28 กันยายน 2548 13:53 น.

วันที่หัวใจอยากพัก..เราจึงพบกัน*13*

ความทรงจำ

ข้าวต้มกุ้งควันกรุ่นก็ถูกวางลงตรงหน้าทั้งคู่ เธอช้อนกระเทียมเจียวที่ลอยหน้าอยู่แล้วก็เอามาใส่ชามของผม
นี่!
โหย!ช่วยกินกระเทียมหน่อยดิ
เป็นแดร็คคิวล่าเหรอ ไม่ถูกกับกระเทียม
ถ้าชั้นเป็น นายก็คงตายำปแล้วแหละ ชั้นดูดเลือดนายแน่ๆ
555 ใครจะไปยอมให้เลือดหมดตัว
ก็ถ้าเพื่อความอยู่รอดของคนอื่นล่ะ เป็นชั้น ชั้นก็ยอมนะ นายล่ะ ถ้าชั้นใกล้ตาย นายจะช่วยชั้นรึเปล่า
ผมก็ตักข้าวต้มเข้าปากก่อนจะตอบออกมาอย่างไม่ลังเลว่า
ช่วยสิ พี่ไม่ปล่อยให้เพื่อนของพี่ตายไปหรอก ยังไงก็ช่วยแน่ๆ
เธอก็ยิ้ม น่าเสียดายนายแทนแฟนเก่านายนะ เสียดายที่พลาดโอกาสอยู่กับคนดีๆอย่างนาย
ผมก็เงียบ ใช่ น่าเสียดาย
แล้วยังคิดถึงแฟนนายอยู่มั้ย
คิดสิ
นายอยู่แต่กับอดีตเกินไปรึเปล่า แฟนนายรู้ สงสัยคงเสียใจนะที่นายเป็นแบบนี้เพราะเค้า ก็..จากกันทั้งที่ยังรักกันไม่ใช่เหรอ
ถ้าเค้าหมดรักพี่ทันก็คงจะทำใจได้ง่ายกว่านี้ เอาไว้นัสโตขึ้น นัสก็จะเข้าใจเองน่ะแหละ แล้วแฟนนัสล่ะ เป็นคนดีพอรึเปล่า
เธอหลบไปผมมองไปที่อีกทาง
ดี ดีมากๆ ดีเกินพอสำหรับนัสด้วยซ้ำไป แต่นัสสิ ดีพอสำหรับเค้ารึเปล่าไม่รู้
ต้องดีสิ ไม่งั้นเค้าจะมาคบเราทำไม
ก็..เพราะเค้ายังไม่เจอคนที่ดีกว่านัสล่ะมั้ง เค้าเลยยังไม่ไป ถ้าเจอเมื่อไหร่เค้าคงไปเอง
อย่าคิดมาก ทานต่อเถอะ / 

นี่นาย!
หืม?
ไปปั่นจักรยานน้ำกัน นายปั่นนะ ชั้นจะถ่ายรูป
กินแรงชัดๆ
เอาน่า อุตส่าห์ให้รูปคู่ไปตั้งใบนึงแล้ว เหลืออีกตั้งใบ ช่วยหน่อยน๊า
อืมๆๆ เขาก็พยักหน้า ไม่ได้บอกเธอหรอกนะ ว่าลิมิตรูป2รูปที่เธอให้ มันหมดไปแล้ว - -
อ้าว!หยุดปั่นไมเล่า
เหนื่อย นัสอ่า เล่นนั่งอู้มาครึ่งทางแล้วนะ เอาแต่ถ่ายรูป ช่วยกันปั่นหน่อย หนักคับหนัก
555 ช่วยก็ด้ายย สงสารมากๆ
ความหนักของจักรยานน้ำถูกลดไปกว่าครึ่งเมื่อมีคนช่วย
นี่ๆๆ!น้ำเย็นดีล่ะ
น้ำฝนไง เขาแตะๆน้ำดู 
หนาวล่ะสิไม่ว่า เขาแขวะเธอ
555
แล้วเขาก็ได้ถ่ายรูปคู่กับเธออีกใบในจักรยานนี่แหละ ได้กำไรมา1รูป 
เมื่อเดินทางกลับ เธอก็พูดคุยกับเขาอย่างสนิทสนม เขาก็ทยอยส่งเพื่อนร่วมเดินทางจนคนสุดท้ายก็คือเธอ
ขอบใจนะ
ถ้ามีไรจะให้ช่วยก็โทรมาได้นะ
อืม
ไปละ รีบๆเข้าบ้านเถอะ 
เธอเพียงพยักหน้าแล้วก็เดินเข้าบ้านไป เขาก็ขับรถกลับ - - - 

ชีวิตของเธอก็เป็นปกติหลังจากไปเที่ยวต่างจังหวัด อีเมล์ของโมทย์มี2ฉบับ จากวันที่เธอไม่ได้เช็ค1อาทิตย์
เธอเพียงแค่อ่านแต่ไม่ได้ส่งกลับไป ท่าทางโมทย์จะมีความสุขดีกับการมีเพื่อนที่โน้น ถ้าเป็นเธอคงจะคิดถึงเขาและเพื่อนๆที่นี่แย่แหงๆ - - -

