5 มกราคม 2549 18:29 น.

..เงาในน้ำพุ..

ชลกานต์

น้ำพุพุ่งพวยโปรยระยิบ
แดดจ้าลงจิบพร้อมพริบแสง
พุ่งสูงสู่ฟ้าแล้วล้าแรง
รินสายลงแอ่งแห่งน้ำนอง

รุ้งพราวหลากสีแพรสีรุ้ง
ในฟองน้ำฟุ้งอาทิตย์ส่อง
แสงเปลี่ยนทิศทางร้างครรลอง
รุ้งพราววับว่องล่องหายลับ

ชีวิต สูงส่ง สักเพียงไหน
เฉิดฉาย เพียงใดสักวันดับ
แต่ความดีงามวามระยับ
บรรจงประทับโลกจารึก
....
สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกสหายมีความสุขไปตลอดปีนะคะ
				
26 พฤศจิกายน 2548 16:54 น.

เถอะมาเป็นคนรักนักพเนจร..

ชลกานต์

ใช่.. ฉันนี่แหละคือผู้พเนจร
ไปบนความร้าวรอนและอ่อนไหว
เก็บละอองน้ำตามาห่วงใย
กอดอุ่นไอแสงดาวคืนหนาวทรวง

ใช่..ฉันนี่แหละคือผู้พเนจร
ไปบนความอาวรณ์ความห่วงหวง
คอยเด็ดดอมดอกดาวที่พราวดวง
ไปพร้อมท่วงทำนองของชีวา

ใช่..ฉันนี่แหละคือผู้พเนจร
ไปตามพรแสงจันทร์ปรารถนา
หวังฝันใฝ่อันใดในโชคชะตา
เฝ้าฟันฝ่าต่อไปในฝันนั้น

ใช่..ฉันนี่แหละคือผู้พเนจร
จากสิงขรสู่ทะเลว้าเหว่หวั่น
กับเงาเปลี่ยวเดียวดายใต้ตะวัน
เพื่อเสียงเพรียกเรียกฉันฟังคลื่นลม

เถอะมาเป็นคนรักนักพเนจร
มามอบความอาทรยามขื่นขม
มาเข้าใจในก้าวร้าวระบม
มาชื่นชมน้ำค้างกลางดอกไม้

มาดื่มด่ำระบำฝนยามหล่นริน
มาวักกินสายธารละหานใส
เดินด้วยกันฉันเธอเสมอไป
มาเสพซึ้งพึงในความลึกซึ้ง..				
29 ตุลาคม 2548 11:45 น.

เพราะใจรู้ฤดูกาล..

ชลกานต์

เสียงสายลมเคาะหน้าต่างน้ำค้างใส
เปิดห้องใจให้รับรู้ฤดูหนาว
หนาวเพียงหมอกหยอกเย้ากระเซ้าดาว
แต่ใจกลับอุ่นราวอุ่นภายใน

สายลมวาดเรียวหญ้าให้อ่อนพลิ้ว
ดังมีนิ้วจิตรกรผู้อ่อนไหว
สายลมส่งผีเสื้อเรื่อปีกไป
มอบชีวิตจิตใจให้เบิกบาน

ดอกไม้สาวสวยสะพรั่งเต็มฝั่งพื้น
เจ้าชายผีเสื้อตื่นมาขับขาน
บทกวีเช้าหอมกล่อมดวงมาน
ฤานี่คือฤดูกาลแห่งความรัก

แว่วได้ยินใบไม้ยามไหวว่อน
เหมือนได้ยินคำอ้อนให้ผ่อนหนัก
เช้าทุกเช้ายังมีเพื่อนทายทัก
หยอกคนที่รู้จักดังเช่นเคย

บทเพลงแห่งแสงแรกแว่วดังมา
ปลุกวิญญาเสรีให้ปีกเผย
บินออกนอกหน้าต่างทางลมเชย
โอเพื่อนเอ๋ยเรารู้ฤดีกาล
				
27 ตุลาคม 2548 17:20 น.

