31 มกราคม 2550 21:16 น.
				
												
				
								กุหลาบน้ำตา
		
					
				
   รักมากไหมใช่หรือรักที่ส่งมอบ
รักแทนตอบด้วยจิตใจอย่างไรหนอ
รักแค่ไหนใช่หรือรักที่เฝ้ารอ
รักมากพอหรือรักมันน้อยไป
.................................................................
     รักอย่างไรได้ชื่อว่ารักแท้
ต้องดูแลอย่างไรให้สมหวัง
รักมากไปใคร่กลัวรักทลายพัง
กลัวรักพลั้งพลาดผิดติดตัวตน
......................................................................
      อุตส่าห์รักส่งรักจนหมดจิต
รักเป็นพิษคร่าตนต้องหม่นหมอง
รักที่เป็นไปได้เพียงทดลอง
รักเกินสองต้องนั่งเศร้าเคล้าน้ำตา
.....................................................................
       วิถีรักทางขนานมักนานเนิ่น
เป็นส่วนเกินในทางรักอนาถา
รักที่มอบตอบแทนรักด้วยน้ำตา
ล่วงเวลาเลยลึกล้ำต้องช้ำใจ
........................................................................
       รักมากไปมากรักมักพลาดผิด
ทางต้องติดหล่มรักหักสลาย
รักเกินมากเกินพอรอความตาย
รักมุ่งหมายเพียงล่อหลอกให้ช้ำทรวง
...........................................................................				
			 
			
				23 มกราคม 2550 21:04 น.
				
												
				
								กุหลาบน้ำตา
		
					
				
     การนำรักไปสู่รักใช่เรื่องง่าย
รักที่ชายมอบให้หญิงจริงเสมอ
คอยสร้างรักถักเรียงร้อยคอยบำเรอ
รักเสนอต่อฝ่ายหญิงแบบจริงจัง
.......................................................................
      ชายรักหญิงหญิงก็รู้อยู่เต็มอก
เปรียบเปรยยกนางโมราเลือกฆ่าผัว
มีชายใหม่มาให้รักจักฝากตัว
รักเย้ายั่วระเริงรักมักโศกตรม
...........................................................................
       นิทานรักสามเศร้ายังไม่จบ
รักประสบความผิดหวังพลั้งความหมาย
รักที่มอบตอบแทนทั้งใจกาย
รักเป็นร้ายหมายร้างหักรักโรยรา
.........................................................................
      มีรักสองครองรักมักชูชื่น
รักกล้ำกลืนกลับเลวร้ายเมื่อชายขวาง
รักที่ชายมอบให้หญิงต้องทิ้งวาง
ลบรอยทางระหว่างรักลงปักใจ
..........................................................................
         นิยามรักของสามรักมักต้องจบ
รักประสบเหตุจากรักมักผิดหวัง
รักที่สร้างเป็นทางรักร้างหักพัง
รักพลาดพลั้งตั้งรักผิดจนติดตัว
.....................................................................				
			 
			
				23 มกราคม 2550 20:48 น.
				
												
				
								กุหลาบน้ำตา
		
					
				
       ดำรงตน ณ สังคมนิยมเพื่อน
ไม่จางเจือนเจอประสบพบความเหงา
สังคมดีคบเพื่อนดีที่ตัวเรา
มิมีเศร้าโศกสลดหมดกำลัง
............................................................................
        คำว่าเพื่อนเพื่อนคือเพื่อนคอยเตือนจิต
คำว่าเพื่อนพลาดพลั้งผิดมิคิดหนี
คำว่าเพื่อนเพื่อนรักเพื่อนนั่นแหละดี
คำว่าเพื่อนจากวจีมีตัวตน
...............................................................................
         เพื่อนร่วมกินร่วมหรรษาหาได้ง่าย
เพื่อนติดกายยามเรามีดีหนักหนา
ยามเราหมดทรัพย์และสินล้วนชินชา
เพื่อนหมดเงินเพื่อนหมดค่าราคาลง
..................................................................................
          เพื่อนที่แท้แน่จริงสิ่งหายาก
เพื่อนหมู่มากยากประสบพบความหวัง
หาเพื่อนใจให้ชีวิตปิดกำบัง
หาเพื่อนพลั้งผิดค่าเพื่อนคอยเตือนตน
....................................................................................
           คบเพื่อนดีเป็นศรีแก่ผู้คบ
เมื่อเพื่อนจบจากกันจิตหวั่นไหว
มีเพื่อนชั่วละเลงช้ำกระหน่ำใจ
เพื่อนจากไวใจจากจบพบความดี
.......................................................................................				
			 
			
				23 มกราคม 2550 20:28 น.
				
												
				
								กุหลาบน้ำตา
		
					
				
     ต้นชีวิตเจริญวัยเพราะใจช่วย
มนุษย์ม้วยมรณังเพราะสังขาร
มนษย์เลวเหลวแหลกเพราะสันดาน
มนุษย์ผลาญเผาเรือนร่างเพราะสร่างโทรม
..................................................................................
      รากหยั่งลึกลงชั้นดินดินเข้าช่วย
รากจะสวยงอกสาขาธาราสรง
รากยึดติดมิดพ้นให้ต้นทรง
ใบปรกปรงงามประดับระยับตา
..............................................................................
       กระทำชั่วเพราะกลัวบาปทาบตามติด
กระทำผิดติดที่ใจไม่ปรารถนา
กระทำดีมีแต่ได้ไร้นินทา
กระทำช้าเพระกลัวช้ำกระหน่ำทรวง
..............................................................................
        มนุษย์เราเจริญวัยเพราะนมแม่
รักที่แท้ที่แม่มอบตอบความหมาย
จากมนุษย์กินนมสัตว์จัดวุ่นวาย
ใจจึงคล้ายเดรัจฉานประมาณตน
.................................................................................
        บรรพชนคนรุ่นหลังรักษาชาติ
มิพลั้งพลาดหลงมัวเมาเอาชาติขาย
ปุถุชนคนรุ่นใหม่ไม่ละอาย
หมดความหมายในเชื้อชาติอาจลืมเลือน
................................................................................
         องค์สมเด็จพระปิยะละเลิกทาส
ไทยผงาดได้เปนไทสมศักดิ์ศรี
ไทสมัยปัจจุบันบั่นราคี
ยอมผิดผีเผลอเป็นทาสชาติต่างแดน
..............................................................................
          การเปนไทสมค่าไทยได้เป็นชาติ
ป่าวประกาศว่าชาติตนพ้นบัดสี
ยิ้มระเริงรื่นระรนอ้างตนดี
ไร้ราคีร้างราคะสละเลือน
............................................................................
           ชื่อว่าคนตนมั่นใจว่าจะเรียก
จงสำเหนียกต่างตระหนักอย่าพักถอน
การเป็นคนสมค่าคนหรือแน่นอน
จงอาวรณ์เวียนวินิจพิจารณา
..........................................................................				
			 
			
				21 มกราคม 2550 19:56 น.
				
												
				
								กุหลาบน้ำตา
		
					
				
     มองรากเหง้าชาวมนุษย์แล้วหยุดคิด
ว่าคุณผิดมามากแล้วนั้นถูกไหม
มองจากตัวจรดตีนแล้วตั้งใจ
วินิจฉัยค่ามนุษย์ที่เกิดมา
...........................................................................
      เป็นมนุษย์อย่าเป็นได้แค่เพียงชื่อ
หัดหารือกับรากเหง้าเข้าปัญหา
อย่าโอ้อวดสำรวจตนพ้นอัตรา
มองเห็นค่าแล้วจึงหยุดยุติการ<
......................................................................../font>