นัส วันนี้พี่เลี้ยง ไปทานข้าวกัน
เธอก็ยิ้มและพยักหน้าให้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือขึ้นสะพายแล้วก็ออกจากออฟฟิศไป
เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานของเธอดังขึ้นสักพักแล้วก็เงียบไป เพราะไม่มีผู้รับสาย - - - 
ไงไอ้ธิป มีคนรับมั้ย
ไม่มีวะ สงสัยไปทานข้าว
งั้นพวกเราก็ไปทานกันมั่งดิวะ จะบ่ายแล้ว
เขาและเพื่อนๆก็ไปทานอาหารกัน
ขอราเมงโชยุ2คับ เขาสั่งอย่างเคยชินเนื่องจากมาทานบ่อย 
เมื่ออาหารที่สั่งมา เขาก็จัดการโซ้ยซะเรียบ
นี่นัส แล้วไปเที่ยวนี่ เจอใครถูกใจรึเปล่า
อะไรพี่ นัสจะไปเจอใคร เพื่อนๆกันหมด รักไม่ลงหรอก
เสียงพูดคุยผ่านเข้าหูเขาโดยบังเอิญ ขณะกำลังรอเพื่อนทานของหวาน
เขาก็หยิบโทรศัพท์โทรออกไปหาไมนัส แล้วโทรศัพท์มือถือของโต๊ะข้างหลังก็ดังขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะกรอกเสียงออกมา
พี่ธิปนะ
คะ มีไรค่ะ
อยู่ไหนเหรอ
ร้านอาหารญี่ปุ่น
พี่อยู่โต๊ะหน้าเราอ่ะ
โต๊ะหน้านัส?
อืม 
เธอพูดจบก็เดินมาก่อนที่จะวางสาย
ไม่คิดเลยว่าจะเจอนายที่นี่นะ
นั่งคุยกันก่อนมั้ย
ไม่ล่ะ เดี๋ยวชั้นต้องรีบกลับออฟฟิศ
อืม เอาไว้ค่อยคุยกัน
เมื่อเธอเดินลับไป เพื่อนของเขาก็แซวทันที
โหย!รู้จักผู้หญิงสวยขนาดนี้ด้วย
ก็เพื่อนน้องแอ้ไง
จริงเหรอว่ะ มีของดีไม่ยอมบอกกันมั่ง ชวนมาถ่ายแบบดิวะ
บ้า ไม่เห็นเหรอว่าเค้าก็ทำงาน
ก็เสาร์ อาทิตย์ไง วันหยุดน่าจะว่าง
เค้าไม่ค่อยชอบการเป็นนางแบบ
แต่แต่งตัวดีมากนะเว้ย เข้ากันมาก
ก็เธออยู่ในชุดสีชมพู เสื้อเป็นผ้าปกเชิ้ตสีชมพูเข้มแขนกุด ผูกเอว เผยให้เห็นเสื้อข้างในที่คาดว่าน่าจะเป็นเกาะอกสีขาว แล้วกระโปรงก็เป็นกระโปรงจีบรอบสีม่วง รองเท้าส้นสูงสีขาว พร้อมเครื่องประดับโทนชมพูๆอีกหลายชิ้น เป็นใครก็คงหลงล่ะนะ เขายังไม่เข้าใจตัวเองเลย ว่าทำไมจะต้องไปปกป้องเธอซะขนาดนั้น กะแค่เรื่องถ่ายแบบ - - - 
				
23 กันยายน 2548 16:16 น.