เพราะมิใช่คนไร้หัวใจรัก..

ชลกานต์

ดูเช้านี้เมฆฟ้ากระซิบฝัน
กับตะวันดวงใสในรุ่งสาง
ฉันรอเธอเสมอบนหนทาง
ไร้ทุกสิ่งกั้นกลางระหว่างเรา

หากฉันเป็นยอดหญ้าท้าแดดฝน
เฝ้าหยัดตนผ่านผันวันสุขเศร้า
หวังให้เธอนั้นเป็นเช่นแสงเงา
ที่พริ้งเพราปรากฎอยู่รอบกาย

หากฉันเป็นฝุ่นดินถิ่นกันดาร
มองคนผ่านไปสู้สู่จุดหมาย
หวังให้เธอเป็นลมพรมฝุ่นทราย
พาฉันว่ายล่องไล้ไปด้วยกัน

หากฉันเป็นความเยือกเย็นเหนือสิงขร
จนคนจรเหน็บหนาวร้าวเกินฝัน
หวังให้เธอเป็นแรงใจไปผลักดัน
กองไฟนั้นจึงก่อทออุ่นไอ


แต่ฉันจะไม่ขอเป็นสิ่งหนึ่ง
ความลึกซึ้งที่ปราศจากการสงสัย
ฉันไม่ขอเป็นคนร้างหัวใจ
ไร้ฝันใฝ่และไร้ซึ่งความรัก 


คงสิ้นเมฆสิ้นฟ้ากระซิบฝัน
แล้วจะเหลือใดกันให้ตระหนัก
ร้างจิตใจบนหนทาง ถามไถ่-ทัก
ทุกวันจักยิ้มแย้มได้อย่างไร..
				
12 ตุลาคม 2548 23:24 น.

หากฉันเขียนกลอนหวาน แต่กลับเศร้า

ชลกานต์

ฉันจะเขียนกลอนหวานให้อ่านไหม
จากดวงใจคนนี้ที่สิ้นหวัง
แปลกนะเธอไยโลกมีความชัง
ทั้งที่ความรักยังสวยงดงาม

ฉันจะเขียนกลอนหวานแต่กลับเศร้า
นะไม่เอาเริ่มใหม่ไม่ต้องถาม
ว่าฉันเศร้าอะไรในโมงยาม
แค่ฉันตามหารักยังไม่เจอ

กลางสงครามยังมีไหมดอกไม้
จะมีไหมดวงใจใครเสนอ
หากมีคงวิเศษและเลิศเลอ
เพราะแค่นั้นที่เจอคงสุขนัก..


อืม..ฉันว่าฉันจะเขียนกลอนหวาน
แต่กลับดูร้าวรานดังอกหัก
เธอจะยังอ่านไหมนะที่รัก
เพราะทุกวรรคไม่อาจเห็นยิ้มแย้ม

โปรดมาช่วยฉันเขียนสักคำหวาน
เขียนดอกไม้ให้บานอยู่ข้างแก้ม
เขียนเดือนดาวพราวพริบขลิบเมฆแกม
มาแต่งแต้มวรรคนั้นให้มันดี

แต่อย่าลืมเอามานะความรัก
แม้นแตกหักก็ยังมีศักดิ์ศรี
เพราะเรารักเราจึงเขียนวลี
แม้นมิใช่บทกวีที่งามนัก

แล้วสักเสี้ยวความรักเราคงพบ
โลกสงบใบน้อยพลอยผ่อนหนัก
หากได้เห็นดอกไม้ไกวใบทัก
ฉันจะตักตวงไว้ให้ลึกซึ้ง.........				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชลกานต์
Lovings  ชลกานต์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชลกานต์
Lovings  ชลกานต์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชลกานต์
Lovings  ชลกานต์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงชลกานต์