้าเหว่ยิ่ง
ฝืนพักพิงเดียวดายในป่ากว้าง
อยู่เพื่อคงชีวิตพบทิศทาง
คอยผู้สร้างดอกหญ้ามาเยือนไพร

ปิดตำนานหม่นหมองของดอกหญ้า
แล้วต้อนรับดอกฟ้าผู้มาใหม่
กลิ่นหอมหวนชวนดมสาสมใจ
ก่อนถูกเด็ดเสียบไว้บนปลายปืน				
20 มกราคม 2551 12:36 น.

คุณของข้าว

กวี ซีม่า

ทุ่งรวงทองถิ่นสยามงามพิสิฐ
ชุบชีวิตสมหวังอย่างสดใส
ทุกวิถีทั่วแคว้นแผ่นดินไทย
คงอยู่ได้ด้วยข้าวของชาวนา

คุณของข้าวล้นค่ามหาศาล
เป็นอาหารเลี้ยงคนบนพื้นหล้า
ความเป็นไทสืบทอดตลอดมา
นั่นเพราะว่าไทยเรามีข้าวกิน

เปิบด้วยมือหรือด้วยช้อนป้อนเข้าปาก
ประโยชน์มากหากบรรยายไม่หมดสิ้น
ตราบต้นข้าวยังหนาแน่นเต็มแผ่นดิน
สยามถิ่นมิสิ้นชาติเป็นทาสใคร				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวี ซีม่า
Lovings  กวี ซีม่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวี ซีม่า
Lovings  กวี ซีม่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวี ซีม่า
Lovings  กวี ซีม่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวี ซีม่า