วันที่หัวใจอยากพัก...เราจึงพบกัน*12*

ความทรงจำ

อ้าว!ไอ้นัสมาพอดี กินไรดี แอ้พูดจบก็ยื่นสมุดจดเมนู1เล่มมาให้
ขออีกเล่มดิไอ้แอ้
แกก็นั่งข้างกับพี่ธิปนี่ แกก็ดูไปกับพี่เค้าแล้วกัน
ได้ไงว่ะ มันไม่สะดวกเว้ย
รีบๆสั่ง อย่าโอ้เอ้ดิ หิวเว้ย เมื่อคนอื่นๆเริ่มอุทรณ์ เธอจึงแบ่งเมนูให้เขาดูด้วย
ขอขาหมูจิ้มแจ่วคะ นายเอาไร
อืมมม..มาโคราช ก็ต้องลองชิมหมี่โคราช อาหารมีชื่อของโคราชสิคับ ขอหมี่โคราช2จานคับ
เขาหันไปพูดกับทุกๆคน ก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพนักงาน
นายรู้ได้ไง ไอ้หมี่โคราชเนี่ย
อ้าว!ก็พี่มาโคราช แล้วมีคนแนะนำน่ะ ยังไงเราก็มาถิ่นเค้าลองทานดูหน่อยก็ดีนะ เธอก็เพียงพยักหน้า
ว่าแต่กินขาหมูมื้อเย็นอย่างงี้ไม่อ้วนแย่เหรอ
แล้วไมอ่ะ เกี่ยวไรด้วย
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เขาก็ตักเส้นหมี่ในจานใบโตให้เธอ
รสชาติที่ดีมันควรเป็นไงล่ะ เธอหันมาถามเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ
ออกหวานนิดๆ แต่ข้อเด่นคือ เส้นมันจะเหนียวนุ่ม ชิมๆๆ เดี๋ยวก็รู้เอง เขาขยิบตาให้เธอ
กินเข้าไปแล้วจะเป็นไรรึเปล่าว่ะเรา เธอก็ตักเส้นหมี่เขาปากอย่างลังเล
เป็นไง อร่อยมะ
อ..อืม ใช้ได้ๆ แล้วคำต่อๆไปก็ตามไปจนหมด 
เมื่อทานอาหารเสร็จ เธอก็ขอตัวไปเดินเล่น เขาก็ลุกตามเธอออกไป เกล็ดแก้วทำท่าจะเดินตามไป(เป็นก้าง)แต่อ้อแอ้ดึงไว้ซะก่อน
แกจะตามไปทำไม
ก็อยากรู้ไง ว่าพี่ธิปจีบไอ้นัสจริงรึเปล่า
แกคิดมากไปเปล่า ถ้าเค้าจะจีบจริง แกจะทำไง
ก็..
เฉยๆไปเหอะน่า นั่งลงๆ - - - 

นัส
ไร ไม่อยู่ดูทีวีกะพวกนั้นเหรอ
ไม่ชอบดูทีวี
เธอกระชับเสื้อแจ็คเกตสีเข้มให้กระชับขึ้นเมื่อลมพัดมา
หนาวรึเปล่า
นิดๆน่ะ ช่างเถอะ เธอก็เดินลิ่วๆๆตรงไปยังแอ่งน้ำ แล้วมือของเธอก็มีกล้องคู่ชีพอยู่ในมือเรียบร้อย
ถ่ายไรเหรอ ก็มันมีตั้งหลายอย่างที่น่าจะเป็นเป้าหมายของเธอได้
นายจะรู้ไปทำไม
ถ่ายแต่วิวนะ มาเที่ยวแต่ละทีน่าจะเก็บรูปเพื่อน รูปตัวเองมากกว่า
ไม่ล่ะ ยังไงคนอื่นก็มี แล้วโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กของเธอก็ดัง เธอหยิบขึ้นมากดรับ แววตาและสีหน้าดูมีความสุขมากๆ ไม่ต้องบอก เขาก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร เขาจึงทำท่าโบกมือลาเธอแล้วก็ชี้ไปยังบ้านพักของเขา เธอก็เพียงแต่โบกมือลาเขานิดนึงแล้วก็หันไปทางแอ่งน้ำในขณะที่ปากพูดไม่หยุด
เมื่อวางสายแล้ว เธอก็ซูมกล้องถ่ายไปยังบ้านพักที่เขาอยู่ ก่อนจะเดินกลับไปพักผ่อนยังบ้านพักของตัวบ้าง
เมื่อเธอเข้ามาในบ้านพักเรียบร้อย เธอก็โดดขึ้นเตียงทันทีแล้วก็หยิบเอากล้องดิจิตอลคู่ชีพขึ้นมาไล่ดูภาพแต่ละภาพ
รูปของชายหนุ่มคนนึงที่นั่งกอดเข่ามองเหม่อไปทางพระอาทิตย์สีส้มที่กำลังจะลาจากผืนนภา มันดูซึ้ง เศร้า และเหงาๆอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 
เธอชอบรูปนี้แหละ ชอบค่อนข้างมากกว่ารูปอื่นๆที่เธอถ่ายมาซะอีก เมื่อดูเสร็จเธอก็ปิดแล้วล้มตัวลงนอน / 

6.40 ผมลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลงไปเดินเล่น ที่หน้าบ้านพักของเธอ ผมก็เห็นเธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ระเบียง
นัส
อ้าวพี่ธิป! เอ่อ
เรียกพี่ธิปก็ได้
รอชั้นแปปนะ
อ่าๆ
เธอก็เดินเข้าไปในบ้านพักและกลับออกมาพร้อมกล้องในมือ
ไปถ่ายรูปเป็นเพื่อนหน่อยสิ ผมก็พยักหน้าเล็กๆ
หมอกลงอย่างนี้จะถ่ายไหวเหรอนัส
ไหวดิ ดี ชั้นชอบหมอก
หมอก? มีไรให้น่าชอบหืม? ถ่ายภาพไปก็ไม่สวย บังวิวที่เราจะถ่ายหมด
วิวเดิมๆน่ะถ่ายที่ไหนก็ได้ แต่วิวที่บังเอิญน่ะ ควรจะถ่ายเก็บไว้มากกว่า และวิวเดิมๆถ้ามีหมอก วิวมันก็จะมีมุมมองใหม่ ความรู้สึกใหม่
เราก็เดินคู่กันไปอย่างเงียบๆ แล้วเธอก็ทรุดตัวลงนั่งบนสนามหญ้าเอาซะเฉยๆ
อ้าวนัส! เป็นไรมั้ย
ไม่เป็นไร นั่งดิ นายจะยืนค้ำหัวชั้นอีกนานมั้ย กลับมาเป็นนายเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่ผมก็ยอมนั่งลงอย่างว่าง่าย แถมนอนราบลงไปกับพื้นหญ้านุ่มโดยที่ไม่สนใจสิ่งใดรอบข้างเลยด้วย
นี่นาย นอนลงไปอย่างนั้นไม่เปียกน้ำค้างแย่เหรอไง
เย็นดี ลองดูสิ
ไม่เอาหรอก เชิญนายคนเดียวเหอะ
ผมก็แอบดึงแขนของเธอให้นอนลงข้างๆผม
เฮ้ยนาย!
หืม?
ดึงชั้นลงมาทำไม
ท้องฟ้าสวยดี
เธอก็เงยหน้าขึ้นไปมองดูท้องฟ้าตามที่ผมบอก
ท้องฟ้าสีฟ้าอ่อนจาง ซีดจนแทบเป็นกระดาษ แสงสีทองค่อยๆทอแสงระบายเพิ่มความสดใสให้กับท้องฟ้าสีจาง
เธอก็เก็บภาพโดยที่ผมไม่ต้องบอก
นายเห็นทำไมไม่เอากล้องไปถ่ายให้ล่ะ เธอยังคงบ่นไม่หยุด
กล้องคนอื่นถ่ายไม่เป็น
เชื่อตาย!
ว่าแต่ทำไมถึงไม่ยอมนอนล่ะ
ก็นายดูเสื้อผ้าชั้นสิ
ผมก็เพิ่งสังเกตว่าเธออยู่ในเสื้อผ้ายืดสีขาวคอวี แขนเกือบกุด และกางเกง4ส่วนสีฟ้าสว่างจั๊มขา เสื้อผ้าชุดที่เลอะง่ายมากๆ
ขอโทษนะ
ไม่เป็นไรหรอก ชั้นไม่ค่อยรักสวยรักงามอยู่ละ เธอหันมายิ้มให้ผมอย่างจริงใจ 
ชั่ววูบ ความรู้สึกเป็นสุขก็จู่โจมเข้าสู่จิตใจ ก่อนจะหายไปโดยที่เขาไม่ทันได้รู้สึกว่ามันได้เกิดขึ้น
ถ่ายรูปด้วยกันใบนึงนะ
หืม?
ได้มั้ย
ได้สิ ให้2แล้วกัน เพราะนายก็คอยเป็นนายแบบให้ชั้นอยู่แล้ว เอาตรงไหนล่ะ เธอทำท่าจะลุกขึ้นแต่ผมก็ดึงข้อมือเธอไว้
เอาตรงนี้แหละ ท่านี้
ท่านอนเนี่ยนะ!
อืมม
ก็ได้ อ่ะ!นายถ่าย
กล้องถ่ายรูปของเธอสามารถให้ตัวคนถูกถ่ายสามารถถ่ายตัวเองได้ ผมก็ถ่ายไป1รูป(ไม่ใช่รูปเผลออ่ะ)
ว๊าย!!นายๆๆ กิ้งกือๆ เอามันออกไปทีๆ เธอผวาเข้ามาซบอกผม มือก็กดชัตเตอร์เก็บท่าทีเผลอของเธอไว้ได้ทัน 
ก่อนจะหยิบใบไม้แถวๆนั้นมาเขี่ยเจ้าตัวกิ้งกือตัวปัญหาออกไป
ไปแล้ว เธอหันไปมองที่ที่เจ้าตัวนั้นเคยอยู่ แล้วเธอก็ขยับไปนอนที่เดิม
ขอบใจนะ เธออึกอีกๆตอบไป
ไปหาไรทานกันเถอะ หิว
นายนี่ อ่ะ!ไปๆๆ เธอและผมก็ลุกขึ้นมาพร้อมๆกัน หมอกค่อยๆหายไปแล้ว  - - - 
				
23 กันยายน 2548 16:07 น.

วันที่หัวใจอยากพัก..เราจึงพบกัน*11*

ความทรงจำ

นัสเซียนขนาดถ่ายพระอาทิตย์ตกดินเหรอ
ทำไม
ก็มันต้องใช้แสงเข้าช่วย ภาพถึงจะออกมาสวยแล้วก็เศร้า พี่ถ่ายให้เอามั้ย เขาอาสาอย่างหวังดี แต่เธอปฏิเสธ
ไม่อ่ะ เกรงใจ
เมื่อเธอไม่สน เขาก็ไม่เซ้าซี้อีก แต่กลับแซวเธอแทน
มาถ่ายพระอาทิตย์ตกดิน ก็ต้องถ่อมาถึงโคราช ถ่ายอยู่กรุงเทพไม่ได้
ก็ใช่อ่าดิ กรุงเทพมีแต่ตึกๆๆ เห็นชัดกลมบ๊อกขนาดนี้เหรอไง
เมื่อดูๆไปแล้ว ที่เธอว่าก็จริง มันดูไม่สวยเท่า เหมือนกับที่นี่..
ผิดไปแล้วคร้าบบบ!!!
นายนั่งอยู่นี่นะ
จะให้ทำไร
นั่งกอดเข่าอยู่เฉยๆก็พอ อย่าดุ๊กดิ๊ก มองไปที่พระอาทิตย์ หน้าเฉยๆเข้าไว้นะ เข้าใจมั้ย
เขาก็พยักหน้าให้ทีนึง เธอก็เดินออกไป 
แล้วจะให้นั่งมองนานเท่าไหร่กันว่ะเนี่ย เขาก็ลืมถามไปซะได้
เขาก็นั่งนิ่งๆอย่างที่เธอสั่ง เมื่อมองลำแสงสุดท้ายของวันจะลับหายไป ก็พลันไปนึกถึงผิงเข้าอีกแล้ว
~ ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยคะ เสียงใสๆแต่แฝงไว้ด้วยความร้อนใจและรีบเร่งเอ่ยขึ้นทางด้านหลังเขา
เขาละมือจากการติดป้ายหน้าห้องพยาบาลแล้วก็หลบไปข้างๆ แล้วเพื่อนของเขาก็วิ่งตามเธอมาด้วย
เกิดไรขึ้นว่ะ
รับน้อง แล้วน้องเค้าเป็นลม ดีได้น้องอีกคนที่เป็นเพื่อนเค้าช่วยอุ้มมา
แล้วเพื่อนของคนที่เป็นลมก็เดินออกมาหลังจากส่งเพื่อนเสร็จ
งั้นเดี๋ยวผิงไปรับน้องต่อนะคะ เขาเหลือบมองป้ายชื่อของเธอ นิรนันท์ ผิง
เธอหันมายิ้มให้เขานิดนึงก่อนจะเดินไปตามทางที่มา เขาเพิ่งจะเข้าใจดีกรีความน่ารักของเด็กม.1เข้าจังๆก็วันนั้น ทั้งที่เขาก็อยู่ม.6แล้ว 
หลังจากนั้นการตามเทคแคร์ คุยโทรศัพท์ ก็ตามมา ยอมรับ ตอนนั้นอายเล็กๆ เพื่อนแม่งก็ล้ออยู่เรื่อยว่าเลี้ยงต่อย 
เราดูๆกันมาหลายปี กว่าเธอจะรับรักผมและยอมรับก็ปาเข้าไปราวๆเธอกำลังจะจบม.4 
ขอบคุณนะคะพี่ธิปที่รอผิง ที่ยังคงอยู่ที่เดิม ~

คิดไรอยู่ ไมนัสทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา
เปล่านี่ พี่กลัวจะขยับน่ะสิ ไม่ได้คิดไร แต่ดูท่า เธอคงจะไม่เชื่อเขานักหรอก
ให้ชั้นเดามะ ว่านายกำลังคิดเรื่องแฟนเก่านายอยู่
ทำไมรู้ล่ะ
ตานายน่ะสิ มันเศร้า เหมือนคิดถึงอดีตหรือเรื่องที่เศร้ามากๆ
แล้วเป็นไง โพสท่าถูกใจรึเปล่า
อืม ดี ใช้ได้
กลับไปหาคนอื่นเถอะ เดี๋ยวจะเป็นห่วงกันเปล่าๆ
เธอก็พยักหน้าแล้วก็ลุกจากพื้นหญ้าที่ใช้ต่างพรม แต่เขายังคงนิ่งอยู่
ไหนบอกให้กลับไง นายคงไม่ขี้โกงนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวหรอกนะ
เปล่าๆ พูดจบเขาก็ยื่นมือออกไปสุดแขน
ดึงหน่อยสินัส
คิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะคลาย เธอจับมือเขาแล้วก็ช่วยดึง แต่มาได้ครึ่งทาง เธอก็กลับผลักเขาเฉย
555 สมน้ำหน้า จับกบไม่เป็นท่า เธอหัวเราะจนตัวงอ ส่วนเขาก็รวบรวมใบไม้แห้งแถวๆนั้นที่พอจะหาได้มาโปรยใส่เธอ - - - 

ชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัวจะแย่
ให้รอเอามั้ย นี่ก็มืดแล้ว
ไม่เป็นไร เดินไปเองได้แค่นี้เอง ไม่ได้ห่างเป็นกิโลนี่ เขาทำท่ายอมแพ้ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูดข้าบ้านพักไป 
เขาก็ถือวิสาสะเดินขึ้นไปนั่งตรงส่วนที่เป็นระเบียงไม้หน้าบ้านพักเธอ
นั่งไปสักพัก เสียงกุกกักๆพร้อมกับร่างของเธอก็ก้าวออกมาจากตัวบ้านพัก 
เสื้อยืดสีเขียวสดพอดีตัวกับกางเกงผ้ายืดขา4ส่วนสีน้ำตาลเข้มและรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินหม่นๆ พร้อมด้วยผมของเธอที่ม้วนไปข้างหลังทำให้เธอดูแปลกกว่าทุกที(แปลกยังไง อันนี้เขาก็ไม่รู้)
น..นาย! ทำไมชอบโผล่มาให้ตกใจทุกที
ไม่ได้โผล่ พี่นั่งอยู่ตั้งนานแล้ว
งั้นทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะ อยู่ข้างนอกยุงกัดตายชัก เธอทำหน้าสยอง
งั้นรอชั้นแปปนะ
เธอเข้าไปในบ้านพักอีกรอบ และออกมาพร้อมกับขวดสีขาวๆ
เอ้า!ยาทากันยุง พอดีชั้นเอามาด้วย
ขอบใจนะ เขาก็รับมาทาก่อนส่งคืนให้เธอ
ไปเหอะ ชั้นหิวแล้ว
เขาพยักหน้าก่อนจะเดินตามเธอไป
				
17 กันยายน 2548 12:29 น.

วันที่หัวใจอยากพัก เราจึงพบกัน*10*

ความทรงจำ

นึกถึงน่ะรู้ แต่ชั้นไม่ใช่สาวโรแมนติคหรอกนะ ไม่ได้เขียน คืดถึงนะ รักนะ เหมือนผู้หญิงทั่วไปหรอก ก็ชั้นไม่ค่อยชอบเขียน บางทีส่งไปเปล่าๆก็มี จะดีหน่อยก็ บางครั้งที่ชั้นเกิดอยากเซ็นลายเซ็นลงไปด้วย ประทับตราไว้ตรงที่เขียนน่ะ 
เออแฮะ แปลกดี
นี่นาย นายเลิกกะแฟนเพราะอะไรเหรอ บอกได้มั้ย ดูยังไงๆก็ท่าจะรักกันนะ
พ่อแม่ของพวกเราขัดขวางน่ะ อายุพวกเราห่างกันมาก พวกท่านก็เลยพยายามไม่ให้คบกัน เมื่อก่อนเราก็ต่อสู้ เชื่อว่าอุปสรรคมันจะหมดไปในสักวัน แต่ไปๆมาๆ มันกลับท่าทางจะเพิ่มมากขึ้น เราก็เลยจำเป็นต้องเลิกกัน
งี้ก็ยังรักกันอยู่น่ะสิ แล้วทำไมไม่สู้ต่อล่ะ
ก็เพราะว่าเราเข้าใจกันไง เข้าใจว่า มันไปต่อไป ไม่ได้แล้ว 
เธอก็พยักหน้าให้ผม ก่อนจะยิ้มให้
ชั้นว่าพวกนายทำถูกแล้วล่ะ อยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะรักกันไม่ได้ /

 เมื่อสรุปได้แล้วว่าเธอจะต้องนอนบ้านพักเดียวกับอ้อแอ้ เธอก็เดินตามพนักงานยกกระเป๋าไปทันที
โหยแก! วิวสวยมากๆเลยวะไอ้นัส แกดูดิ แอ้ชี้ไปยังลานสนามหญ้ารอบๆห้องพัก
เออ สวยดีวะ เธอจัดแจงหยิบอุปกรณ์อาบน้ำแล้วก็เสื้อผ้าชุดใหม่ออกจากเป้
เออไอ้แอ้ เราจะอาบน้ำนอนพักหน่อยนะ
อ้าว!ไม่ไปออกกำลังกายยามเย็นด้วยกันก่อนล่ะ มีที่เล่นแบตด้วยนะ
แต่ว่า
ไปๆๆ วางไอ้ของแกไว้บนเตียงไปก่อนไป แล้วออกไปเล่นแบตกัน
เฮ้อ!ก็ได้ เธอยอมตามเพื่อนของเธอไปยังสนามแบตแต่โดยดี แต่ไม่วายหยิบกล้องติดมือไปด้วย
ก็มันจะถึงเวลาพระอาทิตย์ตกแล้วนี่น๊า จะได้ไม่ต้องกลับมาเอากล้องอีก เธอคิด 
เสียงตะโกนแข่งกับเสียงหัวเราะ ทำให้เขาต้องออกมาจากบ้านพัก 
พี่ธิปมาเล่นด้วยกันสิคะ ยัยนัสไม่มีคู่อยู่ด้วย
เฮ้ย!แกพูดไรงั้น ชั้นนั่งรอไอ้แอ้มันว่างก็ได้
เบื่อแย่ แกเล่นกะพี่ธิปเหอะ มีคู่ครบ งั้นแข่งเป็นทีมดีป่ะ เอาอีกแล้ว ไอ้แอ้เจ้าแม่ไอเดีย
เขายิ้มเล็กๆก่อนจะทรุดนั่งลงข้างๆเธอ เมื่อสังเกตของในมือเธอ ก็อดเอ่ยถามออกมาอย่างแปลกใจไม่ได้
เอากล้องมาถ่ายเพื่อนๆเล่นแบตเหรอ
เปล่า ภาพนี้ชินตา ไม่เห็นจำเป็นต้องถ่ายนี่
เอามาถ่ายอะไรล่ะ ต้นหญ้าเหรอไง
โอ๊ย!บ้า ใครเค้าจะเอามาถ่ายหญ้า เอามาถ่ายพระอาทิตย์ตกดินต่างหาก
เมื่อเธอพูดจบ ไม้แบตก็ถูกส่งมาให้เขาและเธอพอดิบพอดี 
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มกลายเป็นสีส้มแดง แล้วก็เริ่มตกลงไปหลบอยู่หลังภูเขา เธอก็รีบเดินลิ่วๆไป โดยที่เขาก็เดินตามไป
นี่ไอ้แอ้ แกคิดว่าพี่ธิปสนใจไอ้นัสเปล่าว่ะ เกล็ดแก้วหรือกลาส เพื่อนที่จับคู่กับอ้อแอ้ถามเพื่อน หลังจากที่สังเกตอยู่หลายครั้งหลายครา 
ไหนแกบอกว่าพี่เค้ายังไม่ลืมน้องผิงนี่ มั่วรึเปล่า ดูยังไงๆก็ปกติดีออก
แผลใจมันอยู่ข้างใน แกจะไปเห็นได้ยังไงล่ะ แล้วเราก็ไม่ได้มั่วด้วย พี่ดล พี่ชายของพี่ธิปยังพูดกับเราอยู่เลย ว่าอาการหนัก ส่วนเรื่องเค้าจีบไอ้นัสรึเปล่า เราไม่รู้ อาจเพราะเคยคุย เคยรู้จักกันมาก่อนก็ได้
แต่ก็น่าสงสารนะ ถ้าพี่ธิปเค้าจีบไอ้นัสจริง ยังไงก็อกหักชัวร์ เกล็ดแก้วพูดอย่างมั่นใจ
มันก็ไม่แน่
แต่โมทย์ออกจะดีแสนดีนะแก เราว่ายังไงนัสก็ไม่เลิกกับโมทย์หรอก
แล้วถ้าโมทย์บอกเลิกกะไอ้นัสมันก่อนล่ะ
...!!
เหอะน่า เราเป็นเพื่อน ก็ดูๆกันไป คงไปยุ่งกับมันมากไม่ได้หรอก ชีวิตมัน มันก็ต้องตัดสินใจเอง - - - 
				
3 กันยายน 2548 13:28 น.

วันที่หัวใจอยากพัก...เราจึงพบกัน*9*

ความทรงจำ

ชอบน้ำเหรอ ผมเอ่ยถามขึ้นก่อน เมื่อเห็นเธอเอาแต่มองสายน้ำเบื้องล่าง
ชอบลม แสงแดด น้ำ ความเงียบ และการอยู่คนเดียว เช่นตอนนี้น่ะนะ
หืม? การอยู่คนเดียว? แฟนเราก็มีนี่ จะอยากอยู่คนเดียวทำไม
บางทีก็ต้องการเวลาอยู่กับตัวเอง ทบทวนเรื่องต่างๆน่ะ มีแฟนก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่ค่อยชอบนักหรอก มัน..เหงา
รู้มั้ย คนอกหักบางพวกเค้าจะหลีกเลี่ยงอะไรพวกนี้ ชอบไปในสถานที่ๆวุ่นวาย ทำตัวให้ยุ่งๆ^_^
ไม่รู้สิ แล้วนายล่ะ
พี่น่ะชอบสิ่งพวกนี้ มันช่วยรักษาใจ แต่ไม่ใช่ว่าเพิ่งอกหักมาพี่จะมาหาธรรมชาติเลยนะ พี่ใจไม่แข็งพอน่ะ
งั้นแล้วทำไมคนอกหักชอบไปทะเลล่ะ
ก็เพื่อการทำใจ แล้วก็ลืมไงคับ หนียังไงก็หนีได้ จะโกหกตัวเองไปเรื่อยๆน่ะก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เหนื่อย พอเหนื่อยก็เลยจำต้องหาที่พักใจ เช่น..ทะเล อย่างที่เราว่า แล้วก็เริ่มทำใจ แล้วแต่จิตใจของคน ว่าอยากจะปิดตาตัวเองไปนานแค่ไหน
แปลกดีนะ ถ้าเป็นชั้น ชั้นจะไม่ไปทะเลหรอก โหลจะตาย อกหักเมื่อไหร่ก็ไปทะเลกัน
แล้วนัสจะไปไหนล่ะ
ไปป่า
ป่า?
อยู่กับต้นไม้ ท้องฟ้า ชีวิตเรียบง่ายดีออก ดีกว่าทะเลอีก^^
ความคิดของเธอแปลกดี หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ขณะมองเหม่อไปยังสายน้ำที่ทอดตัวนิ่งสงบอยู่เบื้องล่าง
เธอหยิบกล้องดิจิตอลออกมาจากแจ็คเกตตัวโคร่งของเธอแล้วก็จัดแจงเก็บภาพนั้น
นายชอบโปสการ์ดมั้ย อยู่ๆเธอก็ถามผมหน้าตาเฉย
ก็..ชอบสะสมน่ะ ไม่มีใครส่งให้พี่หรอก
ก็เป็นคนไม่มีคนคบไงล่ะ
เพื่อนพี่ออกจะเยอะ-_- แต่มันไม่ชอบอะไรพวกนี้ เจอกันก็จะแค่เล่าให้ฟังหรือไม่ก็ให้ดูรูปที่ถ่ายมามากกว่า
แล้วแฟนเก่านายเค้าไม่เคยส่งให้นายเลยเหรอไงกัน-*-
ไม่เคย
อาจจะเพราะผมเริ่มคุ้นเคยกับเธอแล้วมั้ง ถึงได้กล้าพูดออกไปอย่างนั้น เธอทำหน้างงๆ ผมก็เลยขยายความต่อ
เธอไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ไปกับพี่นี่ก็ไม่เคยไปไกลๆเลย ถ้าเธอไปกับครอบครัวนี่ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะจะไม่มีเวลาแวะร้านโปสการ์ดเลย
วูบนึงเหมือนผมจะเห็นรอยสงสาร เห็นใจ เข้าใจ ส่งผ่านมาทางแววตานั้น แต่แล้วเมื่อผมกระพริบตาอีกครั้งมันก็ไม่มีแล้ว
นี่ๆ ขึ้นรถได้แล้วนัส พี่ธิปด้วย ไปกันเถอะคะ
เสียงเรียกของกลุ่มเพื่อนเธอทำให้ผมและเธอต้องเดินไปขึ้นรถ แต่เธอก็ยังไม่วาย หันไปถ่ายภาพถนนราดยางที่ดูยาวและไม่มีที่สิ้นสุดนั้นก่อนขึ้นรถ
ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางไปเช็คอินเข้าพักที่รีสอร์ท เธอก็นั่งเงียบมาตลอดทาง อาจจะคิดอะไรเพลิน ผมก็เลยไม่กล้าชวนคุย แต่แอยู่ๆเธอก็พูดขึ้นว่า
ผู้ชายคนไหน ถ้าส่งโปสการ์ดตอนไปเที่ยวไปให้ใคร ก็จะคิดว่าคนๆนั้นเป็นคนพิเศษ เพราะเค้านึกถึงเธอหรือคนเหล่านั้นในช่วงเวลาที่กำลังมีความสุข ก็คือคนที่ได้รับโปสการ์ดนั้นคือคนสำคัญ พูดจบเธอก็หันหน้ามามองหน้าผม
นายเคยส่งไปให้แฟนเก่านายรึเปล่า 
ผมอึ้งไปเล็กๆแต่ก็ตอบเธอกลับไป
แรกๆน่ะ เคยคับ เพราะพี่ไปเที่ยวบ่อย ไปทีไรก็คิดถึงเค้าอยู่ตลอด
แล้วทำไมช่วงหลังๆถึงไม่ส่งล่ะ
เพราะครอบครัวเธอน่ะสิ เธออึดอัด พี่ก็เลยเลิก แล้วตอนนี้โปสการ์ดที่พี่ส่งไปทั้งหมด มันก็กลับมาหาเจ้าของเดิมตั้งแต่แรกหมดแล้ว..ทุกใบ..ทุกอย่าง
ผมเล่าไปก็เจ็บแปลบที่ใจไป แล้วจึงเปลี่ยนเรื่องเพราะผมไม่อยากให้บรรยากาศหดหู่ยิ่งไปกว่านี้^^
แล้วนัสล่ะ ชอบโปสการ์ดรึเปล่า
ชอบ แต่ไม่ชอบสะสม
งั้นแปลว่ามีคนส่งให้เยอะ
ไม่หรอก ชั้นไม่ชอบเก็บโปสการ์ดเปล่าๆเท่าไหร่ ขาวๆโล่งๆมีแต่ภาพข้างหน้า มันก็ไม่ต่างจากรูปถ่ายธรรมดาน่ะแหละ ไม่มีคุณค่าทางใจ สัมผัสไม่ได้จริงๆ มีโปสการ์ดที่ตัวเองส่งหาตัวเองเต็มไปหมดเลย
ส่งหาตัวเอง?
ใช่ นายไม่เคยทำล่ะสิ ไม่มีใครส่งให้หรือให้ส่งให้ไง แต่อยากเก็บความทรงจำนั้นเอาไว้ ก็เลยส่งหาตัวเอง
แปลกดี ทำไมไม่ส่งหาแฟนล่ะ
ก็เพราะชั้นรู้ว่าเค้าไม่ค่อยสนใจไง ไม่เข้าใจว่าการที่ชั้นส่งโปสการ์ดไปให้น่ะ มันมีความหมายว่าชั้นเห็นเค้าเป็นคนสำคัญแค่ไหน
เค้าน่าจะรู้นะ ว่าคนส่งโปสการ์ดมาให้น่ะ ยังไงก็คือนึกถึง
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟความทรงจำ
Lovings  ความทรงจำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟความทรงจำ
Lovings  ความทรงจำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟความทรงจำ
Lovings  ความทรงจำ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงความทรงจำ